นักรบแห่งมังกร

มังกรตัวที่ 10 : รับน้องมหาโหด



มังกรตัวที่ 10 : รับน้องมหาโหด

เด็กหนุ่มสองคนเดินคู่กันไปอย่างไม่รีบร้อน มังกรน้อยทั้งสองที่ เกาะอยู่บนบ่าดูท่าทางจะสนิทกันมากกว่าเจ้านายที่ได้แต่เงียบซะ อีก ทั้งสองคนเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องที่นัดหมายกันไว้นิด นึ่งก่อนที่เทเชียจะเป็นคนเปิดเข้าไปคนแรก

แอ๊ด…ซู่!!

ดวงตาสีฟ้ากับสีเงินมองทุกคนที่อยู่ในห้องอย่างเย็นชา ไล่ ตั้งแต่เพื่อนร่วมรุ่นที่ยืนตัวเปียกกันเกือบหมดเพราะการแกล้ง เล็กๆน้อยๆของรุ่นนพี่ที่เอาน้ามาวางไว้บนขอบประตูแล้วให้ มันตกลงมาใส่รุ่นน้องเวลาเปิด และเลยไปมองรุ่นพี่ที่ทําหน้า เสียดายเมื่อรุ่นน้องสองคนที่มาใหม่ดันไหวตัวทันกระโดดหลบนํ้า ที่เทลงมาซะก่อน

“นะ…หนาวชะมัด” เสียงบ่นดังมาจากใครคนหนึ่งทําให้ดวงตาสี ฟ้าหันไปมอง คนที่พูดก็คือไคร่นั่นเอง เจ้านักรบตัวดียืนกอดอก หนาวสั่นอยู่ตรงหน้า บนปามีเฟล่าสะบัดปึกเพื่อไล่น้ำอยู่ ไม่ต้อง บอกก็รู้เลยว่าเจ้าหมอนี่ต้องมาก่อนเขาไม่กี่นาทีแน่ๆ เพราะส่วน มากเพื่อนคนอื่นที่มาก่อนนานแล้วก็จะใช้เวทมนตร์จัดการให้ เสื้อผ้าของตนเองแห้งจนหมด

อัศวินแห่งรัตติกาลกวาดดวงตาสีเพลิงมองพวกรุ่นพี่อย่างไม่ ชอบใจเพราะเมื่อครู่ พวกนั้นเกือบจะโดนนายน้อยของมันไป แล้ว
เอาละ มากันครบแล้วก็เริ่มเลยแล้วกัน” เสียงรุ่นพี่เอน่ากล่าว ออกมาทำให้รุ่นพี่ทุกคนเดินเข้ามายืนล้อมรุ่นน้องเอาไว้แล้วจับ มือกัน ดวงตาของรุ่นพี่ทุกคนหลับลงพร้อมกับเสียงที่เปล่งออก มาดังก้อง

“ดราก้อนคือหนึ่งเดียว!!!

วาบ… แสงสว่างหายไปแล้ว ทุกคนยังคงยืนอยู่กันครบเหมือน เดิมทว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือบรรยากาศรอบๆตัวที่ตอนแรกเป็น ห้องแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นป่าโปร่ง ดวงจันทร์กลมโตทอแสง อยู่บนฟากฟ้า ดวงตาสีฟ้าหันไปมองรอบตัวด้วยความหวาดระแวง เหมือนดวงตาของทุกๆคน เช่นเดียวกันเหล่ามังกรน้อยที่เกาะอยู่ บนบ่าก็หันไปมองรอบๆอย่างระวังให้กับเจ้านาย

“เอาละน้องๆหันมาฟังกันก่อนนะ” รุ่นพี่ราฟพูดขึ้นท่ามกลาง ความเงียบ

“หน้าที่ของทุกคนก็คือการหาทางออกจากบ้านให้ได้โดยออก ไปให้ครบทุกคน” ดวงตาสีฟ้าหรี่ลงเพราะรู้อยู่หรอกว่ามันไม่ได้มี แค่นี้

“จะใช้มังกร เวทหายตัวหรือหลอกตัวในระพวกพี่ได้กางม่านพลังควบคุมเอาไว้แล้ว” คนเป็นรุ่นพี่เสริมและ นั่นเรียกสีหน้ายุ่งยากจากพวกรุ่นน้องแต่ละคนได้ดี การวางกาง ม่านพลังแบบนี้ของรุ่นพี่เท่ากับว่าพวกเขาจะหาทางออกโดยการ บินออกไปไม่ได้

“ขอให้โชคดีละกัน และอย่าได้ลืมว่าดราก้อนคือหนึ่งเดียว… มันเป็นคำพูดของรุ่นพี่เฟร้งค์ก่อนที่ร่างของรุ่นพี่ทุกคนจะหายวับ ไปกับตา

เหล่ารุ่นน้องทุกคนซึ่งถูกทิ้งเอาไว้ใจกลางป่าได้แต่มองหน้า กันเอง ต่างคนต่างไม่กล้าตัดสินใจและต่างคนต่างไม่กล้าที่จะ ไว้ใจกันและกัน พวกเขามาจากหลากหลายที่จึงไม่แปลกเลยถ้า จะไม่มีความเชื่อใจกันเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาสีฟ้าสวยเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี รอยยิ้มหยัน ถูกคลื่ออก เขาเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่คิดจะเชื่อใจใครที่อยู่ที่นี่และ ไม่คิดจะพึ่งพาพลังของใครด้วยนอกจากของตนเอง มือข้างหนึ่ง ของเทเชียถูกสะบัดออกไปข้างลำตัวเพื่อเรียกมีดสั้นที่เก็บซ่อน อยู่ตามร่างกายออกมา

“จะทำอะไร” คำถามเสียงเย็นดังขึ้นจากคนที่อยู่ข้างกาย ดวงตา สีเงินหรี่ลงอย่างจับผิด

“ทดสอบม่านพลัง” ตอบคําถามด้วยน้าเสียงราบเรียบพร้อมมีด ในมือที่ถูกยกขึ้นและถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนฟากฟ้ายามราตรีอย่างรวดเร็วโดยที่คนถามก็ห้ามไม่ทัน

เปรียะ!!

แต่มีดสั้นเล่มนั้นกลับถูกขวางไว้ด้วยม่านพลังที่รุ่นพี่รวมใจกัน สร้างขึ้น แรงปะทะของมีดสั้นที่ถูกเหวี่ยงขึ้นไปด้วยความแรงกับ ม่านพลังของรุ่นพี่แผ่ขยายออกมาจนทุกคนสัมผัสได้ สุดท้าย…

วูบ…ฉีก!!

พลังมหาศาลดีดมีดสั้นเล่มนั้นกลับคืนมาสู่เจ้าของ และคมมีด นั่นก็ปักลงบนพื้นดินตรงหน้าของเด็กหนุ่มหน้าหวานจนมิดด้าม ทําให้เด็กหนุ่มผมฟ้าก้มลงไปเก็บมีดของตนเองขึ้นมาแล้วสาย หน้า

พลังของรุ่นพี่ทุกคนที่หล่อหลอมม่านพลังนี้ขึ้นมาไม่ได้ทำให้ เขาหนักใจเลยแม้แต่น้อย เขาสามารถทําลายม่านพลังออกไป ได้ทุกเมื่อ แต่เขายังไม่ทำเพราะรู้ดีว่าการรับน้องครั้งนี้ไม่ได้จัด ขึ้นมาเพื่อความสนุกของรุ่นพี่เพียงอย่างเดียว แต่มันจัดขึ้นมา เพื่อให้เพื่อนที่อยู่ตรงนี้ทุกคนเรียนรู้กันและกัน

เอาเถอะ…ถึงเขาคิดว่าสุดท้ายตนเองก็คงไม่สามารถเชื่อใจใคร ที่นี่ได้ แต่ตอนนี้เขาจะตามน้ำไปก่อนก็แล้วกัน
“แล้วอย่างนี้จะทำยังไงดีล่ะ” เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น เขา คือคราวน์ เฟเดอร์นักเวทแห่งเลก ดวงตาของเขามองไปยัง ท้องฟ้าก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนทุกคน

“เป็นผู้ชายก็อย่าบ่นน่า” เสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ดวงตาสีทองสวยตัดกับผมสีส้มของเจ้าตัว เคลีน คาเดนผู้วิเศษ แห่งเฟริส

เมื่อพิจารณาคนทั้งสองเสร็จแล้วดวงตาสีฟ้าก็เลื่อนไปมองผู้ หญิงอีกสองคน คนแรกมีความมั่นใจในตัวเองสูงและดูเข้มแข็ง ไปในตัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นฉายแววไม่พอใจ ผมสีน้ำตาล อ่อนถูกมัดรวมอยู่ด้านหลัง

ส่วนผู้หญิงคนสุดท้ายเป็นคนสวยและดูน่ารักอ่อนหวาน ดวงตา สีนํ้าทะเลคล้ายๆไคร่เข้ากันได้ดีกับผมสีน้าเงินเข้มของเจ้าตัว

“แล้วพวกผู้หญิงล่ะทําอะไรบ้าง” เสียงกวนประสาทดังมาจากฝั่ง ชายอีกคน เขาคือ บัส เซย่านักรบแห่งเคเซน

ไคร์มองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างนึกสนุกเหมือนฟ็อกที่อยู่ บนบ่าของเทเชีย อันที่จริงเพื่อนแต่ละคนที่อยู่ที่นี่ไม่ได้ดูกังวล มากมายอย่างที่คิด การเข้ามาที่นี่ได้แปลว่าพวกเขาต้องมีฝีมือกัน อยู่แล้วเพียงแต่พวกเขายังไม่อยากงัดเอาฝีมือของตนเองออกมา โชว์ตอนนี้เพราะพวกเขายังไม่ไว้ใจกันนั่นเอง

เฟี้ยว…เสียงมีดสั้นในมือแหวกอากาศดังมา มันผ่านหน้าของ บุคคลที่ทะเลาะกันไปอย่างรวดเร็วจนทั้งสองได้แต่เบิกตากว้าง มันเร็วเสียจนมองไม่เห็น ที่พวกเขาสัมผัสได้ก็มีเพียงสายลมที่ ปะทะเข้าใบหน้าตอนที่มีดเล่มนั้นผ่านไปเท่านั้นเอง

“หนวกหู” เสียงเย็นชนิดจะแช่แข็งคนดังขึ้น เทเชียไม่ชอบเสียง น่ารำคาญเหล่านั้นเพราะมันไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ตอนนี้ดีขึ้น เลยแม้แต่นิด ในเมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอทางแก้ปัญหาดีๆก็คงมี แต่ต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น อันที่จริงแล้วสุดท้ายไม่ว่าทุกคนจะ เสนออะไรขึ้นมาเทเชียก็จะแค่รับฟัง แต่จะปฏิบัติตามหรือไม่นั่นก็ อีกเรื่องหนึ่ง

“ฟ็อกคืนร่าง” เด็กหนุ่มเอ่ยสั่งมังกรของตน อัศวินแห่งรัตติกาล ร้องตอบกลับก่อนร่างของมันจะกลับมามีขนาดใหญ่เหมือนเดิม

“เฟสคืนร่าง” เจ้าชายคนข้างๆเอ่ยสั่งมังกรน้ำแข็งของตน เหมือนกัน เมื่อมังกรทั้งสองกลับมามีขนาดเท่าเดิมเจ้าของทั้ง

สองก็กระโดดขึ้นหลังของพวกมันทันที

“สูงขึ้น” ทั้งคู่สั่งพร้อมกันทำให้มังกรทั้งสองรีบปฏิบัติตาม
“นายจะเลียนแบบทำไม” เทเชียถามออกไปอย่างหงุดหงิด ที่ เธอสั่งมังกรให้บินขึ้นเพราะยังติดใจสงสัยกับคําพูดของรุ่นพี่ มีด สั้นเมื่อครู่ยังถูกเหวี่ยงขึ้นไปตั้งไกลกว่าจะถูกม่านพลังสกัดเอาไว้ แสดงว่ามีช่องว่างกับพื้นและม่านพลัง ดังนั้นก็น่าจะยังสามารถ ใช้มังกรบินได้

“ฉันน่าจะถามนายมากกว่า” เสียงเย็นเอ่ยโต้กลับแทบจะทันที

“เทเชียใช้มังกรบินไม่ได้นะ” ไคร้ตะโกนบอกเพราะยังจำคำพูด ของรุ่นพี่ได้

“ดูสิ” เด็กหนุ่มหันกลับมาสั่งคนถามอย่าง กหงุดหงิด มังกร สองตัวบินขึ้นกือบจะพ้นป่าอยู่แล้วทำเอาเพื่อนแต่ละคนได้แต่งง ทำไมม่านพลังไม่ทำงาน?

เทเชียเงยหน้าขึ้นเพราะสัมผัสได้ถึงม่านพลังที่อยู่ใกล้เพียงแค่ เอื้อม เจ้าตัวสะบัดข้อมือพร้อมมีดสั้นที่ถูกนำออกมาอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่ม มีดสั้นในมือก่อนจะแทงมันเข้าหาม่านพลัง

เปรี๊ยะๆๆ!!

เสียงม่านพลังเริ่มทำงานเหมือนอย่างเคย เมื่อระบุตำแหน่งของ ม่านพลังได้อย่างชัดเจนเด็กหนุ่มจึงรีบชักมือกลับแต่มันช้าไปซะแล้ว

วูบ…พลังจากม่านพลังกระแทกโจมตีใส่เทเชียกลับมาทันที ร่าง ของเด็กหนุ่มผมฟ้ากระเด็นจากหลังของฟ็อกอย่างรวดเร็ว ร่าง บางดิ่งพสุธาอย่างน่าหวาดเสียวท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของ เพื่อนทุกคนที่เตรียมร่ายเวทเพื่อรับร่างของเพื่อนที่ตกลงมา ฟี อกกรีดร้องเสียงดังก่อนจะจะทะยานตามนายน้อยของมันไปติดๆ เทเชียมองพื้นที่อยู่ข้างหน้า ถ้าตกลงไปบอกคําเดียวว่า

ไม่มีทางรอดแน่!!!

เด็กหนุ่มยื่นมือขวาออกไปข้างหน้าเพื่อจะร่ายเวทมนตร์ออกมา ช่วยชีวิตของตนเอง ต่อให้เพื่อนคนอื่นจะกำลังใช้เวทมนตร์เพื่อ ช่วยชีวิตของเขาอยู่แต่เขาก็ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แต่ยังไม่ทันท่อง มนตร์อะไรออกมา

ตบ…ร่างบางของเทเชียกลับตกอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคน ดวงตาสีเงินเย็นเยียบของผู้ช่วยเหลือฉายแววไม่เข้าใจการกระ ทำของตนเอง ส่วนดวงตาสีฟ้าฉายแววแปลกใจการกระทำของ บุรุษผู้ทรงมังกรน้ำแข็ง

ทุกคนได้แต่ยืนอึ้งเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าคนเย็นชาอย่างเจ้า ชายแห่ง เวียคนนี้จะยอมยื่นมือเข้ามาช่วยใครง่ายๆ โดยเฉพาะ ช่วยคนที่เป็นคู่แข่งและคู่กัดของเขา
ภาพตรงหน้าคงน่ารักน่าดูหากมันจะเปลี่ยนผู้ชายสองคนเป็น หนึ่งหญิงหนึ่งชาย เด็กหนุ่มออกแรงดิ้นให้คนตัวโตปล่อยและ เมื่อลงมายืนบนหลังเฟสได้แล้วเทเชียก็รีบกระโดดไปยืนอยู่บน หลังของอัศวินแห่งรัตติกาล ดวงตาสีฟ้าเรียบเฉยแม้หน้าจะขึ้น สีหน่อยๆก็ตาม เด็กหนุ่มสลัดความคิดออกจากหัวก่อนจะหันมา สนใจสถานการณ์ตรงหน้า

“อันตรายเกินไปถ้าหากจะบินเหนือยอดไม้” เด็กหนุ่มผมฟ้าบอก กับทุกคนหลังจากตนเองได้ระบุตำแหน่งม่านพลังของรุ่นพี่ได้ อย่างชัดเจนได้

“งั้นก็เหลือแต่เดินน่ะสิ” ผู้หญิงผมน้ำตาลถามออกมาพลางมอง ผืนป่าที่มืดมิดด้วยความเป็นกังวล

“ไม่เราจะใช้มังกร” เทเชียบอกเพื่อนเสียงเรียบ ดวงตาคู่สวยหุ้น ไปมองป่ารอบข้างอย่างพิจารณา

“นายหาทางออก” เทเชียโยนภาระให้เซอัสทันที ดวงตาสีเงินๆ ฉายแววไม่พอใจขึ้นมาแวบนึงก่อนจะจางหายไป ร่างสูงที่ยื่นอยู่ บนหลังเฟสดูสง่างามและทะนงตน เลือดของกษัตริย์นักรบฉาย ออกมาทางการกระทำอย่างชัดเจน คนเป็นเจ้าชายหลับตาลงแล้ว กล่าวถ้อยคำทรงอำนาจออกมา

“วายุและธรณีจงฟังข้า หาทางออกจากพงไพรแล้วนำทางข้า!! ดั่งรับบัญชา ปฐพีถึงกับสั่นสะเทือนในขณะที่สายลมเริ่มทวีความแรงขึ้นเพื่อตอบสนองกับความต้องการและอำนาจ ของผู้ใช้เวทมนตร์ เพียงไม่นานแผ่นดินที่สั่นสะเทือนก็สงบลง ในขณะที่สายลมซึ่งเคยพัดกระโชกกลับกลายเป็นสายลมเบาๆ เท่านั้น

“ทางนั้นเป็นทางเดียวที่จะออกจากป่า” เสียงเย็นเอ่ยขึ้นเมื่อได้ ข้อมูลทุกอย่างจากพื้นดินและสายลม

“แต่ต้องผ่านถ้าออกไป” เซอัสพูดต่ออีกครั้งพลางขมวดคิ้ว เพราะมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลย

“ใครบังคับมังกรในป่าไม่เก่งบ้าง” เสียงเรียบของเด็กหนุ่มหน้า หวานถามออกมาขณะที่ดวงตาสีฟ้ากวาดมองทุกคน แต่ก็ไม่มีใคร สักคนที่ยกมือขึ้น เมื่อเห็นดังนั้นเด็กหนุ่มผมฟ้ากระโดดขึ้นมังกร ของตนเอง

“ตามใจ จะขี่ไปเองก็รีบทำขนาดมังกรให้เท่าเดิม” ทุกคนรีบทำ ตามคําสั่งของเทเชียทันที เมื่อทุกคนพร้อมแล้วฟ็อกก็กางปีก ก่อนจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คนข้างหลังมอง กันอย่างใบรับประทาน

อะไรมันจะเก่งขนาดนั้น!!

แต่ยังทันสิ้นสุดความคิดดี มังกรของใครบางคนก็พุ่งทะยานออก ไปด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กันเลยสักนิด มันทำให้พวกที่ถูกทิ้งต้องรีบกระโดดขึ้นมังกรตามออกไปพร้อมกับคิดในใจ ไอ้พวก เก่งเกินมนุษย์เอ้ย!!

ในผืนป่าที่มืดมิดจนแทบจะมองไม่เห็นช่างเป็นอุปสรรคสำหรับ การเดินทางเสียจริง แต่ถึงกระนั้นเจ้าชายที่ขี่มังกรน้ำแข็งนำทาง พวกเขากลับไม่ได้รับความยากลำบากนั้นเลยสักนิด นอกจากไม่ ได้รับความกระทบจากความมืด ต้นไม้มากมายที่ขึ้นเบียดเสียดกัน ก็ไม่ได้ทำให้ความเร็วของมังกรน้ำแข็งลดลงไปเลย อุปสรรคเลย ตกอยู่ที่เหล่าเพื่อนที่ขี่มังกรตามหลังเสียมากกว่า เพราะนอกจาก จะต้องหลบหลีกต้นไม้ให้พ้นยังต้องพยายามตามความเร็วของ มังกรน้ำแข็งที่แทบเป็นที่สุดในเรื่องของความเร็วอีกต่างหาก แต่ เพื่อนที่ว่าคงไม่รวมคนข้างๆของเซอัสในตอนนี้ไปด้วยแน่ๆ

“ไอ้ขี้เก๊ก เมื่อไหร่จะถึงถ้ำ” เสียงเรียบแต่กวนประสาทในความ คิดของคนเป็นเจ้าชายที่สุดดังขึ้น ดวงตาสีฟ้ายังคงมองไปข้าง หน้า

“ไม่ไกลมาก” เสียงเย็นตอบกลับอย่างตัดปัญหาเพราะในตอนนี้ เขาไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะกับคนที่กำลังขี่อัศวินแห่งรัตติกาล อยู่ข้างๆเสียเท่าไหร่

กรีซ… เสียงร้องของมังกรตัวหลังสุดดังขึ้นทำให้ดวงตาสีฟ้ากับสีเงินหันมาสบกัน เทเชียถอนหายใจก่อนบังคับฟ็อกให้ ย้อนกลับไปข้างหลังเพราะเขารู้ว่ามีเพียงเขาที่ทำได้ในเมื่อเซอัส ในตอนนี้ยังต้องเป็นคนนำทาง

“มีอะไร” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ ดวงตาสีฟ้ายังคงเฉยชา ขณะอัศวินแห่งรัตติกาลลดความเร็วตีเสมอมังกรพฤกษาที่ร้อง ออกมาเมื่อครู่

“เดมแค่เหนื่อยเท่านั้นเองแหละครับ” เด็กหนุ่มผมม่วงตอบอย่าง สุภาพ ดวงตาสีเดียวกันนั้นกำลังมองมังกรของตนอย่างห่วงใย มังกรพฤษาไม่ใช่มังกรที่จะบินเร็วได้ขนาดนี้ ที่ฝันบินมานาน ขนาดนี้ก็ใกล้ขีดจำกัดของมันเต็มทีแล้ว

“งั้นมาขึ้นหลังฟอก” เสียงเรียบเอ่ยบอกอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ เสียเวลา

*รบกวนหน่อยนะครับ” พูดจบเด็กหนุ่มก็กระโดดมายืนบนหลัง อก มังกรพฤกษาค่อยๆย่อขนาดเป็นตัวเล็กแล้วรีบบินมาเกาะไหล่ คนเป็นเจ้านาย

“ผมเคน ว่าเป็นนักบวชแห่งเฟริสครับ” คนข้างหลังแนะนำ ตัวเองออกมาตามมารยาท มานั่งมังกรคนอื่นเขาแล้วถ้ายังไม่ แนะนําตัวเองก็คงจะเกินไปหน่อย ก็ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานคน นี้จะอยากรู้ชื่อเขาไหม แต่ยังไงก็ยังต้องเรียนด้วยกันอีกนาน เป็น มิตรกันย่อมดีกว่า
เด็กหนุ่มผมฟ้าพยักหน้าให้ เฟริสเป็นประเทศแห่งนักบวช แต่ก็ ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเป็นนักบวชไปเสียงหมดหรอก ดูอย่างไครสมา จากเฟริสแต่ยังเป็นนักรบได้เลย ที่นั่นเพียงแค่ขึ้นชื่อเรื่องนักบวช เท่านั้น

“จับดีๆ” เสียงเย็นเอ่ยสั่งก่อนบังคับฟ็อกให้พุ่งไปข้างหน้าด้วย ความเร็วที่ไม่ธรรมดา

“คุณเทเชียครับเร็วไปแล้ว” เคนร้องเสียงหลงแข่งกับสายลง รอบตัว ช่วยไม่ได้มังกรของเขาไม่ได้เร็วขนาดนี้นี่

“จับให้แน่นฉันจะเร่งให้ทันตัวหน้า!!” เสียงเรียบตอบกลับ ดวงตา สีฟ้าเย็นเยียบมองไปรอบๆ พื้นตรงนี้เป็นเหมือนหน้าผาที่ชัน มาก ทางด้านบนจะเป็นภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยก้อนหิน เด็กหนุ่มผม ฟ้ามองมังกรน้ำแข็งที่นำมังกรทุกตัวบินไปใกล้ถ้ำมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงที่เกิดจากปีกของพวกมังกรข้างหน้ายังดังมาให้ได้ยินเป็นระ ยะๆ

ตูม…เสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านบนทำให้เจ้าแห่งเวหาทุกตัว ตกใจและกรีดร้องออกมาดังลั่นแต่เทเชียก็ยังบังคับฟ็อกให้บินต่อ

ครืน…ตึงๆๆ!!

หินก้อนยักษ์ที่อยู่บนสุดของถ้ำถึงกับสั่นคลอน ก่อนมันจะกลิ้งตกลงมาตามทางลาดชันใส่มังกรทุกตัวที่อยู่ใกล้

“ระวังเดลึน!!!” บัสตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นว่าวิถีของก้อนหินนั่น พุ่งเข้าใส่เด็กสาวจังๆ

“เคนจับแน่นๆ” เทเชียหันไปสั่งคนข้างหลัง ฟ็อกเพิ่มความเร็ว ขึ้นไปอีกจนเด็กหนุ่มและมังกรพฤกษาที่อยู่ด้านหลังถึงกับอ้าปาก ค้าง แต่สิ่งที่ทําให้แปลกใจสุดๆคือร่างของคนบังคับที่ลุกขึ้นยืน อย่างไม่กลัวตก มือข้างหนึ่งยื่นไปข้างหน้า

“จงทะยานขึ้นไป!! มังกรทะยานฟ้า!!” แสงสีขาวพุ่งออกจากมือ เด็กหนุ่มก่อนมันจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นมังกรฟ้าไร้ปีกตัวยาวเฟื้อย มังกรตัวนั้นอ้าปากกว้างก่อนจะร้องออกมาดังลั่นพร้อมร่างของ มันที่พุ่งชนหินก้อนยักษ์จนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

เซอัสที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดคลายลูกพลังในมือของตนเอง ออกเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างดูจะสงบลงแล้ว เมื่อครู่ถ้าเทเชียไม่ ลงมือเขาก็จะเป็นคนลงมืออยู่แล้ว

“ขอบคุณที่ช่วย” เดลีนกล่าวออกมาเมื่อเธอและมังกรของเธอ รอดจากการโดนหินถล่มทับไปอย่างหงวุดหวิด

“ฉันไม่ได้ช่วยเธอ” เด็กหนุ่มตอบเสียงเย็น
“แต่ถ้าขาดเธอไปสักคนการรับน้องก็จะไม่ผ่าน” พูดจบอัศวิน แห่งรัตติกาลก็บินแซงหน้ามังกรแสงของเคลีนไปอย่างไม่สนใจ ว่าคำพูดของตนเองจะกระทบใจคนฟังและเพื่อนที่ได้ยินยังไง

“เร็ว เราใกล้จะถึงแล้ว” เสียงของเคเว็น ซีล่าพ่อมดแห่งเนย่า กระตุ้นเตือนเพื่อนที่เหลือแล้วเร่งมังกรนภาของตนให้เข้าไปใน ถ้ำเพื่อตามมังกรน้ำแข็งและอัศวินแห่งรัตติกาลที่เข้าไปก่อนแล้ว ให้ทัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ