ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 13 ซูเหมยปวดประจำเดือน



บทที่ 13 ซูเหมยปวดประจำเดือน

ในใจเย่เทียนตกตะลึง เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึง ผู้หญิงที่ชื่อซูเหม ยคนนี้ อยากจ้างเขามาทำงานในผับแห่งนี้

ด้วยสถานะชาติก่อนของเขา แน่นอนว่าไม่อาจลดฐานะเป็นผู้

จัดการรูปภ.อะไรในผับแห่งนี้ได้

ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้กลับต่างออกไป โดยเฉพาะพละ กำลังของเขายังอ่อนแอเกินไป ถ้ามีสถานที่ให้พักชั่วคราว น่าจะ เป็นทางเลือกที่ไม่เลว

มองซูเหมยที่ทำหน้าจริงใจอีกครั้ง ไม่เหมือนกับกำลังพูดล้อ เล่นโดยสิ้นเชิง เย่เทียนจึงเกิดความสนใจเพิ่มขึ้นมาก

พิงบนโซฟา ถามอย่างเอ้อระเหยลอยชาย “อันนี้สามารถ พิจารณาดูได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าค่าตอบแทนทางนี้ของประธาน เป็นอย่างไรบ้าง?”

ซูเหมยยิ้มตอบด้วยความมั่นใจ “ด้านค่าตอบแทน คุณเก๋ วางใจได้เลย เป็นมาตรฐานสูงสุดของตำแหน่งงานแน่นอน!! ระหว่างพูด หล่อนยกนิ้วหนึ่งขึ้น

เย่เทียนยักคิ้ว “เงินเดือนหนึ่งหมื่น?”

“เงินเดือนหนึ่งแสน! แต่ละปียังมีค่าคอมมิชชั่น อีกอย่างยังมี สวัสดิการส่วนอื่นด้วย!!
ซูเหมยพูดจาแบบมีเงินและอิทธิพลมาก

ส่วนเหลียงเยวหรูก็ตกใจอยู่บ้างเช่นกัน เบิกดวงตาโตพลัน พูดว่า “ถึงแม้ฉันจะทำธุรกิจไม่เป็น แต่ดูจากภาพความคึกคัก ของผับนี้แล้ว จำนวนเงินกิจการในแต่ละเดือนอย่างน้อยน่าจะได้ สักยี่สิบล้าน! เป็นแบบนี้ถ้าคำนวณขึ้นมา เยเทียนนายทำงาน หนึ่ง หากไม่นับเงินเดือน ก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นอย่างน้อยสาม ล้านเลยล่ะ!”

สามล้าน สําหรับใครคนหนึ่งนั้น เป็นความมั่งคั่งก้อนใหญ่เลย ทีเดียว

สําหรับเรื่องนี้เย่เทียนกลับหัวเราะอย่างไร้ความคิดเห็น เหมยด้วยความหมายลึกซึ้ง มองซู

ผู้หญิงคนหนึ่งที่แฝงตัวอยู่ในสถานที่ยากลำบากขนาดนี้มา

หลายปี หากพูดว่าไม่มีเล่ห์เหลี่ยมสักนิด จะยืนอยู่ข้างในที่

อันตรายแห่งนี้ของเมืองเจียงหนันได้อย่างไร?

ส่วนหล่อนเห็นแค่ด้านเดียวของตนเอง ก็เสนอเงินเดือนต่อปี เป็นหลักล้านให้แล้ว ในนั้นกลัวว่าจะมีเป้าหมายอะไรที่ไม่อาจ บอกใครได้อยู่!

ความคิดแบบนี้ เย่เทียนไม่ได้แสดงออกบนใบหน้า ก่อนจะยิ้ม ตอบ “ในเมื่อประธานซูชวนด้วยมิตรไมตรี ผมเย่เทียนถ้าไม่ รับปากตกลง จะเป็นการไม่ไว้หน้าคุณหรือเปล่า?”

เงินอะไรนั้น เย่เทียนไม่ได้สนใจ สำหรับซูเหมยมีความคิด อะไร เขายิ่งไม่พิจารณามากเกินไปด้วย
เหตุผลที่รับปากตกลง เพียงเพราะอยากมีสถานที่ให้พักอยู่ต่อ ไปชั่วคราวเท่านั้นเอง

“ดี คุณเย่เป็นคนตรงไปตรงมา หวังว่าพวกเราจะร่วมงานกัน ได้อย่างราบรื่น!”

ซูเหมยลุกขึ้นยืน ยื่นมือออกไปจับกับเย่เทียนก่อนเอง

ถ้าพูดว่าก่อนหน้านี้เป็นการทักทาย การจับมือในตอนนี้ แสดง ถึงทั้งสองบรรลุข้อตกลงร่วมงานกันแล้ว

เย่เทียนไม่ได้พูดอะไรต่อ กุมมือเนียนนุ่มนั้นของซูเหมยไว้แน่น

ในดวงตาของเหลียงเยวหรูที่มองทางเยเทียนแวววาวเป็น พิเศษ คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้จริงจังดูพิเศษอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นจะ ทำให้พี่ซูแค่มองแวบเดียวก็สนใจได้อย่างไรล่ะ?

หลังจากนั้น ชายหนึ่งหญิงสอง ก็นั่งอยู่ที่โต๊ะกินไปด้วยพลาง

พูดคุยไปด้วย

ลักษณะการพูดของเย่เทียนตลกมีอารมณ์ขัน สอดแทรกมุก ลามกอยู่ไม่ขาด หญิงสาวทั้งสองไม่เพียงไม่ได้ขัดแย้ง แต่ทว่ายัง หัวเราะเอาใจครั้งแล้วครั้งเล่า ดึงดูดสายตาลูกค้ามากมายที่อยู่ โต๊ะอื่นเข้ามา

โดยเฉพาะมองเห็นสาวงามสองคนที่ข้างกายเย่เทียน คนหนึ่ง น่ารักใสซื่อ คนหนึ่งมีเสน่ห์น่าประทับใจ ในใจยิ่งเต็มไปด้วย ความอิจฉาริษยาแล้ว

อยากฆ่าเย่เทียนทิ้งใจแทบขาด กำจัดตำแหน่งของเขาลงด้วยเหตุนี้

“คุณหนูครับ ท่านควรกลับไปแล้ว…….

ระหว่างหัวเราะพูดคุยกัน ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อายุเลยหกสิบปี และสวมชุดจีนแนวโบราณ ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อไรกัน

เย่เทียนหันหน้ามองไป ดวงตาขรึมเล็กน้อย

กลิ่นอายบนตัวผู้อาวุโสคนนี้ช่างสงบเสงี่ยม ลมหายใจยาว มาก ถึงแม้จะดูเหมือนธรรมดา แต่เพียงแค่มองแวบเดียว เ เทียนก็สามารถแยกแยะออกได้ ความสามารถของผู้อาวุโสคนนี้ ค่อนข้างไม่ธรรมดา!

ผู้อาวุโสคนนี้ไม่ใช่พวกกระจอกอย่างหลีจุนคนนั้น แต่ว่าเป็น นักที่กุมพลังลับไว้เล็กน้อย

“ดูท่าทาง สถานะของเหลียงเยวหรูคนนี้น่าจะไม่ธรรมดา ความสามารถของผู้อาวุโสที่ดูเดินออกมาแบบสบายๆ คือแดน เหลืองระดับกลาง”

เย่เทียนแอบคิดในใจ

“เอาน่า ฉันรู้แล้ว ฉันจะกลับไปนี่ไง!

เหลียงเยว่หรูพูดอย่างกลัดกลุ้มอยู่บ้าง แต่เธอมาถึงที่นี่ รู้ดีว่า ต้องถูกพากลับไป

ทว่าเธอไม่ได้สืบสาวราวเรื่องต่อ หันหน้าเข้าไปพลางยิ้มบอก เย่เทียน “ใช่แล้ว เย่เทียน เบอร์มือถือนายอะไรล่ะ พวกเรามาแลกกันหน่อย มีเวลาฉันจะเข้ามาหานาย

เย่เทียนยิ้มตอบ คลำหามือถือออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ กลับ

พบว่ามือถือของตนเองหน้าจอแตกหมดแล้ว และไม่รู้ว่าพังไป ตั้งแต่ตอนไหนกัน

เขายักไหล่ตอบ “ดูท่าทางไม่มีทางแล้ว แต่ถ้าเธออยากมาหา ฉันล่ะก็ เข้ามาที่ผับนี้โดยตรงเลย ถ้าไม่มีอะไรเกินคาด ฉันน่าจะ ไม่ไปจากที่นี่หรอก

เหลียงเยวหรูพยักหน้า “พี่ซู เย่เทียน ฉันไปก่อนนะ พวกพี่

ค่อยๆ คุยกันไป

เธอลุกขึ้นยืนจากด้านข้างโต๊ะ โบกมือให้แล้วจึงออกไป

ก่อนที่ผู้อาวุโสคนนั้นจะเดินไป ยังชำเลืองมองเยเทียน โดย จิตใต้สํานึกแวบหนึ่ง เห็นชัดมากว่าบทสนทนาระหว่างเย่เทียน และเหลียงเยวหรู ดึงดูดความสนใจของเขาแล้ว

หลังจากพินิจพิเคราะห์เยเทียนรอบหนึ่ง ไม่พบว่ามีตรงไหนที่ พิเศษ ผู้อาวุโสจึงไม่สนใจมากมายนัก ไม่นานก็ตามเหลียงเยว่ หรูออกไปด้วยกัน

“เย่เทียน พวกเราขึ้นไปเซ็นสัญญาข้างบนสักหน่อยเถอะ หลังจากเหลียงเยวหรูออกไป ซูเหมยก็ลุกขึ้นยืน

“ได้!”

เย่เทียนพยักหน้าทันใด
เหมยเดินผ่านจากด้านข้างของเยเทียน มีกลิ่นหอมดอกกุ หลาบอ่อนๆ

เย่เทียนสูดหายใจอย่างกำเริบเสืบสาน รู้สึกเพียงในโพรง

จมูกเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวาน พอหันหน้ามองอีกที จากมุมนี้ของเขา สามารถมองรูปร่างที่ ปราดเปรียวของซูเหมยได้ชัดแจ้ง

ส่วนบนที่เต็มอิ่ม เอวเรียวที่อ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูก ส่วน บั้นท้ายที่กลมมาก บวกกับขายาวสวมถุงน่องดำที่งดงามคู่หนึ่ง ยั่วยวนชัดเจน!

เยเทียนมองจนอดปากแห้งผากไม่ได้ แอบคิดว่าผู้หญิงแบบนี้ ถ้าเอาไปจัดการบนเตียง นั่นจะรู้สึกดีสุดเหวี่ยงไปเลยหรือไม่?

ซูเหมยที่เดินอยู่ข้างหน้าไม่ได้หันหลัง แต่สามารถรู้สึกได้ถึง

สายตาที่เร่าร้อนนั้นของเยเทียน กำลังกวาดมองตนเองรอบหนึ่ง

เธอมีความมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตนเองมาก ว่าสามารถ ดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้ามได้ นี่ทำให้เธอรู้สึกภาคภูมิใจ

เพียงแต่ที่ไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่นคือ ถูกสายตาที่มีพลังมอง ทะลุทุกอย่างนั้นของเยเทียนจ้องไว้ ถึงแม้บนร่างกายจะห่อหุ้ม ด้วยเสื้อผ้า ยังคงทําให้เธอเกิดภาพลวงตาเหมือนว่าถูกเขามอง ทะลุผ่านขึ้นมาแล้ว

“เจ้าหมอนี่….…..

ซูเหมยกัดริมฝีปากที่แวววาวแล้ว อยากหันหน้ากลับไปถลึงตาใส่เย่เทียนสักทีเหลือเกิน เตือนเขาว่าให้รู้จักบันยะบันยัง แต่ในใจเกิดความรู้สึกอายอย่างน่าประหลาดขึ้น ทำให้เธอไม่ กล้าหันหน้า

เพราะเธอรู้ว่า หน้าของตนเองในเวลานี้ต้องแดงจนไม่ไหวแน่ โชคดีที่เธอเดินอยู่ข้างหน้า ไม่อย่างนั้นต้องปล่อยไก่ต่อหน้า

เย่เทียนเต็มๆ

ดีที่สภาพกระอักกระอ่วนแบบนี้ไม่ดำรงอยู่นานเท่าไร หลังจาก เดินเข้าห้องทำงานของตนเอง ในใจเหมยก็สงบเพิ่มขึ้นอีก หลายระดับ เธอจึงถือโอกาสช่วงเวลานี้ฟื้นฟูพลังใจให้ดี

เธอเดินมาหน้าโต๊ะทำงาน อยากหยิบสัญญาออกมาจากใน ลิ้นชัก

แต่ตอนที่เพิ่งก้มตัว ทันใดนั้นคิ้วขมวดแน่น ใบหน้าซีดเซียว

ลงนิดหน่อย จมสู่ในสภาพที่เจ็บปวดเป็นพิเศษ

ท้องน้อยเจ็บจี๊ดขึ้นมา ทำให้ข้อต่อกระดูกขากรรไกรล่างของซู เหมยสั่นเทาไม่หยุด แม้แต่แรงจะยืนยังไม่มี นั่งแผ่ลงบนเก้าอี้

เธอใช้มือจับท้องไว้ พูดเสียงสั่นเครือกับเย่เทียน “เย่เทียน นาย นายช่วยซื้อของให้ฉันหน่อยได้รึเปล่า ซื้อยาแก้ปวดกลับมา ให้หน่อย…….

เย่เทียนที่กำลังสังเกตห้องทำงานอยู่หันหน้ามามอง เห็นซูเหม ยสีหน้าซีดเซียว จึงยักคิ้วเล็กน้อย”คุณปวดท้องประจำเดือน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ