นักรบแห่งมังกร

มังกรตัวที่ 8 : เรื่องวุ่นๆก่อนเปิดเรียน



มังกรตัวที่ 8 : เรื่องวุ่นๆก่อนเปิดเรียน

ในวันนี้ เทเชียถูกไกรลากออกมาเป็นเพื่อนซี้อของและกำลัง เดินไปตามถนนใกล้โรงเรียนเซเทอร์เรีย ผ่านร้านรวงทั้งสองข้าง ทางที่กำลังคึกคัก

“ไปซื้อหนังสือ ร้านคทาใหญ่ๆตรงหัวมุมนะ” ไครพูดออกมา ก่อนจะเดินให้เร็วขึ้นพลางอ่านรายการของในมือไปด้วย

“นายรู้จักผู้ชายผมเงินที่เดินเข้ามาพร้อมฉันไหม” ในยามที่ กำลังเดินไปร้านคทาเสียงราบเรียบของเด็กหนุ่มหน้าหวานก็ถาม ขึ้น ช่วยไม่ได้เขาสนใจจริงๆถึงได้เอ่ยปากถามได

“สนใจรึไง” ไคร์ล้อเพราะเพื่อนคนข้างตัวกว่าจะสนใจใครสักคน พูดได้คำเดียว ยาก!!

แต่ใครไม่ได้รู้หรอกว่าคําถามเล่นๆนั้นจะทำให้เทเชียชะงักไป ดวงตาสีฟ้าไหววูบอย่างไม่เคยเป็น สนใจอย่างนั้นหรือ เขาเริ่ม สนใจใครเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่

“สนมั้ง” เทเชียพูดออกมาหลังจากเงียบไปนาน แม้ไม่อยากจะ ยอมรับแต่ก็ไม่คิดจะโกหกตนเอง

ร่างสองร่างเดินเข้ามาในร้านคทาที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง อาณาจักรดราโก้ โดยไม่ให้เสียเวลาเด็กหนุ่มทั้งสองรีบบอกชื่อหนังสือที่ต้องการให้พนักงานทันที พนักงานขายบอก ให้รอสักครู่ก่อนจะแยกตัวไปนำหนังสือมาให้

“นายยังไม่ตอบ” เทเชียทวงเรียกดวงตาสีน้ำทะเลให้หันไปมอง แต่ดวงตาคราวนี้มันกลับแฝงมาด้วยความแปลกใจ

“นายไม่รู้จริงหรือ” เด็กหนุ่มผมแดงถามเพื่อนคนข้างๆด้วยเสียง ที่แสดงถึงความประหลาดใจและสิ่งที่ได้มาคือการส่ายหน้า

“ผู้ชายคนนั้นคือเจ้าชายแห่งซิเวีย” ซิเวียคือประเทศที่ใหญ่ เป็นอันดับสองรองจากดราโก้ เป็นประเทศที่มีอำนาจและมีความ สำคัญมากไม่แพ้กับประเทศดราโก้เลยทีเดียว

ไดร์เว้นไปนิดนึงเพื่อรับหนังสือเรียนสองชุดจากพนักงานแล้ว จ่ายเงิน ก่อนจะหันมาตอบคำถามที่ยังค้างอยู่ให้เพื่อน

“เซอัส เฟราเว็นเจ้าชายแห่งซิเวีย” ไครเอ่ยในสิ่งที่เพื่อนอยากรู้ ทั้งที่ยังกังขาว่าทำไมเรื่องที่คนอื่นรู้เทเชียจึงไม่รู้

“นิ ถามจริงเหอะ เป็นนักเดินทางภาษาอะไรไม่รู้จักเจ้าชาย รัชทายาทแห่งซิเวียที่ออกจะโด่งดัง” ไคร์เริ่มจับผิด ถึงตอนแรก กะว่าจะไม่ถามแต่ในเมื่ออีกคนเปิดช่องว่างเสียโจ้งแจ้งขนาดนี้ เขาก็ต้องมีตระครุบบ้างละ ทว่าจากประสบการณ์ที่มากกว่า เทเชีย ก็หาทางรอดเจอจนได้ทั้งๆที่รู้ว่ามันฟังไม่ค่อยขึ้นก็ตาม

“ขอโทษด้วยนะ ที่ชอบเดินทางในทะเลมากกว่า ถึงเคยได้ยินชื่อ แต่ก็ไม่เคยเห็นหน้า” เด็กหนุ่มผมฟ้าพูดอย่างไม่ติดขัด แน่นอนว่า เพื่อนผมแดงไม่เชื่อแต่ก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ

“แล้วทำไมถึงสน” ไครถามออกมา จากท่าทางเย็นชาของเจ้าตัว ไม่ใช่คนที่สนใจอะไรง่ายๆเลย เพราะฉะนั้นคนที่หมอนี่สนใจขึ้น มาเขาก็ต้องอยากรู้เป็นธรรมดาละ

“เก่งดี” เทเชียตอบเสียงเรียบทำให้ไคร์แปลกใจ ถึงขนาดเอ่ยชม อีกฝ่ายเลยหรือ

“งั้นหรือ…ขนาดนายยังออกปากว่าเก่งแสดงว่าฝีมือต้องสุดยอด แน่ๆ” ดวงตาสีน้ำทะเลพราวระยับอย่างเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ ถึง จะได้ยินคำเล่าลือมามากก็ตามแต่ถึงขนาดเทเชียเอ่ยปากเอง แปลว่ามันน่าจะยิ่งกว่าคำเล่าลือพวกนั้นเสียอีก

“พอเถอะ อย่าพูดถึงเลยเดี๋ยวก็มา….” เมื่อได้รู้ชื่อเทเชียก็คิดจะ เปลี่ยนเรื่องคุยแล้ว แต่เสียงเรียบพูดยังไม่ทันจบ

ตบ…ร่างของคนพูดก็หงายหลังลงไปนอนกับพื้นซะแล้ว เนื่องจากเทเชียตัวเล็กกว่าคนที่เดินชนเมื่อล้มลงร่างสูงจึงเป็น ฝ่ายที่ทับอยู่บนร่างเล็ก
“ให้ยุ่งอีก” เด็กหนุ่มผมฟ้าต่อให้จบประโยคเมื่อเห็นคนที่เดินชน แล้วล้มทับอยู่บนร่างของตัวเอง

“หัดเดินดูทางซะบ้างสิ” เทเชียว่าฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาทันที ดวงตาสีฟ้าที่เย็นเยียบเริ่มขุ่นมัวเพราะอารมณ์โกรธ

“ใครกันแน่” อีกฝ่ายก็ไม่น้อยหน้า ดวงตาสีเงินที่ดูไร้อารมณ์นั้น ดูเหมือนจะเย็นลงเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัดแต่คนถูกมองก็ไม่ได้มี ท่าทีสะทกสะท้านแต่อย่างใด ตรงกันข้ามต่างหากเพราะดวงตาสี ฟ้ากลับจ้องตอบอย่างไม่ลดละ

รู้สึกอุณหภูมิในร้านจะลดลงเรื่อยๆแล้วนะ ไคร์คิดและกอดอก เพราะรู้สึกหนาว ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างก็ปล่อยความกดดันออก มาประชันหน้ากันขนาดนี้ แต่แม้จะคิดแบบนั้นดวงตาสีเขียวก็ยัง มองภาพตรงหน้าอย่างนึกสนุกอยู่ดี แต่โทษเขาไม่ได้ที่นึกสนุก นี่มันมังกรสองตัวปะทะกันชัดๆ เก่งด้วยกันทั้งคู่ถ้าสู้ขึ้นมาน่าจะ

“องค์ชายมีอะไรหรือพะยะค่ะ” พวกองครักษ์ที่มาด้วยกันแต่แยก ออกไปต่างรีบวิ่งมาดูเหตุการณ์ทว่าภาพนั้นเทเชียบอกได้คำเดียว หมั่นไส้!!

“ไม่มีอะไรก็แค่คนเดินไม่ดูทาง” เสียงเย็นตอบองครักษ์ของตน แต่ก็เป็นคำตอบที่จงใจยั่วโมโหเด็กหนุ่มที่มีเรื่องกันด้วย ดูได้จาก สายตาที่ยังมองเด็กหนุ่มหน้าหวานไม่ละไปไหน
หนอย…เด็กหนุ่มผมฟ้ากัดฟันด้วยความโกรธ เจ้าหมอนี่คิดว่ามี พวกองครักษ์ล้อมแล้วเขาจะไม่กล้าทำอะไรอย่างนั้นหรือ ถ้าคิด แบบนั้นก็คิดผิดแล้ว

ตบ… แต่ก่อนที่เทเชียจะทันลงมือทำอะไรอีกเด็กชายคนหนึ่งก็ รีบร้อนเดินเข้ามาจนเดินชนเทเชียกับเซอัสลัมลงอีกครั้ง เด็กชาย คนนั้นรีบลุกขึ้นขอโทษทั้งสอง

“ขออภัยครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” เด็กน้อยร้องขอความเมตตาทำให้ เจ้าชายแห่งซิเวียไม่เอาโทษและปล่อยเด็กคนนั้นไป เด็กหนุ่มทั้ง สองสำรวจร่างกายของตนเอง แต่มันมีบางอย่างหายไป

ดวงตาของทั้งคู่มองหาเด็กชายทันที เมื่อเจอแผ่นหลังที่ห่าง ออกไปเรื่อยๆเด็กหนุ่มทั้งสองจึงรีบวิ่งตามออกไป เด็กหนุ่มหน้า หวานได้แต่นึกหงุดหงิดอยู่ในใจ ไม่น่าเอาฟ็อกไว้ที่โรงแรมเลย ให้ตายเหอะ

ผู้คนตามท้องถนนเยอะขึ้นทำให้การไล่ล่าไม่สะดวก ทั้งสอง เลยตัดสินใจกระโดดขึ้นหลังคาบ้านเพื่อวิ่งตามเด็กชายให้ทัน

มุมอับในซอยร้างแห่งหนึ่งดูทั้งอับชื้นและมืดมิด แต่เด็กชายตัวน้อยกลับเลี้ยวเข้าไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มสองคนที่ตามมา ค่อยๆกระโดดลงจากกำแพงด้วยฝีเท้าที่เงียบกริบ

แม่…ฉันกลับมาแล้ว” เสียงเด็กชายร้องขึ้นหลังผ้าผืนใหญ่ที่ เอามากันไว้ ผู้มาเยือนทั้งสองค่อยๆแง้มผ้าผืนเก่านั้นออกจึงได้ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนผ้าที่บางและขาดรุ่ย หน้าตาของ เธอคนนั้นดูอิดโรยเนื่องจากโรคร้ายที่เป็น

“แม่เดี๋ยวฉันเอาเงินไปซื้อยาให้นะ” เด็กชายไม่มีท่าทางจะรู้ถึง การมาเยือนของเชอัสกับเทเนียเลยแม้แต่น้อยจนเมื่อหันกลับมา นั่นแหละ

“เรามาเอาของเราคืน” เด็กหนุ่มผมฟ้าพูดเสียงเย็น ดวงตาสีฟ้า มีแต่ความเย็นชาอย่างสุดขั้ว เด็กน้อยมองกระเป๋าเงินในมือที่ฉวย เอามาจากคนทั้งสองอย่าง งใจทำให้เทเชียถอนหายใจออกมา

“เอามาเถอะเดี๋ยวฉันจะรักษาแม่ของนายให้” แม้น้ำเสียงจะอ่อน ลงแต่ดวงตาสีฟ้ายังเย็นเยียบเหมือนเดิม

“ฉันจะเชื่อท่านได้อย่างไร” เทเชียหันไปมองทางเซอัสเพื่อบอก อีกฝ่ายให้พูดอะไรบ้าง แต่สิ่งที่เจ้าตัวเห็นคือร่างสูงของเด็กหนุ่ม ผมเงินที่กอดอกยืนพิงกำแพงแล้วมองตรงมาทางเขาและเด็กชา ยอย่างเงียบๆ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด ไอ้ขี้เก็ก!!
“ฉันเอาหัวของเจ้าชายแห่งซิเวียเป็นประกัน” คำพูดนั้นทำเอา เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะส่งกระเป๋าคืนให้อย่างไม่อิดออด ผิดกับ คนเป็นเจ้าชายคนสําคัญที่ดวงตาสีเงินฉายแววดอย่างเต็มเปี่ยม ให้กับคนที่กล้าเอาหัวของเจ้าชายอย่างตนไปเป็นประกัน ทว่าคน พูดกลับเมินสายตานั่นเพราะตอนนี้เขา สะใจโว้ย!!

เทเชียเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนหลับไม่ได้สติ ฝ่ามือของ เด็กหนุ่มหยุดไว้กลางอากาศตรงหน้าผากของรางที่นอนแน่นิ่ง แสงสีฟ้าทอแสงอ่อนๆออกจากฝ่ามือก่อนเทเชียจะเลื่อนมือไป ตามล่าตัวของหญิงสาวเรื่อยๆจนสุดปลายเท้า

“นางเป็นอะไร” เสียงเย็นถูกส่งมาถามเมื่อเทเชียตรวจอาการ เสร็จ อันที่จริงเชอัสก็สามารถรักษาได้เหมือนกันแต่เมื่อเห็นเด็ก หนุ่มที่มาด้วยกันทำได้ เขาก็ไม่เห็นความจำเป็นที่ตนเองจะต้อง ช่วยเด็กหนุ่มผมฟ้ารักษา

“ไม่เป็นไรมากแค่กินยาและร่ายเวทรักษาก็หาย” หมอจําเป็น บอกก่อนลงมือผสมยาที่ตนเองต้องการจากตัวยาที่ตนมี แน่นอน ว่าสําหรับนักฆ่าที่ต้องเผชิญหน้าอันตรายตลอดเวลา การพกยา และเครื่องมือรักษาก็เป็นการเตรียมพร้อมอย่างหนึ่งเช่นกัน นั่น ทำให้เทเชียพอจะมียามารักษาผู้หญิงคนนี้ได้
เวลาผ่านไปไม่นานตัวยาที่ต้องการก็เสร็จสมบูรณ์ เทเชียวางยา ไว้เหนือหัวหญิงสาวก่อนเริ่มร่ายเวทเพื่อผสานเวทรักษากับตัว ยา เพียงไม่นานแสงสว่างก็เปล่งออกจากถ้วยยาและตัวหญิงสาว และเมื่อแสงหายไปถ้วยยาก็ว่างเปล่าซะแล้ว

เด็กหนุ่มผมฟ้าจัดการตรวจดูอีกครั้งเมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติเจ้าตัวก็ ถอยมายืนข้างๆเซอัสเพื่อรอเวลาที่หญิงสาวจะฟื้นขึ้นมา

เพียงไม่กี่นาทีหญิงสาวตรงหน้าก็ค่อยๆลืมตาขึ้น เด็กชายดีใจ มากถึงขนาดรีบวิ่งเข้าไปกอดมารดาตน

เซอัสมองภาพตรงหน้าพลางพยักหน้าอย่างพอใจกับผลการ รักษา ผิดกับเทเชียที่มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาสีฟ้าที่ไร้ความ รู้สึก

เขาไม่เคยมีครอบครัว ที่มีก็มีแต่ท่านแม่และท่านพี่ที่ดูแลเขาแม้ จะไม่ค่อยอยู่ด้วยกันก็ตาม ส่วนที่เหลือถ้าไม่ต้องการกำจัดก็มีแต่ เข้ามาประจบเพื่อหวังผลประโยชน์จากตำแหน่งของเขา เมื่อกาล เวลาผันเปลี่ยนไปเรื่องราวมากมายในรั้ววังก็ได้ลบรอยยิ้มของ เด็กน้อยคนนั้นให้เหลือแต่ความเย็นชามาจนถึงทุกวันนี้

ร่างของเด็กหนุ่มทั้งสองหายไปอย่างเงียบเชียบเหมือนไม่อยาก ทําลายความสุขของสองแม่ลูก ถึงอย่างไรการมาที่นี่ในวันนี้สำหรับเทเชียมันไม่ได้เสียเปล่าหรอก เพราะอย่างน้อยเขา ก็ได้รู้ว่ามนุษย์ก็เจ็บป่วยเป็นเหมือนปีศาจ

แต่ทั้งสองคนคงไม่ได้ยินคำขอบคุณที่ลอยมากับสายลม…มัน คือคําขอบคุณที่มาจากใจของสองแม่ลูก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ