ผมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิง

บทที่ 18 ติดตามมาตลอด



บทที่ 18 ติดตามมาตลอด

หลังจากออกจากบ้าน หานคงที่ได้เปิดโปง ใบหน้าที่เสแสร้งของ

เฉินบินก็ไม่ได้มีความสดชื่นแล้ว ตั้งแต่ที่ได้แต่งงานมา เขากับกงจิ๋วหลิงกับคนในบ้านนี้ก็ยังไม่

เคยตอบโต้ขนาดนี้มาก่อน

ตอนนี้พวกเธออาจจะเถียงกันอยู่เพราะคำพูดของเขา

หากว่าเซี่ยหมิงหมิงไม่โง่ก็น่าจะวินิจฉัยคำพูดที่เขาพูดได้ว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่

ไม่ถึงกับว่าเสียใจ สิ่งที่คนของตระกูลเซียได้ย่ำยีตัวเองนั้น อดทนสักหน่อยก็คงจะผ่านไป แต่แม้แต่พ่อก็ยังไม่เว้น เขาจึงได้ แสดงออกมาทุกสิ่งไม่ว่าจะอะไรก็ตาม

ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่ลูกของคน

พ่อของเขาอาจจะไม่ได้มีโฉมภายนอกที่ประสบความสำเร็จที่

ใหญ่ขนาดนั้นอย่างพ่อของเฉินบิน แต่จากที่หานดงได้มอง เขาก็ คือลูกผู้ชายที่มีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่คนหนึ่งที่ไม่สามารถที่ จะสวมรอยทดแทนได้

ตระกูลเซีย ในเวลานี้ ก็ได้เป็นอย่างที่หานดงได้คิดทุกสิ่งจริงๆ ก่อกวนอย่างตื่นตระหนกจนกลายเป็นกลุ่มของความวุ่นวาย

เซี่ยหมิงหมิงปิดบังเรื่องไว้ไม่อยู่ นิสัยก็หยาบคายไร้เหตุผล
เมื่อรอหานดงจากไป ก็ได้เริ่มถามเฉินบินต่อหน้าแม่ของตัว เองเรื่องที่ได้ไปKTVหยินเหอ เฉินบินกลับกล่าวปฏิเสธไม่ยอมรับ แต่ในใจก็ได้หวาดผวา

ขาดความเชื่อมั่น ในที่สุดก็ได้มีพิรุธถูกมองออกแล้ว มิหนำซ้ำเขาได้ยินความหมายของทานดงก็ยังไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ ได้เห็นตัวเองไปที่หยินเรือกันแน่ หากว่าลากพยานออกมา

ใบหน้านี้มันจะไม่เป็นการขายหน้าไปกันใหญ่เหรอ

มาด้วยความกระหืดกระหอบตื่นเต้น กลับไปด้วยความ หงอยเหงาซึมเศร้า

ฟันของเฉินบินก็ได้กัดจนจะพังหมดแล้ว

หานดงไอ้เหี้ยคนนี้ ก็เป็นแค่สัตว์เลี้ยง ใช้แรงงานตัวหนึ่งแท้ๆ เลย เรื่องนี้ก็สามารถที่จะเปิดโปงออกมาได้

เขาลูบหน้าที่เกือบจะถูกเซี่ยหมิงหมิงดึงจนเลือดจะออกเฉิ นบินได้เคียดแค้นชิงซังอีกทั้งยังรู้สึกอึดอัดสับสนอย่างเลี่ยงไม่ ได้

เขาชอบเสี่ยหมิงหมิงจริงๆ ชื่นชอบจากในเนื้อแท้ เมื่อคืนที่ไป หยินเหอ เดิมทีก็แค่ต้องการไปเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อตัดความ สัมพันธ์ คิดว่าหลังจากนี้ก็จะไม่ไปอีกแล้ว

ในสายตาที่ไม่ชัดเจนก็ยังสามารถเห็นเงาที่วิ่งไปด้านหน้าของ หานคงได้ เฉินบินได้กำหมัดขึ้น ในดวงตามีความอาฆาตแค้น ผูกพยาบาท
ล้วนแต่เป็นแบบนี้แล้ว อย่างไรก็ตามเขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อย อีกว่าหานคงจะเป็นพี่เขยของเซี่ยหมิงหมิงหรือไม่

คุณภาพของคนประเภทนี้ถ้าไม่สั่งสอนสั่งสอนให้ดี ก็จะไม่ เข้าใจกาลเทศะรู้จักที่ต่ำที่สูงที่แท้จริง

บริษัทเจิ้นเวย ห้องทำงานของผู้อำนวยการ

เซี่ยเมิ่งเพิ่งจะวางสายโทรศัพท์ ก็ได้ดื่มกาแฟแก้วหนึ่งด้วย อาการใจร้อนไม่เป็นสุข

เธอรู้ว่าที่หานดงมาสายก็เพราะตอนที่ทวงหนี้ได้ถูกเฉียวลิ่ว บีบบังคับให้ดื่มวิสกี้ระดับสูงเกินกว่าปกติไปขวดหนึ่ง พูดตาม ความจริง เรื่องนี้ก็ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าสามีคนนี้ของตัวเองอาจจะ ไม่ได้ไร้สาระอย่างในจินตนาการของเธอขนาดนั้น

แต่ใครจะไปคิด เขาที่กินข้าวเป็นเพื่อนกับแฟนหนุ่มคนนั้นของ น้องสาวในบ้าน ได้ก่อเรื่องราวความขัดแย้งที่ใหญ่ขนาดนั้นออก มาแล้ว

น้องสาวได้โทรศัพท์เข้ามา เพื่อถามว่าเมื่อคืนพนักงานที่ออก ไปทวงหนี้ด้วยกันกับหานคงคือใคร เขาต้องการที่จะยืนหยัดว่า เฉินบินได้ไปที่หยินเหอจริงไหม

หานดงคนนี้ ก็ทำลายได้อย่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เมื่อก่อน ทําไมถึงมองไม่ออก

ดูเหมือนว่าจะสามารถจินตนาการได้ถึงน้องสาวที่ในเวลานี้ก็จวนจะจากไปอย่างหุนหันพลันแล่นแล้ว บุพเพสันนิวาสครั้งนี้ ประมาณคร่าวๆก็คงจะมีระยะห่างของความหมดหวังไม่ไกลแล้ว

หวางลี่ก็ได้เคาะประตูเดินเข้ามาแล้ว

ตามรายงาน เซี่ยเพิ่งก็ได้ละทิ้งเรื่องส่วนตัวออกแล้ว หัวคิ้วที่ สวยงามค่อยๆล็อกไปทีละน้อย

เป็นทางด้านของธนาคารไทเฟิงนั้นที่ได้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาด คิดเกิดขึ้น นี่คือเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายครั้งที่ 2 ตั้งแต่ที่เธอได้มาจากหลินอานเพื่อกลับมาทํางานที่ดงหยาง

ครั้งแรกก็เป็นย่านใจกลางเมืองตรงนั้นที่พูดว่าพนักงานคุ้มกัน นำส่งสินค้าของเฉินเวยไม่มีความรับผิดชอบ มาทํางานสายเลิก งานก่อน ครั้งนี้เป็นเจิ้นเวยที่ได้ติดตามส่งทรัพย์สินเงินทอง เข้าไป ทางด้านธนาคารก็ได้บอกว่าจํานวนเงินไม่ถูกต้อง พูด อย่างหนักแน่นว่าคือทางด้านของเจิ้นเวยนี้ที่มีปัญหา

ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีมาก่อน

ความสัมพันธ์ในการร่วมมือกันที่แท้จริง บนเรื่องเล็กน้อยพวก หนึ่งต่างฝ่ายต่างก็สามารถที่จะยกโทษให้อภัยกันได้อย่างสุด ความสามารถ กิริยาท่าทางที่ไม่ปกติของไท่เพิ่งทำให้เซี่ยเพิ่งได้ กลิ่นถึงช่วงเวลาที่คับขันอย่างยิ่งแล้ว

ที่เธอคิดได้ก็คือจางเจ้นชื่อได้ใช้อำนาจคุกคาม หรือว่าจะเป็น เขาที่ทำการก่อกวน? นี่คือนิมิตหมายที่ธนาคารไท่เพิ่งต้องการที่ จะยกเลิกสัญญา?
ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มาก

เพราะจางเจ้นชื่อคนนี้อยู่ที่หลินอานนครเอกของมณฑลใน เมืองนั้นก็ล้วนแต่สามารถที่จะเรียกฟ้าเรียกฝนได้ ถ้าเขาจะใช้กล อุบายในการจัดการต่อบริษัทเล็กๆ ที่ทำการคุ้มกันนำส่งสินค้า อย่างเจิ้นเวย ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างกันถึงหนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตร แต่ ก็สามารถที่จะทำได้ง่ายอย่างสุดขีดจริงๆ

เป็นการกระทําที่ต่ำช้าเกินไปแล้วเถอะ!

เซี่ยเมิ่ง โกรธจนหายใจลำบาก แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น จากนั้น ก็ได้พูดกับหวางลี่: “เธอช่วยฉันทำการนัดพบกับประธานเจียง หน่อย”

จํานวนธุรกิจของความร่วมมือกันระหว่างเจิ้นเวยกับไทเฟิงก็ เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดรายการหนึ่ง

อีกทั้งความสัมพันธ์ในการร่วมมือกันก็เป็นเจิ้นเวยที่ได้พึ่งพา อาศัยไทเฟิง นี่คือธุรกิจที่พ่อเธอได้ทำการเจรจาพูดคุยต่อรองลง มา

และก็ยังไม่พูดก่อนว่าจะใช่การแอบวางแผนก่อกวนของจาง เจ้นชื่อหรือไม่กันแน่ หากว่าเป็นไก่เพิ่งที่มีความตั้งใจที่จะยกเลิก สัญญาจริงๆ อย่างนั้นก็มีนัยว่าการคุ้มกันนำส่งสินค้าทั้งหมดของ เจิ้นเวยก็ได้พังทลายล้มไปแล้วครึ่งค่อนหนึ่งแห่งมาตุภูมิ อย่าง น้อยที่สุดก็จะต้องมีพนักงานคุ้มกันนำส่งสินค้าในระยะสั้นกว่า ครึ่งที่จะต้องว่างงานลงมาแล้ว

ทางด้านนี้ความตั้งใจที่จะขยายการรับสมัครงานของกลุ่มคนอัจฉริยะที่ผลงานยอดเยี่ยมนั้นควบคุมวงจรไฟฟ้าก็ได้มีเรื่องแบบเกิดขึ้น เป็นเวยอาจตกภายใต้สภาพอับจน

ตอนที่กำลังคิดแผนรับมือ ได้ภาวนาเป็นอย่างมากว่าอย่าเป็นการตอบโต้แก้แค้นที่มาจากจางเจ้นชื่อเลย แต่อะไรกลับ ได้อะไร โทรศัพท์มือถือดังขึ้นอย่างบีบ

เบอร์โทรศัพท์ของจางเจ้นชื่อ

เซียเพิ่งคิดถึงใบหน้าที่เยิ้มนั้น ก็ยังคงทำให้สะอิดสะเอียน ในเวลาเดียวกันไม่มีโชคอีกแล้ว การกระทำของไทเฟิงกับ จางเจ้นโทรศัพท์มาในเวลาเหมือนว่าบังเอิญแต่ก็ไม่บังเอิญ

“เสี่ยวเซี่ย เธอสํานึกตอนยัง

โทรศัพท์ได้เชื่อมต่อการโทรแล้วจางเจ้นชื่อที่คนหนุนหลัง อยู่กลัวเกรงใดได้ส่งน้ำเสียงชัดเจนออกมาทันที

หน่อย”

จางเจ้นชื่อคำพูดที่หละหลวมกับเสียงที่แปลกประหลาด ไท่เฟิงเป็นเพียงแรก ขั้นต่อไปจะทำให้คุ้มกันนำส่ง สินค้าของเธอไม่ได้รับใบรายการแม้แต่ใบเดียว!”

“อย่างนั้นก็คอยละกัน!

เซี่ยเมงกดปุ่มสาย จากนั้นได้วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างแรงจนทำให้เกิดเสียงที่สามารถทำให้หันเหความสนใจได้

หวางได้ถูกการเคลื่อนไหวทำให้ตกใจ “เซีย ประธานเซีย ท่านต้องการนัดพบกับประธานเจียงเวลาไหน?”

“เอาที่เขาสะดวกก็ได้ เธอออกไปก่อน

หวางลี่โล่งใจ จากนั้นก็ได้ก้าวเท้า

“จริงสิ หานดงมาทํางานไหม?”

“เพิ่งจะมา

“ให้เขามาที่ห้องทำงานของฉัน

“ได้ รับทราบ”

ในระเบียงทางเดิน หวางได้ตบไปที่หน้าอกเบาๆ เขารู้สึกว่าประธานเซียในเวลานี้ก็เป็นเหมือนภูเขาไฟลูกหนึ่ง หินแม็กมาที่ไม่รู้ว่าจะได้พ้นไปถึงบนตัวของใคร

เห็นถึงน้ำเสียงของเขาแล้ว พี่ดงคงจะโชคร้ายอีกแล้ว

ได้ยินพนักงานที่ทวงหนี้คนนั้นพูดว่าพี่ดงได้นำเฉียวลิ่วจี่ขังไว้ อยู่ในห้องพิเศษ อีกทั้งก็ยังลงมือจู่โจมไปที่ลูกน้องของ เฉียวลิ่ว คนหนึ่ง บีบบังคับจนเฉียวลิ่วคืนเงินอย่างเชื่อฟัง และอีกอย่างก็ ยังได้เรียกเป็นพี่เป็นน้องซึ่งกันและกัน

ตั้งแต่เช้าก็ได้อยู่ในที่ที่ไม่ค่อยใหญ่นักของเฉินเวยมีการเล่า ต่อกันมาอย่างโกลาหลวุ่นวาย ทำให้คนได้สรรเสริญด้วยความ แปลกใจ
เติมทีก็เป็นยามรักษาความปลอดภัยตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่เข้า ตาเลยแม้แต่น้อย ชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียวก็ได้เป็นคนที่มีประเด็น สําคัญในบริษัท

แต่ก็ได้หน้าได้ตาไปเพียงแค่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ทันทีหลังจากนั้น ทางแผนกกฎหมายด้านนั้นก็ได้มีข่าวคราวใหม่ได้พูดว่าหานดง กับคนนั้นที่เรียกว่าหลิวหมิงหยวน ได้ฝ่าฝืนกฎการทวงหนี้

เวลานี้ ทิศทางลมได้เปลี่ยนไปแล้ว

มีบางคนที่เห็นผู้อื่นประสบเคราะห์มีทุกข์ก็ดีใจ แต่ก็มีบางคน ที่ได้คาดเดาถึงเหตุผลเป็นการส่วนตัว

คนที่มีสายตาเฉียบแหลมล้วนแต่มองออก หานดงหรือหลิวห มิงหยวน นี่คือได้ล่วงเกินคนแล้ว ได้ใช้ความคิดหนักขนาดนั้น เพื่อที่จะทวงหนี้ที่ต้องชำระกลับมา แต่กลับยังถูกปรับเงินลงโทษ

ไปแล้วกี่ร้อยหยวน

ตอนที่คิดก็ได้เดินไปตามทิศทางของแผนกกฎหมาย ตอนที่ ออกมาจากบันไดก็ได้พบกับหานคงกับคนนั้นที่เรียกว่าหลิวหมิง หยวนกำลังเดินออกไปทางด้านนอก

หวางลี่รีบเดินมาด้านหน้า: “พี่ดง

เมื่อพูดถึงหวางขึ้นมา ก็เป็นคนที่เป็นที่รู้จักในบริษัท แม้ว่าจะ ไม่ได้สวยเท่ากับเซี่ยเมิ่ง แต่ก็เป็นผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง อีกทั้ง ยังมีนิสัยร่าเริง อายุน้อย ไม่วางมาด

เพียงแต่ว่าการทำงานของหลิวหมิงหยวนเป็นสาเหตุที่ทำให้ได้สัมผัสคบค้าสมาคมกับเธอน้อยมาก จากนั้นก็ได้ชำเลืองมอง

ไปอย่างเงียบๆอย่างไม่กล้าที่จะนุ่มบ่าม ในใจก็คิดว่าทำไมเธอถึงได้เรียกหานคงเป็นพี่ดง นี่มันก็ช่าง

ผิดปกติเกินไปแล้ว?

หวางเป็นถึงคนข้างตัวของเจ้านาย

หานคงอารมณ์ไม่ค่อยดี ในบ้านได้ถูกกงจิ๋วหลิงพูดดูถูกทำให้ ขายหน้า เพิ่งจะมาที่บริษัทก็ได้ถูกถังเป็นชีวนางพญามารคนนั้น ด่าใส่หน้าและหัวเต็มๆไปอีกหนึ่งฉาก

เขาถามอย่างเคี่ยวเข็ญฝืนใจ “เสี่ยวลี่ มีเรื่องอะไร?

หวางน่หานดงลากไปที่ด้านหนึ่งจากนั้นก็ได้พูดเสียงเบา “เป็นประธานเซี่ยต้องการพบนาย ฉันเห็นว่าสีหน้าของเขาผิด ปกติ…….

ในใจของหานคงคิดว่าแปด ในสิบก็เป็นเพราะว่าการเปิดโปง เฉินบินในบ้านของตัวเองเรื่องนั้น จึงได้พูดอย่างไร้อารมณ์: “ไม่ อยากไป

หวางมีสีหน้าที่กลัดกลุ้มใจ: “นี่คือคำสั่งของประธานเซีย พี่ ดงอย่าทำให้ฉันลำบากเลย

“เธอก็พูดว่า มาช้าไปแล้วก้าวหนึ่งไม่ได้พบผม”

เมื่อพูดจบ เขาก็หัวเราะแล้วหัวเราะอีก “ขอบคุณที่เธอแอบส่ง ข่าวลับล่วงหน้า หากมีเวลาผมก็จะเลี้ยงข้าวเธอ!”
หวางลี่ได้ดึงจมูกที่เล็กกระจิ๋มกระจิ๋ม : “พี่ดงความยิ่งของ นายนั้นขึ้นชื่อมาก ทำให้ฉันดีใจน้อยลงหน่อย

หานคงพูดอย่างหน้าเหวอ “หากว่าแพงก็คงจะเลี้ยงไม่ได้ ถ้า ถูกหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา ไปก่อน ยังมีภารกิจหน้าที่ใหม่ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ