ผมเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านหญิง

บทที่ 11 อาคารเทียนหลง



บทที่ 11 อาคารเทียนหลง

วันรุ่งขึ้น

หานคงก็ไม่ได้กินอาหารเช้าที่บ้าน เมื่อฟ้าสางเขาก็ได้วิ่งไปยัง

บริษัท

การเข้างานของเขาทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ มีการเดินทาง ประมาณ3กิโลเมตร จึงได้คิดว่าเป็นการออกกำลังกายแล้ว

ตอนเช้าตรู่ สภาพภูมิอากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาวเหมาะแก่การ

ใช้ชีวิตของผู้คน แต่เมื่อมีอากาศร้อนมากผู้คนก็ต่างพากันหนี ถอยไป ต้อนรับด้วยเสียงนกเพรียกร้องที่ไพเราะของนกที่ดังขึ้นหาน ดงก็รู้สึกอารมณ์ดีมีความสุข สิ่งที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายพวกนั้นก็ได้

กระจัดกระจายคล้อยตามไปด้วย

ปัจจุบันประธานกรรมการบริหารของบริษัทเจิ้นเวยก็ยังคงเป็น พ่อตาของเซี่ยหลงเจียง ตัวเขาคือคนที่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ทำ ด้านยามรักษาความปลอดภัยเจ้าแรกสุดในดงหยาง ในบริษัทก็ มีบริษัทปลีกย่อย บริษัท ที่จริงปัจจุบันการประกอบการด้วยตัว เองของขนาดองค์กรทั้งสองก็ล้วนไม่เล็ก แต่ละเมืองล้วนมีมูลค่า มากถึงสองร้อยล้านหยวนขึ้นไป การคุ้มกันนำส่งสินค้าคือธุรกิจ ที่ได้ติดต่อในภายหลัง และก็ได้แยกตัวออกไปลำพังมอบให้กับ เซี่ยเมิ่งแล้ว
กลุ่มเครือข่ายอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมเขตจินซุย อาคารเรียน หลงชั้นกับชั้น2 เนื้อที่ของพื้นที่ทำงานทั้งหมด ประมาณ4000ตารางเมตร

งาน หานคงได้มาอยู่ในบริษัทคือยามรักษาความปลอดภัย เฝ้าประตูประเภทนั้น ทุกวันจะยืนเหมือนกับคนโง่ที่เอ้อระเหยอยู่ ตรงประตูอย่างไม่หยิบจับทำการใดสักอย่าง โดยปกติก็จะดูแล ดังเช่นการจอดรถ ถามทางอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ

เมื่อเข้าไปถึงชั้นหนึ่ง ทุกคนต่างก็ได้เริ่มงานยุ่งขึ้นมา

คนหนึ่งร้อยแปดสิบคนในธุรกิจขนาดเล็ก แต่ทว่าต่างคนต่าง ก็สนใจในส่วนของตัวเองให้ดี ทุกอย่างล้วนแต่มีกฎข้อบังคับซึ่ง ได้ทําให้ไม่วุ่นวาย

หานคงไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเครื่องแบบยามรักษาความ

ปลอดภัยแล้ว จากนั้นจึงได้เริ่มทำงานเหมือนเครื่องจักรไปแล้ว

ทั้งวัน

เป็นเครื่องจักรอย่างแท้จริง ก็มีแค่เขาคนหนึ่ง นอกจากที่จะ เฝ้าประตูแล้ว ยังจะต้องช่วยรถขนส่งขนของจำพวกหนึ่งอีก

ปฏิบัติหน้าที่ประมาณครึ่งชั่วโมง รถบีเอ็มดับเบิลยูสีแดงคัน นั้นของเซี่ยเมิ่งก็ได้ปรากฏอยู่ในสายตาแล้ว ในเวลาเดียวกัน ก็ได้ดึงดูดสายตาของพนักงานทั้งหมดไปด้วย

เมื่อเธอมาถึง พนักงานก็ได้มีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว ก็มีกำลังใจใน การทํางานอย่างเต็มตัว
ระหว่างที่ได้เดินผ่านทานดงนั้น หางตาของเซี่ยเม็งก็ไม่ได้ ชำเลืองมองเขาเลย และทำเหมือนกับว่าไม่รู้จักเขาเลยแม้แต่ น้อย

เธอเข้าไปได้ไม่นาน หวางกุ้ยเซียนหัวหน้ายามรักษาความ ปลอดได้เดินเข้ามา จากนั้นได้ตบไปที่ไหล่ของหานดงเบาๆ “เสี่ยวหาน ประธานเซียให้เธอไปที่ห้องทำงาน

คนนี้ไม่ใช่คนที่มีจิตใจที่ดีงามอะไร ปรกติเขาจะประจบประ แจงต่อคนที่มีฐานะสูงเหยียบย่ำต่อคนต่ำต้อย ยามรักษาความ ปลอดภัยข้างล่างได้แค้นเคืองต่อเขาหนักมาก

ความสัมพันธ์ของหานคงกับเขาก็ธรรมดา พูดไม่ได้ว่าสนิท สนม แล้วก็พูดไม่ได้ว่าเป็นศัตรู

จะว่าไปในใจของหวางกุ้ยเขียนตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความ สงสัย เซี่ยเจิ่งนั้นเป็นคนแบบไหน? จะพูดว่าเธอเป็นนางฟ้าของ ผู้ชายทั้งบริษัทก็ดูไม่เกินจริงเลยสักนิด ไม่รู้ว่าเรียกหาทานดง ยามตัวเล็กๆคนนี้ไปทำไม

ใบหน้าที่มีความใจดโหดร้ายอยู่บ้างก็ได้ผลักรอยยิ้มออกมา แล้วกี่ส่วน: “เสี่ยวหาน เธอกับประธานเซี่ยรู้จัก?”

ในใจของหานคงได้พูดว่านั้นคือเมียของฉัน จะไม่รู้จักได้ยังไง แต่บนปากกลับได้กล่าวปฏิเสธ “จะเป็นไปได้ยังไง”

“อย่างนั้นทำไมประธานเซี่ยถึงได้ระบุชื่อหาเธอ?”

“ฉันก็ไม่ค่อยชัดเจน”
หานคงได้พูดลวกๆ ในการคบค้าสมาคม จากนั้นเขาก็ได้เดิน เลี้ยวไปตามทิศทางบันไดของเขตการทำงานชั้นสอง

เล็กแต่เก่งกล้าความสามารถมาก เล็กแต่มีพิษสง

เจิ้นเวยแม้ว่าจะไม่ใหญ่ แต่การควบคุมจัดการดูแลของเซียเมื่ งก็มีความคิดที่ก้าวหน้าทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นแผนกธุรกิจ แผนก กฎหมาย แผนกการเงิน เป็นต้น ซึ่งได้แยกความแตกต่างไว้ อย่างชัดเจน

เขตที่ทำงานของเซี่ยเพิ่งอยู่ที่ชั้นสองในมุมลับตาที่สุด มีพื้นที่ ประมาณ100ตารางเมตร เวลานี้ เขากำลังส่งมอบเรื่องงานส่วน หนึ่งให้กับเลขานุการหวาง

การสวมใส่ปกคอเสื้อสีขาวที่ได้มาตรฐาน ผมก็ได้ม้วนขึ้น อย่างเรียบร้อย ทำให้คนที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานอย่างเซียเพิ่งได้ รู้สึกเป็นประกายไปทั่วทุกมุม ริมฝีปากสีแดงบางๆที่ปิดรวมกัน อีกทั้งการพูดแบบสั้นๆง่ายๆ ตรงไปตรงมาอย่างมีประสิทธิผล

เวลานี้ เธอกำลังพูดถึงปัญหาการจัดวางของบุคคลที่มีความ สามารถพวกนั้นจากความตั้งใจในการขยายแสนยานุภาพใน การรับสมัครงานทั้งหมดของบริษัท

หวางลี่ก็ได้จดบันทึกไปด้วยพยักหน้าตอบรับไปด้วย จากนั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอกแล้ว

เธอได้หันหัวพูดไปประโยคหนึ่งว่าเชิญเข้ามา จากนั้นก็เห็น หานดงผลักประตูเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้ว
หวางรู้สึกมาตลอดว่าหานดงนั้นหล่อมาก ร่างกายก็ตรงดิ่ง ได้สัดส่วน เห็นได้ชัดเจนถึงความผอม ลักษณะหน้าตาแม้ว่าจะ เทียบไม่ได้กับคนที่รูปหล่อเกินงามพวกนั้น แต่กลับอยากมองยิ่ง กว่าด้วยซ้ำ ดวงตาคู่ภายในก็ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องอะไรที่ซ่อน กํากวมไว้อยู่มาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นที่หลินอัน ทำให้ในใจจริง ของเธอรู้สึกว่าหานดงคนนี้ได้มีการแบกรับหน้าที่ที่พิเศษ

“เสี่ยวลี่ เธอออกไปก่อน!!

เซียเพิ่งเห็นหานดงมาถึงแล้ว จึงได้กำชับ โดยไม่ได้เงยหัวขึ้น ไปประโยคหนึ่ง

หวางสี่ตอบรับ อีกทั้งตอนที่ได้เดินผ่านระหว่างหานดงก็ได้หรี่ ตาแล้วหรี่ตาอีกอย่างดื้อชนให้เขา จากนั้นก็ได้เปิดปากเปล่ง เสียงพูดเล็กน้อย โดยที่ไม่สามารถตรวจสอบได้: “พี่ดง ประธาน

เขียอารมณ์ไม่ดี……

หานคงไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น อารมณ์ของเซียเพิ่งก็ไม่เคยจะดี หรือว่าจะพูดว่าต่อหน้าเขานั้นเธอไม่เคยมีอารมณ์ดีเลย

เซี่ยเพิ่งได้จัดการเอกสารบนโต๊ะแล้ว: “พ่อพูดตั้งนานแล้วว่า ให้ฉันเปลี่ยนแผนกให้กับเธอ ตอนนี้ฉันได้ทักทายไปกับผู้อำนวย การถัง ในแผนกกฎหมายแล้ว อีกเดี๋ยวเธอเข้าไปรายงานตัว โดยตรงได้เลย วันนี้เริ่มทำงาน

หานคงได้ชะงักงันไปครู่หนึ่ง จากยามรักษาความปลอดภัยไป ถึงฝ่ายกฎหมาย ดูเหมือนว่าตำแหน่งจะเลื่อนสูงขึ้น แต่เซี่ยเพิ่งนั้นดีขนาดนี้เลยเหรอ? ตอนนี้เธอไม่ใช่ว่ามีจิตใจหมกมุ่น ต้องการที่จะหย่าขาดกับตัวเองงั้นเหรอ

เพียงแต่ว่าสำหรับเขาในช่วงระยะเวลาใกล้ๆนี้ก็ได้เตรียมใจ ทั้งหมดไว้ แต่ก็ยังมีการเฝ้ารออยู่หน่อย แม้ล้มพลาดลงก็จะได้ ไม่รู้สึกว่ากะทันหัน

เขาก็ไม่ได้ถามมาก ทันทีหลังจากนั้นก็ได้พยักหน้าตอบตกลง “ยังมีเรื่องอื่นไหม?”

เซี่ยเพิ่งเห็นถึงท่าทางของหานคงที่ได้มีความหลีกเลี่ยงจนออก ไปไกลประเภทนี้ต่อเธอ ก็ได้ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาเล็กน้อย เธอได้ พบเห็นรู้จักกับผู้ชายมามาก แน่นอนว่าการแสดงออกนี้ก็ได้ถูก เธอเข้าใจทั้งหมด การเข้าใจผิดได้เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจที่จะเสแสร้ง ขึ้นเพื่อฉกฉวยความสนใจของตัวเอง

“เมื่อไปถึงฝ่ายกฎหมาย ทุกอย่างล้วนต้องปฏิบัติตามการสั่ง โยกย้ายของผู้อำนวยการถังทั้งสิ้น อย่าทำให้ฉันขายขี้หน้าชาว บ้าน ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่สนใจว่าเธอคือคนที่พ่อยัดเข้ามาในนี้ หรือเปล่า เพื่อการจัดการที่สะดวก ฉันสามารถที่จะไล่เธอออกได้ ตลอดเวลา……

แผนกกฎหมาย พนักงานทั้งหมดก็มีแค่ห้าหกคน อยู่ห่างจาก ห้องทํางานของเซี่ยเมิ่งไม่ไกลนัก การครอบครองส่วนชั้นสองก็ เกือบจะเป็นหนึ่งในหกของพื้นที่แล้ว

หานคงรู้ทั้งหมดว่าพื้นฐานการทำงานภายในของแผนกนี้ก็คือการสัญญา ตลอดจนการจัดการที่เรียบง่ายของเรื่องราวพิพาททางธุรกิจ อื่นๆ โดยหัวหน้า

ผู้หญิงนี้ธรรมดา โดยปกติถึงแม้ว่าจะคบค้าสมาคม ด้วยมาก แต่เมื่อคนเอ่ยได้เธอแล้วทุกคนก็มีท่าทาง ที่เกรงกลัวกล้าความเงื่อนจําจํานวนหนึ่ง

อาชีพก่อนหน้านี้คือธุรการทั้งหมดเพียงลำพัง ภายหลังไม่รู้ว่าเซี่ยวิธีไหนได้ พาคนเจาะมาถึงเจิ้นเวยแล้ว

สามารถพูดว่า หากว่าหนึ่งของบริษัทเพิ่งคืออันดับ หนึ่ง อย่างถังชิวสมควรอย่างยิ่งจะอันดับสอง

เมื่อเดินใกล้แผนกกฎหมาย ภาพลอยออกมาคนสวมใส่ชุดกระโปรงเครื่องแบบอาชีพ มี ขาวผ่อง เป็นผู้หญิงบุคลิกลักษณะนิสัยเฉพาะตัวรวดเร็วและดุดัน

เวลาเป็นเวลาของการงาน ฝ่ายกฎหมายทั้งหมดนอกจาก เสียงกดคีย์บอร์ดห้องใหญ่ง่ายซึ่งสามารถมองเห็นด้านในถังเช่น ชิวกำลังคุยโทรศัพท์ได้จากการมองกระจก

เขาได้ใส่ชุดเดรสสีแดงตัวเหมือนอย่างสมส่วนรูปร่าง เชื่อมกับใบหน้าที่ไม่แยแสของเขานั้นทำให้คนรู้สึกเหมือนได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจเกี่ยว กับวิสัยทัศน์ที่มีความแตกต่างกันที่เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง

หานคงได้ยินอย่างรางเลื่อนเหมือนกับว่าเขากำลังจัดการ เกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องหนึ่ง เขาได้ใช้คำสั่งอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในน้ำเสียงเป็นการกําชับฝ่ายตรงข้าม

เขาลองหยั่งเชิงผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานแล้ว มีกลิ่น หอมที่โดดเด่นโชยมา กลิ่นจางมาก เหมือนกับกลิ่นของกระถาง ดอกไม้ที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ นั้นตรงหน้าต่างได้กระจายตัวออกมา และก็เหมือนกับเธอได้ใช้น้ำหอมด้วย

เหมือนกับว่าถังเล่นชิวมองไม่เห็นหานคงเธอได้ลืมตาขึ้นแล้ว ลืมตาขึ้นอีก จากนั้นก็ได้คุยโทรศัพท์ต่อ

ประมาณสองสามนาที ก็ได้วางสายโทรศัพท์พร้อมเปิดปาก

ถาม: “เธอชื่อทานดง?”

หานคงได้พยักหน้า: “ผู้อำนวยการถัง เป็นประธานเซียที่ให้ ฉันมา……

ถังเย่นชิวไม่รอจนเขาพูดจบ จากนั้นก็ได้พูดตัดบท “ฉันรู้ ประธานเซี่ยบอกว่าได้ช่วยฉันจัดหาคนทำงานเบ็ดเตล็ด ให้คน หนึ่ง”

เธอเป็นเพื่อนกับเซี่ยเมิ่ง ซึ่งเป็นจำพวกที่ชื่นชมซึ่งกันและกัน พวกนั้น ดูไม่ออกเลยว่าทำไมเชี่ยเพิ่งถึงต้องการให้ทานดงคนนี้ ที่แม้แต่ใบจบของมัธยมปลายก็ไม่สามารถเอามาได้เข้ามาใน ฝ่ายกฎหมาย แน่นอนว่าเหตุผลทั้งหมดที่เธอได้ปฏิบัติต่อหานดงก็คือฐานะของคนในครอบครัว

อีกทั้ง จากการคาดการณ์ในน้ำเสียงพูดคุยกับเซี่ยเมิ่งแล้ว หานคงก็น่าจะเป็นการติดต่อโดยตรงจากความสัมพันธ์ประเภท นั้น แม้แต่เซี่ยเพิ่งก็ล้วนแต่ทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ

ในใจของหานคงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เขากับถังเล่นชิวก็ไม่เคย พูดคุยกันเลย แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เข้าใจว่าความขัดแย้งที่ เธอมีต่อตัวเองนั้นมาจากไหน

เขามาเพื่อแค่รายงานตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นซิวก็ได้แสดง ท่าทางของความเบื่อเลื่อนอย่างสุดขีด…….

เป็นการทํางานที่เรียบง่ายของการแลกเปลี่ยนการส่งมอบและ รับช่วงต่อ หานคงได้ถามขึ้น “ผู้อำนวยการถัง ตอนนี้ฉันจะต้อง ทําอะไร?”

ถังเช่นชิวได้ยกข้อมือขาวๆขึ้นมองเวลา “ตอนนี้เธอไปที่ประตู ของอาคารโกทง เพื่อไปหาเสี่ยวหลิว ฟังคำสั่งโยกย้ายของเขา” ตอนที่พูดเธอก็ได้ใช้ปากกาเขียนเบอร์โทรศัพท์ชุดหนึ่ง: “เมื่อไป ถึงที่ก็โทรศัพท์ให้เขา

หานดงรับเบอร์โทรศัพท์จากนั้นก็ได้หมุนตัวจากไปอย่างง่ายๆ ตอนนี้เขาได้มองออกแล้วว่าตัวเองทำงานอะไร

ฝ่ายกฎหมายมีพนักงานสองแบบ แบบที่หนึ่งคือนั่งทำงานอยู่ ในห้องทำงาน อีกแบบหนึ่งก็คือออกประตูไปทวงหนี้

งานประเภทที่สองเหมาะสมที่จะเป็นงานชั่วคราว และก็พูดได้ว่าแต่ไหนแต่ไรมาพนักงานฝ่ายกฎหมายไม่มีความซื่อสัตย์ จริงจัง เพียงแต่ว่าเป็นความชั่วคราวที่ขึ้นอยู่กับการจัดการของ ฝ่ายกฎหมาย หากพูดถึงข้อดี ก็คงจะเป็นความที่ค่อนข้างที่จะมี อิสระอยู่หน่อยนั้น

ถึงอย่างไรเสียงานที่ถูกสั่งให้ไปทวงหนี้ ทุกวันก็จะต้องออกไป ปฏิบัติงานอยู่ด้านนอกเดินเตร่รอคน ถึงเธอจะมีความสามารถ ในการได้รับเงินแต่ก็คืออยู่ด้านนอกเที่ยวเล่นไปทั้งวัน คนอื่นเขา ก็ชื่นชมเพียงความสามารถที่แข็งแกร่งของกิจการเธอเท่านั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ