จังหวะรักมาเฟีย

V [1/2]



V [1/2]

หลังจากวางสายแล้วปีเตอร์ก็เหลือบมามองหญิงสาวข้างๆ เธอกำลังมองออกไปนอกกระจกเหมือนว่ากำลังชมทัศนียภาพ รอบข้าง จริงอยู่นิวยอร์กเป็นเมืองที่สวยงามในยามค่ำคืนเมือง หนึ่งเลย โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยว แต่สําหรับเขาสิ่งที่ สวยงามที่สุดตอนนี้คือหญิงสาวข้างกาย ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอผู้ หญิงที่สวยด้วยอาชีพเขาแล้ว ผู้หญิงที่สวยและเพียบพร้อมเขา เจอมามากมาย แม้แต่เจซีเธอเองเพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างทั้ง ความสวย รูปร่าง หน้าตา ความรู้ความสามารถ ชื่อเสียงที่คู่ควร กับเขาอย่างมาก จากสายตาคนอื่น แต่สำหรับเขาสิ่งเหล่านั้นไม่ สําคัญเลย

สำหรับหญิงข้างกายตอนนี้ก็จัดเป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักเป็น ธรรมชาติคนหนึ่งในแบบเอเซีย แต่ถ้าเทียบกับผู้หญิงที่เขาพบ มาต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ใครจะคิดผู้หญิงที่จะดูแสนธรรมดาคน นี้กลับเป็นที่ต้องการสำหรับเขา จนทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัว เองจึงต้องใช้วิธีแบบคนโรคจิต “ในความคิดของเธอนะ” เอา เธอมาครอบครองไว้แต่เพียง ผู้เดียว

“หนูนา” เงียบ!!! ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากหญิงสาวข้างกาย แม้แต่ปฏิกริยาทางร่างกาย

“หนูนา” ตัดสินใจเรียกเธออีกครั้ง หนูนาถอนหายใจก่อน อย่างคนปลงตก และหันมาตามเสียงเรียกแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเพราะตอนนี้เธอคิดว่าจะต้องคุยและตกลงกับเขาอย่างสันติวิธี มาถึงขนาดนี้เธอเองก็ไม่เข้าใจการกระทำของเขารวมถึงตัวเอง ด้วย ทำไมและอะไรทำให้เธอตัดสินใจและทำตามความต้องการ ของเขาได้มากมายขนาดนี้

เมื่อเห็นว่าเธอยอมหันมาตามเรียกครั้งที่สอง ปีเตอร์ก็เอ่ยต่อ ทันทีพร้อมกับหันกลับไปดูเส้นทาง เพราะสำหรับเขาแล้วเขาไม่ อยากปล่อยให้ความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นกับหนูนาไปกับเวลาเรื่อยๆ ซึ่งความรู้สึกนี้ก็เกิดกับเธอเพียงคนเดียว

“ผมรู้ว่าตอนนี้หนูนาคงรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจการกระทำ ของผม แต่ผมคงจะไม่เอ่ยขอโทษใดๆทั้งสิ้น เพราะสำหรับผม แล้วมันไม่ใช่สิ่งผิดพลาดที่ต้องการให้ หนูนาเข้ามาในชีวิต ผม คงอธิบายได้เพียงเท่านั้น เพราะผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มา ก่อน แต่ขอให้เชื่อว่าทุกอย่างที่ผมทำไปและกำลังจะทำต่อไป ทุก อย่างมันมาจากความรู้สึกที่ดีที่มีให้หนูนาคนเดียวเท่านั้น

“นี้เขากำลังบอก ‘รัก’ เราหรือเปล่า? แล้วเคยคิดจะถามเรา มั้ย? ว่าอยากได้มั้ย?” หนูนาคิดได้แค่นั้นแต่เป็นความคิดที่ ค่อนข้างเข้าข้างตัวเองสุดๆ ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกดีนะ แต่ที่เงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อจริงๆ เขามาไม้ไปต่อไม่ถูกเลย และรู้สึกถึง อุณภูมิสูงที่ใบหน้าอีกแล้ว

สําหรับปีเตอร์ถึงแม้จะไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากหนูนา แต่ เขาก็รับรู้ถึงความผ่อนคลายในตัวเธอได้ หลังจากนั้นต่างก็ไม่มี คำพูดใดๆ จนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ามาจอดที่ประจำใต้อาคารคอน โดหรู ปีเตอร์ก็ไปยกกระเป๋าที่มีเพียงใบเดียวมือหนึ่งก็ลากกระเป๋า อีกมือก็ไปขวามืออีกข้างของหนูนาและจูงมือเดินไปที่ ลิฟท์ พอถึงหน้าลิฟท์ก็ก้มหน้ามาทาง หนูนาและยิ้มไปด้วย

“หนูนาจ๋า กดลิฟท์หน่อยสิจ๊ะ” หนูนารีบหันขวับไปมองหน้า เจ้าของเสียงนั้นทันที “มีอารมณ์แบบนี้ด้วยเหรอ” ได้แต่คิดและ ยิ้มตอบกลับใบหน้านั้นที่หันมายิ้มรออยู่แล้วเอื้อมมือไปกดลิฟท์ เมื่อเดินเข้าไปก็กดรหัส กดชั้นด้วยมือที่ว่าง

เมื่อเข้ามาถึงในห้องปีเตอร์ก็ไม่รอช้า ปล่อยมือจากกระเป๋า แล้วดึงหนูนาเข้าอ้อมกอด หอมแก้มทั้งสองข้างสลับไปมาหลาย ครั้ง แสดงออกให้รู้ว่าวันนี้เขาคิดถึง หนูนามากแค่ไหน หนูนาได้ แต่หลับตาตกใจกับการกระทำอย่างรวดเร็วของเขาแต่ก็ไม่ได้ ขัดขืนต่อต้านใดๆ เพราะถ้ายอมรับความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ก็ ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีกับมันเช่นกัน

ปีเตอร์จ้องหน้าที่หลับตา “อยากให้หนูนาทำแบบนี้บ้าง กระ ซิบเบาๆ ใกล้ริมฝีปากอิ่มนั้น หนูนาก็ค่อยๆลืมตาขึ้นก็เห็นเขา จ้องมาก่อนแล้ว

“ทําแบบไหนคะ?” ปีเตอร์ไม่ตอบแต่เอียงแก้มให้หนูนา เห็น แบบนั้นก็เข้าใจทันที ยิ้มเขินๆ ในชีวิตเคยซะที่ไหนหอมแก้ม ผู้ชายตัวโตๆ ถึงแม้เธอจะมาอยู่อเมริกาได้สองเดือนแล้ว เธอก็ ไม่เคยทักทายเพื่อนชายที่นี่แบบแก้มสัมผัสกันด้วยซ้ำ แต่ก็ยอม และค่อยๆ ยื่นหน้าหอมแก้มเขาเบาๆ ปีเตอร์ไม่พอหันอีกข้างให้ หนูนาก็หอมแก้มเขาอีกครั้ง

ปีเตอร์หันมาเผชิญหน้าแล้วยิ้มแบบที่ ถ้าสาวๆเห็นต้องละลายแน่ๆหนูนาคิดเพราะตอนนี้เธอเองก็แทบจะยืนไม่อยู่แล้วเช่นกัน ปีเตอร์มีรอยยิ้มหลายแบบมาก แต่แบบนี้ที่ยิ้มออกมาทั้งดวงตา บ่งบอกถึงความสุขที่ได้รับนั้นเธอไม่เคยเห็นมาก่อนหนูนาคิดว่า ตอนนี้อุณภูมที่หน้าคงสูงมาก ใบหน้าของเธอคงแดง เป็นลูก ตำลึงสุกแน่ๆ และในขณะเดียวกันหัวใจของเธอเต้นไม่เป็น จังหวะปกติซะแล้ว…

ด้วยความน่ารักและเป็นธรรมชาติของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ ปีเตอร์เก็บกักความรู้สึกบางอย่างต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ทำให้ปาก หนาเลื่อนเข้าประกบปากอิ่มนั้นทันทีส่งลิ้นหนาเข้าไปในโพรง ปากอิ่มควานหาดูดกลืนความหวานนั้นอย่างไม่รีรอ หนูนาหาได้ ต่อต้านแต่อย่างใด ยิ่งทำให้ลิ้นหนารุกตามอารมณ์หยอกล้อกับ ลิ้นเล็กๆ ทำให้แขนเล็กต้องขึ้นมาโอบกอดรอบคอเขาเพื่อเป็น หลัก

“อืม…” เรียกเสียงครางอย่างพึงพอใจของปีเตอร์ออกมา

ปีเตอร์ช้อนร่างเล็ก โดยที่ไม่ถอนจูบ ยังคงจูบหยอกล้อเรียก ร้องกลืนกินความหวานอย่างไม่รู้จักอิ่ม ปีเตอร์ย้ายมานั่งที่โซฟา กลางห้อง ให้หนูนานั่งบนตักโดยที่ไม่ยอมถอนจูบ แขนโอบรอบ เอวเธอไว้ แต่จู่ๆเขาก็หยุดทุกการเคลื่อนไหวแต่ไม่ยอมถอนริม ฝีปากออกจากปากอิ่มนั้น หนูนารู้สึกขัดใจเพราะยังรู้สึกดีกับจูบ ของเขาอยู่มาก พร้อมยอมรับและเปิดใจกับเขามากขึ้น และ ค่อยๆลืมตาพร้อมจะถอนจูบซะเอง แต่แขนแกร่งก็เหมือนรู้กันยก ข้างหนึ่งขึ้นมาไม่ให้หนูนาทำอย่างที่คิดได้ ปีเตอร์กลับค่อยๆดูด ปาก หนูนาและให้หนูนาส่งลิ้นเล็กเข้ามาในโพรงปากเขา
” ปีเตอร์ร้องครางออกมา หนูนาได้ยินอย่างนั้นยิ่งได้ใจ “an…” ก็ทำอย่างที่เขาทำกับเธอ คือลิ้มลองดูดกลืนกินความหวานใน โพรงปากเขาบ้างและหยอกล้อกับลิ้นหนานั้น สร้างความรู้สึกที่ดี ให้กับคนทั้งสองอย่างมาก ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างสลับกันไปลิ้มลอง ความหวานของกันและกันไม่มีใครที่จะยอมหยุด เพราะทั้งสอง คนได้ตัดสินใจที่จะปล่อยความรู้สึก ให้เป็นไปตามความต้องการ

“อุ้ย!!” หนูนาร้องออกมาพร้อมกับถอนจูบทันที เมื่อปีเตอร์ กำลังจะไปต่อโดยล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อจากด้านล่าง หนูนาที่ เติบโตจนอายุยี่สิบห้าแล้ว ยังไม่เคยถูกล้วงล้ำมากขนาดนี้ก็ต้อง ตกใจบ้างสิ

“หิวแล้ว ไปทำอะไรกินกันดีกว่า”

“ห้า!!!” หนูนาปรับอารมณ์ไม่ทันได้แต่ร้องอุทานอย่างงงๆ เมื่อจู่ๆปีเตอร์ก็อุ้มเธอลงและเปลี่ยนเรื่องซะงั้น และเขาก็จูงมือ เธอเดินตามมาส่วนครัวสไตล์โมเดิล

“มื้อนี้ หนูนาอยากจะลองทำดูมั้ย?” นั่นไง! เปลี่ยนเรื่อง ปรับ อารมณ์แบบศิลปินขนานแท้เลย

“อืม…คือ…ทําอาหารไม่เป็น…ทำได้แค่เมนูไข่” ตอบไปอย่าง เขินๆถึงแม้เธอจะเป็นเด็กกำพร้า แต่หนูนาก็ถนัดในเรื่องปัด กวาดเช็ดถูมากกว่า ตั้งแต่เธอกับนีออนต้องออกมาใช้ชีวิตกัน หน้าที่นี่ก็เป็นของนีออนตลอด และถ้าเมื่อไหร่ที่เธอจำเป็นต้อง กินเพื่อยังชีพตอนที่นีออนไม่อยู่ในบางเวลา เธอก็มักจะพึ่ง อาหารญี่ปุ่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพียงเท่านั้นแค่อิ่มท้องก็พอแล้วสําหรับหนูนา

“งั้นก็มานั่งรอตรงนี้ หนูนาอยากทานอะไร” ปีเตอร์ได้แต่เลิก คิ้วและให้เธอมานั่งเก้าอี้ตรงหน้าท็อป ถามออกไปแล้วยิ้มมอง หน้าเธอรอคําตอบ

“อืม…พีท ทำอะไรได้บ้าง

“ก็หลายอย่างยกเว้นอาหารไทย เฉพาะตอนนี้นะ ผมจะฝึกทำ อาหารไทย ให้หนูนาได้ทาน แต่ขอเวลาสักหน่อยนะคนดี”

“คะ…อะไรก็ได้คะ หนูนาทานได้ทุกอย่าง” ตอบไปและยิ้ม กว้างด้วยความดีใจ “โอเค งั้นรอสักครู่”หลังจากนั้นปีเตอร์ก็ เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบของสดออกมาอย่างคล่องแคล่ว หนูนามอง ภาพนั้นอย่างเพลิดเพลินนี่ก็คงเป็นอีกอย่างในตัวผู้ชายคนนี้

“พีท ดูคล่องแคล่วจัง” หนูนาพูดออกไปตามที่เห็น

ปีเตอร์หันมายิ้มและพูดต่อว่า “ผมชอบทำอาหารกินเอง ไม่ ชอบออกไปข้างนอกให้วุ่นวาย ช่วงเวลาหลังจากทำงานผมก็จะ กลับมาที่นี่”

“ที่นี่? เอ่อ….พีทพูดเหมือนกับว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของพุท

“ไม่ใช่บ้าน แต่ที่นี่เป็นของผม แต่ไม่ใช่บ้าน แล้วผมจะพาหนู นาไปที่บ้านผมนะครับ” เขาบอกตอนนี้ได้เลยว่าวันนี้เป็นวันทำ อาหารที่เขามีความสุข เพราะเจ้าหนูทำไมที่ช่างเจรจาช่างถาม จนเขารู้สึกถึงความเป็นชีวิตที่มีชีวิตชีวา

หนูนาพยักหน้ารับทราบแต่ในใจรู้สึกมีความสุขไม่ต่างจากเขาเลย โดยนิสัยของหนูนาจะไม่ค่อยถามเข้าซื้อะไรมาก เพราะ ถ้าเจ้าของเรื่องอยากบอกให้รายละเอียดเขาก็จะพูดมาเอง แต่ ตอนนี้หนูนาก็ทราบอีกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายตรงหน้า คือ เขามี บ้านที่ไม่ใช่คอนโดหรูใจกลางเมืองที่ไม่ต้องบอกในเรื่องมูลค่า ของมันเลยว่าจะมากขนาดไหน ทำให้หนูนาพอจะคิดไปต่อว่า แล้วที่เขาเรียกว่าบ้านละ เพราะทันทีที่พูดคำว่า “บ้าน” ปีเตอร์มี แววตาที่สดใสและมีความสุขเมื่อได้เอ่ยถึง

“ให้ช่วยอะไรมั้ยคะ?” ถามออกไปเพราะคิดว่าอยากทำตัวให้ เป็นประโยชน์

“ไม่เป็นไร ผมอยากทำให้หนูนาทาน แต่ถ้าหนูนาอยากหัดทํา ผมจะสอนให้แต่ขอเป็นคราวหน้า เพราะตอนนี้ผมหิวมากตั้งแต่ จบการแสดง ผมก็มาหาหนูนาเลยไม่ได้ไปทานอะไรกับทุกคน นะ” พูดจบก็หันมายิ้มและยื่นหน้ามาใกล้หนูนา “ตอนแรกก็กะ จะกินหนูนาแทน” พูดจบก็หัวเราะในท่าทางของหนูนาเมื่อได้ยิน แบบนั้น ทําตาโต หน้าแดงก่ำ

ปีเตอร์กลับไปทําอาหารต่อ ใช่ว่าเขาไม่อยากทำอย่างที่พูด ก็ ตั้งใจไว้ในตอนแรก แต่เห็นหนูนายังไม่พร้อมเขาก็ไม่อยาก เร่งรัด เพราะเท่าที่เขาได้สัมผัสเธอนั้น หนูนายังไร้เดียงสาใน เรื่องนี้ เขาอยากให้ครั้งแรกของเธอมันจะต้องวิเศษที่สุด แต่เขาก็ คงไม่สามารถอดทนต่อความน่ารักของเธอได้นานมาก

ผ่านไปอีกกว่ายี่สิบนาทีต่างก็ไม่มีใครพูดอะไรกันต่อ หนูนานั่งมองปีเตอร์อย่างเพลิดเพลิน เขาดูดีในทุกอิริยาบถจริงๆ และ แล้วจานอาหารมื้อเย็น มันคือสปาเก็ตตี้ทะเลน่ากินมาก มาวาง ตรงหน้าเธอพร้อมกลิ่นหอมเร่งน้ำย่อยในกระเพาะทำงานทันที

“พีท…มันไม่เยอะไปเหรอคะ หนูนาทานไม่หมดหรอกคะ” พูด ออกไปอย่างที่เห็น และตอนนี้ปีเตอร์ก็เดินอ้อมมานั่งที่เก้าทรงสูง อีกตัวข้างๆเธอ

“แล้วใครจะให้หนูนากินหมดละ ผมก็หิวเหมือนกันเราจะกิน ด้วยกัน” ตอบออกไปมือก็จัดการหยิบร้อมหมุนพันเส้นสปาเก็ตตี้ ขึ้นมาเปาและต่อจากนั้นก็ส่งไปใกล้ปากหนูนา “อ้าปากสี ไม่ร้อน แล้ว”

หนูนาอ้าปากตามที่เขาบอก “นอกจากจะแปรงสีฟันแล้วยัง ต้องกินจานเดียวกันอีกด้วย” หนูนาคิดไปเคี้ยวไป ก็ไม่พูดอะไร และมองเขาตกให้ตัวเองสลับกันไปจนสปาเก็ตตี้หมดจานหนูนา เอื้อมมือไปหยิบจานทันที“หนูนา…จะเก็บ…ล้างเอง…คะ พูดเน้นย้ำทุกคำเพื่อให้เข้าใจตามนั้น ห้ามปฏิเสธเพราะไม่งั้นคง ต้องมีการทะเลาะในเรื่องไม่เป็นเรื่องแน่ๆ ปีเตอร์ก็แค่หยักไหล่ และกอดอกปล่อยให้หนูนาทำตามความต้องการ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ