มังกรตัวที่ 3 : การแข่งขันของไคร้
“ไงเพื่อนเล่นเอาแต่ละคนตะลึงเลยนะ” ไครทักคนที่เดินลงมา จากลานประลองด้วยท่าทางตื่นเต้น แต่ก็มีเพียงดวงตาสีฟ้าที่ เย็นเยียบเพิ่มขึ้นอีกเท่าหนึ่งที่มองตรงมาราวกับจะประกาศความ หงุดหงิดของเจ้าตัวที่มีให้กับการประลองที่เพิ่งผ่านไป
“ถ้ายังทำอย่างนี้อีกจากคาเตอร์…จะเป็นนายที่นอนจมกองเลือด แทน” เสียงเย็นชากล่าวกับคนเป็นนักรบที่กล้าใส่ชื่อของตนลง ในการประลองทั้งที่เขาไม่ได้ยินยอมสักนิด ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นฉาย แววเอาจริงไม่ใช่แค่เล่น ถ้าขืนคนตรงหน้ากล้าทำอีกมันจะเป็น ไปตามคำขู่ทุกอย่าง
“เอาน่า…ฉันเองก็ลงนะ ตาต่อไปนี่แหละ ประลองกับคนที่ชื่อ เดเซน คาเว…อะไรสักอย่าง” ไคร้พูดออกมาเพื่อพยายามปลอบ เพื่อนใหม่ให้ใจเย็นลงพลางคิดชื่อของคู่ประลองคนต่อไปของ ตนเองไปด้วย
“เดเซน คาเวนเดอร์” เทเชียพูดออกมาด้วยเสียงเย็นเยียบตาม เคย แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะถามหรอกว่าไคร์ลงหรือไม่เพราะดู จากนิสัยที่เจ้าตัวแสดงออกให้เขาเห็นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าลงชัวร์ อย่างหมอนี่มีหรือจะพลาดเรื่องสนุกแบบนี้
“ใช่ๆชื่อนี้เลย” ไคร์พูดออกมาเมื่อเทเชียพูดชื่อของคนที่ต้องขึ้น ประลองกับเขาในรอบต่อไปได้ถูก
“ว่าแต่นายรู้ อหมอนั่นได้ไง” ใครถามออกมาอย่างแปลกใจ เพราะจากนิสัยของเพื่อนคนนี้ไม่น่าจะสนใจคนอื่นเลยนี
“ฉันเป็นนักเดินทางจะรู้จักคนไปทั่วก็ไม่แปลก” เสียงเย็นชาเน้น ฐานะของตนเองแต่ความจริงแล้วมันตรงกันข้ามเลยต่างหาก เขาไม่ใช่แค่รู้จักชื่อแต่รู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
“แล้วอีกอย่าง อนี้ก็เป็นที่แพร่หลายด้วย” เด็กหนุ่มในคราบนัก เดินทางเหยียดยิ้ม ดวงตาคู่นั้นทอประกายวาววับขึ้นมาชั่ววูบหนึ่ง “ในฐานะที่เขาเป็นนักฆ่าอันดับห้า!!”
การวางท่าทีของหมอนี่เหมือนนักเดินทางตรงไหนนะ ไครมอง เพื่อนใหม่ของตนเองพลางครุ่นคิดในใจ แต่ต่อให้คนตรงหน้าเป็น คุณชายจากบ้านไหนปลอมตัวมาเขาก็ยังเลือกหมอนี่เป็นเพื่อน อยู่ดี อีกอย่างในความคิดของเขามีเพื่อนเป็นคุณชายสักคนก็ไม่ เลวเหมือนกัน
“แน่ใจว่านายเป็นนักเดินทาง” ดวงตาสีเขียวนําทะเลมองมา อย่างค้นหาคําตอบ ถึงจะบอกว่าเขาไม่สนใจต่อให้อีกฝ่ายเป็น คุณชายจากบ้านผู้ดีที่ไหนแต่เขาก็ยังอยากรู้
“ฉันคือนักเดินทาง” เทเชียเอ่ยฐานะของตนเองอีกครั้งแล้ว หันไปมองเจ้านักรบตัวดีราวกับจะถามว่าแล้วทำไม
“ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้…ก็แค่สงสัยว่าทำไมนักเดินทางถึงเก่ง จัง” ไค พูดเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนที่มองมา เขาก็แค่อยากรู้นิด หน่อยเองเพราะไหนๆก็เป็นเพื่อนกันแล้ว
“ก็แค่มีไว้ปกป้องตัวเองจากผู้ไม่หวังดี” เด็กหนุ่มตอบออกมา ก่อนยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
ไคร้มองคนที่ให้เหตุผลอย่างไม่ติดขัดก่อนจะหันไปมองการ แข่งขันต่อ แม้จะสงสัยทว่าเขาก็ไม่คิดจะพยายามดิ้นหาคำตอบ หรอก ถ้าสักวันที่อีกฝ่ายพร้อมเดี๋ยวเขาก็ได้คำตอบมาเอง เขาจะ ยอมรอจนกว่าจะถึงตอนนั้น
แต่มันก็ต้องมีข้อยกเว้นหน่อยล่ะ…ยกเว้นว่าเรื่องราวเบื้องหลัง ของหมอนี่จะทําให้ตัวหมอนี่เอง ตัวคนรอบข้างหรือตัวเขาเดือด ร้อน เขาไม่ได้คิดจะเลิกเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายนะ แต่จะยื่นมือ เข้าไปช่วยต่างหาก ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นก็ยังไม่มีใครตอบได้เหมือน กันว่าจะช่วยให้เรื่องมันดีขึ้นหรือวุ่นวายขึ้นกันแน่
“แล้วรางวัลของคนชนะคืออะไร” เทเชียถามออกมาเพื่อเบี่ยง เบนความสนใจของเพื่อน ลงประลองไปถึงขนาดนี้แล้วมันก็ต้อง มีค่าตอบแทนหน่อยล่ะ
ไคร้ยิ้มอย่างมีเลศนัย ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลพราวระยับก่อนจะ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “เอาไว้นายชนะก็จะรู้เอง
แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มผมฟ้าจะเค้นหาความจริงคนหัวแดงก็ โบกมือให้อย่างกวนประสาทก่อนจะกระโดดรวดเดียวขึ้นไปบน ลานประลองตามเสียงประกาศเรียก
“ไคร์ ซีเวียซานักรบแห่งเฟริสปะทะเดนเซน คาเวเดอร์”
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองขึ้นไปบนลานประลอง ริมฝีปากคลียีมเย็น ออกมา นักรบปะทะนักฆ่า…น่าสนุกดีนี่ เพราะเขาก็อยากรู้เหมือน กันว่าใครจะชนะ
ดวงตาสีฟ้าแสนเย็นชาพราวระยับเมื่อความคิดอีกอย่างหนึ่ง ด ขึ้นมาในหัว โดยเฉพาะนักรบที่ฝีมือไม่ธรรมดากับนักฆ่าอันดับห้า ของสมาพันธ์!!
ไคร้เรียกดาบของตนเองเข้ามือทันทีเมื่อขึ้นมาเผชิญหน้ากับ คู่ต่อสู้ของตนเอง เจ้าตัวบอกกับตนเองอยู่เงียบๆว่าเขาไม่ได้ เก่งกาจเท่าเทเชียถึงจะสามารถล้มคู่ต่อสู้ได้ด้วยมือเปล่าและคน ตรงหน้าก็มีฝีมือไม่ใช่เล่นด้วย
คมดาบสีเงินวาววับบอกถึงความคมที่เจ้าของดูแลรักษาเป็น อย่างดี ด้ามจับสีแดงเพลิงเหมือนดังเปลวไฟ ขนาดของดาบนั้น ใหญ่มากแต่เจ้าของกลับถือพาดบ่าโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะหนักเลย สักนิด…นี่คือดาบเพลิงนรก!!
ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลพิจารณาบุรุษที่มียืนอยู่ตรงหน้าเขา คู่ ต่อสู้ของเขาเป็นคนที่มีอายุมากกว่านิดหน่อยแต่รอยยิ้มที่อยู่บน ใบหน้าและดวงตาซึ่งฉายแววเป็นมิตรก็บ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคน อารมณ์ดี ทว่าไม่ว่าภายนอกเจ้าตัวจะมีท่าทางเช่นใดแต่ภายใน คนๆนี้ก็ยังเป็นนักฆ่าอันดับห้าที่มีทั้งความทะนง รักศักดิ์ศรีและ โหดเหี้ยม
เหล่านักฆ่ามีกฏว่าห้ามขายหรือเปิดเผยความลับของนักฆ่าด้วย กันเอง เช่น การบอกตัวตนและหน้าตาให้เหยื่อรู้ ถ้าการเผยข้อมูล มีผลกระทบร้ายแรงคนบอกก็จะต้องตายส่วนข้อมูลก็จะหายไป อย่างไร้ร่องรอยแต่ถ้าผลกระทบมีน้อยข้อมูลนั้นก็จะแค่หายไป มันเป็นกฎที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงและเป็นกฎที่ไม่อาจฝืน เมื่อนักฆ่า ทุกคนจะอยู่ภายใต้เขตอาคมและอำนาจของสมาพันธ์นักฆ่าใน ประเทศคาเวอร์…ประเทศแห่งนักฆ่า!!
ดาบของนักฆ่าอันดับห้ามีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมเหมือนดวง จันทร์ครึ่งเสี้ยว ด้ามจับสีเหลืองนวลสวยมีลวดลายของดวงจันทร์ และดวงดาว มันคือดาบจันทร์เสี้ยว รอยยิ้มรักสนุกปรากฏอยู่บน ใบหน้าของนักฆ่า ใช้ฉายาว่า จันทราสีเลือด เพราะเขาเองก็ สัมผัสได้เช่นเดียวกันว่าคู่ต่อสู้ของตนเองก็ไม่ธรรมดา
“สาม” ดาบจันทร์เสี้ยวในมือของคนเป็นนักฆ่าถูกกำแน่นเตรียม ลงมือ
“สอง” ดาบเพลิงนรกถูกขยับให้เข้าที่เช่นกัน
“หนึ่ง เริ่มได้”
วูบ…เพียงพริบตาเดียวคนเป็นนักฆ่าก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เหมือนหายตัวไป…ความเร็วที่รวดเร็วไม่ต่างจากแสงจันทร์ใน ยามค่ำคืน ไคร้ต้องรีบกวาดมองรอบด้านแต่เจ้าตัวยังไม่ทันขยับ ไปไหน
ฉวะ!
ความเจ็บแปล๊บแล่นไปทั่วร่าง เลือดสีแดงสดกระเด็นออกมาจาก บาดแผลจนไคร้ต้องยกมือขึ้นกุมสีข้างที่โดนฟัน ร่างของผู้ลงมือ ปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้งพร้อมดาบจันทร์เสี้ยวที่เปื้อนเลือด
ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของนักรบตัวดีหรี่ลง สมองของไคร์เริ่ม คำนวณสถานการณ์ตรงหน้า ต้องมองให้เห็นถึงการเคลื่อนที่ก่อน ในเมื่อถ้ามองไม่เห็นการเคลื่อนที่เขาก็จะเหมือนกับคนตาบอดที่ มองวิถีดาบของคนตรงหน้าไม่ออก
“ต้องเร็วกว่านายสินะถึงจะชนะได้” ไคร์เปรยออกมา เร็วกว่าแสง จันทรา…มีเพียงต้องเร็วกว่าแสงจันทร์เท่านั้นถึงจะชนะได้ แล้ว เขาจะทำยังไง!!
ร่างของเดเซนหายไปท่ามกลางสายตาของผู้คนอีกครั้งหนึ่ง และ…
ฉวะ!!!
และความเร็วของนักฆ่าก็ยังดีเยี่ยมเสมอเมื่อแผลอีกแผลหนึ่ง ปรากฏขึ้นบนหัวไหลของไคร้ ส่วนคนลงมือก็กลับไปปรากฏตัวที่ เดิมราวกับว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ขยับไปไหน
ทำไม่ได้ เสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของไคร่เมื่อรู้ถึงฝีมือที่ต่างกัน เจ้าตัวขมวดคิ้วเพราะไม่ชอบใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่เสียเท่า ไหร่
“จบกันแค่นี้ละนะ” เสียงอารมณ์ดีแว่วมาขณะบนใบหน้าของบุรุษ ตรงหน้ายังคงเปื้อนยิ้ม
“ถึงจะสนุกแต่เล่นไปก็เจ็บตัวเปล่าๆ” คนตรงหน้าพูดออกมาแบบ นั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วมันตรงกันข้ามต่างหาก ก็เพราะมีฝ่าย ตนเองลงมืออยู่คนเดียวเขาถึงได้เริ่มจะเบื่อแล้ว เพราะฉะนั้นก็ ควรจะเลิกเล่นเสียที
วูบ…เป็นอีกครั้งที่ร่างของคนตรงหน้าหายไปราวภาพมายา
ฉวะๆๆ!!
และก็เป็นอีกครั้งที่ไคร์หลบไม่พ้น ทว่าดาบที่เข้ามาคราวนี้ทั้ง เร็วกว่าและแรงกว่าเดิมหลายเท่าแถมมันยังต่อเนื่องไม่หยุดเสีย อีก ดาบทุกคาบที่ฟาดฟันเข้ามานั้นเรียกเลือดสีแดงได้ทุกคาบ เช่นเคยเดเซนผละไปยืนที่เดิมอีกครั้งพลางมองไคร์ที่มีบาดแผล เต็มตัว
คนเป็นนักรบกัดปากกลั้นความเจ็บปวดที่ได้รับ อดนับถือในความ อืดของตนเองขึ้นมาไม่ได้ที่ยังไม่ล้มลงไป ถ้าเป็นคนอื่นด้วยดาบ เมื่อครู่คงจะหมดสภาพโดนหามออกจากลานประลองไปแล้ว แต่ การที่โดนไปขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นเหมือนกัน ดูท่าทางเขาเองก็ ต้องเอาจริงขึ้นมาบ้างแล้ว
ใช้หูของนายบเสียงและใช้จิตของนายสัมผัส” เสียงเย็นชา ของใครบางคนดังขึ้นขีดความคิดของเขาทําให้ไคร้หันไปมอง เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเขาจะได้รับคำแนะนำจากเพื่อนคนนี้และก็คิด ไม่ถึงด้วยว่าแม้จะยืนห่างออกไปไกลขนาดนั้นแต่ก็เหมือนได้ยิน เสียงของเพื่อนหนุ่มกระซิบอยู่ข้างหู เจ้าหมอนั่นเล่นใช้เวทย์ส่ง เสียงกระซิบมาหาเขาโดยที่คนอื่นไม่รู้ตัวเลยหรือ จะเก่งกาจไป ไหมเนีย
“มองไม่เห็นไม่ใช่รึไง” เทเชียที่ยืนอยู่ตรงขอบสนามยังคงเอ่ย ขึ้นอีกครั้งหนึ่งแม้ดวงตาสีฟ้ายังคงเรียบเฉยก็ตาม
“ขอบใจ” ใครพูดขึ้นมาเสียงเบาแต่เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายต้อง ได้ยิน ดวงตาสีน้ำทะเลหันไปมองเดเซนใหม่เพราะคราวนี้เขาจะเอาจริงบ้างแล้ว
เทเชียยังยืนมองการประลองด้วยดวงตาสีฟ้าเฉยชาเช่นเคย แม้มันจะสนุกกว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมากก็ตามแต่เขารู้ว่าไม่นานการ ประลองรอบนี้ก็จะจบแล้ว
ไคร์ ซีเวียซา ไม่ใช่นักรบกระจอก ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด เผลอๆ หมอนี่อาจจะมาจากตระกูลนักรบฝีมือดีก็เป็นได้ เจ้าตัวมีฝีมือและ มากไปด้วยพลังแต่น่าเสียดายที่ยังขาดประสบการณ์ บางทีหมอนี่ อาจจะเพิ่งเคยออกเดินทางหาประสบการณ์ของตนเองก็เป็นได้
สิ่งที่เทเชียกระทําไปเมื่อครู่จะเรียกว่าช่วยเหลือก็ไม่เชิงนักต้อง เรียกว่าเตือนสติเจ้าตัวต่างหาก ฝีมืออย่างไคร์หรือจะทำไม่ได้ แต่ เพราะมัวทําเป็นเล่นยังไงล่ะถึงได้เจ็บตัวแบบนั้น
บางทีที่เขาเตือนสติไคร่ไปทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตนเอง ส่วนหนึ่ง อาจจะเพราะเขาอยากจะเห็นท่าทางเพลี่ยพล้ำของนักฆ่าอันดับ ห้า อีกส่วนก็เพราะเหมือน…มันเหมือนเหลือเกิน…เหมือนกับเขา ตอนเด็กไม่ผิด เหมือนกับเขาที่เคยฝึกฝนกับท่าน และท่านตา เหมือนกับตัวเขาในตอนนั้นที่ยังอ่อนประสบการณ์นัก
เด็กหนุ่มรำพึงในใจแต่ก็ยังมองดูเพื่อนที่จะเรียกก็เรียกไม่เต็ม ปากกับนักฆ่าอันดับห้าสู้กันบนลานประลอง ไม่ว่าใครจะชนะก็ได้ ทั้งนั้น เพราะในความเป็นจริงฝีมือของสองคนนั้นก็ยังไม่ถึงขั้น ทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาได้เลยสักนิด
ร่างของเดเซนเริ่มหายไปอีกครั้ง แต่คราวนี้ไคร้หลับตาลงแล้ว เปิดสัมผัสที่เหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ตนเองมองการเคลื่อนที่ของ
อีกฝ่ายให้ออก
หูคอยฟังเสียง
จิตคอยสัมผัส
ฟาว…ดาบถูกส่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและคราวนี้
เห็น!!
เคร้ง…ดาบเพลิงนรกถูกสะบัดออกตั้งรับดาบจันทร์เสี้ยวที่จู่โจม เข้ามาอย่างว่องไว
“เห็นแล้ว” ไคร่พึมพำออกมาเมื่อรับดาบของอีกฝ่ายไว้ได้อย่าง สวยงาม ดวงตาสีน้ำทะเลพราวระยับอย่างยินดีเพราะในที่สุดเขาก็ทำได้
“ขอเอาคืนหน่อยละกัน” ไครพูดออกมาอย่างร่าเริงเมื่อความ มั่นใจที่เคยเสียไปถูกดึงกลับคืนมา เดเซนยิ้มตอบในขณะที่ ดวงตาวาววับขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง ความเบื่อเมื่อครู่ถูกทำลายลงทันที ที่อีกฝ่ายรับดาบจันทร์เสี้ยวของเขาเอาไว้ได้ ชักสนุกขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ…
“ก็เอาสิ” คนทั้งสองเหยียดยิ้ม ดาบในมือถูกกระชับให้แน่นขึ้น เตรียมจะฟาดฟันกันอีกครั้งหนึ่ง
วูบ… ร่างทั้งสองหายไปอย่างรวดเร็ว ดาบเพลิงนรกถูกยกขึ้น หมายล้มอีกฝ่ายให้ราบคาบขณะที่ดาบจันทร์เสี้ยวถูกตวัดหมาย คว้าชัยชนะ
ผู้ชมต่างรอลุ้นกันตัวโก่ง เทเชียยังคงมองภาพตรงหน้านิ่งผิด กับรอยยิ้มหยันที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า นี่คือการวัดกันในดาบ เดียว…ดาบสุดท้ายที่บรรจุพลังทั้งหมดแล้วฟันออกไปสุดแรงเกิด และเป็นดาบสุดท้ายที่ตัดสินว่าแพ้หรือชนะ!!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ