ชายาเย่อหยิ่ง ท่านอ๋องร้อนรัก

บทที่1 ความวุ่นวายในวันแต่งงาน



บทที่1 ความวุ่นวายในวันแต่งงาน

ในขณะที่สงครามเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ประชาชนต่าง ระสาระสายแยกย้ายไปคนละทิศ ทั่วทั้งแผ่นดินเต็มไป ด้วยความวุ่นวาย คำพวกนี้ดูเหมือนไม่มีความเกี่ยวข้อง อะไรมากมายกับพระราชวัง

ประเทศจื่อเชอ ปีที่11พระราชวงศ์รุ่ยเฟิง องค์รัชทา ยาทหญ่หวินจิ่นเฉินจัดงานแต่งงานครั้งใหญ่ ทั้งประเทศ เฉลิมฉลองด้วยความรื่นเริง ครึกครื้นราวกับว่าทุกคนได้ รับการรักษาแผลจากยาดีก็ไม่ปาน

โคมไฟสีแดง ผ้าแดง กระโปรงสีแดง ก้อนอิฐแดง กําแพงสีแดง แม้กระทั่งแก้มของนางกำนัลก็ยังสีแดง ใน พระราชวังต่างยุ่งเหยิง ใบหน้าของทุกคนเต็มเปี่ยมไป ด้วยสีหน้าที่เบิกบานใจ หากไม่รู้ก็คิดว่าแต่งออกเรือนไป พร้อมกันหมด

แต่ทว่า มีประโยคหนึ่งที่ถูกพูดเอาไว้อย่างดีว่า เรื่องราว ทุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่ามีทั้งคนที่ชอบมีทั้งคนที่ไม่ ชอบ นี่ไม่ใช่ หย่งกงกงคนรับผิดชอบทั้งหมดของการจัด งานรื่นเริงครั้งนี้ ยืนหน้าเครียดอยู่ข้างหน้าวังจวนสวน กำ มือทั้งสองแน่น สั่นอย่างไม่หยุด สอดส่องไปยังสี่ทิศของ การตกแต่งวังจวนสวน บางครั้งก็ออกไปมองประตู ราวกับ กำลังรอใครอยู่อย่างนั้น
ไม่นานนัก ขันทีคนที่ให้ออกไปสืบข่าวก็วิ่งเข้ามาจาก ข้างนอก เมื่อกำลังจะทำความเคารพหย่งกงกง กลับถูก ขัดไว้ แล้วรีบถาม

“มีข่าวคราวอะไรบ้างหรือไม่?”

ขันทีคนนั้นถูกสีหน้าท่าทางของหย่งกงกงทำให้ตกใจ ส่ายหัวไปมาอย่างวุ่นวาย ไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองเขา

เพียงครู่เดียวหย่งกงกงก็ยืนแทบจะไม่ตรง เกือบจะล้ม ลงไปบนพื้น ยังดีที่ขัน เด็กคนนั้นตาไวมือไวรับตัวเขาไว้ ได้ทัน

แย่แน่แย่แน่! นี่มันวันงานแต่งงานขององค์รัชทายาท แต่ กลับไม่รู้ว่าองค์ชายเจ็ดหมู่หวินเจี่ยนหายไปไหน ถึงแม้ จะพูดได้ว่าในทุกๆ วันองค์ชายเจ็ดจะชอบเดินเล่นไปทั่ว ทุกทีก็ตาม แต่ทว่าให้ขันทีเพียงไม่กี่คนออกไปตามหาก็ หาพบ แต่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นอะไร กลับกลายเป็นว่าจะตาม หาอย่างไรก็หาไม่พบ หันกลับไปบอกให้ขันทีเด็กออกตา หาต่อไป

หย่งกงกงประคองเสาแล้วค่อยๆ ยันตัวเองขึ้นยืน เขา เพียงแค่คิดถึงสีหน้าของเหยียนกุ้ยเฟย แค่ครู่เดียวก็รู้สึก ว่าหัวใจดวงน้อยน่าจะรับไม่ไหว ตกใจจนเหงื่อออกทั่วทั้ง ร่างกาย
พลบค่า กับแสงสีทองอ่อนๆ รับกับความมืดที่ค่อยๆ เข้า มา

หย่งกงกงดูราวกับหินมองสามีก็ไม่ปาน โมโหจนหน้าคว่ำ รอข่าวคราวอยู่นอกพระราชวังจวนสวน สายตาก็มองไป ยัง หย่งกงกง นั่งแทบไม่ติดพื้น วิ่งวุ่นเรียกขันทีและนาง กํานัลที่เสร็จภารกิจหน้าที่ตัวเองแล้ว ออกคำสั่งให้พวก เขาไปหาตามวังต่างๆ และสวนดอกไม้

“วันนี้ ถึงแม้ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินก็ต้องหาองค์ชายเจ็ด ให้เจอ มิฉะนั้นใครก็อย่าหวังว่าจะรอด!

เมื่อได้ฟังประโยคดังกล่าว ทุกคนต่างพากันวิ่งวุ่นออก ไป ออกตาหามกุฎราชกุมารอย่างระมัดระวังหัวที่จะหลุด ออกจากบ่าได้ทุกเมื่อ

ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าองค์ชายเจ็ดไปที่ใด มากไปกว่านั้น ไม่มีใครออกไปตามหาที่ที่ในตอนกลางวันเสียงดังอึกทึก หนวกหู ตอนกลางคืนเงียบสงบอย่างเรือนซักผ้าแห่งนี้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเรือนซักผ้าเมื่อถึงตอนกลางคืนนั้นมัก สงบเงียบจนน่ากลัว แต่ทว่าคืนนี้เสียงหายใจเบาๆ นั้น ใน สวนดอกไม้ข้างๆ เรือนซักผ้า กลับได้ยินอย่างต่อเนื่องทั้ง คืน

ค่ำคืนอันมืดมิด ห่างจากต้นไม้สีเขียวชอุ่มลึกลงไป ในที่ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ในตอนกลางคืนราวกับคละเคล้าไปด้วยกลิ่นหอม ราวกับโอบล้อมไปทั่วแขนเล็กที่ขาว ราวกับรากบัว เหมือนกับกำลังส่องแสงยั่วยวน

เส้นผม านรับบนพื้นที่กระจัดกระจาย เมื่อเทียบกับ สีผิวที่ยิ่งขาวราวจะส่องแสง เหมือนกับไข่มุกที่มันวาว ทำให้อีกคนทนไม่ไหวอยากเข้าใกล้ดอมดม ผู้ชายที่อยู่ บนตัวนัยน์ตาแสดงถึงความคลุมเครือไม่ชัดเจนและไม่ อาจรู้ถึงความหมายได้ ในตอนสุดท้ายก็ลดลงต่ำมอง ไปยังร่างกายของเด็กสาว ตามด้วยเสียงใสราวกับเด็ก แรกเกิด หยดน้ำตาใสพลั่งพลูมาจากแก้มทั้งสอง ใต้แสง พระจันทร์ราวกับลูกแก้วใส ค่อยค่อยเลือนรางไปกับคืนที่ ยาวนาน

แต่ทว่า เด็กสาวรับรู้ว่าเขาก็แค่เมาแล้ว คิดแค่ว่าตัวเอง เป็นคนอื่นก็เท่านั้น ดังนั้น เธอก็แอบๆ วิ่งออกไป

หลังจากนั้น หย่งกงกงก็ตามมา เห็นเพียงแค่ดอกไม้ที่ ถูกทับอยู่นาน เหลือเพียงชายผู้ที่นั่งท่ามกลางแสงจันทร์ ภายใต้ต้นไทร สีหน้าท่าทางที่เหมือนอยู่ในอาการเมา ราวกับกับกำลังนึกรสชาติที่ได้สัมผัสมาไม่นานนี้ เสื้อผ้า ของเขาก็เหมือนถูกพาดไปอย่างไม่สนใจอะไร สีหน้ายัง คงแดงระเรื่อ และพื้นข้างๆ ที่เต็มไปด้วยเศษผ้า ราวกับว่า เพิ่งผ่านเรื่องอะไรมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ