ตอนที่ 19 เจ้าไม่ใช่ซูมิ่งเย่
ตอนที่ 19 เจ้าไม่ใช่ มิ่งเย่
ซูมิ่งเย่รู้ว่าที่เขาสงสัยเป็นเพราะเขาน่าจะไม่เคยเห็น มาก่อน ผงยี่หร่ามีหลังจากราชวงศ์ถัง มาจากเส้นทาง สายไหม ค่อย ๆ เผยแพร่มาจากดินแดนตะวันตกมายังจง หยวน
แต่ในยุคนี้นางไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อกี้สิ่งที่นางทํา อาจทําให้เขาตกใจ แต่ว่าจากปฏิกิริยาของเขามันดูไม่ ออกเลย
แต่ว่าสิ่งของในยุคปัจจุบันหลายอย่างไม่มีที่นี่เลย
หยู้ชิงหันพยักหน้า เขาจำคำว่าผงยี่หร่าไว้แล้ว กำลังจะ พูดซูมิ่งเย่ก็ยื่นของมาอุดปากเขา
เมื่อหยู้ชิงหันรับขากระต่ายมาแล้ว ซูมิ่งเย่ก็เริ่มสวาปาม ทันที ตอนนี้ท้องของนางว่างมากเลย
“เจ้าเป็นใคร” หยู้ชิงหันมองไปที่ซูมิ่งเย่ เขาถามแบบ เรียบง่ายแต่ก็มีแรงกดดันอย่างบอกไม่ถูก
ซูมิ่งเย่เกือบสำลักเพราะคำพูดของซูมิ่งเย่ สายตาของ นางไม่ได้กระวนกระวายแล้วมองกลับไปที่เขา จากนั้นก็กัดเนื้อกระต่ายแล้วพูดว่า “ซูมิ่งเย่”
“เจ้าไม่ใช่” หยู้ชิงหันพูดอย่างเรียบง่าย สายตาของเขา จ้องไปที่ซูมิ่งเย่
คนที่เติบโตมาในจวนตระกูลใหญ่จะใช้มีดใช้ดาบอย่าง ไม่กระพริบตาเลยแบบนี้ได้ยังไง?
หากว่าเขาไม่รู้จักก็แล้วกันไป แต่ว่าก่อนหน้านี้เขาเคย เจอนางมาแล้ว
ต่อให้ไม่เคยเห็นมาก่อน ชื่อเสียงโด่งดังขนาดนั้นมีใคร บ้างไม่รู้จัก
“ข้านี่แหละ” ซูมิ่งเย่พูด สายาของนางเย็นชามาก หาก นางยอมรับว่าไม่ใช่ ต่อไปนางจะปกปิดอะไรได้อีก
“สอนข้าว่าทำยังไง” หยู้ชิงหันรู้ว่าซูมิ่งเย่คงไม่บอกอะไร เขาแน่ อีกทั้งเขายังสนใจผงยี่หร่ามากกว่าด้วย
เนื้อกระต่ายเมื่อกี้มันอร่อยกว่าที่เขาเคยกินมา มันมี รสชาติอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นมา
ซูมิ่งเย่ก้มหน้าลง ไม่ได้ตอบรับในสิ่งที่เขาพูด ในใจนาง กำลังคิดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่นางมาที่นี่นางเงยหน้าไปมองหญ้ซึ่งหัน นางสะดุ้ง เพราะเขายิ้มมุม ปาก อ่านอะไรในดวงตาของเขาไม่ได้เลย
“เจ้าอยากเรียนอะไร?” ซูมิ่งเย่ถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ นาง ตั้งแต่แหย่ความอยากรู้ของเขา “ทำไมเจ้าอยากเรียนข้า ต้องสอนด้วย?”
หยู้ชิงหันไม่พูดอะไร เพียงแต่มองไปที่ซูมิ่งเย่ ที่ริมฝีปาก เขาก็ยิ้มแบบร้าย ๆ สายตาของเขาอ่อนโยนมาก
ทั้ง ๆ มันเป็นสองสิ่งที่ตกต่างกัน แต่มันกลับพอดีมากเมื่อ อยู่ในตัวเขา
ท่าทางบ้าอำนาจ กับ ท่าทางที่เย็นชา
เมื่อทั้งสองอย่างมาผสมกันแล้ว มันเหมือนพุ มันทำให้ บรรยากาษอึดอัดมาก
บรรยากาศตอนนี้เงียบมาก
คนที่ก้มหน้าลงก่อนซูมึงเย่ เห็นนางขมวดคิ้ว “จะสอน เจ้าก็ได้”
พูดยังไม่ทันจบนางก็ชะงักไป “แต่ว่าตอนนี้ไม่มีของที่จะมาสอนเจ้าได้”
ที่จริงสิ่งที่นางพูดก็ไม่ได้ผิด ไม่มีอุปกรณ์ในยุคปัจจุบัน จะทำให้เหมือนของเดิมเลย คงเป็นไปได้ยาก
“ของอะไร?” หญ้ชิงหันท่าทางเหมือนเดิม น้ำเสียงสงสัย มากขึ้น
สายตาของเขามองไปที่นาง เห็นนางไม่ได้ล้อเล่นเขาก็ ยิ่งสนใจมากขึ้น ผู้หญิงคนนี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่นะ?
ซูมิ่งเย่พูดว่า “ของที่ใช้ได้น่ะสิ มีดพับสวิส ไฟแชค เป็น ของที่ขาดไม่ได้เลย”
ขาดไปอย่างเดียวมันก็ลำบาก
“มีดพับสวิส?” หยู้ชิงหันถามออกมา เหมือนกำลังคิด อะไรอยู่
ซูมิ่งเย่พยักหน้า ก็นึกขึ้นมาได้ว่านี่มันยุคโบราณ นาง เลยพูดว่า “ของพวกนี้ข้าก็บังเอิญเจอมา มันเป็นของที่ ต้องมีวาสนาถึงจะได้พบเจอ”
แสงจันทร์กระทบน้ำ ไม่มีสีซีดขาวเลยแม้แต่น้อย
“คุณหนูซูความรู้รอบด้านเยอะจริง ๆ เลยนะ” หญ้ชิงหัน มองไปที่ซูมิ่งเย่ จากนั้นก็เบือนหน้าหนี สีหน้าท่าทางเขาเป็นยังไงคิดอะไรดูไม่ออกเลย
ซูมิ่งเย่ตะลึงไป สายตาของนางเริ่มเย็นชามากขึ้น นาง จ้องไปที่กองไฟ แล้วพูดว่า “ขอบใจที่ชม
ตั้งแต่เรื่องใบไม้ ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมามันบ่งบอก ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่ว่าเขายังดูเหมือนจะถูกใจนาง ด้วย
แต่นางกลับรู้ดีว่า ในสายตาของเขามันไม่ได้มีความรัก อยู่เลย
แต่มันเหมือนแค่สนใจ ซูมิ่งเย่ก้มหน้าลงปกปิดสายตาเอาไว้
เป็นคนที่อยากรู้เหมือนกัน นางอยากเห็นใบหน้าของเขา เขาอยากอ่านใจของนางออก
ความง่วงเริ่มถามหา ซูมิ่งเย่พูดกับเขาว่า “ข้าจะนอนแล้วนะ”
พรุ่งนี้ยังไม่รู้ว่าต้องเจอเรื่องอะไรอีก ยังไงต้องเติมพลังให้เต็มที่ก่อนเห็นในสายตาของเขาเหมือนจะไม่มีความง่วงเลย ซูมี่งเย่ก็ขมวดคิ้ว หยู้ชิงหันถอดเสื้อคลุมของตัวเองแล้วโยน ไปให้ซูมิ่งเย้
“ห่มซะ วันนี้ทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน ข้าต้องชดใช้คืนให้ แน่นอน” น้ำเสียงของหญ้ชิงหันไม่มีความรู้สึกอะไร เหมือนมันเป็นเรื่องปกติ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ