นักรบแห่งมังกร

มังกรตัวที่ 12 : ภารกิจจากอาจารย์



มังกรตัวที่ 12 : ภารกิจจากอาจารย์

เปลือกตากระพริบถี่ๆเพื่อปรับแสงก่อนที่ดวงตาสีฟ้าจะลืมขึ้น มา เมื่อรู้สึกตัว สัมผัสแรกที่เจ้าตัวทำก็คือกวาดสายตามองไปโดย รอบอย่างรวดเร็วเพื่อสํารวจว่าตนเองอยู่ที่ไหนตามนิสัยขี้ระแวง ที่นี่คือในห้องพัก

สัมผัสที่สองคือความรู้สึกหนักบริเวณท้องที่มีมังกรสีนิลร่างเล็ก นอนอยู่ ทําให้รู้ว่าตลอดเวลาที่หลับไปยังมีฟ็อกคอยอยู่เป็นเพื่อน เสมอ

และสัมผัสสุดท้ายคือหัวเงินๆของใครคนหนึ่งที่ฟุบอยู่ข้างขอบ เตียง นั่นทําเอาคนที่เผชิญหน้ากับทุกสิ่งด้วยความเยือกเย็นเสมอ มาอดจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจไม่ได้

กรช…. ฟ็อกร้องออกมาเบาๆอย่างดีใจก่อนจะใช้หน้าของตนเอง ไซ้แก้มเทเชียอย่างรักใคร่และหวงแหน

“ตื่นแล้วสิ” เสียงเย็นและไร้อารมณ์ถามก่อนหัวเงินของคนที ฟุบหลับอยู่จะเงยขึ้น ดวงตาสีฟ้ากับเงินสบกันก่อนเทเชียจะละ สายตาออกไปก่อน

“วันนี้ไม่มีการสอนแต่ต้องไปห้องประชุมรวมหลังกินข้าวเสร็จ คําฝากของท่านหัวหน้าชั้นปีดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป อย่างไม่สนใจไยดีคนที่เพิ่งฟื้นขึ้นมา ฟ็อกได้แต่มองตามไปอย่าง งุนงง ก็ก่อนที่นายน้อยจะฟื้นก็เห็นเฝ้าไข้ให้ตลอดนี่นา

แต่คนที่เดินออกไปจะรู้ไหมว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานแอบเหน็บ แหนบเจ้าคนหน้าตายไปซะเยอะเชียว

โรงอาหารของหอดราก้อนยังคงคล้ำคลาไปด้วยผู้คนเสมอ โดย เฉพาะพวกปีหนึ่งที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยทีเดียว

“เทเชียทางนี้” เสียงไคร์ร้องเรียกดังมาทำให้เจ้าของชื่อหัน ไปมอง เมื่อเห็นว่าพวกเพื่อนๆนั่งอยู่ที่โต๊ะ คนที่ถูกเรียกจึงเดิน เข้าไปหา

“นั่งตรงนี้สิ กินด้วยกันนี่แหละ” บัสพูดเพราะมีเพียงที่ตรงนี้ เท่านั้นที่ว่างส่วนตรงอื่นถูกจับจองไปหมดแล้ว

“ขอบคุณ” เสียงราบเรียบกล่าวก่อนนั่งลงข้างๆเพื่อนตัวดี

“ดีใจด้วยนะครับ ฟื้นแล้ว” เคนเอ่ยออกมาอย่างสุภาพ เขา ดีใจที่เทเชียฟื้นสักที ไม่เช่นนั้นอาจจะมีมังกรบางตัวลุกขึ้นมา อาละวาดก็ได้ เขายังจำติดตาไม่หาย อัศวินแห่งรัตติกาลตัวนั้นน่ะ น่ากลัว!!
“ไง…รุ่นน้องที่น่ารัก” เสียงของรุ่นพี่ราฟดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะ มาปรากฏกายเสียอีก รุ่นพี่จอมกวนเมื่อเห็นว่าโต๊ะของรุ่นน้องที่ น่ารักทั้งหลายไม่มีที่ว่างแล้วเจ้าตัวก็เลือกจะนั่งลงบนโต๊ะถัดไป พร้อมจานข้าวในมือแทน

“ไงรับน้องสนุกมั้ย” เฟรังค์ที่เดินมาด้วยถาม นก่อนคลี่ยิ้ม หน่อยๆเมื่อเห็นท่าทางผวาของรุ่นน้องแต่ละคน ช่วยไม่ได้นะก็ หอดราก้อนขึ้นชื่อเรื่องรับน้องโหดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปีพวก เขาก็โดนเล่นกันจนอวมกว่านี้อีก กว่าจะเข้าใจคำว่าดราก้อนคือ หนึ่งเดียวก็แทบลากเลือดเลยเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์มันกลับคุ้ม ค่าไม่น้อย เพราะทำให้ชาวหอดราก้อนค่อนข้างจะรักพวกพ้อง มากทีเดียว

“สนุก” เสียงเรียบของเทเชียเอ่ยออกไปอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก ไหนๆเรื่องมันก็ผ่านมาแล้วเขาไม่เก็บเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นมาคิด ให้รกสมองหรอก

“น้นสินะถ้าเป็นพวกพี่คงไม่สามารถฆ่าค้างคาวฝูงใหญ่ได้ หรอก” เทเชียชะงักไปนิดนึงกับคำพูดของรุ่นพีราฟ ใครเป็นคน ฆ่าค้างคาวฝูงนั้น?

“คือหลังจากที่คุณเทเชียสลบไปแล้ว..” เรื่องทุกอย่างถูกเล่า ออกจากปากของเคนช้าๆและเป็นตอนๆหวังให้คนที่สลบไปก่อน รับรู้ความน่ากลัวของมังกรตัวเองแบบละเอียดยิบเลยทีเดียว
“สุดท้ายคนที่พาทุกคนออกมาจากถ้ำ และไปนั่งเฝ้าคุณเทเชีย ก็คือคุณเซอัสนั่นแหละครับ” เคนจบท้ายด้วยการยกความดีความ ชอบให้กับเจ้าชายแห่งซิเวียไป ซึ่งในใจเทเชียนึกแย้งอย่าง รุนแรงว่าเจ้าหมอนั่นได้ไปนั่งเฝ้าเขาจริงๆน่ะหรือ ไม่ใช่ว่าจะไป ดูว่าเขาจะตายหรือเปล่าหรอกนะ เพราะถ้าคิดถึงฝีมือของท่าน หัวหน้าชั้นปีจริงๆก็ควรจะรักษาเขาตั้งแต่บนหลังมังกรแล้ว เขา ไม่เชื่อหรอกว่าหมอนั่นจะทำไม่ได้

อันที่จริงเทเชียคิดถูกตรงที่เซอัสสามารถรักษาเด็กหนุ่มได้ ตั้งแต่บนหลังมังกร แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมทำ อย่างแรกเขา ต้องการเอาเทเชียปู อกให้มันสงบลง ส่วนอย่างที่สองเพราะ เขาไม่คิดจะรักษาให้กับคนที่เอาตัวเองไปเสี่ยงตายอย่างไร้หัวคิด แบบนั้น ทางออกมีตั้งเยอะแต่ดันใช้แต่พลังของตนเองโดยไม่ คิดจะพึ่งพาคนอื่น ทั้งที่กิจกรรมนี้มีไว้เพื่อความสามัคคีและให้ ตระหนักถึงคําว่าดราก้อนคือหนึ่งเดียว

“งั้นหรือ” ค่าตอบของเด็กหนุ่มทําให้ทุกคนเป็นฝ่ายแปลกใจเอง ทําไมเจ้าหมอนี่ถึงมีท่าทางเย็นชาแบบนี้นะ

“คุณเทเชียไม่ตกใจเลยหรือครับ ฟ็อกเป็นคนฆ่าค้างคาวพวก นั้น” เทเชยเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำถามของเคน ทําไมเขาจะต้องไป ตกใจด้วยละ

“ไม่… อกเคยอาละวาดมากกว่านี้อีก” จบข่าว นอกจากจะไม่ ตกใจแล้วคำพูดที่เจ้าตัวทิ้งท้ายเอาไว้ยังทำเอาเพื่อนรอบข้างหน้าซีดลงไปอีก อาละวาดมากกว่านี้ แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ!!

“ดีที่พวกนายไม่เห็นฟ็อกฉีกเนื้อสดๆออกมากิน” แล้วมันจะมา พูดอะไรตอนกินข้าวฟะเนี่ย เห็นภาพเลย ไคร์คิดก่อนเลื่อนจาน ข้าวของตนเองออกห่างตัวอย่างกินต่อไม่ลง

“มังกรน้องกินเนื้อหรือ” ราฟร้องถามอย่างสนใจ ขนาดเทเชีย พูดออกมาขนาดนี้เจ้ารุ่นพี่จอมกวนก็ยังสามารถกินข้าวของเขา ต่อได้อย่างสบาย

“กินได้ทั้งเนื้อทั้งพืช” เทเชียไม่คิดจะปิดบังเรื่องของฟอกอยู่ แล้ว อัศวินแห่งรัตติกาลเป็นมังกรหายากก็จริงแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี ข้อมูลอะไรให้สืบค้น

“แล้วมังกรของน้องพันธุ์อะไร” คราวนี้เป็นเฟรังค์ที่เริ่มสนใจ มาก มังกรกินเนื้ออาจมีให้เห็นได้ทั่วไปแต่มังกรที่ถล่มถ้ำและฆ่า ค้างคาวนับล้านได้เพียงไม่กี่นาทีไม่ใช่อยากจะเห็นก็สามารถเห็น ได้หรอกนะ มันคงไม่ใช่มังกรธรรมดาหรอก

“อัศวินแห่งรัตติกาล” คําตอบเรียบๆแต่ทําเอาคนที่ได้ยินถึงกับ ตะลึงจนทำช้อนร่วงใส่จานดังเคร้ง

“ไอ้มังกรหายากอันดับต้นๆที่มีพลังมหาศาลและไม่ค่อยมีแล้ วนั่นน่ะหรอ!!” ราฟตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อรุ่นน้องเอ่ยชื่อมังกร พันธุ์หายากที่เขาไม่เคยเห็นตัวเป็นๆมาก่อนออกมาไม่น่าล่ะพลังมันถึงสุดยอด ว่าแต่ต่อไปคงจะต้องขอมองบ่อยๆ แล้ว ใช่ว่าจะเห็นกันง่ายๆ ไอ้มังกรพันธุ์นี้

“เออ ครับเบาๆก็ได้อายเค้า” บัสกระซิบเมื่อเห็นโต๊ะอื่นมองมา จะตกใจก็ไม่เห็นจะต้องตะโกนลั่นห้องเลยนี่

“โอ๊ะ…โทษที” ราฟพูดส่งๆให้กับการตกใจเกินระดับของตน แน่นอนว่าคนฟังไม่เชื่อเลยสักนิดว่าคำพูดนั้นจะออกมาจากใจ จริง

“นายมีมังกรแบบนี้ได้ไงทั้งๆที่เป็นนักเดินทาง” คราวน์ถามอย่าง จับผิดแต่ดวงตาสีฟ้าสวยไม่ได้ส่อพิรุธอะไรออกมาให้เห็นเลย

“เป็นความโชคดีที่ฉันไปเจอไข่มัน” เด็กหนุ่มตอบอย่างลื่นไหล ซึ่งความจริงมันก็เป็นความโชคดีของเขาจริงๆนั่นแหละ แต่เป็น ความโชคดีที่เขาไปเจอไข่มันหลังจากที่ได้งานฆ่ากวาดล้างพวก พ่อค้าขายชิ้นส่วนมังกรนะ

“ระ… เหรอ” เฟรังค์ครางอย่างอึ้งๆ ไม่นึกว่ารุ่นน้องจะพูดออกมา ดื้อแบบนี้ มันน่าจะมีคำอธิบายมากกว่านี้หน่อยสิ แต่เทเชียก็คือเท เชียเพราะเจ้าตัวยังคงนั่งกินข้าวด้วยท่าทางนิ่งเฉยดุจเดิม เพราะ สำหรับเขาแล้วแค่ยอมตอบไปมากขนาดนี้มันก็เกินพอแล้ว
.**.

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วทุกคนก็ต้องเดินมารวมตัวกันที่ ห้องประชุมใหญ่ตามคําสั่งของพวกอาจารย์

“โห…เทเชียคนของหออื่นโคตรเยอะเลยอ่ะ” ไคร์พูดแล้วหันไป มองรอบข้างอย่างตื่นตา

“แต่หอเราก็ไม่น้อยหน้า” เสียงตื่นเต้นของเพื่อนตัวดียังดังมา อีก ทว่าทุกคนต่างแย้งในใจ ไม่น้อยหน้าตรงไหน จำนวนคนของ พวกเขาน้อยกว่าหออื่นเห็นๆ แต่ช่วยไม่ได้ในบรรดาทั้งสี่หอ หอ ดราก้อนถือว่ารับคนเข้าหอน้อยที่สุดแล้ว

ไปรวมกับเพื่อนคนอื่นดีกว่าครับ” เคนพูดพร้อมเดินตามเทเชีย เดินนำไปก่อนโดยไม่คิดจะสนใจท่าทางตื่นเต้นของเจ้านักรบติงต๊ อง อยู่กับหมอนแล้วรู้สึกจะมีแต่ทําให้คนที่อยู่ด้วยขายหน้าจริง

“ทางนี้ๆ” เสียงหวานของสามสาวดังมาพร้อมมือที่ถูกยกขึ้นโบก เรียกเพื่อนที่มาใหม่

“นั่นไงไปกันเถอะ” ไครโบกมือตอบแล้วทําท่าจะเปลี่ยนเป็นเดิน นำเทเชีย แต่แล้ว…
ตบ!!

บ้าจริงดันสะดุดเท้าใครเนี่ย เทเชียบ่นอุบในใจอย่างหงุดหงิด เพราะเจ้าตัวเกือบจะล้มลงไปแล้ว ดีที่ข้างหน้ามีคนเดินอยู่เขาถึง สามารถใช้ร่างหมอนั่นยันไม่ให้ตนเองล้มลงไปได้

“ขอโทษ” เจ้าตัวเอ่ยออกมาเสียงเรียบแล้วเตรียมจะหันกลับไป เอาเรื่องคนที่ยื่นเท้าออกมาขัดขาเขา เทเชียแน่ใจว่ามีคนจงใจ ยื่นเท้าออกมาขัดขาตนเองเพราะตอนเดินเขาดูดีแล้วว่าไม่มีอะไร พอให้สะดุดได้

“ไม่เป็นไร” แต่เสียงเย็นที่ตอบกลับในทันทีทำเอาเด็กหนุ่มหน้า หวานชะงักไป ทำไมเสียงมันคุ้นๆ ดวงตาฟ้าช้อนขึ้นไปดูคนที่เขา ใช้ร่างเป็นฐานให้ตนเองแต่ทันทีที่เห็นหน้าเด็กหนุ่มหน้าหวานก็ รีบถอยห่างออกมาด้วยความเร็ว

“นายอีกแล้วเหรอ!!” เทเชียแทบตะโกนใส่เด็กหนุ่มผมเงินตรง หน้า

“นั่นควรเป็นคำพูดของฉันมากกว่า” เสียงเย็นตอบกลับเพราะนึก ขัดใจท่าทางของคนที่มาชนตนเอง เขาไม่ได้เป็นคนเดินไปชน หมอนี่เสีย

กรี๊ซ… มังกรน้อยทั้งสองที่อยู่บนบ่าส่งเสียงร้องเตือนเจ้านายของพวกมันเพื่อไม่ให้ทะเลาะกันแต่ก็ไร้ประโยชน์

“นายหมายความว่ายังไง” ดวงตาสีฟ้าเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ท่าทาง ของเจ้าตัวพร้อมหาเรื่องเต็มที่ผิดกับในยามปกติที่ชอบทำตัว เฉยชา

“ความหมายตรงตัวหรือว่าแปลไม่ออก” อีกคนก็ไม่น้อยหน้า ทั้ง ที่เย็นชาเป็นนิสัยแต่ตอนนี้กลับเถียงกลับอย่างรวดเร็ว

“นายหาว่าฉันโง่เหรอ”

“ไม่ได้พูด” เซอัสไม่พูดเปล่าแต่ยิ้มเย็นให้ด้วยก่อนจะเอ่ยออกมา อีกประโยค

“แต่ก็คงใช่”

“นาย!!”

“โห หอดราก้อนกัดกันเองซะแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลาง เสียงโต้เถียง คนทั้งสองหยุดทะเลาะกันทันทีก่อนเลื่อนดวงตา ของพวกตนไปมองต้นเสียง

“หมาจากหอมังกรปฐพีเองหรอที่มาเห่าถึงนี่” เสียงเย้ยหยันของ เทเชียทำให้เด็กหนุ่มต้นเรื่องที่มาทักเริ่มชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ เพราะเมื่อครู่มัวแต่โต้เถียงกับเซอัสทำให้เขาลืมเรื่องถูก ขัดขาไปเสียสนิท ถูกลืมไปก็ดีแล้วแต่คนต้นเหตุกลับเดินมาหา เรื่องถึงที่ ถ้าไม่สั่งสอนบ้างก็คงระบายความหงุดหงิดของเขาไม่ ได้แน่ๆ

“ฉันชื่อเวร๊อบ ซาเซย่าขุนนางแห่งเจเวียน นักเดินทางอย่างนาย ควรระวังปากเอาไว้บ้าง” ผู้มาใหม่ยังพูดเหมือนหาเรื่อง แต่มีหรือ คนเป็นนักเดินทางจะสนใจ เวรอบหรืออะไรก็ช่าง ทำไมเขาจะ ต้องสนด้วยในเมื่อขนาดเจ้าชายแห่งซิเวียเขายังไม่สนเลย

“หมาไม่มีนํ้ายา” เสียงเย็นเหมือนหยิ่งดังขึ้นจากเจ้าชายแห่ง ซิเวียทำเอาเวร๊อบไม่พอใจ แต่เทเชียแอบเห็นด้วยกับคู่กัดของ ตนเอง ก็มีตอนนี้แหละที่เขาคิดว่าความหยิ่งผยองและความเย็น ชาของหมอนี่มีประโยชน์

“สู้กันเลยไหมเจ้าชายหรือว่าคนอย่างเจ้าชายแห่งซิเวียใจเสาะ สิ้นเสียงพวกหอมังกรปฐพีก็เดินเข้ามายืนขนาบข้างเวร๊อบ อันที่ จริงพวกเขาก็อยากจะลองสู้กับเจ้าชายแห่งซิเวียที่คำเล่าลือว่า เก่งกาจสักครั้งเหมือนกัน

“นึกว่ามีแต่กลุ่มพวกนายหรือไงไอ้หมาหมู่” เสียงไคร่ดังขึ้นก่อน พวกเพื่อนๆจะเดินเข้ามาบ้าง เรื่องอะไรพวกเขาจะยอมให้เพื่อน โดนรุมเล่า ถึงเพื่อนคนนั้นจะไม่หนักใจที่ตนเองโดนรุมก็เถอะ
“สู้ก็สู้เสียเวลา” คำพูดเสียงเย็นเยียบของคนเป็นเจ้าชายทำเอา อีกฝ่ายเลือดขึ้นหน้า เซอัสไม่ได้พูดประชดหรือหาเรื่องแต่เขา หมายความว่าตามนั้นจริงๆ ในเมื่ออีกฝ่ายมาเพื่อหาเรื่องก็คงไม่มี ทางถอยกลับไปง่ายๆ เขาอาจไม่ชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา แต่เขาก็ไม่เกี่ยงหรอกนะถ้าต้องใช้มันขึ้นมา โดยเฉพาะในยามที่ ยังโมโหเพราะเพิ่งทะเลาะกับเด็กหนุ่มหน้าหวานบางคนมาแบบนี้ แต่ก่อนที่จะมีใครลงมือเป็นคนแรก

“ตรงนั้นมีอะไร” เสียงหนึ่งดังสนั่นไปทั่วห้องประชุมก่อนรุ่นพี่คน หนึ่งจะเดินฝ่าวงล้อมเข้ามา

“รุ่นพี่คิงเชียฮะ พวกมันหาเรื่องเรา” เมื่อเห็นผู้มาใหม่เวร๊อบก็รีบ ฟ้องทันทีในเมื่อคนตรงหน้าคือรุ่นพี่จากหอปฐพีที่ไม่ค่อยถูกกับ หอดราก้อนอยู่แล้ว

ใครกันแน่วะ ที่หาเรื่อง เพื่อนแต่ละคนได้แต่คิดในใจเท่านั้นแต่ก็ ไม่มีใครคิดจะพูดออกมา ถ้ามีตาหรือมีหูสักหน่อย ถามคนแถวนี้ก็ รู้เรื่องหมดแล้ว

“พวกนายอยู่หออะไรจะได้ส่งให้หัวหน้าหอ” เสียงของรุ่นพี่ที่มา ใหม่พูดเข้าข้างรุ่นน้องเต็มที่ทำเอาเพื่อนแต่ละคนถึงกับทำหน้า เมื่อยเลยทีเดียว ดูท่าหมอนี่จะไม่มีทั้งสองอย่างที่พวกเขาว่ามา
“จะเข้าข้างรุ่นน้องตนเองไปรึเปล่าคิงเชีย” เสียงหนึ่งที่ดังขึ้น เรียกสายตาของทุกคู่ให้หันไปมอง รุ่นพี่ที่มาใหม่คือรุ่นพี่ราฟกับ รุ่นพี่เฟรังค์นั่นเอง

“เพราะที่ฉันดูสถานการณ์อยู่ปีหนึ่งหอนายมาหาเรื่องปีหนึ่งหอ เราก่อนนะ” รุ่นพี่ราฟยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงอย่างคนอารมณ์ ดี เมื่อครู่เขาเห็นทุกอย่างตั้งแต่เวรอบขัดขาเทเชียแล้ว ยังขำอยู่ เลยระหว่างการปะทะด้วยคำพูดของหัวหน้าและรองหัวหน้าชั้น ปีหนึ่ง ซึ่งเขาคิดว่าคงมีสักวันที่สองคนนี้จะได้ งห้องนอนของ ตนเองเพราะทะเลาะกันก็เป็นได้

ราฟเห็นแม้แต่ตอนที่อีกฝ่านเดินเข้ามาหาเรื่อง แต่ก็เลือกที่จะ ยืนดูอยู่เฉยๆเพราะเห็นว่าเป็นปีหนึ่งด้วยกัน แต่พอมีคนอื่นยื่นมือ เข้ามายุ่งเขาก็ขอยื่นมือเข้ามาช่วยรุ่นน้องของตนเองบ้างละ

“พยาน” ฝ่ายหอมังกรปฐพีก็ไม่ยอมแพ้ แถมเสียงที่เปล่งออก มาก็ทำอย่างกับโกรธกันมาสิบปี อันที่จริงไม่ใช่ว่าทุกชั้นปีของ หอมังกรปฐพีกับหอดราก้อนจะเกลียดขี้หน้ากันหรอกนะ บางปี ยังเป็นเพื่อนที่ดีกันด้วยซ้ำ แต่ก็มีบางปีเหมือนกันที่ชิงชังราวกับ อยากจะฆ่ากันตาย อย่างปีของราฟและอาจจะรวมปีหนึ่งปีนี้ เข้าไปด้วย

“เอากันกี่คนละเพราะเขาเห็นกันทั้งห้อง” รุ่นพี่เฟร้งค์เสริมได้ หน้าตายแล้วยังกระตุกยิ้มอย่างเป็นต่อให้อีก
“พวกนายกลับ” คิงเชียหันมาสั่งพวกรุ่นน้องก่อนจะเดินนำออก ไปเมื่อเห็นว่าตนเองอาจจะเพลี่ยงพล้ำสองคนนี้ได้ พวกปีหนึ่งหอ ดราก้อนเขาไม่รู้หรอกว่าร้ายกาจหรือไม่ แต่เฟรังค์กับราฟเล่น ด้วยยาก เวรอบหันมามองอย่างอาฆาตแวบนึงก่อนจะเดินตามรุ่น พี่ไปพร้อมกับเพื่อนๆ

ถูกเกลียดเข้าจนได้ เด็กหนุ่มผมฟ้าคิดก่อนจะเหยียดยิ้มหยัน แล้วเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เกลียดแล้วยังไง นึกว่าเขาจะ สนหรือ

“โหลๆได้ยินไหม” เสียงประกาศที่ทั้งแหลมและดังลั่นห้อง ทําเอาแต่ละคนยกมือขึ้นมาปิดหูพร้อมกับสีหน้าทรมาน

“บ้าเรอะ ที่บ้านหูหนวกรึไง”

“เฮ้ย… หูจะแตกแล้วยังดังไม่พออีกหรอฟะ”

“จะฆ่ากันรึไงยายบ้า” เสียงตะโกนด่ากันดังระงมทำเอาคน ประกาศคิ้วกระตุก พยายามอดทนแล้วนะแต่มันไม่ไหวแล้ว

“ใครด่าอีก…แช่งให้สอบไม่ผ่านเลย!!” เสียงประกาศที่ดังมา ทําเอาทุกคนเงียบกริบ ถ้าเงียบแค่นี้ก็จบไปแล้ว
“ให้ทุกหอส่งตัวแทนขึ้นมาคนเดียว คนเดียวนะโว้ยถ้ารู้จัก ภาษา” ตอนแรกก็กะจะใช้น้ำเสียงหวานๆหรอกนะแต่ช่วยไม่ได้ มันหลุดไปแล้วนี่หว่า

“แล้วให้ส่งตัวแทนมาจับฉลากว่าได้การทดสอบอะไรจากพวก อาจารย์” แต่ละคนต่างขมวดคิ้วก่อนความคิดนึงจะแล่นเข้ามาใน หัวพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ใครให้มันเป็นคนประกาศนะ

“งั้นหอเราก็ส่งหัวหน้าชั้นปีไปก็สิ้นเรื่อง เสียงหวานของเอลีน่า ดังขึ้นพร้อมมองไปที่เซอัส ซึ่งแวบหนึ่งที่เทเชียเห็นว่าดวงตาสี เงินฉายแววลำบากใจขึ้นมา

“นั่นสิครับ” เคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“เทเชียก็มี” เสียงเย็นตอบกลับทำเอาเด็กหนุ่มหน้าหวานขยับยิ้ม หยัน

“เขาให้เกียรติเจ้าชายมิใช่นักเดินทางกระจอกๆ” เสียงเรียบตอบ กลับทําเอาคนเป็นเจ้าชายต้องหรี่ตามองนักเดินทางธรรมดา อย่างจับผิดก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วเดินขึ้นเวทีไป

ช่วยไม่ได้ เรื่องอะไรที่ทำให้หมอนี่ลำบากใจตอนนี้เขาทำหมด นั่นแหละ ใครใช้ให้เขายังหงุดหงิดอยู่ล่ะ
มือของตัวแทนทั้งสี่หอที่ขึ้นไปจับฉลากบนเวทีล้วงลงไปใน กล่องก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา

“ยังไม่ต้องเปิดนะ เฮ้ย!! ได้ยินไหมฟะยังไม่ต้องเปิด รอยหยักใน สมองมีมั้ยหรือมีแต่สมองกลวงๆ” คำด่ายึดยาวตามมาติดๆเมื่อคน ของหอหนึ่งทำท่าจะเปิดดู

โห คนประกาศมันไปเรียนฝีปากมาจากไหน คมราวมืดแถมยังกัด เจ็บอีกต่างหาก

เซอัสเดินลงจากเวทีพร้อมกระดาษในมือ เขาสังหรณ์ใจว่า กระดาษในมือนี่อาจจะนำพาความยุ่งยากมาในชีวิตเขาอีกแน่ ก็นะ…คนรอบตัวชอบบอกว่าเขาไม่มีโชคในเรื่องพวกนี้อยู่ด้วย

“เอาละเปิดได้” สิ้นเสียงกระดาษในมือของเจ้าชายคนสำคัญก็ ถูกเปิดออกอ่าน

การทดสอบคือตามจับมังกรมิติแห่งกาลเวลากลับมาเป็นๆ มังกร ที่ได้ฉายาว่าผู้ควบคุมกาลเวลา มังกรเฟเวอร์
ป.ล. หากทำสำเร็จจะมีคะแนนให้แต่หากทำพลาดจะขอหัก คะแนนของหอ

ทุกคนได้แต่หน้าซีด แล้วพวกเขาจะเข้าไปในช่องว่างแห่งกาล เวลาได้ยังไงและที่สำคัญผู้ควบคุมแห่งเวลาน่ะดุจะตาย

“หึม…มือดีโคตร” เสียงเรียบของเทเชียดังขึ้นท่ามกลางความ เงียบ

“วันหลังก็จับเองสิ” อีกคนก็ไม่ยอมแพ้จะก่อศึกน้ำลายกันให้ ได้ คนอื่นพูดว่าเขามือไม่ดีไม่เท่าไหร่ แต่เซอัสรู้สึกยอมไม่ได้ถ้า หมอนี่เป็นคนพูด

“ว่าแต่น้องจะหาช่องว่างแห่งกาลเวลายังไง” เฟร้งค์ถามอย่าง ตื่นเต้น ช่องว่างแห่งกาลเวลาใช่ว่าจะหากันง่ายๆ จะสร้างขึ้นมา เองก็เปลืองพลังเวทไม่น้อยเลย

“หาไม่ได้ก็สร้าง” เสียงเรียบจากเด็กหนุ่มผมฟ้าเรียกสีหน้าตะลึง ของเพื่อนๆแต่รุ่นพี่ทั้งสองกลับเลิกคิ้วอย่างงุนงง มันทำง่ายเสีย เมื่อไหร่ถึงได้พูดออกมาได้ง่ายดายขนาดนั้น แต่ยังไม่ทันที่ใคร จะพูดอะไร
“หอที่ได้การจับมังกรเฟเวอร์ช่วยมารับอุปกรณ์ด้วย” เสียง ประกาศดังก้องมา “เร็วๆนะเฟ้ยเดี๋ยวแช่งให้โดนงาบเลย

ตอนนี้ทุกคนมาอยู่ในห้องหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนห้องรับรอง ภายใน ห้องก็เหมือนห้องรับแขกทั่วไป จะผิดก็แต่บนโต๊ะที่ล้อมรอบด้วย โซฟามีกุญแจมือหลายอันวางเอาไว้

นี่คือกุญแจสําหรับจับมังกรเฟเวอร์โดยเฉพาะ อาจารย์หนุ่มที่ เดินน่าพวกเขาเข้ามาในห้องพูดแล้วส่งกุญแจมือที่วางบนโต๊ะให้ พวกเขา

“ตัวกุญแจและสายคล้องมือสามารถยืดและหดได้ มันแปรสภาพ ได้ตามความเหมาะสม แถมมันยังสามารถสะกดพลังเวทได้ด้วย แต่ทว่าสะกดพลังน่ะ มันจะสะกดต่อเมื่ออีกข้างของกุญแจต้อง ล็อกอยู่กับสิ่งของหรืออะไรบางอย่างและจะค่อยๆสะกดพลังที ละนิดไม่ใช่ปุบปับเลย มันมีความแข็งแกร่งจนไม่มีทางตัดออกได้ ต้องใช้กุญแจปลดล็อกเท่านั้น” อาจารย์อธิบายสรรพคุณซะยืด ยาวก่อนจะกวาดมองทุกคนในห้อง

“ให้ทุกคนคล้องกุญแจด้านหนึ่งให้ล็อกไว้กับแขนตนเองส่วนอีก ด้านไว้จับมังกร” มันเป็นคำสั่งที่ทุกคนต้องรีบปฏิบัติตาม เครื่อง ทุ่นแรงของพวกเขามีสรรพคุณใช้ง่าย สะดวกสบายขนาดนี้ ก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย นึกว่าต้องไปจับมังกรกัน มือเปล่าเสียแล้ว

เทเชียคล้องมันไว้กับข้อมือก่อนจะได้ยินเสียงดังกริ๊กเป็นอัน ล็อกเรียบร้อย เด็กหนุ่มหย่อนลูกกุญแจลงกระเป๋ากางเกงของ ตนเอง

“อ๋อ…ใช่ ขอเตือนอีกอย่างการยืดหดของกุญแจมือมันจะดูความ เหมาะสมเอง จะบอกว่ามันมีความคิดก็ได้” ช่างเป็นกุญแจมือที่ดี เลิศอะไรแบบนี้ ในตอนนั้นเหล่าปีหนึ่งหอดราก้อนยังคงคิดเช่น นั้น แต่ในเวลาต่อมาพวกเขาคงอยากจะเขวี้ยงมันทิ้งเชียวแหละ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ