ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บทที่ 19 ล้มคู่แข่งตั้งแต่ร่างกายถึงจิตใจจนพังยับ



บทที่ 19 ล้มคู่แข่งตั้งแต่ร่างกายถึงจิตใจจนพังยับ

พูดแบบนี้ออกมา พี่เขียวทำหน้าตกตะลึง

ต้องรู้ว่า หลิวจื่อหยังอยู่ที่เจียงหนันมีเงินมีอำนาจ ครั้งนี้โดน ต่อยเจ็บจนแย่ขนาดนั้น คงแก้แค้นเขาอย่างแน่นอน

ถ้าเธ่เทียนไม่คุ้มครองตนเอง ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?

มองท่าทางของเยเทียนที่หน้าดูไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลย ในใจพี่ เบี้ยวกรุ่นด่าอย่างหนัก เหมือนโดนผู้หญิงทอดทิ้ง พูดแบบระทม ทุกข์ “พี่เทียน พี่คงจะไม่ไร้เยื่อใยขนาดนี้ใช่ไหม?”

“แค่ล้อนายเล่นเท่านั้นเอง ทำเอานายตกใจซะแล้ว”

เย่เทียนยื่นมือตบไหล่ของพี่เบียวแบบขำๆ “เห็นแก่ที่นายออก มาจากโลกมืดเดินสู่ทางสว่างได้ในวินาทีสุดท้าย ครั้งนี้ฉันจะไม่ ถือสาหาความกับนายแล้ว”

พี่เขียวโล่งอกยกใหญ่ ในใจอดผิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา

ไม่ได้

มีที่พึ่งก็จัดการเรื่องราวง่ายขึ้น กำลังการต่อสู้ของเย่เทียนเกิน กว่าคนทั่วไป แม้แต่หลิวจื่อหยังยังกล้าจัดการ ถ้าบอกว่าไม่มี เบื้องหลังเขาย่อมไม่เชื่อแน่

ถ้าเขาสามารถตามอยู่ใต้การกำกับของเยเทียนได้ จะกังวลว่าไม่ได้ดีทําไมกัน?

ในขณะเดียวกัน หลิวจื่อหยังที่โดนต่อยจนหน้าบวมจมูก ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา หน้าแล้วหลุดด่าไปยังพี่เขียว “หวางเบียวแกไอ้ชาติหมา! ฉันแบ่งออกเงินจ้างแกเข้ามา แก กลับดันมาต่อยฉันแทน! ต่อไปแกยังอยากอยู่ที่เจียงหนุนอยู่

เปล่า?”

“หลิวจื่อหยัง ฉันว่าแกคงไม่โดนตีจนโง่แล้วมั้ง?

หวางเขียวหัวเราะเยาะติดๆ กัน “ถึงแม้ฉันจะเป็นคนเขลาที่มั่ว ในสังคม แต่ตอนทำงานก็มีกฎเกณฑ์ แกแม่งจ่ายเงินให้ฉัน ลูกพี่ของฉัน นี่ถ้าแพร่ออกไป ฉันหวางเบียวถึงอยู่ต่อไปไม่ได้ จริงๆ น่ะสิ!”

หลิวจื่อหยังตะลึงค้างแล้ว นึกไม่ถึงเย่เทียนกับหวางเที่ยวจะ รู้จักกัน

ครั้งนี้ยังเป็นการหาเหาใส่หัวตัวเองแท้ๆ

รู้ว่าสถานการณ์ยากจะเปลี่ยนแปลง หลิวจื่อหยังยอมแพ้แล้ว หุบปากไม่พูดโดยสิ้นเชิง เหลือเพียงในดวงตาเป็นร่องหนึ่งกลับ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง จ้องเยเทียนไว้ไม่กะพริบ

ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ล่ะก็ เกรงว่าเธ่เทียนคงตายไป

ร้อยครั้งไม่หยุดไปตั้งแต่นานแล้ว ในใจวางแผนว่าจะหลบหนีอันตรายให้เร็วหน่อย รอครั้งหน้า ค่อยกลับมาคิดบัญชีกับเขาอีก
เย่เทียนชายตามองเขาแวบหนึ่ง ความคิดเจ้าเล่ห์นั้นของหลิว จื่อหย้ง จะปิดซ่อนเขาได้อย่างไรล่ะ?

ไม่รอให้เยเทียนเอ่ยปาก หวางเขียวถามด้วยท่าที่เคารพ “พี่ เทียน ท่านว่าต้องจัดการเขาอย่างไรถึงจะดีกว่าครับ?” เยเทียนใช้ความคิดอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นยิ้มตอบ “เมื่อกี้นาย

ไม่ใช่บอกว่าแบบเป็นชุดอะไรนั่นเหรอ? ทำตามแบบเป็นชุดนั้น

ของนายเถอะ

“นี่……. หวางเบี้ยวกลับลังเลขึ้นมาอยู่บ้างแล้ว

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หลิวจื่อหยังอยู่ที่เจียงหนันก็ถือว่าเป็น บุคคลมีหน้ามีตา หากทำให้เรื่องราวเด็ดขาดขนาดนั้นจริง ผลก ระทบที่ตามมาย่อมไม่น้อยเลย

“ว่ายังไง? ไม่กล้าแล้วเหรอ?” ดวงตาที่ลึกล้ำดุจดวงดาวของ เย่เทียนมองหวางเบียวเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

ถูกเย่เทียนกระตุ้นเข้าให้ หวางเที่ยวที่ตัดสินใจจะพยายาม เกาะขาคนอื่นไว้ได้กัดฟันแล้วกระทืบเท้า “กล้า! ผมมีอะไรไม่ กล้ากัน!”

พูดจบ หวางเบี่ยวก้าวเท้าออกไปทันที เดินไปด้านข้างหลิวอ หยังด้วยหน้าตาดุร้าย เพิกเฉยต่อสายตาที่ตกใจกลัวของหลิวจื่อ หยัง ก่อนจะนั่งยองลงกดไหล่ของเขาไว้แล้วใช้แรงหัก

“อ๊ะ!” เสียงร้องโหยหวนที่เจ็บปวดสุดขีดลอยออกมาจากใน ปากหลิวจื่อหยัง ดังก้องอยู่ในห้องไม่หยุด
โชคดีที่ห้องประสิทธิภาพการเก็บเสียงไม่เลว ถ้าไม่อยากนั้น ต้องสร้างความวุ่นวาย ใหญ่โตแน่

หลังจากที่หักแขนทั้งสองของหลิวจื่อหยังไปดื้อๆ เสร็จ หวา งเบียวคลำหาของบนตัวหลิวจื่อหยังรอบหนึ่ง ไม่นานก็ล้วงขวด ยาเล็กอันหนึ่งออกจากหน้าอกเขา เทยาเม็ดเล็กสีฟ้าออกมาสิบ กว่าเม็ดได้!

“ไม่ อย่า”

หลิวจื่อหยังที่แขนทั้งคู่โดนหักตกใจกลัวอย่างยิ่ง ดิ้นรนถอย ไปด้านหลังไม่เลิก

ยาพวกนี้เป็นยาที่เขาพกติดตัวเอาไว้ รู้แน่นอนว่าของพวกนี้มี สรรพคุณอะไร

น่าเสียดาย การขัดขืนไร้ผล ลูกน้องสองคนเข้ามา กดเขาไว้

โดยตรง ภายใต้สายตาตกใจกลัวของหลิวจื่อหยัง กลืนยาสิบ

กว่าเม็ดลงไปอย่างหมดหวัง

ส่วนลูกน้องสิบกว่าคนที่หวางเบียวพามาไม่รู้ว่าไปหาเชือกมา จากไหน ถอดเสื้อผ้าหลิวจื่อหยังจนเกลี้ยงจากนั้นมัดเอาไว้อย่าง รู้งานดีมาก ป้องกันเขาขยับไปทั่วตอนอยู่บนรถ

รอทำทุกอย่างนี้เสร็จ หวางเดียวก็วิ่งอย่างกระตือรือร้นกลับ มาข้างกายเย่เทียน วางท่าทางต่ำต้อยที่สุด พูดจาประจบประ แจง “พี่เทียนครับ ท่านยังมีอะไรสั่งอีกหรือเปล่าครับ? ถ้าไม่มีผม เอาเขาไปทิ้งไว้ใจกลางเมืองก่อนนะครับ”
เย่เทียนกำลังอยากจะพยักหน้า แต่พอมองเพดานที่ถูกหลิวจื่อ หยังท่าเลือดสดเปื้อนไว้วงหนึ่ง จึงเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ฉันออกไป ด้วยกันกับนายดีกว่า”

หยุดอยู่ครู่หนึ่ง เย่เทียนพูดสั่งอย่างสบายๆ “เหลือสองสาม คนไว้ทําความสะอาดด้วย”

“พี่เทียน ท่านวางใจได้ครับ ผมรับรองว่าตอนที่ท่านกลับมา

จะเหมือนก่อนหน้านี้ทั้งหมดครับ!

หวางเยียวย่อมไม่มีปัญหาอะไร รีบสั่งลูกน้องสองสามคนอยู่ ต่อเพื่อทําความสะอาด จากนั้นลากหลิวจื่อหยังที่ทำหน้าหมด หวังออกเดินทางมุ่งตรงไปย่านในเมืองทันที

หลังขับรถมาได้สิบห้านาที รถตู้มาจอดลงตรงถนนคนเดินที่ คึกคักเป็นพิเศษแล้ว

“คุณชายหลิว แกเสพสุขตามสบายเถอะ!!

หวางเขียวหน้าตาหยอกเย้าเต็มที่ดึงประตูรถเปิดด้วยตนเอง แล้วถีบหลิวจื่อหยังที่โดนแก้ผ้าหมดตั้งแต่แรกลงมา

หลิวจื่อหยังถูกแก้ผ้าล่อนจ้อนทันใดนั้นปรากฏตัวที่ถนนคน เดิน ชั่วพริบตาเดียวดึงดูดผู้คนที่เดินผ่านบนถนนคนเดิน แต่ละ คนหยุดฝีเท้าจ้องมอง คอยจับผิดอยู่ห่างๆ ผู้ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นก็ ล้วงมือถือมาถ่ายฉากนี้เอาไว้

“คนสวย มาสิ! สนุกกันสิ!!
หลิวจื่อหยังในเวลานี้หน้าแดงไปหมด ดวงตาแดงก่ำ จมสู่ สภาพวิกลจริตแล้ว พูดจาไร้สาระทั้งนั้น

“ว้าย!”

* โรคจิต!”

“น่าสะอิดสะเอียนจัง!”

“ไอ้นั่นเล็กขนาดนั้น ยังกล้าออกมาโชว์ข้างนอก?”

คนโดยรอบทำหน้ารังเกียจ ผู้หญิงต่างหลบออกไป ไม่อยาก โดนคนบ้านี้ถูกเนื้อต้องตัว

ว่ากันตามเหตุผลแล้ว หลิวจื่อหยังเพียงแค่โดนกรอกยาเม็ด เล็กสีฟ้าสิบกว่าเม็ด ยังไม่ถึงขั้นที่เสียสติสัมปชัญญะไป

แต่เพื่อสร้างความประทับใจที่น่าเชื่อถือให้กับเย่เทียน

ระหว่างที่ขับรถมาหวางเบี้ยวจึงถือโอกาสกรอกขวดเล็กทั้งหมด

นั้นให้หลิวจื่อหยัง ถือโอกาสใช้มือถือเปิดหนังที่เร้าใจเรื่องหนึ่ง

ให้เขาดูด้วย

ภายใต้การกระตุ้นที่ติดต่อกันนี้ หลิวจื่อหญิงที่น่าสงสารในหัว สมองเหลือเพียงความฮึกเหิมแท้จริงที่สุด ขอเพียงให้ได้ระบาย อย่างแรงก็พอ

“พี่เทียน เป็นยังไงบ้าง? พอใจรึเปล่าครับ?”

เห็นหลิวจื่อหยังถูกฝูงชนกลุ่มใหญ่ล้อมรอบขึ้นมา หวางเขียว แย่งเอาความดีความชอบต่อเย่เทียบแบบค่อนข้างภูมิใจ
“พอใช้ได้”

เย่เทียนตอบอย่างเรียบเฉย มุมปากวาดรอยยิ้มแปลกๆ ขึ้น ล้วงมือถือออกมาจากในกระเป๋ากางเกง หวางเบียวเห็นแบบนี้ จึงสอบถามอย่างไม่เข้าใจ “พี่เทียน

คือ?”

“จัดการปัญหาไม่สิ้นซาก เดี๋ยวก็เกิดขึ้นใหม่อีก!”

เย่เทียนพูดคำโบราณประโยคนี้ออกมา ก่อนจะต่อสายไปยัง หมายเลขที่ทุกคนรู้จักกันแล้ว

“สวัสดีครับ ใช110หรือเปล่าครับ? ผมอยากแจ้งความ ที่ถนน คนเดินเจียงเปียทางนี้มีโรคจิต ดูท่าทางของเขาเหมือนว่าเสพยา แล้ว กำลังก่อกวนผู้หญิงที่เดินไปมาอยู่ด้วย! นี่กระทบต่อภาพ ลักษณ์ของเมืองมากจริงๆ นะครับ พวกคุณรีบส่งคนเข้ามาจับเขา ไปดีกว่า!”

รอให้วางสายโทรศัพท์ลง เย่เทียนก็ต่อสายไปยังหมายเลข หนึ่งต่ออีก

“สวัสดีครับ ใช่หนังสือพิมพ์รายวันเจียงหนันหรือเปล่า? ผม

อยากเปิดเผยเรื่องน่าตกใจ ที่ถนนคนเดินเจียงเปียทางนี้มีคนบ้า

ชอบโชว์ที่ไม่รู้จักอาย เหมือนว่าเป็นหลิวจื่อหยังอะไรนั้น ผมเห็น

ว่ามีคนแจ้งตำรวจแล้ว ถ้าพวกคุณอยากได้พาดหัวข่าวไปก็รีบ

เข้ามาดีกว่านะ!” หวางเบียวที่ดูเย่เทียนโทรศัพท์มาตลอดอดกลืนน้ำลายลงไปไม่ได้ ทั้งแจ้งตำรวจทั้งบอกนักข่าว ถึงแม้หลิวจื่อหยังจะ แข็งแกร่งแค่ไหน ข่าววันพรุ่งนี้ล้วนเป็นเขาลงพาดหัวข่าวแล้ว เกรงว่าต่อไปคงไม่มีหน้าไปเจอใครอีกน่ะสิ!

ล้มคู่แข่งให้พังย่อยยับถึงที่สุดตั้งแต่ร่างกายจนถึงจิตใจ ลูกไม้นี้ แผนการนี้ ทำให้คนสะพรึงกลัวเสียจริง!

“ยังดี ยังดีที่ฉันไม่ได้เป็นศัตรูกับเขา ไม่อย่างนั้นจุดจบของฉัน

คงย่ำแย่ยิ่งกว่าหรือเปล่า?”

หวางเบี้ยวรู้สึกเพียงว่าโชคดีอย่างยิ่ง มีภาพลวงตาที่ว่ารอด ตายหลังประสบภัยพิบัติ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ