ป่วนหัวใจยัยปีศาจ

บทที่ 13 ผู้ที่ถูกกล่าวหา



บทที่ 13 ผู้ที่ถูกกล่าวหา

“แล้วอย่างไร ข้ารู้ว่านางไม่อยากไปแดนมนุษย์นางจะ มาก็ไม่เห็นแปลก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์เง็กเซียน เถิดเราแค่รอฟังคําบัญชา หากเป่ยฟางหรงเก่งกล้า สามารถข้าก็ไม่ต้องลำบากลงไปแดนมนุษย์กับนางแล้ว เจ้าควรเอาใจช่วยนางนะ”

“นายท่านฝ่าบาทน้อยไม่อยากลงไปแดนมนุษย์จริงนาง ยังอาละวาดแช่แข็งท่านเทพไปหลายองค์ ไม่เพียงเท่านั้น นางยังประกาศก้องว่าท่านทำนางตั้งครรภ์แล้วหนีหัวหด ท่านจะยังใจเย็นอยู่อีกหรือ”

“ผู้ใดทำนางตั้งครรภ์กัน”

“เป็นท่าน นายท่านนางกำลังกล่าวหาท่าน”

หลี่จิ้งลุกพรวดขึ้นจากสระน้ำถงถงยกเท้าปิดตาแล้วหัน หลังอย่างว่องไว ในใจก็ประหวั่นพรั่นพรึง

อุจาดตาเกินไปแล้ว รังแกกันเกินไปแล้ว คิดได้ดังนั้นเขา ก็มองยังส่วนสำคัญของตนเองที่หลบอยู่ในขน มันช่าง น้อยนิดยิ่งนัก นายท่านกำลังทำให้ข้าดูแย่

“นางมารผู้นี้เห็นทีจะไม่ได้ตายดีแน่”
พริบตาเทพอัคคีก็อยู่ในอาภรณ์สีแดงเพลงของตนเขา ย้ายร่างไปโผล่ที่กลางตำหนักขององค์เง็กเซียน สัมผัส ได้ถึงความหนาวเย็นที่พัดผ่านใบหน้า แดนสวรรค์อัน อบอุ่นถูกนางมารน้อยแช่แข็งอีกครา ถึงจะไม่รุนแรง เท่ากับเมื่อสี่หมื่นปีก่อนแต่ฝีมือของนางก็ดีไม่ใช่น้อย เทพทั้งหมดที่มาร่วมรื่นรมย์กับเรื่องผู้อื่นพลอยถูกแช่ แข็งไปด้วย

มีเพียงองค์เง็กเซียนที่นั่งอยู่ด้านบนยังยกจอกสุราดื่ม อย่างใจเย็น

“ช่างเสินท่านมาเสีย แต่มาช้าไปสักหน่อยเพื่อน ๆ ของ ๆ ท่านจึงถูกแช่แข็งไปเรียบร้อย”

องค์เง็กเซียนตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าแม้ปฐมวิญญาณ ของดาวมารที่อยู่ในร่างของเป่ยฟางหรงจะอ่อนด้อยลง มากกระนั้นก็ยังแข็งแกร่งเกินกว่าที่เทพธรรมดาจะต่อกร ได้ หากปล่อยให้ปฐมวิญญาณในส่วนนี้เข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ เกรงว่าต่อไปสามโลกคงเกิดภัยพิบัติด้วยฝีมือนังหนูผู้นี้ เป็นแน่

“เขามาแล้วอย่างไรคิดว่าข้ากลัวหรือที่มาวันนี้เพื่อที่จะ สั่งสอนท่านว่าต่อไปอย่าได้มายุ่งกับข้าอีก ข้าไม่มีวันลง ไปแดนมนุษย์เพื่อขัดเกลาอะไรนั่นโดยเด็ดขาด”

“เป่ยฟางหรงเจ้าบังอาจ”
“ท่านอย่ามายุ่งข้ากำลังคุยกับตาแก่นี่อยู่”

“ว่าอย่างไรล่ะเทพอัคคี ข้ามอบหมายให้ท่านจัดการกับ ลูกศิษย์ให้ดีแล้วค่อยกลับมาละลายน้ำแข็งให้เหล่าเทพ เรื่องนี้ก็เป็นธุระของช่างเงินแล้วกันข้ายังมีนัดสังสรรค์กับ เจ้าแม่กวนอิมที่ป่าหิมพานต์”

ว่าแล้วพระองค์ก็หายตัวไปทิ้งเรื่องราวเบื้องหลังให้เทพ อัคคีจัดการ

“เจ้าแก่เจ้าจะไปไหน กลัวหัวหดหรืออย่างไร”

“เป่ยฟางหรงเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใด ถึงบังอาจบุกรุก สวรรค์กลับไปกับข้า”

“ไม่ข้าต้องตกลงกับเง็กเซียนนั่นให้รู้เรื่อง แดนเหมันต์ใช่

ว่าผู้ใดจะมาสั่งการได้”

“เป่ยฟางหรง” ในฐานะอาจารย์ที่ศิษย์ทำเรื่องขายหน้า เช่นนี้หลี่จิ้งก็รู้สึกเสียหน้าอยู่ไม่ใช่น้อย เขาวันนี้อย่างไร ต้องสั่งสอนนางให้รู้สำนึก

“ท่านอย่าเข้ามาข้าไม่มีเรื่องอันใดกับท่าน”

นางรู้ว่านางสู้เขาไม่ได้ คนเพียงคนเดียวบนสรวงสวรรค์ ทีนางกลัว

“ไม่มีจริง ๆ หรือไม่ใช่เจ้าหรอกหรือที่เอะอะโวยวายว่า ถูกข้าย่ำยีจนตั้งท้องแล้วทิ้งมา เหตุผลนี้ก็คงเพียงพอให้ ข้าสั่งสอนเจ้าแล้ว”

“เบ๊อะคิดจะมาสั่งสอนข้ารออีกหมื่นปีเถิด”

เป่ยฟางหลงทำใจดีสู้เสือ นางร่ายอาคมตั้งใจใช้เกล็ด น้ำแข็งพุ่งใส่เขาแต่ถูกไฟอัคคีของหลี่จิ้งสะกัดเอาไว้ อย่างรวดเร็ว ไม่ว่านางจะพุ่งเกล็ดหิมะไปทิศใดเขาผู้นั้นก็ เสมือนรู้จิตใจของนางดักทางได้ถูกเสมอ

และแล้วร่างของเทพอัคคีหายไป ชั่วพริบตาก็ประชิด ร่างของนาง เขากอดนางเอาไว้ด้วยมือเดียวเป่ยฟางหรง พยายามหลบซัดฝ่ามือเย็นเข้าใส่ร่างของเทพอัคคีหลาย ครั้งจนเขากระเด็น แต่เขาก็สามารถกลับมากอดรัดนาง ได้ดังเดิม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ