ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 3 ทั้งเหม็นทั้งดัง



บทที่ 3 ทั้งเหม็นทั้งดัง

โรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเจียงหนัน

“ท่านหว ขอร้องท่านนะครับ ช่วยพ่อผมด้วย ขอเพียงท่านช่วย ชีวิตพ่อผมได้ ท่านจะให้ผม ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นครับ

ในห้องคนไข้มีเสียงอ้อนวอนลอยมา

คนที่พูดคือชายวัยกลางคนที่สวมชุดจีนโบราณ ลักษณะ หน้าตาคล้ายคลึงกับเฉินหวั่นชิงระดับหนึ่ง ก็คือบิดาของเงิน หวั่นซิง เฉินจงเหอผู้นำตระกูลเฉินคนปัจจุบัน

ข้างกายของเฉินจงเหอ ยังมีหลายคนยืนอยู่ด้วย ล้วนเป็น สมาชิกญาติพี่น้องของตระกูลเฉิน

เฉินหวั่นชิงก็อยู่ในนี้ด้วย

หวูโซวยที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ทอดถอนใจ “คุณเฉิน โรค หัวใจของท่านนั้น ขออภัยที่ผมไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เลย ตอนนี้มีเพียงการผ่าตัดหนทางเดียวแล้วครับ!

พอพูดออกมาแบบนี้ เฉินจงเหอแข็งที่อไปทั้งตัว

หวูโซวยี่เป็นแพทย์แผนจีนชื่อดังที่สุดของเจียงหนัน และเป็น แพทย์เจ้าของไข้ของพ่อเขามาตลอด

ตอนนี้ได้ยินหวูโซว์บอกว่าไม่มีความสามารถทำได้ ชั่วขณะ นั้นหัวใจดวงหนึ่งร่วงลงไปแล้ว
เฉินหวั่นชิงยิ่งสีหน้าโศกเศร้า มองผู้อาวุโสที่ไม่ได้สติบนเตียง คนไข้ ในดวงตามีน้ำตาคลออยู่

“หวั่นชิง คุณวางใจได้ ผมจะต้องหาหมอตะวันตกที่ดีสุดมา เพื่อท่านได้แน่นอน เพื่อผ่าตัดให้ท่าน เวลานี้ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ด้านข้างส่งเสียงปลอบใจเฉินหวั่น

ชิง

เฉินหวั่นชิงฟังอยู่ เพียงแต่พยายามกลั้น

ถ้าสามารถผ่าตัดได้จริง พวกเขาจัดหาแพทย์ดำเนินการไปตั้ง นานแล้ว จะรอจนถึงช่วงเวลานี้ทำไมกัน?

ปู่ของเธออายุมากแล้ว เดิมที่รับการกระทำที่หนักขนาดนี้ไม่ ไหว ถ้าเกิดไม่ระวังสักนิด นั่นคือสถานการณ์ระหว่างความเป็น ความตาย!

“ทําได้เพียงผ่าตัดบายพาสหัวใจจริงๆ เหรอ? แต่ว่าท่านหว ก่อนหน้านี้ท่านไม่ใช่บอกว่า…….

เฉินจงเหอหน้าตาเคร่งขรึมเต็มที่

หวูโซวยพยักหน้า “ถึงแม้นี่คือความคิดที่แย่ แต่หากไม่ดำเนิน การผ่าตัด ด้วยสภาพร่างกายของท่าน กลัวว่าจะทนไปได้อีกไม่

เสียงพูดจบลง คนในห้องคนไข้รู้สึกหนักหน่วงในชั่วขณะหนึ่ง ผู้หญิงวัยกลางคนหลายคน ยิ่งสะอึกสะอื้นขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่
เฉินหวั่นซึ่งก็หน้าตาหนักหน่วงมากเช่นกัน ในใจเศร้าเสียใจ

“โรคของคุณปู่ ผมรักษาได้

ตอนที่ทุกคนไร้ซึ่งหนทาง เสียงพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ประโยคหนึ่งดังขึ้นฉับพลัน

พอทุกคนหันหน้าไปมอง เห็นเยเทียนที่ใส่ชุดลำลอง ไม่รู้ว่า

ปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูห้องคนไข้ตั้งแต่เมื่อไร

“แกเข้ามาทำอะไร!”

เสียงหญิงวัยกลางคนที่พูดจาเหน็บแนมอย่างเจ็บปวดดังขึ้น ทันที

“เย่เทียน ได้ยินว่าแกโดนจับตอนกวาดล้างการค้าประเวณี แล้ว ออกมาตั้งแต่เมื่อไร?

เป็นเสียงพูดที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ยลอยออกมาอีกประโยค

หนึ่ง

เรื่องที่เย่เทียนโดนจับตอนกวาดล้างการค้าประเวณี ถึงแม้จะ ปิดท่านเอาไว้ แต่คนในที่นี้ล้วนรู้กันชัดเจนดี

บวกกับตัวของเย่เทียนเองก็ไม่ได้รับความชื่นชอบ เวลานี้ทุก คนจึงยังไม่อยากมองเห็นเขา

ในใจเฉินหวั่นชิงรู้สึกเสียใจอยู่บ้างที่ให้เย่เทียนเข้ามา แต่ ตอนนี้ในเวลานี้ เธอได้เพียงเอ่ยปาก ปกป้องเยเทียน

“พ่อคะ อาคะเย่เทียนเป็นหนูเรียกมาเอง คุณปู่รักเย่เทียนมาแต่ไหนแต่ไร หนูอยากให้เขาเจอคุณปสักหน่อย……

“เชอะ พวกจิต ใจเหี้ยมโหด เห็นพ่อพวกเรานอนอยู่บนเตียง ไม่แน่ในใจเขาอาจดีใจกว่าใครทั้งหมดล่ะสิ!”

“ใช่ ได้ยินว่าเมื่อวันก่อนเขายังไปหาโสเภณีที่ข้างนอก ใครจะ รู้ว่าโดนจับตอนกวาดล้างการค้าประเวณีอีก ขายขี้หน้าตระกูลเฉิ นของพวกเราจริงๆ

หญิงวัยกลางคนที่พูดจาเหน็บแนมก่อนหน้านี้หัวเราะเยาะไม่ หยุด “หวั่นชิง ไม่ใช่ฉันว่าเธอนะ มีบางคนทำอะไรโลเลไม่เด็ด ขาด กลับเจอหายนะที่ทำให้ยุ่งยาก

เฉินจงเหอสีหน้าดูแย่พอสมควรเหมือนกัน

แต่นึกถึงลูกเขยคนนี้ของตนเองทำเรื่องเหลวไหลไร้สาระ สารพัด เขาถอนหายใจทีหนึ่ง ไม่มีอะไรเศร้าใจกว่าจิตใจท้อแท้ อีกแล้ว

เฉินหวั่นชิงกัดริมฝีปากอิ่มน้ำอ่อนนุ่มเอาไว้ พูดด้วยเสียงทุ้ม “นี่คือเรื่องของหนูกับเย่เทียน ไม่รบกวนคุณอามาคิดมากหรอก ค่ะ”

พูดแบบนี้ออกมา บนหน้าหญิงวัยกลางคนผู้นั้นอารมณ์เสียอยู่ บ้าง แต่หล่อนเหมือนเกรงกลัวเฉินหวั่นซึ่งพอสมควร จึงไม่ได้พูด มากต่อไปอีก เพียงแต่ในสายตาที่มองเยเทียนยังคงเต็มไปด้วย การเหยียดหยาม

“นายเข้ามาสิ อย่าพูดจามั่วซั่ว ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน!”
เฉินหวั่นซึ่งหันหน้ามองทางเยเทียน พูดจาเย็นชา

เย่เทียนรู้ว่าคนตระกูลเฉินไม่ชอบตนเองเอามากๆ แต่ว่า ประสบการณ์เมื่อชาติก่อน สร้างหัวใจที่แข็งแรงดุจหินผาให้เขา ดวงหนึ่ง

ตัวเขาเองไม่มีความรู้สึกต่อคนส่วนใหญ่ของตระกูลเฉินอยู่ แล้ว ถือโอกาสเพิกเฉยต่อพวกเขา มุ่งตรงมาถึงตรงหน้าเฉินหวั่น

ชิง พูดเรื่องก่อนหน้านี้ต่อไป “หวั่นชิง ท่านหวคนนี้รักษาคุณไม่ได้ ให้ฉันลองดูหน่อย

เถอะ”

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่หมอ แต่คัมภีร์หวงยิ่งใหญ่ไร้ที่เปรียบ แม้แต่เขาที่ตกหน้าผาสูงยังสามารถรักษาหายได้เป็นปลิดทิ้ง นับ ประสาอะไรกับโรคหัวใจกระจอกๆ

ขอเพียงดันพลังชี่แท้เข้าไปสักที รับรองว่าสามารถทำให้

กระโดดโลดเต้นขึ้นได้ หนุ่มขึ้นสิบยี่สิบปีเลยล่ะ

“คนขี้ขลาดตาขาวยังกล้ามาคุยโม้ที่นี่อีก ไม่กลัวโดนคนอื่น เยาะเย้ย?”

ไม่รอให้เฉินหวั่นชิงเอ่ยปาก ชายหนุ่มคนนี้ที่อยู่ด้านข้างเยาะ เย้ยถากถางไม่หยุด

ส่วนหวูโซว์ยอดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ เขาเป็นถึงหมอชื่อดังของ เจียงหนัน โรคที่แม้แต่เขารักษาไม่ได้ ชายหนุ่มคนนี้จะมีวิธี อะไร?
แต่อย่างไรเสียนี่คือปัญหาครอบครัวของพวกเขา หรูโชว์ ย่อมไม่มีความหมายจะพูดอะไรมาก

ชายหนุ่มสวมชุดสูทแนวตะวันตกที่พูดจาท่าทางก้าวร้าว คือ คุณชายบ้านคนรวยที่โด่งดังในเมืองเจียงหนุน ชื่อว่าหลิวจื่อหยัง เป็นหนึ่งในผู้ตามจีบข้างกายของเฉินหวั่นซึ่ง

พูดไปก็น่าตลก เขากับเฉินหวั่นซึ่งเป็นสามีภรรยากันเปิดเผย ต่อภายนอก แม้ว่าเป็นแค่ในนามไม่ใช่ความจริง แต่ก็จด ทะเบียนสมรสกันแล้ว!

แต่ทว่า ผู้ตามจีบของเฉินหวั่นซึ่งยังคงทยอยมาไม่ขาดสาย

สายตาเย่เทียนเปล่งประกาย นึกถึงเรื่องที่ตนเองโดนจับตอน กวาดล้างการค้าประเวณีแล้ว เหมือนว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าหมอน อยู่นิดหน่อย

แต่ว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลามาหาเรื่องเขา เย่เทียนเก็บสายตา กลับ หันหน้าพูดกับเฉินหวั่นชิงว่า “หวั่นชิง ฉันสามารถรักษาโรค ของคุณปู่ได้จริง เธอเชื่อฉันนะ!”

เฉินหวั่นชิงฟังอยู่ก็แอบขมวดคิ้ว เธอกับเย่เทียนอยู่ด้วยกันมา ตลอด ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไรได้ที่ไหน?

เย่เทียนรักษาโรคเป็น? เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!

หลิวจื่อหยังสังเกตเห็นสีหน้าเฉินหวั่นซึ่งเปลี่ยนไป ในใจรู้ว่า โอกาสแสดงตัวมาถึงแล้ว รีบก้าวขึ้นมาทันที ชี้หน้าด่าเย่เทียน

“ถ้าแกรักษาโรคได้ งั้นฉันก็เป็นฮัวโตที่ยังมีชีวิตอยู่! หวั่นชิงคุณไม่สะดวกไล่คนไป ผมจะช่วยคุณเอง”

“ไสหัวออกไปให้ฉันเดี๋ยวนี้”

ระหว่างที่พูด หลิวจื่อหยังยกมือขึ้นโดยตรง อยากจะผลักเขา ออกไป

รู้ที่ไหนว่า เย่เทียนวาร์ปตัวหลบออก เท้าหลิวจื่อหยังโซเซไป

หน่อย เกือบล้มลงบนพื้น

พอผลักเย่เทียนออกไปไม่ได้ หลิวจื่อหยังโมโหถึงที่สุด “เซีย ยังกล้าหลบ ฉันจะทำแกให้พิการไปเลย!!

ระหว่างที่พูด เขายกหมัดขึ้นอยากต่อยไปยังเย่เทียน

เฉินหวั่นชิงรู้ว่าหลิวจื่อหยังเคยเรียนเทควันโดมาสองสามปี ตอนนี้เห็นหมัดเขายกขึ้นสูง ชั่วขณะนั้นตกใจไม่เบา

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอกับเย่เทียนก็เป็นสามีภรรยา ในนาม

กัน ย่อมไม่อยากเห็นเขาโดนต่อยเป็นธรรมดา

“Ua!”

เฉินหวั่นชิงยังไม่ทันมาขัดขวางได้ทัน ทันใดนั้นเสียงทุ้มลอย

หลิวจื่อหยังยังค้างอยู่ที่ท่ายกหมัดสูง แข็งที่อไปทั้งตัว

มา

ตามมาด้วย กลิ่นเหม็นเน่าแพร่กระจายออก คละคลุ้งไปทั้ง ห้องคนไข้

ชั่วพริบตาเดียวในห้องคนไข้ปกคลุมด้วยกลิ่นเหม็น ทุกคนรีบต่างถอยห่าง อุดจมูกไว้มองหลิวจื่อหยังด้วยสีหน้าแปลก ประหลาดมาก

“เชีย โคตรเหม็น! แหวะ!”

มีคนทนไม่ไหวผลักหน้าต่างออก ทําท่าทางอาเจียนอย่างบ้า คลั่งทางนอกหน้าต่าง

คนอื่นๆ ก็โดนรมจนน้ำตาไหลลงมาแล้วเช่นกัน

เย่เทียนเหมือนเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่แรก ขยับเข้าไปใกล้บ้าน ข้างเฉินหวั่นซิง อุดจมูกไว้ พูดแบบไม่ชัดเจน “วันนี้แกกินมา แล้วหรือไง? คนอื่นเขาตดเหม็นแต่ไม่ดัง ติดตั้งแต่ไม่เหม็น แต่ แกกลับดัน ดออกมาทั้งเหม็นทั้งดัง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ