จังหวะรักมาเฟีย

II [2/2]



II [2/2]

“OH!…WOW..” ทันทีที่หนูนาออกจากห้องไป เสียงเหล่า สมาชิกในวงก็ร้องออกมาแทบจะพร้อมกัน ยกเว้นปีเตอร์ที่แสดง สีหน้าไม่ค่อยพอใจกับเพื่อนร่วมวง เพราะรู้สึกหวงเธออย่างไม่ เข้าใจตัวเอง

“ผู้หญิงไทยว่ากันว่าสวยแล้ว แต่ที่น่าพ่วงด้วยความน่ารัก น่าทะนุถนอมมาก…ว่ามั้ย พีท” จอนนี่พูดขึ้นมาพร้อมถามปี เตอร์ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์สื่อความหมายบางอย่าง

“ไม่รู้….คงต้องไปถามแคทรีนดูนะ” คำตอบของปีเตอร์ ทำเอาจอนนี่หุบยิ้มทันที

“ไอ้นี่! เล่นของสูง…แฮะ” จอนนี่ร้องออกมา

“Ha..Ha…Ha” เหล่ามาชิกที่เหลือต่างหัวเราะชอบใจ

“ก็อก…ก็อก…” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเขียน ผู้ จัดการก็ก้าวเข้ามาพร้อมปิดประตู

“ขอโทษ…ผมติดประชุมพึ่งเสร็จเลยให้นีน่าแวะเข้ามา แนะนำตัวกับพวกคุณก่อน” แล้วสายตาก็กวาดมองไปทั่วห้อง เพื่อมองหาหญิงสาวที่เอ่ยนามออกไป

“เธอออกไปจัดการอาหารเที่ยงให้พวกเรา” ปีเตอร์ตอบข้อ สงสัยจากสายตาของเอียน
“อืม……..ผมดีใจที่พวกคุณโอเคกับเธอ เธอเป็นเด็กดีและ ขยันมาก” เขียนพยักหน้ารับรู้พร้อมให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัว หญิงสาวเพิ่ม

“นีน่า…มีแฟนหรือคนรักเหนือยัง?” สตีฟที่เงียบอยู่นานถาม ขึ้น พร้อมชายตาแอบไปมองนักร้องนำของวง เห็นว่ากำลังก้ม หน้า แต่ท่าทางนิ่งๆแบบนั้น เขารู้ได้ทันทีว่าคงตั้งใจฟังคำตอบ อยู่

“HA..HA…Ha เป็นคำถามที่ดีสตีฟ แต่ผมไม่แน่ใจในเรื่อง นี้ มันเรื่องส่วนตัวของเธอ…แต่เท่าที่รู้จักเธอมากว่าสองสัปดาห์ ผมไม่เคยเห็นใครที่นี่ที่เธอจะสนิทเป็นพิเศษ เพราะเท่าที่รู้คือเธอ ทำงานสองที่ คือที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนกับที่นี่และไปเรียน เพราะ ฉะนั้นเสียใจด้วยนะ ผมไม่รู้จริงๆพวกคุณคงต้องสังเกตและถาม เธอเอง…”

“เฮ้ย!!!! สตีฟร้องอย่างเสียดาย “ว่าแต่ว่าคุณเขียน มี อะไรเหรอเปล่าครับ” ถามต่อทันที

“ไม่มีอะไร…พวกคุณซ้อมต่อเถอะ ผมไม่กวนแล้ว แค่เข้ามา ดูความเรียบร้อย…ถ้างั้นผมขอตัว” ก่อนจะเดินออกจากห้อง เอียนหันกลับมาพูด” ผมลืมบอกนี้น่าเขาจะมีเรียนด้วย เดี๋ยวพวก คุณถามกันเองนะ เพราะเธอมีหน้าที่ดูแลพวกคุณกับห้องนี้” พูด จบก็เดินออกจากห้องไป ทุกคนเพียงพยักหน้ารับทราบไม่มีใคร กล่าวอะไรกันอีก ต่างก็ซ้อมเพลงกันต่อจนกว่ามื้อเที่ยงจะพร้อม

เมื่อทุกคนจัดการอาหารมื้อเที่ยงเรียบร้อยวันนี้เป็นอาหารอิตาเลี่ยนจากข้อมูลที่ได้รับจากเอียน คงเดากันได้ทันทีว่ามาจาก ร้านที่เธอเคยทำงาน หลังจากเสร็จแล้วทุกอย่างต่างก็กลับไปทำ หน้าที่ของตัวเอง กลุ่มศิลปินก็เข้าไปในส่วนของการซ้อม ส่วน หนูนาหลังจากเก็บทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็มานั่งที่โซฟา เพื่อรอ รับคำสั่งว่าใครต้องการอะไร เธอไม่เคยเห็นการซ้อมดนตรีกันมา ก่อนและอีกสามวันศิลปินกลุ่มนี้ต้องออกงาน พวกเขาซ้อมเพลง ที่จะไปเล่นและมีมุขน่ารักกล่าวทักทายแฟนเพลงบรรยากาศเป็น ไปอย่างสบายๆ เพราะพวกเขาเหล่านี้ร่วมงานรู้จักกันมาหลายปี แล้วนั้นเอง หนูนานั่งดูมาได้สักพัก ไหนๆก็ไหนๆไม่มีใครเรียก ใช้เธอก็เลยตัดสินใจหยิบ MacBook ในกระเป๋าออกมา

“ขอปั่นนิยายเรื่องใหม่ส่งโครงเรื่องไปที่เมืองไทยสักหน่อย ดีกว่า” คิดได้ดังนั้นเธอหยิบหูฟังเสียบและเปิดเพลงฟัง ขณะปั่น นิยายมันเป็นวิธีการสร้างสมาธิของเธอในการเขียน แต่คราวนี้ เป็นอัลบั้มเพลงของกลุ่มศิลปินในห้องแห่งนี้ เพราะเธอจะเขียน โดยบุคลิกตัวละครที่จะโลดแล่นในนิยายของเธอคือพวกเขา “จังหวะรักมาเฟีย (Mafia’s Rhythms Of Love)” คือชื่อของ เรื่องผลงานชิ้นนี้

อิริยาบทของเธอนั้นไม่ได้รอดพ้นสายตาชายหนุ่มที่ถูกตั้ง ฉายาเลย ตอนนี้เขาเห็นเธอนั่งกับพื้นวาง MacBook กับโต๊ะ กลางที่บริเวณโซฟา ขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเขากลับอยากรู้ว่า เธอกำลังทำอะไร…

“เป็นอะไรวะ! ทำไมถึงอยากรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังฟังอะไร คิด อะไร ทำอะไร” เพราะอยู่ๆแววตาของเธอก็เปลี่ยนไปดูจริงจังขึ้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ทุกคนในห้องก็ต่างทำหน้าที่ ของตัว จนเวลาล่วงมาพอหันไปดูนาฬิกาก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว เป็นไรอัลที่เอ่ยกับสมาชิกในวง

“วันนี้เอาเท่านี้ก่อนนะ พรุ่งนี้สายๆ เรามาซ้อมกันอีกรอบ

หนูนาแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ปีเตอร์เดินออกจากห้อง ซ้อมแล้ว มานั่งที่โซฟาใกล้เธอที่สุด และก้มหน้ามาเกือบใกล้ หน้าเธอแต่จ้องไปที่หน้าจอ MacBook ว่าเธอกำลังทำอะไร ซึ่ง เป็นภาษาที่เขาอ่านไม่ออก แต่ก็พอเดาได้ไม่ยากว่าเป็นภาษา ไทย เพราะตัวอักษรคล้ายๆกับที่ปักไว้ตรงหน้าอกตุ๊กตาพวง กุญแจที่ขโมยของเธอมา ซึ่งเขาไปหาคำตอบของบทความนั้นมา แล้วจึงเอ่ยถามเธอว่า “หนูนา…กำลังทำอะไรเหรอ?”

ทันทีที่ได้ยินเสียงและสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่ใกล้ตัวมาก หนู นาก็หันไปด้วยความตกใจ ทำให้ตอนนี้หน้าเธอกับปีเตอร์ห่าง กันแค่คืบ ซึ่งเขาหันหน้ามารอเธอก่อนอยู่แล้ว พอเห็นหน้านัก ร้องหนุ่มใกล้ๆทำเอาหนูนาลืมหายใจ ตาโตจ้องเขาตาไม่ กะพริบจน ปีเตอร์ต้องบอก “หายใจด้วยสิ” พร้อมกับยิ้มที่มุม ปากเมื่อเห็นอาการของหนูนา “น่ารักแฮะ” คิดในใจ

“อืม…กำลัง เขียน…นิยาย….ส่ง… สำนักพิมพ์…” หนูนา ตอบแบบตะกุกตะกัก เพราะต้องเตือนตัวเองให้หายใจไปด้วย พร้อมกับค่อยๆถอยหน้าออกห่างทีละนิด

“หนูนา…เขียนนิยายด้วยเหรอเนี่ย!…ว่าแต่เรื่องเกี่ยวกับ อะไร ขออ่านด้วยได้มั้ย?”
“อือ!…คือ…” จะให้บอกได้อย่างไรก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเขา น่าอายตายเลย

“ไม่ได้ค่ะ….เป็นความลับเพราะยังเขียนไม่เสร็จ…คือ หนู นา…พึ่งเริ่มเปิดเรื่องใหม่เมื่อครู่เอง…คงให้คุณทราบและอ่านไม่ ได้ เพราะมันเป็นภาษาไทยหนูนาเขียนส่งสำนักพิมพ์ที่ไทย อธิบายด้วยความลืมตัวเผลอแทนตัวว่า “หนูนา” ตามคำเรียก ของ นักร้องนำอย่างลืมตัว…

ปีเตอร์รับฟังและพยักหน้า พร้อมรอยยิ้มกับแววตาบ่งบอก ความดีใจอย่างชัดเจนที่หนูนาแทนตัวเองกับเขาว่า ‘หนูนา’ โดยที่เธอเป็นไปตามธรรมชาติไม่รู้ตัวสักนิด และยิ่งได้มองหน้า เธอใกล้ๆอีกครั้ง แต่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่ได้หลับหนูนามีดวงตา ที่กลมโต ขนตางอนยาวอย่างธรรมชาติรับกับดวงตา จนเขา อยากจะจับมาชิมและจูบปากอิ่มที่ช่างเจรจานี้จริงๆ พร้อมกลิ่น หอมอ่อนๆ ที่น่าจะมาจากกลิ่นแป้งบวกกลิ่นสาวช่างน่าหลงใหล นักจนไม่อยากถอยห่างจากเธอเลย

สมาชิกในกลุ่มต่างก็เดินมาที่เธอเพื่อที่จะมากล่าวคำลา และก็เดินออกจากห้องไป “พีท นายยังไม่กลับเหรอ?” และเป็น ไรอัลที่หันมาถาม

“อืม…สักพัก…บาย” พูดเพียงแค่นั้นและกล่าวลา โดย สายตาไม่ได้หันมองคู่สนทนาด้วยเลย

“บาย…” ไรอัลกล่าวลาพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ “บาย…น่า

“บาย…” หนูนากล่าวพร้อมยิ้มน่ารักส่งให้ไรอัล ทำให้ปีเตอร์ที่เห็นถึงกับหน้าตึงใส่ทั้งสองอย่างลืมตัว

“เอ่อ…คือคุณจะกลับตอนไหนคะ?” ทันทีที่ไรอัลเดินออกไป หนูนาก็หันมามองนักร้องหนุ่มที่เหลือเพียงหนึ่งเดียว

“ถามทำไม…” ปีเตอร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เนื่องจากอารมณ์ยังค้างกับสถานการณ์เมื่อครู

“เป็นอะไรของเขา ถามดีๆอยู่ๆก็มาทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่ ยังไงไม่รู้”หนูนาคิดแต่ตอบกลับไปว่า “คือฉันจะต้องรอปิดห้อง คะถ้าพวกคุณไม่ใช้ห้องแล้ว” พอได้ฟังคำตอบของเธอทำให้ เตอร์ที่อารมณ์ค้างอยู่เมื่อกี้นี้เพิ่มความขุ่นมัวมากไปอีก เพราะ จากตอนแรกแทนตัว “หนูนา” เป็น “ฉัน ทำให้ปีเตอร์ขบกราม แน่นและลูกจากตรงนั้น คว้าเสื้อโค้ชแล้วก็เดินออกจากห้องไป เลย

“การกระทําแบบนั้นคงหมายถึง กลับแล้วสินะ” หนูนาบ่น กับตัวเองและมองอย่างไม่เข้าใจ หรือว่าศิลปินอารมณ์ต้อง แปรปรวนแบบนี้

ปีเตอร์ตอนนี้นั่งอยู่ในรถแต่ยังไม่เคลื่อนรถออกจากที่จอด รถของตึกด้วยความรู้สึกที่หงุดหงิด

“ทำไมถึงหงุดหงิดแบบนี้ค่ะ บ่นกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ตัวเองหรือว่าจะคิดถึงเจซี เพราะเขากับเจซีไม่ได้เจอกันมากว่า สองเดือนกว่า เพราะเขาต้องไปทัวร์คอนเสิร์ต พอเขากลับมาเธอ ก็ต้องไปเดินแบบที่ฝรั่งเศษอีกสามสัปดาห์ได้แต่คุยโทรศัพท์กัน บ้างเวลาว่างที่ไม่ตรงกันจึงไม่ค่อยได้คุย ทั้งเขาและเธอต่างก็ชินเพราะรู้จักคบหากันมากว่าสิบปี ถ้าเป็นคู่อื่นคงแต่งงานไปแล้ว แต่ระหว่างเขากับเธอต่างก็ไม่มีใครเร่งรัดใคร หรือแสดงความ ต้องการที่จะอยากแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวกัน

แต่ความรู้สึกของเขาที่เป็นอยู่นี้ เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่เขาพึ่ง เจอได้แค่สองวัน เมื่อนั่งทบทวนแต่ก็ยังหาคำตอบกับความรู้สึก นี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจปล่อยมันไปและขับรถอออกไป ด้วยความ รู้สึกที่ค้างคา….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ