ผมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิง

บทที่ 10 การใส่ร้ายที่ปราศจากหลักฐาน



บทที่ 10 การใส่ร้ายที่ปราศจากหลักฐาน

“แม่ ยังไม่พักผ่อนอีกเหรอ

ความคิดบังเกิดขึ้นพรั่งพรู หานคงตั้งสติหาทางหนีทีไล่ เขาฉีก ยิ้มพลางกล่าวทักทาย

กงชิวหลิงขมวดคิ้วมองที่หานดง แล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย บวกกับดวงตาคู่นั้นของเซี่ยเพิ่งที่ดูเหมือนกันไม่มีผิด แววตาที่ แฝงไปด้วยการดูถูกจากการมองจากเบื้องบน แรงอาฆาตรุนแรง จนตกใจ

“เสี่ยวดง ทำไมกลับมาดึกจังเลย?”

“ไปเยี่ยมคุณพ่อที่บ้านครับ!”

“งั้นเหรอ?”

หานคงคิดในใจว่านี้เป็นการแกล้งรึเปล่า? ทั้งช่วงบ่ายเขา ล้วนอยู่ที่บ้านของพ่อตัวเอง

เซี่ยหมิงหมิงพูดต่อจากเขาด้วยน้ำเสียงเฉียบคม “พี่เขย เวลา คุณพูดโกหกดวงตาไม่กะพริบเลยนะ แกติคงหลอกลวงพี่สาว ของฉันไหวไม่น้อยเลยสินะ

บรรยากาศที่พลิกผันแบบนี้เล่นเอาหานดงร้อนรนราวกับนั่ง บนพรมเข็ม เขาพยายามนึกอย่างสุดชีวิตว่าตัวเองไปทำเรื่องไม่ เหมาะสมอะไรมาบ้าง แต่ก็จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย
ว่าด้วยคุณสมบัติ “เกิดในตระกูลผู้มีความรู้สูงส่ง” ของกงชิว

หญิง เธอยังคงความสุขุมพลางเอ่ยอย่างไม่โมโหและใจเย็น “วัน นี้เพื่อนของฉันคนหนึ่งเขาเห็นเธอไปที่KTVหยินเรือ แล้วหยอก ล้อกับผู้หญิงหลายคนในห้องอาหารส่วนตัวอย่าง สนุกสนาน…เสี่ยวดง พ่อตาของเธอเขาคุยอวดเรื่องของเธอไป ทั่ว ดูเหมือนตอนนี้ สายตาของเขาคงจะไม่ค่อยดีนักๆ

หานคงได้ยินคําพูดที่ดูลึกลับของเธอดึงมุมปากเข้าให้

KTVหยินเหอ

เมืองคงหยางมีสถานเริงรมย์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง คุณภาพขององค์หญิงแต่ละคนในห้องส่วนตัวอยู่ในระดับต้นๆ วุฒิการศึกษาตาสุดคือระดับปริญญาโท

ในสายตาของคนธรรมดาKTVแห่งนี้อาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงไป ในทางที่ดีนัก ทว่าวงการเช่นนี้ในความคิดของตระกูลเซียนั้น ไม่มีความลับเลยแม้แต่น้อย

มันคือสถานที่สีเทาๆ ที่ขายของแท้ราคาสมน้ำสมเนื้อ เสนอ ให้บริการตามความชอบของผู้ชายแต่ละคน เป็นเหมือนสวรรค์ ของเหล่าคนรวย

ค่าบริการต่ำสุดของห้องส่วนตัวที่ได้กล่าวมาล้วนอยู่ที่ราคา

หกพันแปดหยวนขึ้นไป

หานคงปฏิเสธอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอได้พูดมา “แม่ครับ ผมไม่ได้ไปKTVหยินเหอ อีกทั้งค่ากินน้อยนิดที่คุณให้ผมทุก เดือน เอาไปซื้อเหล้ายังไม่พอเลยใช่มั้ยครับ…”
กง หลังไม่ฟังคําชี้แจ้ง “เธอเถียงข้างๆ คู ไปก็ไม่มี ประโยชน์ กลับกันยังทำให้ฉันดูถูกเธออีก แบบนี้ เธอจะรู้สึกว่า ครอบครัวของฉันใส่ร้ายเธอ คนอย่างเธอก็ไม่ชอบฝันใจ เธอและ เสี่ยวเพิ่งหย่ากันเถอะ”

หย่า?

เอาเหตุผลที่เขาไปKTVหยินเรือมาอ้าง เพื่อให้เขาและเซี่ย เพิ่งหย่ากัน

ไม่ต้องพูดเลยเพราะเขาไม่เคยไปเฉียดแถวๆ หยินเหอเลย ก็ นับว่าไปแล้ว แม่ยายพูดคำพูดแบบนี้ได้อย่างง่ายดายเลยเหรอ? เซี่ยเมิ่ง นี้ต้องเป็นเจตนาของเซียเพิ่งแน่ๆ

หากเธอไม่ได้เกริ่นกับแม่ยายก่อน กงชิวหลิงก็ไม่น่าจะพูดคำ ว่าหย่าออกมาง่ายดายเช่นนี้

สายตาของเขาเลือบไปมอง เซียเพิ่งก็สบสายตาด้วยแววตา เย็นชา เธอเปิดปากหาวออกมาอย่างเกียจคร้าน ไม่สนใจหานดง ก่อนจะหันไปพูดกับกงจิ๋วหลิง “แม่คะ หนูง่วงแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่น แต่เช้า”

หานดงหัวใจดำดิ่งลงต่ำสุดรังแกคนก็ยังไม่มีท่าทางแบบนี้

ที่บอกว่าเขาไปหยินเหอก็เป็นเรื่องโกหก บีบให้เขาและเซี่ย เพิ่งหย่ากันนี้จริงแท้แน่นอน

หากเขายังแก้ตัวต่อไปแบบนี้ หาคนมารับประกันว่าช่วงบ่าย เขาอยู่ที่บ้านของพ่อ กงชิวหลังก็ไม่มีทางเชื่อ หล่อนกลับจะบอกว่าตัวเขาและพ่อสมรู้ร่วมคิดกันอีก

เขายืนอย่างเก้ๆ กังๆ หานคงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง

กงชิวหลิงพูดอย่างจริงจัง “เสี่ยวดง เมื่อก่อนฉันคิดว่าเธอเป็น เด็กชื่อๆ จิตใจไม่ได้เหลวร้ายอะไร ทั้งยังทนความยากลำบากได้ เลยเห็นด้วยเรื่องแต่งงาน ยามจะหาลูกเขยมาแต่งเข้าบ้าน ก็หา คู่ที่เหมาะสมไม่ได้เสียที เพราะเงื่อนไขสูงส่งเกินไป ตอนนี้ดู เหมือน ฉันจะคิดผิด”

หานคงพูดอย่างดูถูกตัวเอง “แม่ครับ แม่มองผิดไปแล้ว ผม เป็นชอบโอ้อวด ฉลาดหัวใส ทั้งยังไม่ชอบความลำบากด้วย

กงชิวหลิงไม่เถียง “ถ้าหย่ากันแล้วครอบครัวของเราก็จะไม่ให้ เธอเสียเลย หกแสนหยวนที่พ่อของเธอติดค้าง หล่าวเซี่ยฉันไม่ เอาแล้ว นอกจากนี้ ฉันจะให้เธออีกสองแสน…”

“แม่ครับ เรื่องแบบนี้ผมว่าให้ผมคุยกับเสี่ยวเมิ่งเองจะดูเหมาะ

สมกว่านะครับ”

กงจิ๋วหลิงดูรำคาญเล็กน้อย “ตระกูลนี้ฉันยังสามารถรับผิด ชอบดูแลได้ เจตนาของฉัน ก็คือเจตนาของเสี่ยวเพิ่ง

หานคงฟังคำพูดอันแรงกล้า เขาก็ยิ่งอ่อนแรง

ตั้งแต่แต่งงาน เขาพยายามเข้าตระกูลเซียมาโดยตลอด ได้รับ วิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่

แต่อดทนประนีประนอมครั้งแล้วครั้งเล่ากลับมาคืออะไรกัน?”
แม้กระทั่งเรื่องหย่า กงชิวหลังแม่ยายคนนี้ออกมาพูดแทน

ลูกสาว

เห็นเขาเป็นอะไร? เรียกก็ต้องมา สะบัดไล่ก็ไป

เซี่ยหมิงหมิงยังคงยืนกราน เธอรีบพูดขึ้น “พี่เขย คนเราต้อง รู้จักพอ นายลองคิดดู ตอนที่

อาหารป่วยหนัก ในช่วงแรก หากไม่ใช่ความหวังดีของพ่อฉัน ผลลัพธ์จะเป็นยังไง? แล้ว อีกอย่าง นายและพี่สาวของฉันคนเขา ต่างดูออกว่าไม่ได้มีความรู้สึกต่อกัน แยกกันด้วยดีดีกว่านะ หลัง จากนี้พวกเรายังได้เจอกันอีก”

คำพูดนี้ช่างดูดีอะไรอย่างนี้ หากไม่มีดวงตาที่แฝงไปด้วย ความเย่อหยิ่งของเธอ กระทั่งทานดงยังเผลอคิดไปว่าเธอแนะนำ ด้วยจริงใจ

หัวใจเต้นกระตุก เขาพลันคิดได้ว่าที่แม่ยายเข้าใจผิดว่าเขา ไปKTVหยินเหอจะเป็นเพราะเข้าไปขัดจังหวะเสี่ยหมิงหมิงหรือ ไม่?

วันนี้เขาก็ล่วงเกินอย่างเห็นได้ชัด พอคาดเดาดูแล้ว ยิ่งคิดก็ ยิ่งมีความเป็นไปได้

เชี่ยหมิงหมิงมักมีความคิดร้ายๆ เกิดขึ้นไม่เว้นว่าง คนผู้นี้ดู จากความประพฤติตัวก็พอมองออก ประพฤติตัวหยาบคายและ

ไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง “คุณแม่ ที่คุณเข้ามาก้าวก่ายชีวิตแต่งงานของผมและเสี่ยวเมิ่ง ผมพอเข้าใจได้ ทว่าการหย่าต้องมีคำแถลง ไม่ใช่ว่ามีคนอื่นบอกเล่าว่าผมไปKTVหยินเทอ คุณก็หลงเชื่อ

กงชิวหลิงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เธอกำลังบอกว่าฉันแยก อะไรผิดหรือถูกไม่ได้?

“ผมไม่ได้มีเจตนานั้นครับ ผมแค่อยากเห็นหลักฐาน คุณบอก ว่ามีคนเห็นผมไป หากมีรูปละก็ผมก็ไม่มีคำพูดจะเอ่ยแล้ว ไม่เช่น นั้นก็ให้หล่อนมายืนยันกันต่อหน้าต่อตา

หางตาของกง หลังประกายแสงเหลือบมองเชียหมิงหมิงอ

ย่างลืมตัว

การกระทำเล็กน้อยๆ เช่นนี้ ยิ่งทำให้หานคงมั่นใจในความคิด ของตัวเอง

ต้องเป็นเพราะเซี่ยหมิงหมิงขุ่นเคืองเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลาง

วันแน่ๆ ทำให้เกิดเรื่องกลั่นแกล้งใหญ่เข้าใจผิดขนาดนี้

ที่น่าเสียใจก็คือ เซี่ยเมิ่งและกงชิวหลิงน่าจะรู้ว่าเจตนาพูดค่า ลวง แต่กลับเลือกที่จะเชื่อ

“พี่เขย พี่เลี้ยงงานหนักไปงานเบาให้น้อยๆ หน่อย งั้นพูดมา เลยว่าการแต่งงานครั้งนี้จะหย่าหรือไม่หย่า?”

หานคงมองนวล ใบหน้าอันน่ารักน่ามองนั้นของหล่อน “หย่า หรือไม่หย่าเป็นเรื่องของทั้งสองตระกูล แม้แต่พวกคุณยังดูถูกมัน รับผมไม่ได้ การแต่งงานครั้งนี้ ผมก็ไม่มีทางยอมหย่าง่ายๆ หรอก”
ความประทับใจของหานคงที่อยู่ตรงหน้ากงจิ๋วหลิงล้วนมี ท่าทางนอนสอนง่ายมาโดยตลอด ไม่มีทีท่าแข็งข้อแบบนี้ เธอ พูดขึ้นอย่างโมโห “เธอ…

หานคงกลับไม่คิดอะไรอีกต่อไป เขาหันกายแล้วกลับขึ้นห้อง

ไป

ความโมโหของกงชิวหลิงก็ค่อยเย็นลง ก่อนจะหันหน้าไปหา ลูกสาวคนเล็ก “ลูกเห็นกับตาหรือเปล่าว่าพี่เขยไปKTVหยิน เหอ! ”

เซี่ยหมิงหมิงหัวเราะคิกคัก พลางพูดตอบ “หนูเห็นว่าคล้ายๆ

เขานะ”

“ลูกนี้มันสร้างเรื่องวุ่นวายจริงๆ!

กงจิ๋วหลิงมีหรือจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอจ้องลูกสาวตา เขม็ง

เซี่ยหมิงหมิงดึงแขนของเธอให้ พลางพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อน รอยยิ้ม “แม่ บางทีพี่หนูอาจจะอยากหย่าก็ได้ หนูแค่คิดจะยืม หัวข้อมาแสดงความคิดเห็นเอง”

หานดงลากจังหวะก้าวเดินหนักๆ กลับห้อง ทั่วทั้งร่างกาย ราวกับถูกสูบเรี่ยวแรงไป

เขาชอบเซี่ยเพิ่งแต่นี่ไม่ใช้เหตุผลที่เขาไม่ยอมหย่า
ดูเหมือนว่า การแต่งงานประเภทนี้ ประเภทที่ครอบครัวต่าง เหม็นเบื่อกัน

แต่ เขาไม่กล้าหย่า

พ่อของเขาเพิ่งผ่าตัดหัวใจมาได้ไม่นาน คงทนรับเรื่องที่ เปลี่ยนแปลงใหญ่โตเช่นนี้ไม่ได้ พ่อของเขาชอบเซียเพิ่งมาก ยามปกติก็กำชับเขาไม่หยุด อย่าทำให้เธอเสียใจ พยายามอยู่ ด้วยกันอย่างกลมเกลียว

ดังนั้น แม้แต่สุนัขที่เลี้ยงในตระกูลเซียยังสู้ไม่ได้ เขายังคงต้อง อดทนเข้มแข็ง อย่างน้อย รอจนกว่าสุขภาพของพ่อเขาจะดีขึ้นอีก หน่อยค่อยคุยกันดีๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ภายในจิตใต้สำนึก เขายังโอบกอดความเพ้อ ฝันที่เขามีต่อเซี่ยเมิ่ง

หลังจากนึกถึงตอนที่เขาหย่ากับเธอ แล้วเธอเข้าไปใกล้ชิด สนิทสนมกับชายอื่น ในหัวใจเหมือนมีรากหนามรัดกุมไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ