ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 4 พวกเราหย่ากันเถอะ



บทที่ 4 พวกเราหย่ากันเถอะ

บนหน้าหลิวจื่อหญิงสีหน้าดูไม่ดี เหงื่อออกเต็มหน้า

ไม่มีวิธีเลย เหม็นเหลือเกินเสียจริง เขาโดนติดที่ตัวเองปล่อย ออกมารมจนน้ำตาไหลแล้ว

พลังอันมหาศาลส่วนหนึ่งในกระเพาะ เหมือนจะพ่นออกมาได้ ทุกเมื่อ

“คุณชายหลิว ขอให้คุณรีบไปเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะโดนคุณ รมจนตายกันหมด……

มีคนส่งเสียงตะโกน

หลิวจื่อหยังนึกไม่ถึงว่าตนเองจะเป็นแบบนี้กะทันหัน อยากพูด อะไรหน่อยก็ตดดังปูดๆ ติดต่อกันหลายที นี่ทำให้เขา สะอิดสะเอียนจนอยากคลื่นไส้ เกือบจะอาเจียนออกมา

รอเดี๋ยวเขาคงกลายเป็นผู้ชายคนแรกบนโลกที่โดนตัดของ ตนเองรมจนอาเจียนแล้ว

นี่ทำให้หลิวจื่อหยังไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป หมุนตัวอยากพุ่ง ออกนอกประตูไปหาห้องน้ำ

แต่ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน เหมือนโชคร้ายพัวพันอยู่ที่เขา เพิ่ง ก้าวออกมาได้ไม่ถึงสองก้าว เท้าซ้ายก็ขัดเท้าขวาอีก ล้มอย่างกระเซอะกระเซิงมาก หน้าผากกระแทกที่มุมผนัง ศีรษะแตกเลือด ไหล!

หลิวจื่อหยังเกือบจะแหงนหน้าร้องครามออกมา นี่แม่งมัน เกิดเรื่องบ้าอะไรกันแน่!

แต่ทว่าก็ตดดๆ สองที ความรู้สึกนั้นยิ่งรุนแรงขึ้น ไม่กล้าอยู่ ต่อไปอีกจริงๆ ปีนขึ้นมาโดยไม่สนใจความเจ็บ ออกไปจากที่นี่ อย่างรวดเร็ว

ตามองเห็นหลิวจื่อหยังวิ่งออกไปนอกประตูแบบกระเซอะ

กระเซิงสุดจะทน มุมปากเย่เทียนวาดรอยยิ้มแปลกประหลาดขึ้น

พูดในใจ: “นี่เป็นแค่ดอกเบี้ย พวกเรามีเวลาอีกค่อยๆ เล่นกัน ไป!”

ไม่ผิด เมื่อสักครู่คือเขาเล่นพิเรนทร์

ร่างกายคนเราลี้ลับมหัศจรรย์อย่างมาก มีจุดหลายร้อยจุด กด ลงเบาๆ ล้วนสามารถเกิดผลลัพธ์สารพัดแบบ

เขากดจุดของหลิวจื่อหยังแล้ว ถึงทำให้เขาตดเหม็นไม่หยุด

คนอื่นๆ ก็รีบเปิดหน้าต่างของห้องคนไข้ออกทันที ไม่ง่ายถึง ไล่กลิ่นเหม็นเน่าพวกนี้ออกไปหมด

ในบรรดาผู้คนมีเพียงเฉินหวั่นชิงคนเดียวที่เห็นรอยยิ้มแปลก ประหลาดบนหน้าของเเทียน ถึงแม้ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ สัญชาตญาณบอกเธอว่า หลิวจื่อหยังกลายเป็นแบบเมื่อสักครู่นั้น ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเขามากที่สุด!
บางทีหากมองตรงส่วนที่แปลกประหลาดของเยเทียนออก เฉินหวั่นซิงเอ่ยปากอย่างจับพลัดจับผลู

“เย่เทียน เมื่อกี้นายพูดว่า นายมีวิธีรักษาโรคหัวใจของคุณ

ให้หายใช่ไหม?”

เย่เทียนรีบพยักหน้าทันที “ถูกต้อง ฉันมีวิธีแน่นอน โดยเฉพาะ สามารถทำให้คุณปู่ดีขึ้นมาถึงที่สุดได้ด้วย!”

พูดพวกนี้ออกมา ทุกคนอดตกตะลึงไม่ได้ ทันใดนั้นที่เกิดเหตุ ฮือฮาขี้นกัน เริ่มพูดจับผิดเยเทียนขึ้นมา

“เย่เทียน ขี้โม้ก็ไม่ใช่โม้แบบนี้ แม้แต่ท่านหนูยังไม่มีวิธี นาย คิดว่านายเป็นหมอวิเศษเหรอ? ยังสามารถรักษาโรคของคุณปู่

ให้ดี?” “ใช่ ถึงแม้เป็นฮัวโต่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ได้พูดจาโอ้อวดขนาดนี้ แบบนาย!”

“แกรักษาคุณปู่ให้หายดีได้ ฉันจะเขียนเฉินหยังสองคำนี้กลับ หลังให้ดู!”

ทุกคนเยาะเย้ยอย่างกำเริบเสืบสาน เห็นได้ชัดว่าเดิมที่ไม่เชื่อ คำพูดนี้ของเย่เทียน

เย่เทียนรู้ว่าพวกเขาไม่เชื่อ แต่ไม่สนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพลักษณ์สวะของเขาฝังรากลึก ยากมากที่จะเปลี่ยนความคิด ของคนอื่นที่มีต่อเขาในเวลาอันสั้น

แต่ว่าเย่เทียนไม่มีความหมายที่อยากเปลี่ยนแปลง คนอื่นมองเขาอย่างไร เกี่ยวข้องอะไรกับเขาด้วย?

เพียงแค่ตอนนี้เกี่ยวกับอาการป่วยของตนเอง เย่เทียนไม่ อยากเสียเวลา จิตอาฆาตแค้นที่แข็งตัวทะลักออกมาอย่างรุนแรง จากบนตัวเขา ดุจภูเขาสูงลูกหนึ่ง กดจิตใจของแต่ละคนเอาไว้

“ผมไม่สนว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่ วันนี้ผมจะรักษาโรคให้คุณ

“แกบ้าไปแล้วหรือไง ที่นี่คือสถานที่ที่แกทำมั่วชั่วได้เหรอ? ให้ แกเข้ามาถือว่าไว้หน้าแกมากแล้ว ยังคิดจริงว่าตัวเองเป็น

เฉินหยังอดไม่ได้ลุกออกมาด่าทอเยเทียน

เพียงแค่เย่เทียนมองด้วยสายตาเฉียบขาดไป ก็ทำให้เขาตัว แข็งไปหมด

สายตานั้นคืออะไรกัน? ทำไมรู้สึกตนเองเหมือนโดนเลือดตัว หนึ่งจ้องอยู่ ช่างน่าสยองขวัญเสียจริง

เฉินหยังตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน คำพูดช่วงท้ายติดอยู่ในลำ

อเอาดื้อๆ

คอเอ

“เย่เทียน ฉันสามารถให้แกลองดูได้ แต่ว่า ถ้าแกกล้าทำมั่วซั่ว อย่าโทษว่าฉันใจร้าย!”

ช่วงสำคัญ ยังเป็นเฉินจงเรือลุกออกมาแล้ว สายตาที่มองทาง เย่เทียนซับซ้อนเล็กน้อย
พอเย่เทียนได้ยิน สีหน้าเคร่งขรึม พูดรับรอง “ถึงผมจะใจ เหี้ยมโหดอย่างไร ก็ไม่อาจทำร้ายคุณได้!

คนอื่นๆ กลับนั่งไม่ติดแล้ว

“พี่ใหญ่ พี่ให้เขาทำมั่วชั่วได้อย่างไร?

“จริงด้วย ถ้าพ่อของพวกเราเกิดอันตรายถึงชีวิตอะไรขึ้น ใคร จะรับผิดชอบ?”

“ท่านหวู ท่านพูดอะไรสักหน่อยสิ”

ความจริงหรูโซวไม่เชื่อว่าเยเทียนอายุน้อยคนนี้จะมีวิธี แต่ โดยเฉพาะเป็นเรื่องครอบครัวคนอื่น เขาจึงไม่สะดวกเข้าไป ผสมโรง

โดยเฉพาะมองท่าทางของเยเทียนที่มั่นใจมาก ไม่แน่เขาอาจ มีวิธีจริงล่ะ?

“ไม่เป็นไร ให้พ่อหนุ่มคนนี้ดูหน่อย มีผมอยู่ที่นี่ จะไม่เกิดเรื่อง ใหญ่อะไร

หวูโซว์พูดนิ่งๆ ในความเป็นจริงด้วยอาการป่วยของท่าน ผลลัพธ์จะแย่อย่างไร ก็แย่ไปได้ไม่ถึงไหนแล้ว

แม้แต่หนูโชว์ยี่ยังพูดมาขนาดนี้ ทุกคนจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก

อีกเช่นกัน เพียงแค่ใช้สายตาที่ระแวงจ้องเยเทียนไว้

เชื่อว่าถ้าเกิดเย่เทียนมีการกระทำเกินเลยอะไร เชื่อได้ว่าพวก เขาจะพุ่งเข้าไปได้ในวินาทีแรก แล้วจับตัวเข่เทียนเอาไว้
จากนั้น เย่เทียนมาที่ข้างเตียงคนไข้ มองผู้อาวุโสที่นอนไม่ ได้สติ และสีหน้าซีดเซียว ในใจรู้สึกสะเทือนใจครู่หนึ่ง

เขตแดน ในตอนนี้ของเขาอยู่ต่ำ ไม่สามารถรักษาโรคหัวใจ

ของปู่ให้หายดี

แต่ว่า ดันพลังแท้เข้าไปที่หนึ่ง เพื่อเลื่อนอาการป่วยของ ออกไปอีกปีสองปี ตรงนี้ตนเองสามารถทำได้ง่ายดาย

หลังจากช่วงหนึ่งปี เขาก็ควบคุมพลังแน่นอนได้แล้ว ถึงตอน นั้นจะสามารถรักษาอาการป่วยให้ได้หายขาด!

นึกถึงตรงนี้ เย่เทียนจึงไม่รอช้า รวบรวมพลังแท้ที่สะสมลง มาไม่ง่ายไว้ที่ฝ่ามือ กดลงบนหน้าอกของผู้อาวุโสเบาๆ

ทุกคนรู้สึกถึงการกระทำของเขา ต่างกลั้นลมหายใจไว้ อยาก มองว่าเย่เทียนจะกระทำอะไร

“เสร็จแล้ว!”

รู้ที่ไหนว่า มือของเย่เทียนเพียงวางด้านบนไม่กี่วินาทีก็เก็บ กลับไปแล้ว

ทุกคนตะลึงกันก่อน จากนั้นตอบสนองเข้ามา ส่งเสียงหัวเราะ

“เซี้ย ฉันยังคิดว่าเขาจะมีวิธีอะไรจริงๆ ความรู้สึกคือกำลังเป็น ลิงหลอกเจ้าน่ะสิ!”

“ท่านหว ขอโทษที่ผมตา เย่เทียนเขาใช้วิชาแพทย์อะไรกันเพียงแค่ใช้มือกดลงนิดหน่อย ก็สามารถรักษาโรคหัวใจให้หาย ได้?”

ทุกคนเยาะเย้ยอย่างเริบเสืบสาน เห็นได้ชัดว่ากำลังเห็นเช่

เทียนเป็นตัวตลก

เฉินจงเหอแอบทอดถอนใจ ในสายตาเต็มไปด้วยความผิด หวัง เขาเห็นเยเทียนก่อกวนอยู่ที่นี่เหมือนกัน

เฉินหวั่นชิงสีหน้ายิ่งดูแย่กว่า คิดในใจ “ฉันยังคิดว่านาย เปลี่ยนไปจริงๆ ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงเป็นฉันคิดมากไปเอง นาย ก็คือนาย ทําอะไรบ่มบ่ามตามอำเภอใจ ยังกล้าเอาคุณปู่มาล้อ เล่น!”

เธอผิดหวังต่อเย่เทียนเหลือเกิน ในสายตาที่มองเย่เทียนเขียน ความสะอิดสะเอียนไว้เต็ม

คิดในใจอาก็พูดถูก เธอไม่ควรจิตใจลังเลไม่มีความเด็ดขาด

นึกถึงจุดนี้ เฉินหวั่นชิงสีหน้ายิ่งเย็นชา พูดกับเย่เทียนว่า “นาย ออกไปกับฉัน ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”

“มีอะไรรอคุณปู่ฟื้นค่อยว่ากันนะ

เย่เทียนกำลังรอฟื้นมา และไม่ได้สังเกตถึงสีหน้าที่ผิดปกติ ของเฉินหวั่นชิง

“นายอยากทําเป็นเล่นไปถึงเมื่อไรกัน! ตอนนี้ รีบตามฉันออก มาเลย!”
เฉินหวั่นชิงโกรธจนแทบไม่ไหว บังคับลากเปเทียนเดินออก จากห้องคนไข้

ทุกคนมองท่าทางที่โกรธมากของเฉินหวั่นซิงอยู่ ล้วนรู้ว่าเ เทียนต้องตายแน่

แต่ว่าเดิมทีพวกเขาไม่พอใจเยเทียนที่สุด เห็นเขาเสียหน้า จึง เป็นความรู้สึกเหมือนกินไอศกรีมในช่วงที่ร้อนสุดของฤดูร้อนเสีย จริง ช่างสบายใจมากเหลือเกิน

และในเวลานี้ เย่เทียนถูกเฉินหวั่นชิงลากออกจากห้องคนไข้

ยืนอยู่ข้างหน้าต่างคนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่งอยู่หลัง

“พวกเราหย่ากันเถอะ”

เฉินหวั่นชิงหน้าตาไร้อารมณ์ พูดไม่กี่คำนี้ออกมานิ่งๆ เย่เทียนตะลึงอยู่ตรงนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ