ผมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิง

บทที่ 17 ร้ายมาก็ร้ายตอบ



บทที่ 17 ร้ายมาก็ร้ายตอบ

“แม่ ผมก็ไม่อยู่เป็นเพื่อนแล้ว ยังมีงานที่หัวหน้าได้มอบหมาย เมื่อคิดถึงแบบนี้ หานคงก็ออกปากปฏิเสธ

ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นเซี่ยหมิงหมิงหรือว่าเงินบิน ตอนนี้เขา ล้วนแต่ไม่ต้องการที่จะพบใครเลย ก่อนหน้านี้ก็มีปัญหา ถ้ายัง ดันทุรังในมาอยู่ร่วมกันดื่มเหล้ากินข้าวก็ช่างน่าเบื่อเกินไป

กงจิ๋วหลิงไม่อนุญาตอย่างไม่ต้องสงสัย “งานเลื่อนออกไป ก่อน ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนคนถึงจะเป็นเรื่องจริง”

หานคงไม่มีเหตุผลในการปฏิเสธแล้ว

สามารถมองออกว่าความรู้สึกที่กงจิ๋วหลิงมีต่อเฉินบินก็ยังคง ให้ความสนใจกับความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาที่รังเกียจตัวเอง ขนาดนี้จะต้องการให้เขาอยู่ต่อทำอะไร?

นอกเหนือเสียจากคิดอยากที่จะนำเงินบินมาปรนนิบัติให้ สบาย

ก็ไม่แปลกมาก เฉินบินก็เป็นคุณชายคนหนึ่งที่มีคุณภาพดีสม น้ำสมเนื้อของทายาทรุ่นที่ 2

ฐานะทางบ้านเมื่อเทียบกับตระกูลเซียแล้วก็ดีกว่า โดยเฉพาะ พ่อเขาเฉินเหยนเดิมทีก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองดง หยาง ภายใต้มือของเขาก็มีธุรกิจแฟรนไชส์ของห้างสรรพสินค้ากระจายไปทั่วในเมืองที่อยู่ใกล้เคียง

ระหว่างเวลาเที่ยง

เฉินบินกับเซี่ยหมิงหมิงตลอดทางก็ได้พูดคุยเฮฮาเข้าประตู บ้านมาแล้ว ในมือก็เต็มไปด้วยของขวัญ

ใบชา บุหรี่เหล้า

บุหรี่เป็นบุหรี่ที่แพงที่สุดในเมืองดงหยาง ชื่อด้าเทียนเย่ ราคา ลับหลังของแต่ละแพ็คก็ใกล้เคียงกับหกเจ็ดพัน เหล้ากับใบชา หานดงนั้นไม่รู้จักแต่เมื่อคิดถึงมูลค่าก็น่าจะไม่เบา

เฉินบินในเวลานี้ก็ไม่มีท่าทางของคุณชายใดๆเลย เขาได้สวม ใส่เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีรอยยิ้มกับการเอาใจเก่ง ดูเหมือนกับว่าเซี่ยหมิงหมิงเพิ่งจะกลับมาจากสถานีโทรทัศน์ ด้านนั้น บนตัวเธอใส่ชุดเครื่องแบบอาชีพผู้หญิงสีเทาเงินชุดหนึ่ง เขียนอธิบายสั้นๆได้ว่ารูปร่างที่เอวบางร่างน้อยอรชนอ้อนแอ้น ได้ถูกปรากฏให้เห็นได้ชัดอย่างไม่ต้องสงสัย

ชั่วพริบตาที่เฉินบินเห็นถึงหานดงรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาตินั้น ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นไม่น่าดู

ในใจคิดว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ทำไมถึงอยู่ เมื่อพบคนเฉินบินก็ได้ คิดถึงตอนที่ตัวเองกับแฟนสาวเซี่ยหมิงหมิงได้เล่นเกมพิชิตชุด

เครื่องแบบ ได้ถูกหานดงถีบประตูเข้ามาพบ สองวันมานี้ นี่ล้วนแต่เป็นหนามแท่งหนึ่งที่ติดอยู่ในใจเขา

กงชิวหลิงไม่รู้เรื่องที่ซ่อนเร้นพวกนี้ของพวกเขา อีกทั้งก็ยังคิดว่าทานดงกับเฉินบินไม่รู้จักกันจึงได้ช่วยแนะนำอยู่ที่ด้านข้าง

ผู้ชายทั้งสองคนต่างก็ให้ความร่วมมือ ต่างฝ่ายต่างก็จับมือ อย่างเป็นพิธีรีตอง

ก็ได้อยู่ในมุมที่กงชิวหลิงมองไม่เห็น เฉินบินได้ทำตาขวางส่ง สายตาที่เย็นชา ให้กับหานคง

หลังจากที่เข้าไปที่นั่งเซี่ยหมิงหมิงก็ได้ขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ชั้นบน มีเพียงกงชิวหลิงคนเดียวที่ได้พูดคุยกับเฉินบินขึ้นมาแล้ว

ไม่พูดไม่ได้ การเข้าสังคมของเธอก็ยังมีความสามารถที่

เชี่ยวชาญอย่างดีอยู่

ได้พบกับเฉินบินครั้งแรก แต่กลับดูเหมือนว่าได้รู้จักกันมานาน มากแล้ว ได้ต้อนรับอย่างสนิทสนมอบอุ่น ภาษาที่พูดก็มีความ หนักเบาของค่า

หานคงได้เห็นถึงสถานการณ์ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ไปทุกอย่าง

เขาเข้ามาที่ตระกูลเซียนานขนาดนี้แล้วก็ไม่เคยเห็นแม่ยายยิ้ม ให้กับตัวเองเลย อีกทั้งยังคิดว่าเธอกับเซียเพิ่งมีนิสัยที่เย็นชา เหมือนกัน อารมณ์ความรู้สึกของเธอก็คือดูคน เวลานี้ก็เกรงว่า ได้นําเงินบินกลายเป็นลูกเขยไปแล้ว เป็นท่าทางประมาณยิ่งคุย ก็ยิ่งมีความสุข ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ

หานดงก็เหมือนกับอากาศแทรกคำพูดไม่เข้าไปอีกทั้งก็ไม่ อยากที่จะแทรกพูด ได้นั่งอย่างโดดเดี่ยวอยู่ที่ด้านหนึ่ง

ระหว่างที่ได้กินข้าว สภาวะนี้ก็ไม่ได้มีการปรับปรุงใดๆ ให้ดี
ตลอดทางล้วนแต่เป็นการพูดคุยกันของแม่ยายกับเฉินบิน พูด คุยเรื่องฐานะทางบ้าน พูดคุยเรื่องเศรษฐกิจ คุยพูดเล่นนินทา ในที่มืด หานคงก็ได้ถูกสายตาของแม่ยายตักเตือนไปแล้วต่อ กี่ครั้ง ให้เขาไปหาเฉินบินเพื่อชนแก้ว หานคงทําเพียงรับทราบ

แต่ก็ไม่ได้ทำ

กงชิวหลิงหงุดหงิด โกรธเคืองจึงได้ถือโอกาสพูดอย่างตรงไป ตรงมา: “เสี่ยวดง ช่วยเอาเหล้ามารินให้หน่อยนะ!”

หานดงหลบเลี่ยงต่อไปไม่ได้ ทำได้เพียงลุกขึ้นเท่านั้น

เฉินบินมีท่าทางที่คลุมเครือ แต่เห็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เขาได้หยิบ แก้วยกขึ้นมา: “พี่เขย พบกันครั้งแรก…….

ค่าพูดออกจากปากมาเป็นแถว ความหมายก็คือบีบบังคับให้

หานดงชนกับเขาสักแก้ว

เมื่อคืนหานดงได้ดื่มเกินลิมิตไปแล้ว ตอนนี้เมื่อได้กลิ่นของ เหล้าก็อยากจะอ้วก

เขาจิบแล้วจิบอีกเล็กน้อย ตรงหน้าท้องก็ได้ม้วนตัวกลับไม่ หยุด

จากนั้นก็รีบพูดว่าต้องการไปจะห้องน้ำ เพื่อเป็นการหลบเลี่ยง

ชั่วคราว

กงชิวหลิงเห็นเขาไม่มีมารยาทเช่นนี้ จึงได้ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ “เสี่ยวบิน อย่าถือโทษ พี่เขยเธอมีฐานะทางสังคมไม่ค่อยจะดี ไม่เคยพบฉากแบบนี้มาก่อนก็เลยไม่ค่อยรู้จักมารยาท

เซี่ยหมิงหมิงพูดต่อด้วยน้ำเสียงดังกังวาน: “หากให้ฉันพูด แม่ เธอก็ไม่น่าจะให้เขามาร่วมโต๊ะ เห็นถึงเขาฉันก็อิ่มแล้ว”

เฉินบินแสร้งทำเป็นใจกว้าง: “คุณป้า พี่เขยไม่อยากจะดื่ม วัน นี้ก็ไม่ต้องดื่มแล้ว ไม่เป็นไร

เมื่อนำมาเปรียบเทียบแบบนี้ กงชิวหลิงก็คิดว่าหานดงก็ยิ่ง เหลือจะทนเข้าไปอีก บนปากก็ได้หาข้ออ้างที่จะออกจากสถานที่ นี้ไป แต่ทิศทางที่จะไปกลับเป็นห้องน้ำ

เมื่อเธอจากไป เซี่ยหมิงหมิงก็มีความดีอกดีใจกับความโชค ร้ายของคนอื่นขึ้นมาทันที แม่จะต้องไปสร้างความยุ่งยากเอา เรื่องกับหานดงแล้ว

หานคงได้ใช้มือประคองอ่างล้างหน้าที่ทำด้วยดินเผา ใน กระจกเป็นใบหน้าที่ขาวซีดไม่มีสีเลือดใดๆบนหน้า

เมื่อกี้ตอนที่หลิวหมิงหยวน โทรศัพท์เข้ามาบอกว่าไปที่บริษัท เพื่อมอบบัญชีชี้แจงหน้าที่ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับคำชื่นชม แต่กลับ บอกว่าพวกเขาทั้งสองคนได้ใช้วิธีการไม่ดีทำลายกฎข้อบังคับ ของบริษัทในการได้รับบัญชีมา ผลกระทบไม่ดี ครั้งนี้ผ่อนปรน ให้ถือเป็นตัวอย่าง คราวหน้าก็ห้ามทำเช่นนี้อีก และอีกอย่างเพราะว่าหานคงทิ้งงานอย่างไม่มีสาเหตุ บอกว่าหากตอนบ่ายไม่ไปบริษัทก็ไล่ออก มันผิดปกติมาก

เพราะหนี้ต้องชำระเจ็ดแสนสําหรับเวยแล้วไม่ใช่ จํานวนน้อย เขาลำบากยากเย็น ในการติดตามกลับมาเฉียวลิ่วโดยธรรมดาแล้วคนที่เป็นหัวหน้าหนึ่ง ก็ควรจะ ต้องดีใจจะถูก

แต่การแสดงออกเช่นชิวกลับตรงกันข้ามกับหลักการ และเหตุผล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นได้ชัดเจนกับเซี่ยเพิ่งได้สวมกางเกงตัวเดียวกัน หากเปลี่ยนพูดคือ เป้าหมายของเธอก็ไล่ตัวเองออกไปจากบริษัท

ดังนั้น อย่าพูดแต่บริษัท

ปัง ปัง ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้ว เสียงของทำให้ความคิดเขาหยุดชะงักลง

“หานดง กินข้าวชี้แจงกับเธอว่ายังไง เธอดื่มเหล้า เป็นเพื่อนเสี่ยวบินอยู่เป็นเพื่อนทำให้คนมีความสุข กลับมาหลบ อยู่ห้องน้ำไม่ยอมออกมา…….

“ว่าเธอเป็นแบบนี้ ไม่รู้จักการแบ่งแยกค่าครองชีพ เดือนหน้าก็อย่ามาฉัน ฉันก็จะเงินเธออีกแม้แต่สตางค์เดียว

หานดงเคาะแล้วเราะอีกไปที่หัว จากนั้นก็ได้ส่งเสียงแหบออก มา: “แม่ วันนี้ผมไม่สามารถดื่มเหล้าได้แล้วจริงๆ เมื่อคืนดื่มไป มากแล้ว……

กงชิวหลงฟังคำอธิบายที่ไหนกัน เธอก็ตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับ ฉัน ฉันรู้ เธอเห็นว่าฉันดีต่อเสี่ยวบิน ในใจเธอนั้นก็เลยไม่ สบายใจ ไม่ผิด ฉันมองเขาแล้วก็สบายตากว่า ไม่ว่าจะเป็นอายุ ครอบครัว บุคลิกคน ทุกๆด้านเขาก็เหนือกว่าเธอ

หานคงพูด: “เขามีเงินมากกว่าผมคือเรื่องจริง นี่ก็คือเรื่องที่ สำคัญที่สุด”

กงจิ๋วหลิงได้ยินเขายังกล้าโต้เถียง จึงได้ยิ่งรำคาญใจขึ้นอีก “คนเขามีพ่อที่ดีที่ตัวก็มีความสามารถประเภทหนึ่ง จะอิจฉาก อิจฉาไม่ได้ ใครใช้ให้พ่อของเธอไม่ใจสู้ แม้แต่ค่าผ่าตัดก็ยังต้อง

หานคงรู้สึกเหมือนประสบกับลูกระเบิด

เมื่อก่อนเขาคิดว่าคนอย่างกงจิ๋วหลิงแม้ว่าจะชอบอำนาจ มี วิสัยทัศน์สูง แต่เมื่อพูดคุยโดยพื้นฐานที่สุดก็ยังมีการแยกแยะน้ำ หนักในการปฏิบัติ

แต่ตอนนี้ เขาเพราะเรื่องเล็กน้อย แม้แต่พ่อก็ยังดึงเข้ามา แล้ว นี่ก็คือคำพูดที่มักจะแขวนอยู่บนปากของผู้ที่มีการศึกษาสูง มีธาตุแท้สูงอย่างกงชิวหลัง
ยิม?

ตอนนั้นเซี่ยหลงเจียงได้นำเงินเข้าไปในบ้านของเขาเป็น

ท่าทางของภาพที่ไม่ต้องการไม่ได้ จะเรียกยืมได้ยังไงกัน หากว่าพ่อของหานคงก็ต้องการยืมเงินจริงๆ แล้วจะกลุ้มอก

กลุ้มใจมายืมตระกูลเซียอย่างไร้เหตุผลไปทำไม

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นเซี่ยหลงเจียง ที่ได้เอาน้ำใจที่เป็นเหมือน กึ่งบังคับกดมาถึงบนหัวของสองพ่อลูก ก่อให้เกิดหานเยซานที่ เห็นด้วยกับการให้ทานดงแต่งเข้าตระกูลเซีย

อาจเพราะอยู่ในสายตาคนอื่น หานคงได้เป็นคนที่ได้คบกับคน ที่ไม่อาจเอื้อม

แต่เมื่ออยู่ในใจของหานคง เขาไม่มีความสนใจแม้แต่น้อยกับ สิ่งที่เรียกว่าตระกูลที่มีทั้งเงินและอำนาจ หากไม่ใช่ว่าเรื่องราวที่ รีบเร่ง เขาก็คงจะไม่มีความสนใจเลยแม้กระทั่งเงินเลย

น้ำเสียงที่ค่อยๆเย็นชา เขาได้เปิดประตูขึ้นมาด้านหน้ากล้า เผชิญหน้ากับกงจิ๋วหลิง : “แม่ ท่านไม่ต้อนรับผมขนาดนี้ ทำไม ถึงเห็นด้วยที่ผมแต่งงานกับเสี่ยวเมิ่ง?”

“ฉันเห็นด้วย? ฉันไม่เคยเห็นด้วยมาก่อน ทั้งหมดล้วนแต่เป็น พ่อตาของเธอจัดการคนเดียว เขาบอกว่าบุคลิกเธอดี มีความรับ ผิดชอบ บอกว่ารู้จักความตื้นลึกหนาบางกันดี ฉันมองยังไงก็มอง ไม่ออกว่าเธอก็ยังมีข้อดีขนาดนี้…….

ไม่ต้องวางแผนอย่างบ้าระห่ำในการปลุกคนที่แกล้งนอนให้ตื่น ดังนั้น หานดงก็ได้คิดว่าพูดกับแม่ยายก็คงพูดถึงเหตุผลอะไร ออกมาไม่ได้

ทําเพียงไม่ได้มองกงชิวหลิงอีก จากนั้นก็มุ่งตรงเดินออกไป

ต้านนอก กงชิวหลิง โกรธจนทนไม่ได้ เธอตำหนิทานดงจนเคยชินไปแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยคิดว่าลูกเขยคนนี้ก็ยังมีอารมณ์: “วันนี้

ถ้าเธอเดินออกประตูบ้านนี้ไป ก็ไม่ต้องกลับมาอีก

หานคงก็ยังคงไม่ตอบ อีกทั้งยังเพิ่มฝีเท้าเร็วขึ้นแล้ว

การปะทะหน้า สายตาของเซี่ยหมิงหมิงได้มองมาทางเขา ใน แววตาก็ยังคงมีรอยยิ้มที่เหมือนกับว่าชอบที่เขาถูกบีบให้ยอม อยู่ตรงหน้ากงชิวหลิงเป็นอย่างมาก

หานคงก็ได้หัวเราะ “น้องสาว เมื่อวานผมไปทวงหนี้ที่หยิน เหอ บังเอิญเห็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนนี้ของเธอกำลังโอบกอด ผู้หญิงคนหนึ่งไปที่โรงแรม อย่าถามหาหลักฐานกับผม ผมไม่มี ก็ มีเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ด้วยกันกับผม บางทีเธออาจจะสามารถ โทรศัพท์ให้พี่ของเธอช่วยทำให้เธอชัดเจนได้”

เฉินบินได้ลุกขึ้นมาแล้ว: “แม่มเอ๊ย เธอพูดเพ้อเจ้อในน้อยลง หน่อย!! ”

ในเวลาเดียวกัน ก็คิดที่จะเดินขึ้นไปด้านหน้าของเขาเพื่อฆ่า หานดง

รอยยิ้มที่แข็งทื่อของเซี่ยหมิงหมิงเป็นลางบอกเหตุว่าหานดงไม่ได้พูดโกหก อีกทั้งก็ไม่มีเหตุผลที่จะพูดโกหก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ