นักรบแห่งมังกร

มังกรตัวที่ 6 : ผู้ชายที่น่าหมั่นไส้



มังกรตัวที่ 6 : ผู้ชายที่น่าหมั่นไส้

อัศวินแห่งรัตติกาลกำลังบินผ่านต้นไม้ต้นแล้วตันเล่าด้วย ความเร็วที่ไม่ต่างจากตอนที่บินบนท้องฟ้ากว้าง ราวกับว่าต่อให้มี อุปสรรคมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้มังกรตัวนี้ลดความเร็วลง ได้เลย ดวงตาสีเพลิงยังกวาดมองไปรอบด้านอย่างระมัดระวังเฉก เช่นเดียวกับผู้เป็นเจ้าของ เทเชียกวาดสายตาเก็บรายละเอียดทุก อย่างที่ อกผาเขาบินผ่าน แต่นอกจากสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า สัตว์ ที่สร้างจากเวทมนตร์และกับดักเขาก็ไม่เห็นโดมซึ่งเป็นเป้าหมาย ของเขาเลยสักนิด

“ฟ็อกบินสูงขึ้นอีก” เด็กหนุ่มร้องสั่งมังกรคู่ใจทําให้ฟ็อกบินสู้ขึ้น จนพันยอดไม้แต่นอกจากต้นไม้เขาก็ยังไม่พบโดมอยู่ดี

เทเชียเริ่มขมวดคิ้วเพราะรู้สึกว่าตนเองชักจะเสียเวลาไปกันใหญ่ แล้ว การบินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจะทำให้ฟ็อกอ่อนแรงลง แม้จะอีก นานก็ตามแต่เขาก็ไม่อยากให้เวลามันทอดยาวออกไปขนาดนั้น

“ฟ็อกบินข้างล่างก็ได้” เทเชียเปลี่ยนคำสั่งทำให้ฟ็อกลดระดับ ต่ำลงจนเข้าสู่ป่าอีกครั้ง การบินสูงเมื่อครู่ทำให้เธอเห็นแต่ยอดไม้ มากมายที่ขึ้นกันเบียดเสียดเพราะฉะนั้นถ้าโดมถูกซ่อนอยู่ข้างใต้ เขาจะไม่มีทางรู้เลย เด็กหนุ่มจึงเลือกจะกลับลงมาบินด้านล่างดี กว่า

พับๆ… เสียงบางอย่างดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มเริ่มมองไปรอบๆ ***เพื่อหาคำตอบ ดวงตาสีเพลิงของฟ็อกเองก็กวาดมองอย่าง ระมัดระวัง

พิมๆ…เสียงที่มาจากด้านหนึ่งท่าเอาเทเชียขมวดคิ้วอย่างไม่ พอใจ ตอนนี้เขาจับที่มาของเสียงได้แล้วว่ามันอยู่ตรงไหน และที่ ทำให้เขาไม่พอใจก็เพราะมันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ เขาประมาทหรือ อีกฝ่ายเก่งเกินไปกันแน่ เข้ามาใกล้ขนาดนี้เขาถึงเพิ่งจะรู้สึกตัว

“ฟ็อกใช้ลูกไฟรัตติกาล” เทเชียกล่าวออกมาเสียงราบเรียบ และ อัศวินแห่งรัตติกาล รับบัญชาทันทีเมื่อมันอ้าปากของมันขึ้น เพียงไม่นานลูกพลังสีดาสนิทก็ก่อตัวขึ้นในปาก เพียงแค่รอเจ้า นายออกคําสั่งอีกครั้ง

“จัดการมันซะ” เสียงเย็นเอ่ยสั่งขณะที่ดวงตาสีฟ้าวาววับขึ้นชั่ว ครู่ และเพราะคำสั่งนั้นลูกพลังสีดำก็พุ่งออกจากปากของฟ็อกไป ทางเสียงประหลาดนั้นทันที

ตูม!!

เสียงระเบิดสะท้อนกลับมาให้ได้ยินแต่มันกลับทำให้เด็กหนุ่ม ต้องกัดปากอย่างหงุดหงิด ลูกพลังนั่นไม่ได้โดนเป้าหมายเลยสัก นิด เพราะเขาสัมผัสถึงไอเวทมนตร์ของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ถ้าไม่สร้างเกราะป้องกันขึ้นมาก็แปลว่าอีกฝ่ายทำลายลูกไฟรัตติ กาลของฟ็อกไปแล้ว
วีด…ลูกพลังสีเงินพุ่งออกจากผืนป่าตรงเข้ามาหาเขาอย่าง รวดเร็วไม่แพ้กัน แต่พอกก็สามารถเลี้ยงตัวหลบได้ทันปล่อยให้ ลูกพลังนั้นพุ่งผ่านไป เมื่อครู่ถ้าช้าไปอีกนิดละก็บางทีเขาอาจจะ ต้องตกจากหลังมังกรไปแล้วก็ได้

เสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของมังกรดังมาจากอีกด้านหนึ่ง ทำให้เทเชียรู้ว่าอีกฝ่ายก็เป็นมังกรเช่นกัน แต่ก็ใช่ว่าจะมีเพียง ฝ่ายนั้นที่หงุดหงิดเพราะตอนนี้ฟอกเองก็กำลังไม่พอใจขึ้นมา บ้างเหมือนกัน อัศวินแห่งรัตติกาลเพิ่มความเร็วในการบินขึ้นแต่ มังกรที่ไล่มาตีตื้นก็ไม่ยอมแพ้ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ลูก พลังสีดำและลูกพลังสีเงินจึงพุ่งสลับกันไปมาให้เห็นเป็นระยะๆ ถ้าใครพลาดโดนลูกพลังนั่นก่อนละก็ได้ตกลงจากหลังมังกรไป นอนกับพื้นแน่

กรีซ… ฟ็อกคำรามขึ้นมาอย่างหมดความอดทน คราวนี้มันอ้า ปากให้กว้างขึ้นอีก ลูกพลังสีดำขนาดยักษ์หมุนอยู่ในปากของมัน ดวงตาสีเพลิงวาววับอย่างน่ากลัวจับจ้องไปทางด้านข้างที่มีแต่ แมกไม้ทว่าอัศวินแห่งรัตติกาลรู้ดีว่าคู่ต่อสู้ของมันอยู่ทางนั้น

วูบ…คราวนี้สิ่งที่ถูกปล่อยออกมาไม่ใช่แค่ลุกพลังอีกแล้วแต่เป็น สายพลังสีดำที่มีพลังทำลายล้างสูงจนน่ากลัว
ตูม…เสียงระเบิดดังขึ้นมาพร้อมแรงกระแทกที่ตีออกเป็นวงกว้าง บ่งบอกว่าอีกฝ่ายก็รับมือโดยการใช้พลังที่ไม่ด้อยไปกว่ากันปะทะ กันตรงๆ ดวงตาสีฟ้าฉายแววแปลกใจชั่ววูบ ต้องยอมรับว่าตนเอง แปลกใจไม่น้อยที่มังกรฝ่ายตรงข้ามก็ทรงอำนาจไม่แพ้อัศวิน แห่งรัตติกาลทีเดียว นั่นแปลว่าอีกฝ่ายเองก็มีฝีมือที่ประมาทไม่ ได้ แต่ไม่นานดวงตาคู่นั้นก็กลับนิ่งตามเดิมเมื่อได้ยินเสียงต่อมา

ตุบ!!

มันคือเสียงของหนักที่กระทบพื้น ถ้าเขาไม่ได้มีประสาทรับเสียง ที่ดีอยู่แล้วละก็เขาคงไม่ได้ยินมันแน่ในเมื่อเขา อยู่บนหลังของ ฟ็อกที่กําลังบินด้วยความเร็ว แต่เพราะเขาเป็นนักฆ่าซึ่งมีประสาท รับเสียงที่เฉียบคมฉะนั้นเสียงเมื่อครู่ไม่มีทางเล็ดรอดหูของเขา ไปได้ เทเชียสั่งให้ อกย้อนกลับไปที่เดิมแล้วร่อนลงก่อนเด็ก หนุ่มจะเดินไปดูคู่ต่อสู้ที่ร่วงลงจากหลังมังกร

เด็กหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นจากพื้นช้าๆแล้วปัดเศษใบไม้ออกจากเสื้อ ผมสีเงินที่ซอยสั้นตรงต้นคอสะบัดไปกับแรงลม ดวงตาสีเงินเย็น ชาแต่ก็ยังแฝงความโกรธเอาไว้ผิดกับใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบ เฉย ท่าทางสง่างามและเปี่ยมไปด้วยอำนาจ ทว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ ทำให้เทเชียต้องนิ่งไป ไอเวทมนตร์และจิตสังหารจากร่างตรง หน้าต่างหากที่ปลุกสัญชาตญาณนักล่าในตัวของเด็กหนุ่มหน้า หวาน เขาก็เพิ่งเคยเห็นคนที่มีพลังมากมายมหาศาลและน่ากลัว กว่าทุกคนที่เขาพบเจอในชีวิต แม้แต่ท่านตาที่เป็นถึงจ้าวปีศาจก็ยังเทียบคน ตรงหน้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

อัศวินแห่งรัตติกาลที่เดินตามเจ้านายมากวาดดวงตาสีเพลิง พิจารณาชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่สิ่งที่มันไม่พอใจ คือมังกรของฝ่ายตรงข้ามที่เพิ่งปะทะกับมันมามากกว่า ถึงตรงนี้ เทเชียจึงเลื่อนดวงตาสีฟ้าสวยไปมองมังกรของคนตรงหน้าบ้าง

มังกรที่มีขนาดตัวพอๆกับฟ็อกแต่เกล็ดของมันกลับเป็นสีเงิน สวย ดวงตาสีฟ้าของมังกรตรงหน้าเองก็มองฟ็อกอย่างพิจารณา เช่นกัน มันคือมังกรน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ที่หายาก เพราะมันจะมีอยู่ ที่เดียวคือ ประเทศซิเวีย คนตรงหน้าคงไม่ธรรมดาเลยที่มีมังกร ชนิดนี้ไว้ในครอบครอง เพียงแต่ไม่ธรรมดาขนาดไหน

“จะฆ่ากันรึไง” เสียงเย็นเยียบหลุดออกมาจากปากเด็กหนุ่มผม เงินตรงหน้าเป็นคำแรกหลังจากพิจารณาฝ่ายตรงข้ามไปแล้วเช่น กัน เทเชียตวัดตาไปมองคนถามก่อนตอบเสียงเย็นไม่แพ้กัน

“ขอโทษแล้วกัน” แม้จะเอ่ยคำขอโทษแต่ดวงตาไม่มีแววสำนึก ผิดเลยสักนิด

“นึกว่าปีศาจ” เทเชียต่อคำพูดของตนเองเสียงเรียบ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักคนตรงหน้าแต่ทำไมถึง รู้สึก…อยากแกล้ง!!

เทเชียกำลังคันไม้คันมืออยากจะหาเรื่องคนตรงหน้าเพราะความ หมั่นไส้ขึ้นมาอย่างประหลาดโดยเฉพาะมาดน้ำแข็งของอีกฝ่าย ที่เด็กหนุ่มบอกได้คําเดียว…ขี้เก๊ก!!

“ฉันให้อภัย” เสียงเย็นตอบกลับพลางมองเด็กหนุ่มผมฟ้าด้วย ดวงตาที่เย็นชายิ่งกว่าเดิม

“โดยเฉพาะกับพวกตาถั่ว” คำของร่างสูงทำเอาอารมณ์ของเท เชียพุ่งปรี๊ดอย่างห้ามไม่อยู่ แต่แล้วเด็กหนุ่มก็ต้องชะงัก ทำไมคน ตรงหน้าถึงทําให้อารมณ์ของเขาพุ่งขึ้นมาได้อย่างที่ไม่เคยมีใคร ทําสําเร็จ ทําไมเขาถึงอยากแกล้งเมื่อเห็นท่าทางเยือกเย็นนั่น หรือเพราะนึกสนใจในพลังและฝีมือของคนๆนี้

เทเชียคิดแล้วไม่เข้าใจตนเองทำให้ต้องปิดความคิดพวกนั้นออก ไปก่อน ช่างมันเถอะคิดหาวิธีแก้แค้นก่อนดีกว่า เด็กหนุ่มผู้เป็นนัก เดินทางเหยียดยิ้ม

“ใครบางคนทำตัวลับๆล่อๆมากกว่า” คำพูดที่เปรยออกไปทำเอา ดวงตาสีเงินเย็นลงไปอีก ถ้ามองดีๆแล้วจะเห็นว่าภายใต้ความเย็น เยียบนั่นยังมีความโกรธซ่อนเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม
ว่าแต่เห็นท่าทางของคนร่างสูงแล้วทำไมเขาถึงรู้สึกสะใจอย่าง นี้ล่ะ

“นะ…นาย” เด็กหนุ่มผมเงินเค้นเสียงออกมาเพราะความโกรธ ไม่มีใครเคยกล้าพูดแบบนี้กับเขา ไม่มีใครเคยบอกว่าเขาเป็นพวก ปีศาจ ไม่มีใครเคยกล่าวหาว่าเขาทำตัวลับๆล่อๆเหมือนพวกโจร แบบนี้ แต่คนตรงหน้ากลับกล่าวออกมาทั้งหมด

กรีซ!!

แต่เสียงของบุรุษคนตรงหน้าถูกหยุดไว้ด้วยเสียงร้องของมังกร ทั้งสองตัวเสียก่อน นี่ถ้ามันไม่ร้องขึ้นมาเทเชียคงลืมไปแล้วว่ามี พวกมันอยู่ด้วย

“มีอะไร” สองเสียงดังขึ้นพร้อมกันราวกับนัดกันมาอย่างไรอย่าง นั้น แต่มังกรสองตัวที่ไปดีกันตอนไหนก็ไม่รู้กลับไม่สนใจและ ออกเดินน่าเจ้านายของพวกมันไปตามทางทีรกชันของผืนป่า

เมื่อเดินไปตามทางที่มังกรทั้งสองนำไป ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏ ท่ามกลางสายตาก็ทําให้เด็กหนุ่มทั้งสองเหยียดยิ้มเย็น มันคือ โดมสีขาวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าที่ล้อมไปด้วยต้นไม้มากมายและ มันเป็นโดมหนึ่งในห้าที่ทุกคนตามหากันอยู่
“ไปกันเถอะ” เด็กหนุ่มทั้งสองพูดพร้อมกันก่อนจะกระโดดขึ้น หลังมังกรของตนเองอย่างรวดเร็ว แม้ต่างจะหงุดหงิดกับคู่กรณี ข้างตัวก็ตาม มันเป็นบ้าอะไรที่ต้องพูดพร้อมกัน คิดคำอื่นไม่เป็น หรือไง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ