ป่วนหัวใจยัยปีศาจ

บทที่ 12 เกิดเรื่องแล้ว



บทที่ 12 เกิดเรื่องแล้ว

นางหมายถึงกระบี่คู่กายของเขาจริง ๆ เหตุใดคนพวกนี้ ฟังแล้วบางคนถึงกับมุดหน้าลงไปบนฝ่ามือเล่า

“อ้อข้ายังเคยสั่งเขาถอดอาภรณ์ต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่ ด้วย พวกเจ้าเชื่อหรือไม่ว่าเขาถอดออกจริง ๆ บางครา เขาก็เชื่อฟังอย่างไม่น่าเชื่อ”

เสียงกรี๊ดของทวยเทพพวกนั้นต่างดังออกมาหลายคน แทบจะม้วนลงไปบนพื้น กระทั่งเป่ยฟางหรงหันไปกระซิบ กับหย็จวน

“เจ้าว่าพวกนางยังสติเต็มกันอยู่หรือไม่ เรื่องการต่อสู้ เล็กน้อยของข้ามีเรื่องอันใดน่าสนใจกัน”

“ข้าก็ไม่ทราบหรือว่าคนเผ่าสวรรค์ชอบฟังเรื่องการต่อสู้ เช่นนี้” หยีจวนกระซิบตอบ เห็นพวกนางฟังไปบิดมือไป อีกทั้งยังหน้าแดงยิ่งกว่าถูกสีย้อมยิ่งไม่เข้าใจ คนของ แดนสวรรค์ต่างพิลึกเช่นนี้หรือ

เป่ยฟางหรงเล่าเรื่องของเทพอัคคีไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง เกี๊ยวสวรรค์พานางเหาะมาถึงด้านหน้าประตูตำหนักของ เง็กเซียน

“หากท่านคิดจะทวงความเป็นธรรมก็ต้องร้องขอต่อองค์ เง็กเซียนให้ช่วยจัดการแล้ว เทพอัคคีนับเป็นเทพชั้นสูงมีเพียงองค์เง็กเซียนที่ฐานะเหนือกว่าเขา

“ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณพวกเจ้ามาก”

“น้อมส่งฝ่าบาทน้อยเพคะ”

หลังจากนั้นเหล่าเทพทั้งหลายก็สลายตัวพร้อมใบหน้า และความคิดที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เทพอัคคีแท้จริงแล้ว ช่างเป็นบุรุษในฝัน ทั้งยิ่งใหญ่และร้อนแรงยิ่งหาได้เย็น ชาเหมือนใบหน้าที่มักแสดงออกอยู่เสมอ

ถึงจะรู้สึกไม่ดีที่เขาล่วงเกินฝ่าบาทน้อย แต่อย่างน้อยก็ เป็นบทพิสูจน์ว่าเทพอัคคีแท้จริงแล้วก็หวั่นไหวกับสตรีที่ งดงามไม่ใช่น้อย

พวกนางต่างมีหวังแล้วถึงจะเป็นอนุในตำหนักสุริยันพวก นางก็ยินดี

“นายท่านขอรับแย่แล้วขอรับนายท่านอยู่ที่ใดขอรับ”

ถงถงวิ่งวนรอบตำหนักอยู่หลายรอบท้ายที่สุดแล้วก็พบ ว่าเทพอัคคีกำลังพักผ่อนอยู่ในสระน้ำอำมฤทธิ์อันชุ่มฉ่ำ

“นายท่านไม่มีเวลาแล้วขอรับ”
“กองเจ้ามีเรื่องอันใดกันวิ่งวุ่นไปทั่ว

“นายท่านฝ่าบาทน้อยมาถึงนี่แล้วขอรับกำลังร้องขอ

ความเป็นธรรมต่อหน้าองค์เง็กเซียน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ