จังหวะรักมาเฟีย

II [1/2]



II [1/2]

“อยู่ไหนเนี่ย!…” หนูนาบ่นพร้อมกับก้มๆเงยๆ และสลับนอน ราบไปกับพื้น ซึ่งเธอกำลังหาพวงกุญแจที่คิดว่าน่าจะทำร่วงใน ห้องพักสตูดิโอแห่งนี้แถวบริเวณโซฟาที่เธอวางเป้ก่อนออกจาก ห้องไปตอนเที่ยงของวันนี้ เมื่อเธอหมดคราสเรียน ตั้งใจจะไป แจ้งต่อสเตฟานคุณลุงใจดีชาวอิตาเลี่ยนที่รับเธอเข้าทำงานเป็น เด็กเสิร์ฟก่อนหน้านี้ เพราะเธอไม่สามารถมาทำได้อีกสักพัก เพราะเมื่อกลุ่มศิลปินกลับมาจากทัวร์คอนเสิร์ต นอกจากเวลาที่ เธอไปเรียนเวลาที่เหลือเธอต้องมาอยู่ที่สตูดิโอเพื่อทำหน้าที่ที่ได้ รับว่าจ้างไว้ ตามที่ได้ตกลงกับคุณเขียนไว้ก่อนหน้านี้

“ทำไงดี…ถ้าหาไม่เจอ แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหนละเนี่ย!!! นี่ก็ จะสามทุ่มแล้ว ถ้าต้องไปติดต่อเจ้าของหอพักตอนนี้ มันไม่ควร เลย!!!” หนูนาหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ ได้แต่นั่งขาพับอยู่กับพื้นบน กับตัวเอง เพราะตอนนี้เธอทั้งเหนื่อยและง่วงมากๆ วันนี้เธอต้อง ตื่นมาตั้งแต่เช้า เพื่อมาปฏิบัติภาระกิจประจำของวันนี้

ขณะที่กำลังกลุ้ม สายตาก็มองไปรอบๆก็คิดได้ว่า ตั้งแต่เธอ เข้ามา ก็ไม่เจอใครในนี้ เพราะตามที่ได้รับแจ้งจากคุณเขียน กลุ่มศิลปินจะมีการทำงานกันทั้งคืน เพราะเวลาส่วนใหญ่ถ้าพวก เขาไม่ออกทัวร์คอนเสิร์ตหรือมีการถ่ายทำนอกสถานที่ ทุกคนก็ จะใช้เวลาอยู่ในห้องนี้เพื่อทำงานเพลงกัน แต่วันนี้ตอนที่เธอ กลับเข้ามาในสตูดิโออีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ เพื่อมาหาพวงกุญแจ หอพักเธอกลับไม่พบใคร
“ขอนอนที่นี่แล้วกันนะ!!! สำหรับคืนนี้” เมื่อคิดได้ดังนั้น โซฟาข้างตัวก็ขอเป็นที่พนักเพื่อที่จะไปเฝ้าพระอินทร์แล้วกัน

ถึงแม้ห้องพักสตูดิโอแห่งนี้ จะมีห้องนอนเพื่อเป็นที่พักของ กลุ่มศิลปิน ยามอ่อนเพลียจากการทำงานพวกเขาสามารถนอน พักผ่อนที่นี่ได้เลย แต่หนูนาก็ไม่คิดจะไปนอนในนั้น เพราะมันไม่ สมควรอย่างยิ่ง สำหรับเธอคิดอย่างนั้น

“แกร็ก…” ขณะที่หนูนาเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ก็มีเสียง ลูกบิดประตูผลักเข้ามาปีเตอร์มองเข้ามาในห้องที่มืด เพราะนี้ เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มหลังจากที่ออกไปฉลองกับกลุ่มเพื่อนๆ เพราะ วันนี้เป็นวันที่แปด ตุลาคม วันคล้ายวันเกิดอายุครบยี่สิบเก้าปี ทั้งผู้จัดการและเพื่อนๆ ต่างร่วมฉลองกันเป็นปกติเหมือนกันทุก คน แต่ครั้งนี้เขากลับขอตัวกลับก่อน เนื่องจากมีเหตุผลที่ตัวเอง ก็ไม่เข้าใจ ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับพวงกุญแจที่เก็บได้เมื่อตอนเที่ยง

ปีเตอร์มองเข้ามาในความมืดด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง และขณะ กำลังจะถอยพร้อมปิดประตู ก็ต้องชะงัก! เพราะได้ยินเสียงบาง อย่างซึ่งเป็นจังหวะที่หนูนากำลังพลิกตัว ปีเตอร์เพ่งสายตาไปที่ บริเวณโซฟาก็เห็นบางอย่าง จึงเปิดไฟดวงเล็กเพียงหนึ่งดวงและ เดินเข้ามาข้างในอย่างช้าๆและเงียบๆ เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจ ว่ามีใครบางคนกำลังใช้โซฟาที่เขาชอบนั่งใช้ความคิด เป็นที่พัก ผ่อนไปแล้วตอนนี้ ปีเตอร์ค่อยๆเดินไปนั่งชันเข่าและจ้องมอง หญิงสาวที่เขามั่นใจว่าเป็นเจ้าของพวงกุญแจ เพราะเธอมีผมที่ หยิกยาวเป็นลอนแบบธรรมชาติคล้ายตุ๊กตาพวงกุญแจ หน้าผาก นูน คิ้วเขหลับสนิท จมูกเชิดนิดๆแสดงถึงว่าเจ้าของเป็นคนดื้อเล็กๆ ปาก อิ่มได้รูป เป็น ผู้หญิงที่รูปหน้าสวยคมแบบคนเอเชียโดยแท้ผิว สีน้ำผึ้งเนียนละเอียด ปีเตอร์โล่สายตาไปเรื่อยๆรูปร่างที่อยู่ภาย ใต้เสื้อโค้ชที่ตอนนี้มีหน้าที่อีกอย่างคือเป็นผ้าห่มคลุมล่างเล็ก บอบบางเกือบมิดชิด…

“ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงแบบนี้” ปีเตอร์บ่นกับตัวเองขณะ จ้องมองพิจารณาหญิงสาวตรงหน้า “ถ้าให้นอนตรงนี้ คงน่า สงสารแย่” เมื่อคิดได้ดังนั้น ปีเตอร์ค่อยๆเข้าไป และค่อยๆ ช้อน ตัวเธออย่างระมัดระวังอย่างอ่อนโยน ขณะที่กำลังซ้อนตัวเธอขึ้น เข้าสู่วงแขน เขาก็ต้องกลั้นใจ!! เพราะเกรงว่าเธอจะตื่นเมื่อเธอ ขยับตัวปีเตอร์หยุดการเคลื่อนไหวโดยทันที แต่แล้วเมื่อมั่นใจ ว่าเธอคงหลับสนิท ขณะที่อุ้มเธอนั้นสายตาก็ไม่ได้ละจากใบหน้า คมหวานเลย และสายตาก็มาหยุดที่ริมฝีปากอิ่ม แอบคิดว่าจะนุ่ม และหวานแค่ไหนนะถ้าได้สัมผัส เมื่อมาถึงห้องนอน ในสตูดิโอ ค่อยๆบรรจงวางเธอลงอย่างเบามือพร้อมลากผ้าห่มคลุมกายให้ และนั่งมองหน้าที่ตอนนี้หลับอย่างสบายโดยไม่รู้ตัวว่าถูกต้อง มอง

ปีเตอร์ค่อยๆก้มหน้าเข้าไปใกล้อย่างเคลิบเคลิ้มและลืมตัว จุมพิตที่หน้าผากนูน ดวงตาที่ปิดสนิท จมูกที่คั้น และริมฝีปากอิ่ม อย่างลืมตัว และต้องกลั้นใจอีกครั้งเมื่อเธอขยับตัวอีกครั้ง เขา ต้องค่อยๆถอยออกห่างร่างบางอย่างเสียดาย และเดินออกจาก ห้องไปอย่างเงียบๆ ไม่อยากรบกวนเวลาบรรทมของ “นางฟ้า ของเขา”
“laz!!!…”

ปีเตอร์รู้สึกตกใจกับความคิดของตัวเองที่ตอนนี้ออกมานั่งที่ โซฟาที่เธอใช้เป็นที่พักผ่อนก่อนหน้านี้ ว่าเพียงแค่เก็บพวง กุญแจและเห็นเจ้าของพวงกุญแจในยามหลับ ทำให้เขาเกิด ความรู้สึกอยากเป็น เจ้าของเธอ และเก็บเธอไว้เป็นของเขา เป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีและเกิดขึ้นแม้กับเจซี เขาจ้องมอง ตุ๊กตาพวงกุญแจในมืออย่างกับมันสามารถทดแทนใบหน้า ที่นอนหลับอยู่ในห้องข้างๆได้ “ของขวัญวันเกิดปีนี้ช่างดีจริงๆ และเผลอหลับไปตรงนั้น

“ยิ้ม…!” หนูนาค่อยๆบิดและขยับตัว เมื่อรู้สึกตัวน่าจะเข้า แล้ว และเมื่อค่อยๆลืมตามองไปรอบๆ “เอ๊ะ!!…ที่นี่มัน…..มานอน ในนี้ได้ไงเนี่ย!!!” คำถามซึ่งไร้คำตอบ เพราะมองไปรอบๆ ใน ห้องมีแค่เธอ หนูนารู้สึกตกใจตื่นตาสว่างรีบลงจากเตียงหมุน รอบตัวเอง มองไปที่เตียงอย่างกับเห็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้จะ ตกใจแต่เธอก็จําได้ว่านี่คือห้องนอนในสตูดิโอที่เธอเข้ามาเมื่อ คืน และรีบสำรวจตัวเองก็ยังอยู่ในชุดเมื่อวานนี้เหมือนเดิม

เมื่อสติเริ่มกลับมาเกือบปกติ ก่อนจะออกจากห้องก็ไม่ลืมที่ จะเก็บเตียงให้เรียบร้อย และค่อยๆแง้มประตูแอบมองว่าข้าง นอกมีใครบ้าง แต่ทุกอย่างว่างเปล่าไม่มีใคร จึงค่อยๆเดินออก มาตรงที่โซฟา เธอเห็นเป้พร้อมพวงกุญแจวางไว้ข้างๆ แต่มีบาง สิ่งหายไป คือ ตุ๊กตาที่แทนตัวเธอที่นีออนทำให้ก่อนเดินทางมา อเมริกา มันหายไป แต่ลูกกุญแจอยู่ครบ หนูนาคงต้องเก็บความ สงสัยไว้ก่อน เพราะตอนนี้เธอต้องรีบออกจากที่นี่ เพราะอีกสองชั่วโมงเธอมีเรียนถึงเที่ยง และช่วงบ่ายเธอต้องมารายงานตัวกับ กลุ่มศิลปิน ที่ต่อจากนี้เธอต้องเข้ามาดูแลพวกเขาตามหน้าที่

หนูนาไม่รู้ตัวเลยว่าพฤติกรรมท่าทางทุกอย่างของเธอ อยู่ ในสายตาของใครบางคนที่ซ่อนตัวไม่อยากให้เธอได้เห็น และ เมื่อเธอออกจากห้องไปปีเตอร์ก็เดินออกมาพร้อมที่ในมือมีตุ๊กตา ที่ขโมยมาจากพวงกุญแจของเธอ

“บ้าหรือเปล่าวะเรา นี่ถ้าเธอรู้คงคิดว่าเราโรคจิตแน่ๆ ที่ โดนขโมยทั้งตุ๊กตาและจูบ” คิดไปก็ยิ้มกับตัวเองแบบที่ไม่เคย ยิ้มมาก่อนเลยในความรู้สึกดีแบบนี้ และออกจากห้องไป โดยทิ้ง ระยะเวลาให้เธอล่วงหน้าไปก่อน

“ก๊อก…ๆๆๆ” เสียงเคาะประตูน้ำพร้อมกับประตูที่ถูกผลัก เข้ามา อย่างไม่ต้องรอเสียงขออนุญาตต่อบุคคลภายในห้อง เพราะเป็นธรรมเนียมรู้กันอยู่แล้ว เมื่อมีไฟดวงเล็กๆสว่างที่หน้า ประตู แสดงว่ามีเจ้าของห้องกลุ่มศิลปินกำลังทำงานอยู่ หนูนา ค่อยๆเดินเข้าไปพร้อมปิดประตูเบาๆ และกวาดสายตามองไป รอบๆ ตอนนี้ทุกคนในวงอยู่ที่ตำแหน่งเครื่องดนตรีของแต่ละคน ทุกคนหยุดกิจกรรมทุกอย่าง และหันมามองที่สาวเอเชียร่างบาง ที่ยืนอยู่ใกล้ประตู ด้วยสีหน้าที่บอกความรู้สึกกันไปคนละแบบ

สำหรับหนูนาทราบดีอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร เพราะพวกเขา คือกลุ่มศิลปินที่ดังมาก และไหนจะโปสเตอร์รูปพวกเขาที่ติดตาม ฝาผนังในห้องนี้อีก ถึงแม้ว่าเธอพึ่งจะรู้จักพวกเขาในนามเมื่อ สองอาทิตย์ก่อน แต่พอมาเห็นตัวจริงไม่รู้จะอธิบายความรู้สึก อย่างไร ถึงแม้เธอจะเป็นนักเขียนนิยายก็ตาม
“สวัสดีค่ะ! ฉันนี้น่าค่ะ พวกคุณเรียกฉันเหมือนกับที่คนที่นี่ เรียกได้เลย…คิดว่าพวกคุณคงพอจะทราบแล้วว่าฉันมีหน้าที่ ดูแลพวกคุณที่นี่…”เงียบ!!!หลังจากที่หนูนาพูดจบก็ยังเกิดความ เงียบภายในห้อง หนูนาเห็นสายตาของทุกคนที่ยังจ้องมาที่เธอ โดยไม่มีใครได้เอ่ยอะไรเลย

“ฮะ..แอ้ม! เสียงกระแอมของนักร้องนำดังขึ้นมา เพื่อ ทำลายความเงียบที่กำลังสร้างความอึดอัดให้สาวน้อยเพียงหนึ่ง เดียวในห้องนี้ เรียกสติเพื่อนๆเขาที่ยังจ้องเธอตาไม่กะพริบกัน ซึ่งเขารู้สึกไม่ชอบสักเท่าไหร่ และทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นหนูนามอง ตามต้นตอของเสียงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ

“อืม…สวัสดีครับ ผมไรอัลเป็นตัวแทนของทุกคนยินดี ต้อนรับครับ และหลังจากนี้รบกวนด้วยครับ” ไรอัลเป็นผู้กล่าว ทักทายและต้อนรับหนูนาอย่างเป็นทางการและให้เกียรติสาว น้อยเพียงหนึ่งเดียว ณ ห้องแห่งนี้ และทุกคนก็กล่าวทักทาย พร้อมแนะนําชื่อตัวเอง และคนสุดท้าย..

“ปีเตอร์…เรียกว่า “พีท” แล้วกัน หลังจากสิ้นเสียงไร้ อารมณ์ของปีเตอร์เหล่าสมาชิกในวงได้หันและย้ายสายตามาที่ ปีเตอร์ อย่าง งงๆ และอึ้งๆด้วยความประหลาดใจ เพราะต่างคน คงคิดไปทางเดียวกันว่าหญิงสาวตรงหน้าคง ซึ่งทุกคนเข้าใจ ความหมายกันชัดเจนแค่เพียงสบตากันเอง

“พูดยาวแฮะ…” พอลพึมพำเบาๆและหันไปขยิบตากับไรอัล หนูนาหันมายิ้มพยักหน้ารับกับคำทักทายกลับพร้อมแนะนำชื่อของทุกคนและจนมาถึงคนสุดท้ายนักร้องนำ ที่แนะนำตัวกับ เธอแบบเย็นชาไร้ซึ่งรอยยิ้มหนูนาหุบยิ้มทันทีเมื่อได้สบตา คุณชายชาเย็น แต่แล้วจู่ๆเธอก็กลับยิ้มอีกครั้งทั้งใบหน้า เพราะ ทันทีที่เธอได้เห็นตัวจริงพร้อมกับได้ยินเสียงของเขาครั้งแรก พร้อมตั้งฉายาให้เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม ไอเดียร์นิยายเรื่องใหม่ ก็เกิดขึ้นทันทีซึ่งรอยยิ้มและแววตาของหนูนาไม่ได้รอดพ้นไป จากสายตาของปีเตอร์ได้เลย

“น่าจับมาชิมจริงๆ” เขาคิดได้ทันทีที่เห็น โดยไม่รู้ถึงเหตุผล เลยว่าการที่เธอแสดงสีหน้าและอารมณ์แบบนั้นเกิดจากอะไร เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งเขาอยากรู้จริงๆ อะไรในความคิดของ เธอถึงทำให้เธอดูสดใสน่ามองมากมายขนาดนี้ ตาจ้องตากัน จนไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน

พอล ละ จากเครื่องดนตรีประจำตำแหน่ง เดินตรงมาที่ ” น่าพวกเราคงไม่ออกไปหาอะไรกินมื้อเที่ยงรบกวนน่าช่วย จัดการให้ด้วย ได้มั้ย?”

หนูนาตื่นจากภวังค์ไอเดียร์ที่มันพุ่ง “ เดี๋ยวคืนนี้จะไปปั่น โครงเรื่องเสนอสำนักพิมพ์”คิดได้ดังนั้น “ค่ะ…..พวกคุณอยาก ทานอะไรกัน เดี๋ยวนี้น่าจัดการให้

“ได้ทุกอย่างครับ พวกเราทานง่ายๆ แต่พีทแพ้ถั่วครับ

“ค่ะ….รับทราบค่ะ…รอสักครู่นะคะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ