ตอนที่ 13 เรื่องน่าอายหลังภูเขาปลอม
ตอนที่ 13 เรื่องน่าอายหลังภูเขาปลอม
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่อมชมพูของนาง อีกทั้งยังมีความ เขินอายแบบผู้หญิง ไป๋หลี่ห้าวรู้สึกว่าในใจตัวเขาจั๊กจี๋ เหมือนกูกมดกัด
แต่ว่ายังไงคนที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นลูกสาวของอ๋องซื่อเจิ้ง ต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้รับความโปรดปราณ เขาก็จะรีบร้อน เกินไปไม่ได้
“คุณหนูสี่ช่างงดงามยิ่งนัก” ไป๋หลี่ห้าวยิ้มแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหา
ซูมิ่งเย่วคิดว่าไป๋หลี่ห้าวชอบนางเข้าให้แล้ว ใบหน้าของ นางแดงขึ้นไปอีก นางเอียงหน้าหลบไปเล็กน้อย
ไป๋หลี่ห้าวมองไปแล้วก็จับไปที่มือของนาง
“องค์ชายสี่ เอ่อ …..” ซูมึงเย่วดีใจมาก แต่ก็ยังแสร้งทำ เป็นปฏิเสธเล็กน้อย
“มีคนสวยอย่างเจ้าแบบนี้ ทำให้ข้าอยากเข้ามาใกล้ …. ถ้ายังไง ไหน ๆ วันนี้ก็ได้เจอกันแล้ว….….….….. ไหลี่ห้าวไม่ ได้พูดจนจบ เขามีแค่ท่าทีที่รีบร้อน เขาอุ้มซูงเย่วไปยังหลังภูเขาปลอม แล้วแทบจะทนไม่ไหวจูบนาง
ไป๋หลี่ห้าวไม่มีเวลาไปคิดเลยว่าตัวเองมีอาการแปลก ในสายตาของเขาตอนนี้ ขอแค่สาวงามตรงหน้ายอม สยบให้เขา ยอมให้เขาปลดเปลื้องผ้าของนางออกก็ พอแล้ว
หลีจูสาวใช้คนสนิทของซูมิ่งเย่วเห็นคุณหนูของตัวเอง หายไป นางก็เริ่มกระวนกระวาย นางไปตามสาวใช้อีก หลายคนมาช่วยกันตามหา ท่าทางตื่นตระหนกมากทำให้ ซูหลันชิวรู้
“นางลูกไม่รักดี” ซูหลันชิวตบไปที่โต๊ะ ใบหน้าของเขา โกรธมาก กล้ามาก่อเรื่องในเวลาแบบนี้ได้
พระชายารองเห็นสายตาอันเลือดเย็นของซูหลันชิว ใน ใจก็พอจะรู้อะไรขึ้นมา นางพูดว่า “ท่านอ๋อง เราไปตามหา กันดีไหม นางน่าจะแค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น”
ซูหลันชิวนิ่งไป แล้วพยักหน้า เขาสะบัดชายเสื้อแล้วก็ เดินออกไป ไม่มีใครสังเกตเห็นสายตาของเขา
คนด้านหลังเห็นซูหลันชิวเดินออกไปแล้วก็ไม่กล้าอยู่ที่ เดิม ต่างก็ตามไปกันหมด
ทุกคนเหมือนจะแทบพลิกทั่วทั้งจวนอ๋องแต่ก็ยังไม่พบเงาของซูมิ่งเย่ว จวนอ๋องจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่จะว่าเล็กก็ไม่
เล็ก แต่พวกเขาหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
อีกทั้งในเวลานี้ก็มีคนสังเกตุเห็นแล้วว่าไป๋หลี่ห้าวเองก็ ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน สีหน้าของซูหลันซิวเริ่มไม่เหมือน เดิม
“ท่านอ๋องอย่าเพิ่งทรงกริ้ว ไม่แน่ว่าเด็กคนนั้นอาจจะไป เล่นอยู่ที่ไหนก็ได้” พระชายารองเห็นซูหลันชิวเริ่มโมโหก็ ตกใจ
ในเวลานี้พวกเขาหยุดอยู่ที่ด้านหลังเรือน ซึ่งก็คือเขา ปลอม
ซูหลันชิวคิดอยากจะพูดอะไรทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง ร้องไห้สะอื้น เขามองไป แล้วถามว่า “พวกเจ้ามีใครได้ยิน อะไรไหม?”
ทุกคนรู้สึกสงสัย ต่างก็ส่ายหน้า
“ท่านอ๋องทรงฟังผิดหรือเปล่า?” พระชายาถามอย่างระวัง
เห็นซูหลันชิวไม่ได้พูดอะไร คิดว่านางเดาใจของเขา ออก พระชายาในใจรู้สึกดีใจ แต่กลับได้รับความไม่ไยดี กลับมาแทน
ซูหลันชิวเดินไปที่ภูเขาปลอมลูกนั้น ฝีเท้าของเขาหนัก แน่นมาก เขารู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแน่
ทุกคนเดินตามเขาไป พระชายารองรู้สึกค่อนข้าง น้อยใจที่ถูกหลันชิวไม่ไยดีแบบนั้น แต่ก็ยังเร่งเดินตาม เขาไป
เมื่อเดินมาถึงด้านหลังภูเขาปลอม หลันชิวถึงกับแน่นิ่ง ไป เหมือนตัวเขามันแข็งไปหมด
“ว้าย” พระชายารองที่เดินตามมาด้านหลังกรีดร้องขึ้น มา เหมือนกลับมาตกใจมาก
สิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันก็น่าตกใจมากนั่นแหละ
ที่ริมสระน้ำมีคนสองคนกำลังโอบกอดกันอยู่ ท่าทางดูมี ความชอบพอกัน สองคนนี้ทุกคนเดาได้ไม่ยากเลย พวก เขาคือไป๋หลี่ห้าวกับซูมิ่งเย่วที่หายไป
คนหนึ่งเป็นองค์ชายคนหนึ่ง อีกคนเป็นลูกสาวของอ๋อง ชื่อเจิ้ง สองคนนี้กลับกล้าทำเรื่องแบบนี้ในงานเลี้ยงวัน เกิดของอ๋องซื่อเจิ้ง
ซูหลันชิวหันไปมองพระชายารอง สายตาของเขาเดาไม่ ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่ ทำให้พระชายารองตกใจจนไม่ กล้าส่งเสียงอะไรเลย
“รีบมาพยุงขึ้นมาเร็ว” ไป่หลี่ห้าวตัวแข็งทื่อ ตอนที่พูดก็ดู กินแรงมาก
ไม่มีใครคิดจะดึงเขาลุกขึ้น แต่เขากลับได้ยินเสียงแอบ หัวเราะออกมาแทน เขารู้สึกโมโหมาก
“ท่านพ่อ …..” ซูมิ่งเย่วมองไปที่ซูหลันชิว สายตาของ นางหวาดกลัวมาก จากนั้นก็รีบหลบไปในอ้อมกอดของ ไปหลี่ห้าว
ท่าทางของซูมิ่งเย่วมันเหมือนไปกระตุ้นไป๋หลี่ห้าว เขา ตะโกนว่า “อย่ามาแตะต้องตัวข้านะ ออกไปเดี๋ยวนี้”
มันน่านัก เขาเคยเสียหน้ามากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
เขาเริ่มทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็โกรธจนอยากจะฆ่า คน ตอนที่เขากําลังดื่มฉ่ำกับร่างกายที่ปราศจากเสื้อผ้า ของซูมิ่งเย่วอยู่ ไม่รู้ทำไม จู่ ๆ ถึงได้ตกลงมาที่สระบัว อีก ทั้งยังมีสภาพหน้าไม่อายขนาดนี้
“ยังไม่รีบไปพยุงองค์ชายขึ้นมาอีก?” ซูหลันชิวมองไปที่ พวกบ่าวไพร่ สีหน้าของเขาแย่มาก
หากเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป คนที่ขายหน้าก็มีแค่จวนอ๋อง ของพวกเขาเท่านั้น เพราะเขาเป็นแค่อ๋องที่ต่างแซ่ ยังไงก็ มีความแตกต่างกับเชื้อพระวงศ์จริง ๆ อีกทั้งองค์จาย ได้รับความโปรดปราณจากฮ่องเต้มาก หากไป
เข้าหูฮ่องเต้ แค่ทำตำหนินิดหน่อย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ