ป่วนหัวใจยัยปีศาจ

บทที่ 8 เขาคือผู้ใดกัน



บทที่ 8 เขาคือผู้ใดกัน

“หรงหรงเหตุใดเอ่ยวาจาเช่นนี้ คุกเข่าขอโทษอาจารย์ ของเจ้าเสียอย่าอยากให้พ่ออกแตกตายหรืออย่างไร”

“ท่านพ่อข้าทำสิ่งใดผิด เหตุใดเขาจึงงกเช่นนี้แค่เสื้อผ้า เอง” นางบ่นอุบอิบยังไม่เข้าใจว่าตนเองผิดตรงที่ใด

“หรงหรงพ่อบอกให้เจ้าคุกเข่า ขืนเจ้ายังดื้อรั้นเช่นนี้พ่อ คงได้แต่สลายวิญญาณของตัวเองชดใช้ความผิดแทน เจ้าแล้ว”

“โอ๊ะ แค่ขอเสื้อผ้าคนผู้หนึ่งถึงต้องสลายวิญญาณเชียว หรือ ท่านพ่อจะไม่มากไปหรือ”

“หรงหรง” ราชาแทนเหมันต์ทำท่าจะสลายวิญญาณ ตนเองจริง ๆ โดยมีเทพอัคคีทำหน้าตายยืนอยู่ตรงนั้นไม่ ยอมห้ามปราม

ถึงจะดื้อรั้นเพียงใดเป่ยฟางหรงก็ไม่อยากให้บิดาของ ตนเองเป็นอะไรไป นางก้มหน้ากัดฟันอย่างไม่พอใจ คุกเข่าลงกระนั้นมือน้อยยังกำชายเสื้อของเทพอัคคีแน่น

“ก็ได้ ๆ ข้าคุกเข่าแล้ว”
“ขอโทษอาจารย์ของเจ้าด้วย” น้ำเสียงของราชาเหมันต์ ยังเต็มไปด้วยโทสะ

“ก็ได้ อาจารย์ศิษย์ขอโทษศิษย์ผิดไปแล้ว”

“หาได้จริงใจไม่” เป็นถงถงที่พูดออกมา เทพอัคคีจึงต้อง ทำตัวเป็นผู้ใหญ่สักเล็กน้อย

“ช่างเถิด ช่างเถิด”

เทพอัคคีหมุนกายหนึ่งรอบอาภรณ์ที่เขาใส่เมื่อสักครู่ก็ อยู่ในมือตนเขาเปลี่ยนเป็นอาภรณ์สีแดงเพลิงอีกชุด ไอ อุ่นของเขายังเต็มเปี่ยมอยู่ที่อาภรณ์ชุดเดิม เป่ยฟางหรง ถึงกับดีใจกระโดดกอดอาภรณ์ชุดนั้นเอาไว้ไม่สนใจเทพ อัคคีอีกต่อไป

เมื่อดึงความสนใจตัวป่วนออกไปได้ เทพอัคคีจึงพูดธุระ ของตนเองเพื่อที่จะได้รีบกลับทันใด

“ข้ามาวันนี้เพื่อที่จะส่งข่าวอีกห้าสิบปีต่อจากนี้ข้าจะ มารับเป่ยฟางหรงลงไปยังแดนมนุษย์เพื่อบำเพ็ญเพียร จนกว่านางจะบรรลุธรรมขับจิตมารออกจากกายไม่สร้าง ความลำบากให้สามโลกต่อไป”

“ทะท่านว่าอะไรนะ ข้าต้องลงไปบำเพ็ญตบะที่แดน มนุษย์หรือ”
เป่ยฟางหรงเพิ่งรู้เรื่อง ที่ผ่านมานางรู้ว่าเทพอัคคีคือ อาจารย์ของนางเมื่อถึงเวลาเขาจะมาเป็นอาจารย์ฝึก จิตใจให้ เป่ยฟางหรงย่อมไม่มีปัญหาตราบใดที่นางยังอยู่ แดนเหมันต์จะมีอาจารย์อีกสักร้อยคนก็เชิญเถิด

แต่นี่ด้วยเรื่องอันใดที่นางต้องลงไปยังแดนมนุษย์ให้ มัวหมอง ว่ากันว่าแดนมนุษย์เต็มไปด้วยเรื่องลำบากและ อันตรายอีกทั้งเทพที่ลงไปที่นั่นไม่อาจใช้พลังวิเศษได้ หาไม่พลังนั้นจะย้อนกลับทำร้ายตัวเองเหตุใดนางต้อง ลําบากเพียงนั้น

“เป็นลิขิตสวรรค์เจ้าไม่อาจขัดได้ ธุระข้ามีเพียงเท่านี้ องค์ราชาข้าขอลาก่อน”

กล่าวจบเทพอัคคีก็ไม่รอช้าย้ายร่างของตนเองไปใน ทันใด การอยู่กับนางเพิ่งแม้เพียงเสี้ยวเวลายิ่งทำให้เขา รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า ในเมื่อเขายังมีเวลาที่จะสำราญ ใจอีกห้าสิบปีเขาจะไม่เสียเวลาแม้แต่น้อย

กระทั่งร่างของคนผู้นั้นหายไปแล้วเป่ยฟางหรงยังไม่ หยุดโวยวาย นางคาดคั้นได้ความว่าทั้งหมดเป็นคำสั่ง ของเง็กเซียนฮ่องเต้

“เขาเป็นผู้ใดกันถึงใช้อำนาจบาตรใหญ่มาสั่งข้าซึ่งเป็น องค์หญิงแห่งแดนเหมันต์ ดินแดนของเราหาได้ขึ้นตรงต่อ เผ่าสวรรค์ ท่านพ่อข้าไม่ยินยอมเด็ดขาด”
องค์ราชาไม่อาจบอกความจริงกับนางได้ ว่าเพราะ อาเพศที่เกิดขึ้นตั้งแต่นางลืมตาทำให้เขาเกิดความสงสัย ในปฐมวิญญาณของบุตรสาว กระทั่งไปขอความช่วย เหลือจากองค์เง็กเซียนสอบถามความจริงว่าเกิดสิ่งใดขึ้น พบว่าในร่างกายขององค์หญิงน้อยคือปฐมวิญญาณของ ดาวมารที่หลุดรอดออกมาหากไม่รีบหาทางป้องกันใน อนาคตนางคงต้องกลายเป็นมารร้ายทำลายสามภพเป็น แน่

หากเป็นเช่นนั้นชะตาของบุตรสาวคือต้องถูกสวรรค์และ พิภพล้อมปราบและปลิดชีพเป็นแน่

เขาจะทำเช่นไรได้เมื่อองค์เง็กเซียนเสนอสิ่งใดมาเขาก็ น้อมรับเพื่อช่วยเหลือบุตรสาวให้หลุดพ้นจากหายนะ เมื่อ คิดไปคิดมาร่างน้อยของเป่ยฟางหรงก็หายไปแล้ว

“แย่แล้วเพคะ ฝ่าบาทน้อยแหวกเขตอาคมตรงไปยัง แดนสวรรค์แล้วเพคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ