ฉันเป็นสายลับ ทำไมต้องเกิดใหม่

บทที่ 7 สายลับอันดับหนึ่ง



บทที่ 7 สายลับอันดับหนึ่ง

บทที่ 7 สายลับอันดับหนึ่ง

“คุณหนู ตอนนี้อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายสนิท ยังควรพักผ่อนดี ๆ เถิด เรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ปล่อยให้ตู่จี ทำ ไม่กี่วันนี้คุณหนูรองนั้นพวกนางไม่มาก่อกวนแล้ว วัน เหล่านี้ท่านก็นอนรักษาอาการบาดเจ็บดี ๆ หมอบอกว่า ท่านได้รับบาดเจ็บภายในแล้ว องค์ชายสี่ลงมือโหดเหี้ยม กินไปแล้ว ทำไมสามารถลงมือต่อท่านแบบนี้ได้ วันหน้า ท่านอยู่ห่างจากเขาไกลหน่อย อย่าไปติดพันแล้ว…”

ตู่จียังคงบ่นพึมพำ แต่ซูมิ่งเย่กลับไม่ได้มีใจอดทนฟัง ความเจ็บปวดบนร่างทำให้อารมณ์นางหงุดหงิด คลำถูก ขวดเครื่องเคลือบดินเผาในแขนเสื้อ ก็เอาออกมาดู พบว่า ในนั้นเป็นยาเม็ด ๆ

ที่อยู่ด้วยกัน ยังมีกระดาษบันทึกย่อแผ่นหนึ่ง “ใช้ ภายใน” ตัวอักษรเขียนไว้ท่วงท่าสง่างามลอยละล่อง วิถี อักษรเข้มแข็งอ่อนช้อย ท่าทีพลังเผด็จการที่ปูพรมเข้า มาทำให้ซูมิ่งเย่พลันคิดถึงคนนั้นที่ได้พบบนถนนในก่อน หน้านี้แล้ว จมเข้าสู่ภวังค์ความคิดโดยไม่รู้ตัว

ศีรษะเริ่มวิงเวียนอีก รู้ว่าอาการบาดเจ็บของตนยังไม่ดี ซูมิ่งเย่ท่านวางขวดเครื่องเคลือบลง หลับตาพักผ่อน
นางย่อมไม่สนใจสิ่งที่คนแปลกหน้าให้มา

เมื่อเข้ามาดูปุ๊บ เห็นคุณหนูบ้านตนได้หลับไปแล้ว ก็ แอบค่อย ๆ ปิดม่านลง จากไปอย่างเงียบๆ

ด้านนั้นพระชายารองเพิ่งกลับมาถึงห้อง เงาร่างสองรูปก็ กระโดดพุ่งเข้ามาแล้ว

“ท่านแม่ ต้องคัดลอก “กฎของสตรี” หรือ? นั่นยาวมา กน่ะ” ซูมิ่งหันทุบไหล่ของพระชายารองเบา ๆ พลางกล่าว เสียงเจื้อยแจ้ว

ซูมิ่งโล่ไม่ได้ล้าหลังด้วย รีบชิงคว้าไหล่อีกข้างหนึ่ง บีบ นวดพลาง กล่าวพลางว่า “ท่านแม่พูดให้คนอื่นฟังเท่านั้น แน่ ๆ ท่านแม่รักเรามากขนาดนั้น ไหนเลยทนให้เราคัด ลอก”กฎของสตรี” ใช่ไหมน้อ ท่านแม่” เสียงออดอ้อนยัง มากกว่าซูมิ่งหัน เหมือนบีบน้ำมันออกมาได้ เอียนจนใจ ของพระชายารองอ่อนยวบไปทั้งดวง

นางรักธิดาแท้ ๆ สองคนนี้มากตลอดเสมอมา ไม่ต้องพูด ถึงการลงโทษ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาคำพูดต่อว่าหนักที่พูด มาก่อนน้อย มองดูธิดาสาวทั้งสองที่เชื่อฟัง พระชายารอง วางศักดิ์ศรีลงด้วย ค่อย ๆ ลูบมือของพวกนางเบา ๆ สีพระ พักตร์เคล้าความเศร้าอย่างหนา กล่าวว่า “ซูมิ่งเย่วคนนั้น ยังมีประโยชน์ใช้งานจุดหนึ่ง พวกเจ้ากลับไปลองลากเข้า เป็นพรรคพวก ส่วนซูมิ่งเย่คนนั้นวันนี้ดูเป็นปกติมาก ไม่เหมือนโง่งมเซ่อซ่า พวกเจ้าบอกข้า อีกว่าวันนี้นางดูเป็นยังไง ถ้าฟื้นฟูหายแล้ว ฮ่า!” นางยิ้ม เยาะเย้ย “ถ้าเช่นนั้นก็ให้นางโง่อีกครั้งเถิด”

หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา วันเวลาค่อนข้างเงียบสงบ พี่ น้องสามสาวไม่ได้มาก่อกวน พระชายารองยังไม่ได้ถาม ถึงด้วย ยิ่งไม่เอ่ยถึงอ๋องชื่อเจิ้งคนอื่น ซูมิ่งเย่ตื่นขึ้นมา จนถึงวันนี้ยังไม่เคยเห็นเขาสักครั้ง

ไม่มีใครรบกวน เหมาะกับความตั้งใจนางพอดี

ไม่กี่วันนี้ซูมิ่งเย่ได้ฝึกกระบวนท่าสังหารคนเหล่านั้นใน ชาติปางก่อนอย่างใจจดจ่อมาตลอด ที่เคยยิงจู่โจมทะลุ ในร้อยก้าวเป็นวิธีที่มิอาจฝึกได้แล้ว ประเภทมีดบินธนูใน แขนเสื้อเหล่านั้นชั่วคราวไม่มีเครื่องมือด้วย พอดีได้ฝึก กระบวนท่าชิงชีวิตไม่กี่กระบวนท่านั้นให้ชำนาญมากขึ้น

อีก

มือนางไม่ได้หยุด กระบวนท่าไม่กี่กระบวนง่าย ๆ ถูกนาง ฝึกทำซ้ำ ๆ นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เข้าใจจริงจังถึงการรวม ประสานมุมและระดับความแรงที่แตกต่างกันจนสามารถ บรรลุผลอันมีประสิทธิภาพ นางเพ่งสมาธิ เช็ดซับเหงื่อที่ ไหลออกมาจากหน้าผาก ไม่เพียงพอ ยังสามารถดีกว่า

ถึงแม้ว่านางจะเป็นสายลับอันดับหนึ่ง กลับไม่เคยหยิ่งโอ้อวดมาก่อน รู้ลึกซึ้งว่าเหนือมนุษย์ยังมีมนุษย์ เหนือฟ้า ยังมีฟ้า ยิ่งกว่านั้น ครั้งแรกที่มาถึงโลกใบนี้ ผู้ชายคนนั้น ได้นำความรู้สึกพ่ายแพ้ถูกขวางอย่างรุนแรงชนิดนั้นมา ให้นาง ทำให้นางยิ่งกระตือรือร้นคิดจะปรับปรุงพัฒนาตัว เองให้สูงขึ้น

นางอยู่ที่นี่ไม่มีใครอื่นสามารถพึ่งพาได้ การสนับสนุน เพียงอย่างเดียวก็คือตัวเองเท่านั้น สิ่งเดียวที่สามารถ ทำได้ก็คือยกระดับจุดอ่อนของตัวเองโดยเร็วที่สุด เช่นนี้ จึงสามารถปกป้องตัวเองให้ดี

ซูมิ่งเย่ค่อย ๆ หยิกแขนของตนเองแล้ว รู้สึกสัมผัสถึงขั้น ของกล้ามเนื้อที่กระชับและยืดหยุ่นภายใต้ชั้นผิวที่เนียน ลื่นนั้น สีหน้าจึงค่อนข้างสบายออกมา

ร่างกายของเจ้าของเดิมอ่อนแอเกินไปแล้ว ในวันแรก ซูมิ่งเย่เพียงวิ่งรอบสนามสองรอบก็รู้สึกว่าพลังไม่เพียง พอ นางยังคงฝืนฝึกต่อไป จนถัดมาอีกสามวันต่อมา พลัง ทางกายภาพจึงเพิ่มพูนขึ้นมาแล้ว ถึงตอนนี้ ในที่สุดนาง สามารถดำเนินการฝึกทั้งชุดอย่างสมบูรณ์

หยิบชาร้อนที่ข้างโต๊ะขึ้นมา จิบเบา ๆ สองอีก แววตา แหลมคมซูมิ่งเย่มองดูภาพสะท้อนของตนที่สะท้อนออก มาจากน้ำชา

นั่นเป็นผู้หญิงที่มีเค้างดงามสวยที่สุดคนหนึ่ง ดวงตางามบางเล็กคู่หนึ่ง ปลายตายกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากนุ่ม อ่อนโยนดุจกลีบดอกไม้ ยิ้มหรือไม่ยิ้มล้วนมีอารมณ์ เสน่ห์ของตนเองผิวที่ละเอียดอ่อนดุจกลีบดอกสีขาวนุ่ม นวลบนใบหน้า เพราะการออกกำลังกายจนแสดงสีแดง สุขภาพแข็งแรงออกมา ควบคู่กับซูมิ่งเย่เจ้าของปัจจุบัน ซึ่งอารมณ์เย็นชาตลอดอย่างเคยชิน ยิ่งเป็นความรู้สึก งามซึ่งปฏิเสธผู้คนออกไปถึงพันลี้ชนิดหนึ่ง

ซูมิ่งเย่จ๋าได้ชัดเจน ขณะที่ตนเองเพิ่งมา ได้เห็นลักษณะ เค้าหน้าที่ปรากฏแตกต่างกันมากจากปัจจุบัน ไม่ต้องเดา มากเกินไปอย่างสิ้นเชิง เจ้าของเดิมต้องถูกคนวางยาพิษ แล้ว ยาพิษชนิดนี้มีความซับซ้อนมาก ไม่เพียงแต่ทำร้าย สติปัญญาของนางแล้ว แต่ยังทําลายทุกด้านของร่างกาย อย่างสาหัสมากแล้ว

และเนื่องจากการออกกำลังกายฝึกไม่กี่วันนี้ของตนเอง ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายด้านกายภาพในเรือนร่างนี้ ยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังได้ค่อย ๆ ขจัดสารพิษ ตกค้างนี้ออกมาแล้ว นี่จึงไม่ได้มีใบหน้าซีดผอมเหลือง เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เผยให้เห็นลักษณะเค้าหน้าเดิมของ ซูมึงเย่ออกมาแล้ว

หลังจากดื่มชา ซูมิ่งเย่นั่งบนเตียง แสดงการเคลื่อนไหว ของโยคะออกมา

นางยกเท้าข้างหนึ่งงอขึ้นสู่กลางอากาศ เท้าเดียวยืน หยัดร่างไว้ สองมือยืดเป็นรูปโค้งที่ยอดเยี่ยมสบาย ๆออกมา สายลมพัดเอื้อย แขนเสื้อปลิวสะบัดเป็นเส้นโค้ง ที่สวยงามออกมา โบกพัดผ่านความรู้สึกที่งดงามเบาบาง จาง ๆ บนใบหน้าของนาง เหมือนนางฟ้าจากสวรรค์ชั้น เก้า

“ใคร!” มีเสียงฝีเท้าเบา ๆ ซาบซาบลังมาจากข้างนอกพัก หนึ่ง แววตาซูมึงเย็พลันดุดันทันที รีบหยุดการเคลื่อนไหว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ