ป่วนหัวใจยัยปีศาจ

บทที่ 17 เชือกอัคคี



บทที่ 17 เชือกอัคคี

หลังจากถูกเทพอัคคีทรมานอยู่ในตำหนักสุริยันต์มา หลายวันในที่สุดเป่ยฟางหรงก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ จะว่า อิสระนั้นก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากนักเมื่อในตอนนี้ที่ข้อมือ ของนางกลับมีเชือกอัคคีอันเล็กรัดอยู่

“เจ้าเชือกบ้านจะตามติดข้าไปถึงเมื่อใด ข้าเป็นถึงฝ่า บาทน้อยแห่งแดนเหมันต์จะไม่บังอาจเกินไปหรือ”

ไม่ว่านางจะทำเช่นไรก็ไม่อาจตัดเชือกอัคคีขาดได้ กระทั่งนางแผลงฤทธิ์ก็ถูกเจ้าเชือกนี่รัดร่างกายอีก เป่ย ฟางหรงอัดอั้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง วิ่งไปหาเรื่องกับหลี่จิ้ง ที่กำลังมอบหมายงานของตนให้เทพองค์อื่นถึงตำหนัก หารือ

นางยังไม่ทันได้ย่างเท้าเข้าไปด้านในก็ถูกเชือกอัคคี รัดจนเจ็บไปหมด กระทั่งวาจาก็ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ เนื่องจากถูกเทพอัคคีใช้คาถาปิดวาจากับนาง กระทั่งเขา ยังย้ายร่างนางกลับไปตำหนักหลังดังเดิม

“หากเจ้ายังไม่หยุดดื้อรั้นข้าจะสั่งขังเจ้าจนกว่าจะถึง เวลาที่เราสองคนต้องลงไปยังแดนมนุษย์”

เสียงเย็นชาที่ส่งโดยตรงมายังโสตประสาทของนาง ทำให้คนที่ไม่อาจอ้าปากได้ถึงกับชะงัก ตั้งแต่นางมาอยู่ที่ นี่คนที่ชื่อว่าอาจารย์ไม่โผล่มาให้นางเห็นหน้าแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังสั่งนางฉอด ๆ โดยผ่านทางจิตอีก

“ท่านเป็นอาจารย์ประสาอะไรไม่ดู ดูแดงศิษย์เช่นนี้ ข้าไม่นับท่านเป็นอาจารย์แล้ว”

“ที่ผ่านมาเจ้าเคยนับข้าด้วยหรือ ต่อไปนี้ข้าจะสั่งสอน เจ้าในฐานะอาจารย์ผู้เข้มงวดอย่างแท้จริง”

และเสียงนั้นพลันหายไป

หยีจวนเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำแข็งทิพย์และบะหมี่เย็นที่ ตนเองตั้งใจทําให้ฝ่าบาทน้อยด้วยความยากลำบาก ด้วย ตำหนักอัคคีนี้มีความอบอุ่นแทบจะทุกพื้นที่

การทําบะหมี่เย็นในสถานที่แห่งนี้ช่างยากลําบากนัก ทํา เสร็จต้องรีบนํามาให้ฝ่าบาทน้อยเสวยมิเช่นนั้นบะหมี่ของ เขาจะกลายเป็นบะหมี่อุ่นโดยทันที

ด้วยคนในตำหนักเหมันต์ต้องดื่มกินของเย็นตลอดทั้งปี ร่างกายจึงไม่อาจรับอาหารอย่างอื่นได้ เช่นนี้เขาจึงห่วง องค์หญิงเป็นอย่างยิ่งหากนางต้องลงไปยังโลกมนุษย์จริง กระทั่งคิดว่าตนเองคงต้องแอบติดตามไปถึงแม้ว่าจะไม่ ได้รับอนุญาตเพื่อดูแลนางโดยเฉพาะ

“หยีจวนตอนข้าหลับเจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาทำอันใดกับ ข้า เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าพลังในร่างถดถอยเช่นนี้”
เป่ยฟางหรงทั้งพยายามอย่างเต็มที่นางกลับไม่สามารถ ที่จะใช้อาคมของตนเองได้อย่างที่ต้องการ

“ที่นี่เป็นค่าหนักสุริยันต์ย่อมส่งผลต่อฝ่าบาทน้อยขอรับ กระทั่งตัวข้ายังต้องคอยระแวงไม่อาจแตะสิ่งใดส่งเดชมิ เช่นนั้นร่างกายอาจถูกทําละลายได้

“ข้าคิดว่ามันต้องมีบางสิ่งนอกจากนี้ ดูสิกระทั่งเชือก อาคมกระจอก ๆ นี่ข้ายังไม่สามารถตัดมันขาดได้”

กล่าวจบเป่ยฟางหรงก็พยายามเพ่งจิตอย่างเต็มที่เพื่อ ตัดเชือกอาคมของเทพอัคคี กระทั่งเหงื่อ มเต็มหน้าผาก นางก็ยังทําลายมันไม่สําเร็จ

“ฝ่าบาทน้อยอย่าทรงพยายามเลย เหนื่อยเปล่า”

ถงถงกระโดดเข้ามาในห้อง แล้วเดินวนรอบร่างของ นาง เมื่อนางพยายามจะใช้พลังของตนเองทำให้เชือก อัคคีขาด

“เจ้าตัวประหลาดบอกมาเทพบ้านั่นทำอันใดกับข้าเหตุ ใดข้าจึงใช้พลังของข้าไม่ได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่ามดปลวก บนสวรรค์ข้าก็ไม่อาจสังหารได้”

ถงถงอ้าปากหาวแล้วหมอบอยู่ข้าง ๆ ร่างของนาง
“เรื่องนี้เหตุใดไม่ถามนายท่านเล่า”

“จะให้ถามเขาหรือ นายท่านของเจ้าวัน ๆ ท่าตัวเป็นเด็ก ปัญญาอ่อนเล่นซ่อนหากับข้าทั้งวันจะเอาเวลาใดไปถาม เขาเล่า

ถงถงหาวอีกครั้ง ไม่รู้เป็นอันใดฟังน้ำเสียงหวานใสของ จอมมารน้อยตัวนี้แล้วง่วงเหงาหาวนอนทุกที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ