บทที่ 16 ห้างเซ็นทรัลดงหยาง
กลับถึงบ้านก็ได้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว
จังหวะการก้าวเท้าของหานคงไม่มั่นคง เขาพยายามใช้กุญแจ เพื่อเปิดประตู จากนั้นก็ได้ถล้นเข้าไปแล้ว
แสงไฟอ่อนๆ ในห้องรับแขกยังสว่างอยู่ แต่กลับว่างเปล่าไม่มี ใครสักคน
หัวของเขาเสียบเข้าไปบนโซฟา แววตาที่อืดอาดเชื่องช้าจ้อง
มองไปยังบนเพดาน
หากพูดเพียง ในนาม หานคงเขาก็นับว่ามีบ้าน มีภรรยา เพียง แต่ว่าไม่สนใจว่าทุกวันจะกลับบ้านดึกแค่ไหน แต่ไหนแต่ไรมาก ไม่มีแนวโน้มที่จะโทรศัพท์ถามไถ่เขาเลยสักนิด
แบบนี้ก็สามารถนับได้ว่าเป็นอิสระในอิสระ ที่ทำให้เขาไม่ สามารถรู้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัวใดๆได้เลย
กลิ่นเหล้าที่เข้มข้น หานคงได้จับราวบันไดประคองตัวเองขึ้น ไปด้านบนอย่างช้าๆ
ตอนที่ได้เดินผ่านหน้าห้องของเซียเพิ่ง ก็ได้พบว่าในห้องของ เธอนั้นยังมีแสงไฟอยู่ อีกทั้งยังมีเสียงพูดที่ได้ทะลุตะเข็บประตูส่ง ออกมาอย่างเลือนราง
“ผิง เธอจะมาที่ดงหยางเมื่อไหร่? มีเวลาก็ทักทายมา ฉันจะเลี้ยงข้าวเธอ!”
ผิงก็ยังคงเป็นอยู่ฝั่ง
จากการคิดวิเคราะห์ในน้ำเสียงที่คุ้นเคยของเซี่ยเม็ง ตั้งแต่ที่ ได้กลับมาจากการทํางานนอกสถานที่ที่เมืองหลินอานนั้นก็เกรง ว่าทั้งสองคนจะแอบติดต่อกันหลายครั้งแล้ว
ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เธอที่ตอนแรกมีท่าทางที่ตื่นตระหนกและ กระสับกระส่ายก็คงจะไม่เปลี่ยนเป็นรอคอยเพื่อนด้วยความสนิท สนมชิดเชื้อเช่นนี้ในตอนนี้หรอก
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว หานคงก็ได้ปวดหัวเป็นอย่างมาก
เซี่ยเพิ่งกับเขายังไม่ได้หย่าขาดจากกันเลยนะ แต่ก็ได้กล้า หาญที่จะติดต่อกับแฟนเก่าเช่นนี้ หลังจากที่หย่าขาดกันในวินาที ถัดไปนั้นเธอก็จะโผเข้าหาอ้อมกอดของชีวผิงเลยใช่ไหม
แรงกระตุ้นที่ไม่มีเหตุผลทำให้ หานคงได้ผลักประตูออกแล้ว
ปังเสียงหนึ่ง เซี่ยเมิ่งที่สวมใส่ชุดนอนกำลังโทรศัพท์อยู่ก็ได้ ตกใจกลัวจนตัวสั่นไปแล้วครู่หนึ่ง
ยืมกลิ่นอายของเหล้าถึงจะมีแรงกระตุ้นดั่งไฟที่ร้อนแรงที่ เหมือนกับการเค้นถามความผิดในกองทัพ หลังจากที่เซี่ยเพิ่งหัน หัวก็ได้ถูกจู่โจมอย่างไม่เข้าใจ
หานคงไม่มีทีท่าว่าจะลังเละ “ฉัน ฉันมาหาเธอมีเรื่องนิด หน่อย”
กลัวก็คือกลัว ผู้หญิงได้กระทืบเท้าและเขาก็ได้กลัว แม้ว่าจะ ดื่มเหล้าแล้วก็เหมือนกัน
ตอนแรกเซี่ยเมิงก็ได้ตกใจ จากนั้นเมื่อพบว่าเป็นหานคง เธอ ถึงจะมีความโกรธที่รุนแรงขึ้น เธอจัดการด้วยการวางโทรศัพท์ ลงจากนั้นก็ได้ส่งสายตาดั่งเปลวไฟเข้ามาแล้ว
ใบหน้าทั้งใบหน้าของผู้ชายนั้นมีความแดง หน้าด้านขวาก็ยัง บวมเล็กน้อย เหมือนกับว่าได้ถูกคนแล้ว กลิ่นเหล้าที่เข้มข้น แม้ว่าจะอยู่ห่างกันไกลมาก แต่ก็สามารถทำให้เธอได้กลิ่นที่มัก จะทำให้คิ้วขมวดอยู่บ่อยๆประเภทนั้นแล้ว
“นายเป็นบ้าอะไร ใครให้นายเข้ามาในห้องฉัน
หานดงขาดความกล้าที่จะสู้กลับ ความกล้าหาญแบบนั้นที่ได้ เผชิญหน้ากับเฉียวลิ่ว เมื่ออยู่ต่อหน้าเซียเพิ่งแต่ไหนแต่ไรมาก ไม่สามารถที่จะเอ่ยได้เลยแม้แต่ครึ่ง
เขาไม่หยุดเลยสักครั้งที่จะรังเกียจตัวเองที่ไม่มีความโดดเด่น เลยเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยเพิ่งกลัวเธอทำไม แต่ว่าไร้ประโยชน์
อิทธิพลที่เซี่ยเพิ่งมีต่อเขานั้นสามารถที่จะมองย้อนกลับไปใน อดีตถึงกี่สิบปีก่อน เขาได้เคยชินมานานแล้ว
ตั้งแต่เล็กเมื่อหานดงเห็นเธอก็เหมือนกับหนูที่ได้เห็นแมวแล้ว ความกลัวประเภทนี้เขาก็คิดว่ามันคือความรัก ไม่เช่นนั้นตาย ก็ยังไม่กลัว ทำไมถึงจะต้องกลัวผู้หญิงคนหนึ่ง?
การเมาครั้งได้ข้ามหานคงเคยครุ่นคิดมาก่อน หากว่า เซี่ยเมิงได้เข้าใจคิดเผชิญหน้าอย่างไร้พลังงานนี้ เกรงว่าจะมีความกล้าหาญที่กล้าทำเรื่องดี แม้ใจร้อนดั่งเปลวที่แผดเผากล้า
เธอตระหนักได้ถึงแววของผู้ชายจ้องมองของตัวเอง เขี่ยเมิงรู้สึกรังเกียจหยิบเสื้อคลุมตัวนอกคลุมปกปิด แล้วหัวออก
ในใจของหานคิดว่าการเน้นความจริงตัวเองนั้นได้มา แล้ว แทนที่ถูกเธอตำหนิ เขาใช้ความวผิงจะมาคงหยาง”
เซี่ยเพิ่งไม่พยายามซ่อน จากใช้เสียงเย็นชา “คน
อื่นนายกเทศมนตรีที่ได้ส่งเสริมการลงทุนเชิญด้วยตัว
เอง เตรียมตัวที่จะลงทุนนี่สามพัน
วันต้องการที่มาสำรวจสภาพแวดล้อมด้วยตัวเอง หรือ
ฉันเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่าคนไม่
หน่อยเหรอ?
จริงในใจของเธอนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยเหตุได้หยิ่ง ทะนง อีกทั้งก็ยังแสดงท่าทางอยู่บนหน้า นี่ได้ชื่นชอบสามารถมีความสำเร็จอย่างวันนี้ ซึ่งทำให้รู้สึก เกียรติอย่างยิ่ง
หานคงเหมือนได้ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ มืดที่หายใจได้อย่างลำบาก แค่วินาทีเดียวเขาก็จนปัญญาที่จะไปเผชิญหน้ากับ ท่าทางนี้ของเซี่ยเพิ่ง
แม้คำพูดตอบโต้ก็ยังพูดไม่ออก
สามพันล้าน จํานวนของหน่วยนี้ชีวิตตัวเองจะสามารถหาได้ ไหม?
หากไม่ไตร่ตรองเรื่องพวกนี้ เพียงแค่ค่ายาค่าบำรุงรักษาของ
พ่อ ก็ได้ทำให้เขาใช้กำลังที่มีอยู่ทั้งหมดแล้ว หากว่าตัวเองคือเซียเมิ่ง ก็คงจะรีบถีบภาระอย่างเขานี้ไปให้ ไว จากนั้นก็เข้าไปหลบภัยในอ้อมกอดของชีวฝั่งสินะ
เข้าใจก็เข้าใจ แต่คนในตอนนี้ก็คือหานคง
กลิ่นอายของเหล้าที่เจือปนกับความสงสัยอึดอัดที่ไม่สามารถ แก้ไขได้ หัวเขาก็แทบจะระเบิดแล้ว
“จริงสิ ที่อยู่ในการสร้างห้างเซ็นทรัลดงหยางอยู่ที่เมืองเก่า เร็วๆนี้ก็น่าจะมีคนของฝั่ง f เข้าไปเจรจาเรื่องการรื้อถอน
หานดงที่มีท่าทีอารมณ์เสีย ได้ถอยออกไปจากในห้องแล้ว
เมืองเก่า ไม่ใช่ที่ที่เขาใช้ชีวิตอยู่ตั้งแต่เล็กเหรอ? ทั้งดงหยาง ยังมีเมืองเก่าแห่งที่2ที่ไหนกัน
วันรุ่งขึ้น ตอนที่หานดงลืมตาขึ้นนั้นพระอาทิตย์ที่ใกล้จะอยู่ ตรงกลางหัวแล้ว
เรื่องราวของเมื่อคืนค่อยๆปรากฏออกมา เขาได้ปีนขึ้นมาจาก บนเตียงอย่างโง่ๆแล้ว
เท้าเพิ่งจะถึงพื้น อาการหลังจากดื่มเหล้าก็ทําให้ร่างกายของ เขาแกว่ง นไปมา ส่วนหัวก็ได้มีความเจ็บปวดเหลืออยู่ บนตัวก็เหนียวไปหมด หลังจากที่ได้ไปอาบน้ำแล้ว ท้องก็ได้
ส่งเสียงดังโครกครากขึ้น
วันนี้ไปทํางานสายแล้ว?
หานคงได้รู้สึกถึงปัญหานี้แล้ว ตระหนักได้ถึงสายโทรศัพท์ที่ ไม่ได้รับสาย มีทั้งของผู้อำนวยการถังเช่นซิวและก็มีของหลิวห มิงหยวน
เขาไม่ได้ตอบกลับเลย จากนั้นก็ได้ไปที่ห้องรับแขกเพื่อหา ของกินก่อน
มันช่างเหนือความคาดหมายมาก คาดไม่ถึงว่าแม่ยายจะอยู่
บ้านนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา
สวมใส่ชุดสบายๆอยู่บ้าน ไม่ได้ปกปิดความประณีตความ
หรูหรา
เป็นวันสุดสัปดาห์ เขาเพิ่งจะคิดได้ว่าวันนี้คือวัน ซึ่งเป็นวัน หยุดของแม่ยาย
“แม่!”
หานดงได้ทักทาย
กงซิ่วหลิงก็คิดไม่ถึงว่า ในบ้านนอกจากแม่บ้านแล้วก็ยังมีคน อื่น เห็นถึงหานดงเขาก็ได้พูดอย่างประหลาดใจ “ทำไมเธอไม่ไป ทํางาน?”
พูดจนจบแล้วก็ตระหนักได้ถึงร่องรอยฝ่ามือที่เฉียวลิ่ว ทิ้งไว้ ตรงแก้มขวาของหานคง เธอได้เปิดตาออกโดยตรง
“เมื่อวานผมได้ดื่มเหล้านิดหน่อย เพิ่งจะตื่น……..ก็ไม่ได้มีใคร
เรียกผม
“ดื่มเหล้า และก็ยังได้ทะเลาะวิวาทแล้วใช่ไหม”
“ไม่ใช่ เพิ่งจะได้เข้าไปที่ฝ่ายกฎหมาย และได้ไปหาคนเพื่อ ทวงหนี้สิน จึงได้บีบกดดันนิดหน่อย……
กงชิวหลิงรำคาญจึงได้พูดตัดบท “รีบไปทำงาน ก็รู้แต่เพียง เอ้อระเหยไปวันๆทั้งวัน เธอมองดูลูกเขยข้างบ้านของพี่ซุน คนอยู่ ที่ต่างประเทศเปิดบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่ง ทุกครั้งก็ได้พูดอยู่ตรง หน้าฉันครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับ……..ให้ฉันรับได้ยังไง? ให้ฉัน พูดว่าลูกเขยของตัวเองก็คือคนงานรับจ้างที่ยังไม่โต เงินเดือน ทุกเดือนก็ยังไม่ถึงห้าพัน
หานคงท้องร้องจ๊อกๆ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะหาของกินแล้ว กงจิ๋วหลิงมักจะพูดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่ที่หูเขาบ่อยๆ
ลูกเขยบ้านไหนมีเงินเท่าไหร่ คนดีขนาดไหน ลูกเขยบ้านใคร พูดเป็นจัดการงานเป็น………
เกียจที่จะฟังเรื่องพวกนี้ และก็ได้อดทนต่อความคิดที่จะไปตอบโต้ เขาได้ยอมแพ้จากนั้นก็พูดทักทายเพื่อเตรียมตัวออกไป บริษัท
กงชิวหลงคิดอะไรได้อย่างกะทันหัน “รอเดี๋ยว ตอนเที่ยงน้อง สาวของเธอต้องการที่จะพาแฟนหนุ่มกลับมา เธออยู่เป็นเพื่อน หน่อย!”
วันนี้เขาพักผ่อนดังนั้นจึงไม่ได้ออกไปไหน เพราะลูกสาวคน
เล็กต้องการจะพาแฟนหนุ่มมาให้เธอดู
หานคงงุนงงเล็กน้อย แฟนหนุ่ม? ก็คือเฉินบินไม่ใช่เหรอ หากไม่ใช่ว่าแม่ยายพูดถึงคนนี้ขึ้น เขาก็เกือบจะลืมไปแล้วว่า เมื่อคืนได้เห็นสภาพของเฉินบินที่ได้โอบผู้หญิงอย่างสนิทสนม ชิดเชื้อไปเปิดห้องด้วยตาของตัวเอง
ในใจรู้สึกสบายใจเล็กน้อย เดี๋ยหมิงหมิงน้องสาวของภรรยา ที่ได้ใส่ร้ายป้ายสีเขาว่าไปใช้จ่ายเงินอยู่ที่KTVหยินเรือ เกรงว่า จะคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าแฟนหนุ่มของตัวเองกลับติดใจผู้หญิงอยู่ ด้านใน
หากว่าเขาได้รู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะมีท่าที่โต้ตอบอะไร
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ