ชายาเย่อหยิ่ง ท่านอ๋องร้อนรัก

บทที่ 20 คนรับใช้



บทที่ 20 คนรับใช้

บทที่ 20 คนรับใช้

หลังจากลั่วหยุนเดินจากไป ซุนกงกงก็รีบเปิดถุงทอง นับ ทองที่อยู่ด้านใน แล้วมองดูด้วยความโลภ

ข้ากําลังคิดว่าควรจะมอบกำไลหยกสีขาวให้แก่เขาดี ไหม ทันใดนั้นดูเหมือนว่าซุนกงกงจะสังเกตเห็นข้าแล้ว เขาทําท่าเหมือนเห็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง เดินเข้ามา หาข้าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“นี่มันแม่นางหมอชิงมิใช่หรือ”

ซุนกงกงพูดด้วยท่าที่คุ้นเคย และเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือ ของข้า ก็ยิ่งยิ้มมากขึ้น เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

ข้ารีบคารวะเขา ซุนกงกงผู้นี้เป็นคนโปรดของหมู่หวิน เจียน หลายคนไม่ต้องไหว้พระสวดมนต์ขอพร ขอเพียง แค่นำเงินมาให้เขา ก็สามารถจัดการปัญหาได้มากมาย

“คารวะ นกงกง”

ข้ากำลังครุ่นคิดด้วยความเครียด ว่าควรจะนำของในมือ มอบให้แก่เขาดีไหม
“แม่นางหลอชิงจะไปไหนหรือ?” ซุนกงกงตั้งใจถาม สายตามองของที่อยู่ในมือข้าอย่างไม่วางตา

เมื่อคิดได้ ข้าจึงรีบนำกําไลมาสวมข้อมือไว้

ซุนกงกงไม่เข้าใจในสิ่งที่ข้าทำ ทำท่าทางผิดหวังเล็ก น้อย เดิมทีคิดว่าข้าจะนำของมีค่ามามอบให้แก่เขา ไม่คิด ว่าอยู่ดีๆข้าจะนำกำไลหยกสีขาวมาสวมที่ข้อมือตัวเอง

“อ๋อ พอดีว่าช่วงนี้ท่านประมุขหงถงมีปัญหานิดหน่อย เจ้าค่ะ” ข้ามองไปที่เขา จึงได้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความ ปรารถนาที่จะฟังอีกต่อไป

ข้าจึงรีบพูดเสริมว่า “ไม่ใช่ว่าข้าน้อยโลภ เพียงแต่ข้า น้อยช่วยท่านประมุขหงถงจัดการกับปัญหาเล็กน้อย เท่านั้น นางก็มอบกําไลหยกสีขาววงนี้ให้แก่ข้าน้อยเพื่อ เป็นการตอบแทนแล้ว”

ความหมายโดยนัยของสิ่งที่ข้าพูด ข้าอยากให้ซุนกงกง รู้ได้โดยธรรมชาติว่า ในเมื่อจัดการปัญหาเล็กน้อยยังได้ ค่าตอบแทนมากมายขนาดนี้ แล้วถ้าหากจัดการปัญหา ใหญ่ได้เล่า..….……

พอซุนกงกงได้ฟัง ก็กลับมามีสติอีกครั้ง
“ท่านประมุขหงถงประสบปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ?”

ข้ามองเขาอย่างลำบากใจ แล้วก็หันมองไปรอบๆ พอ แน่ใจว่าไม่มีคนจึงพูด

“เรื่องขององค์ชายเจ็ดเจ้าค่ะ”

ถึงแม้ข้าจะไม่ได้พูดชัดเจนนัก แต่ซุนกงกงกลับเข้าใจ อย่างชัดเจน เรื่องของผู้หญิงในวังแห่งนี้ ก็คงหนีไม่พ้น เรื่องของการแย่งชิงความรักความโปรดปรานหรอก

“แม่นางหลอชิง เจ้าคิดว่าหากข้าช่วยท่านประมุขหงถง จัดการกับปัญหานี้ได้ละก็.………….

ซุนกงกงหยุดพูด แล้วมองมาที่ข้าอย่างละโมบ

ข้ากัดปาก มองกำไลที่อยู่ในมือด้วยความเสียดาย

“ไม่เพียงแต่ท่านประมุขหงถงเท่านั้นที่จะมีรางวัลใหญ่ ให้ ข้าน้อยเองก็……” ข้ามองไปที่กำไลอีกครั้ง “ข้าน้อย เองก็ขอมอบกําไลหยกสีขาวนี้ให้แก่กงกงด้วย”

เมื่อซุนกงกงได้ยิน เขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข แล้วพูดว่า “แม่นางกลับไปรอฟังข่าวดีเถอะ”
พูดจบ เขาก็เดินหายไปอย่างรวดเร็ว

ข้ารีบถอดกำไลออกจากมือ แล้วซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อ

ข้าถอนหายใจหนึ่งครั้ง ไม่รู้ว่าวิธีของข้าจะได้ผลหรือไม่

ถ้าหากมอบกําไลให้ซุนกงกงไปตรงๆ เกรงว่ามีสนม มากมายขนาดนั้นที่ให้รางวัลแก่เขา ก็ไม่แน่ว่าเขาจะยอม ทําตามคําสัญญา

แสร้งทำเป็นให้คำมั่นสัญญากับเขาเช่นนี้ ล่อเขาด้วยวิธี นี้ เพื่อสมบัติแล้ว เขาอาจจะยอมทำถึงแม้จะลำบากก็ตาม

แต่ถ้าหากซุนกงกงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ถ้าเช่นนั้นผ่านไป สักสองสามวัน ข้าค่อยนำกำไลไปมอบให้เขาก็ได้

ข้ารีบกลับไปรายงาน ภายในใจรู้สึกว้าวุ่น เพราะที่สุด แล้วก็เป็นสิ่งที่ข้าคิดเองทำเองทั้งหมด ข้าจับดูกำไลที่อยู่ ในกระเป๋าเสื้อ ในหัวกำลังคิดอะไรเต็มไปหมดยังไม่ทันรู้ตัว เวลาก็ผ่านไปห้าวันแล้ว
หลายวันมานี้ ทุกๆวันเย่วหงถงจะแต่งหน้าอย่างตั้งอกตั้ง

ใจ แล้วไปยืนชะเง้อรออยู่หน้าประตูทุกวัน

รอมาตั้งห้าวันแล้ว ทำให้นางรู้สึกนั่งไม่ติด จึงเรียกข้า เข้าไปถาม

“เจ้าได้มอบกำไลให้แก่ซุนกงกงแล้วใช่ไหม?”

ข้ารู้สึกตกใจจึงไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี จึงตอบออก

ไปแบบอีกอัก

“ให้แล้วเพคะ.………

“ถ้าอย่างนั้น!” เย่วหงถงกำลังจะโกรธ ทันใดนั้นก็มีเสียง

ดังมาจากข้างนอก

“มีเรื่องดี มีเรื่องดีแล้ว” แม่นมหลิวรีบวิ่งเข้ามาจากด้าน

นอก

เย่วหงถงมองไปยังแม่นมหลิวที่วิ่งเข้ามาอย่างเหนื่อย หอบ จึงรีบสั่งให้ข้าเทน้ำให้นางหนึ่งแก้ว

“เจ้าช้าๆหน่อย มีเรื่องอะไรกันแน่?”

แม่นมหลิวดื่มน้ำไปหนึ่งอึก แล้วรีบพูดว่า “องค์ชายเจ็ดให้ท่านประมุขหงถงขึ้นถวายตัวเพคะ”

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

เย่วหงกงทําตาโตเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

แม่นมหลิวต้องพูดทวนอีกครั้ง เย่วหงถงถึงจะเชื่อว่าเรื่อง ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง แล้วจึงรีบเรียกสาวฝช้สองสามคน เข้ามาเพื่อช่วยนางแต่งตัว

“องค์ชายเจ็ดยังกำชับอีกว่า ให้ท่านนำสาวใช้ไปด้วย หนึ่งคนเพื่อไปอยู่เฝ้ายาม” แม่นมหลิวนึกขึ้นได้ถึงคำพูด ขององค์ชายเจ็ดก่อนที่นางจะออกมา จึงรีบพูด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ