บทที่ 14 เย่เทียนรักษาโรคเป็น
แสงไฟที่สว่างในห้องทำงานสาดลงมา ส่องสะท้อนบนตัวของ ซูเหมย
เวลานี้เธอนั่งแผ่อยู่บนเก้าอี้ แก้มที่ขาวนวลแดงระเรื่อ คิ้วที่ดุจ พระจันทร์เสี้ยวบิดอยู่ด้วยกันแน่นมาก หลับตาสนิท ขนตายาว สั่นไหวเล็กน้อย กัดฟันแน่น เห็นได้ชัดว่าปวดถึงขีดสุดแล้ว
เย่เทียนเพียงแค่มองแวบเดียว ก็มองออกอาการป่วยของ เหมยออก เดินเข้าไปจับข้อมือของเธอไว้โดยไม่รอคำอนุญาต ซูเหมยอยู่ในอาการที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง เมื่อถูกเย่เทียนจับไว้
ทําให้เธอรู้สึกตกใจ เขาจะทำอะไร? ฉวยโอกาสตอนย่ำแย่อยากเอาเปรียบนั้นเห
รอ?
คิดอยู่ในใจ ยังไม่ได้ส่งเสียงร้องออกมา ทันใดนั้นก็รู้สึกตัว เบาๆ ตัวเธอถูกเย่เทียนอุ้มไว้ในอ้อมอก
“ไม่ต้องตกใจ อาการของคุณตอนนี้ไม่เหมาะที่จะขยับมาก ผม จะอุ้มคุณไปนอนที่โซฟา จากนั้นรักษาให้คุณ”
ระหว่างที่ซูเหมยตกใจและสงสัย เสียงพูดที่หนักแน่นของเ เทียนนั้นก็ดังขึ้นอยู่ข้างหู
เดิมทีชูเหมยรู้สึกกังวลอยู่บ้างว่าเย่เทียนจะฉวยโอกาสลวนลาม แต่หลังจากที่เธอได้ยินคำพูดนี้ ความสงสัยภายใน ใจหายไปในชั่วพริบตา เหมือนว่าเย่เทียนคุ้มค่าให้เธอเชื่อใจ อย่างมาก
“นาย……นายรักษาโรคเป็น?”
ซูเหมยถามจากจิตใต้สำนึก
เย่เทียนหัวเราะเล็กน้อย “พอรู้มานิดหน่อย
ระหว่างพูดจา เยเทียนเดินไปที่มุมห้องทำงาน วางซูเหมยลงบ นโซฟา
ซูเหมยส่งเสียงฮัมเบาๆ โดยสัญชาตญาณ การกระทำที่รุนแรง เช่นนี้ ทำให้ตรงท้องเธอเจ็บปวดเพิ่มขึ้น หน้าผากมีเหงื่อผุดขึ้น แถบหนึ่ง
ดูขึ้นมาเหมือนอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงขนาดนั้น และทำให้คนรู้สึก ว่าซูเหมยในเวลานี้ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยแรงดึงดูด
เธอกึ่งหลับตา ดวงตามอมเมาด้วยเสน่ห์ที่ประกายแวววาวจับ จ้องบนตัวเย่เทียน ในความอ่อนแรงยังมีความงดงามเพิ่มขึ้นมา
“ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ถึงขั้นสุดคนหนึ่ง ขยับนิดขยับหน่อยก็น่า
ดึงดูดขนาดนั้น…….….
กลับเป็นเย่เทียน เวลานอดจิตใจสั่นไหวไม่ได้ เชื่อว่าในช่วง เวลานี้ ถ้าเขาอยากจะทำอะไรสักหน่อย ด้วยสภาพของซูเหมยตอนนี้ ต้องต่อต้านไม่ไหวแน่
แน่นอนว่าเธ่เทียนไม่ใช่คนต่ำทรามที่ฉวยโอกาสตอนคนอื่น
อยู่ในอันตราย ไม่ง่ายที่จะกดอารมณ์แตกต่างนั้นไว้ในใจ ขณะ
เดียวกันยังยื่นมือบีบติ่งหูอ่อนนุ่มของซูเหมยไว้ ตรงนั้นมีจุดหนึ่ง มีผลอย่างมหัศจรรย์ระงับต่อความเจ็บปวด
ของประจําเดือน
รวบรวมพลังแท้นิดๆ ไว้ที่ปลายนิ้ว ยิงเข้ากลางจุดอย่างช้าๆ “on……”
รู้ที่ไหนว่าซูเหมยจะส่งเสียงครางออกมาทันใด ร่างกายที่น่า ดึงดูดสั่นเทาไม่หยุดสักพัก
ติ่งหูคือหนึ่งในส่วนที่อ่อนไหวของเธอ
ตอนนี้ถูกเย่เทียนบีบไว้ ยังมีพลังอุ่นโจมตีมาด้วย ทำให้เธอ สั่นทั้งตัวเหมือนเจอฟ้าผ่า ชั่วขณะนั้นในใจส่วนลึกผุดความรู้สึก แตกต่างแปลกออกไป
“นาย……นายปล่อยฉัน………
ซูเหมยเดิมก็แก้มแดงเล็กน้อยอยู่แล้ว ชั่วพริบตาเดียวแดง เหมือนหยดเลือด อดส่งเสียงคึกคักแบบหมดแรงขึ้นมาไม่ได้ ยื่น มืออยากผลักเย่เทียนออก
แต่ตอนนี้ทั้งตัวเธอไร้เรี่ยวแรง จะผลักเย่เทียนผู้ชายตัวใหญ่ ขนาดนี้ได้ที่ไหน แต่ทว่าเหมือนอยากยอมรับแต่แกล้งทำปฏิเสธ
เดิมทีเปเทียนเพียงแค่อยากบรรเทาอาการปวด ให้เธอ แต่ เวลานี้ระยะห่างของสองคนใกล้กันมาก แค่หายใจก็เป็นกลิ่น หอมเฉพาะบนตัวของซูเหมย บวกกับเสียงร้องพึมพำที่ยั่วยวนได้ ที่เปรียบนั้นของซูเหมย ร่างกายที่มีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม ปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ
ทันใดนั้น เย่เทียนเพียงรู้สึกปากแห้งผาก เขาอดหัวเราะแบบ ขมขื่นไม่ได้
“ประธานซู ถ้าคุณขยับไปทั่วอีก ผมไม่รับรองว่าผมจะทำเรื่อง อะไรหรือไม่……
คำที่ไม่หนักไม่เบา คาดไม่ถึงจะมีแรงยับยั้งมากล้นต่อเหม
ซูเหมยตัวสั่นเทาไปหมด โดยสัญชาตญาณ กัดฟันไว้แน่น
ถลึงตาใส่เขาอย่างดุร้าย “นาย……..อให้นายจะรักษาโรค แต่
ว่าเปลี่ยนตำแหน่ง ได้หรือเปล่า!
“เปลี่ยนตำแหน่ง?”
เย่เทียนงุนงงไปก่อน จากนั้นตอบสนองเข้ามาทันที หรี่ตายิ้ม เขารู้ว่าติ่งหูอาจจะเป็นตำแหน่งอ่อนไหวของซูเหมย ไม่อย่างนั้น จะมีปฏิกิริยามากขนาดนี้เหรอ
“ได้!”
เย่เทียนรับปากไปอย่างเปิดเผยมาก จากนั้นเก็บมือกลับแล้ว เวลานี้ ในที่สุดชูเหมยโล่งอกไปที่หนึ่ง ความรู้สึกแปลกไปนั้นค่อยๆ กลับไปหายเป็นปกติ
แต่ไม่รอให้เธอเอ่ยปาก มือของเยเทียนก็ขยับอีกแล้ว เวลานี้ วางไว้บนท้องน้อยราบเรียบซึ่งไม่มีเนื้อส่วนเกินแม้แต่น้อยนั้น ของเธอ
“นาย..…….
ซูเหมยขมวดคิ้วแน่น กำลังอยากจะพูดอะไรหน่อย ทันใดนั้น ความรู้สึกร้อนก็โจมตีมา ทำให้เธอร้องตกใจออกมาอีกครั้ง
แต่ในวินาทีต่อมา เธอรู้สึกว่า ความเจ็บจี๊ดที่ท้องน้อยค่อยๆ
หายไป คาดไม่ถึงได้ผลจริง
แต่ทว่า ความรู้สึกแปลกแบบนั้นราวกับเกลียวคลื่น ซัดสาด หัวใจของเธอ แม้แต่ลมหายใจยังเปลี่ยนไปเร่งกี่ชัดเจน
สุภาษิตว่าไว้ไม่ผิด สามสิบดุจหมาป่า สี่สิบเหมือนเสือ ซูเหมย
ปีนี้อายุยี่สิบแปด คืออายุของเสือและหมาป่า สามารถ
จินตนาการได้ว่าเธอมีความทรมานมากเพียงใดกันแน่……..
ดีที่ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้คงทนอยู่นาน ไม่นานเก๋เทียนเก็บมือ กลับมา พูดจานิ่งๆ “เสร็จแล้ว ตอนนี้คุณน่าจะไม่ปวดแล้ว”
ได้ยินคำพูดนี้ ซูเหมยราวกับขาดน้ำ ลองค้ำยันตัวขึ้น ผลปรากฏพบว่า คาดไม่ถึงร่างกายไม่เจ็บแล้ว คือเหนื่อยล้า อยู่บ้าง ดูเหมือนผ่านการสู้รบครั้งใหญ่มา
“นาย…..นายเป็นใครกันแน่? ครอบครองวิชาการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาไว้ แถมยังมีฝีมือการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ด้วย?”
ซูเหมยสงบใจที่กระเพื่อมขึ้นไว้มองเยเทียนด้วยความสงสัย
“ผมเคยเป็นราชานักฆ่าที่เลื่องชื่อลือนามของโลก ในระดับ นานาชาติถูกเรียกว่า “เทพนักฆ่า คนที่ตายอยู่ในมือผมอย่าง น้อยเลขสามหลัก สำหรับฝีมือการแพทย์ แค่รู้คร่าวๆ เท่านั้น เอง”
เย่เทียนใช้โทนเสียงกึ่งล้อเล่นตอบกลับ ชั่วขณะนั้นดูเหมยม องค้อนให้เยเทียนแล้ว ทำให้เขาเข้าใจด้วยตนเอง
เดิมทีเธอไม่เชื่อคำพูดนี้ของเย่เทียน ถ้าเย่เทียนเป็นราชานัก ฆ่าอะไรนั้นจริง จะลดตัวมาอยู่ด้านในผับเล็กๆ นี้ของเธอได้ อย่างไร?
เย่เทียนยิงฟันยิ้ม รู้ว่าเหมยต้องไม่เชื่อแน่ ทว่าไม่ได้สืบสาว ราวเรื่องต่อ พูดว่า “โรคนี้ของคุณรุนแรงพอสมควร ไม่ค่อย เหมือนกับการปวดประจำเดือนทั่วไป ต่อไปทุกสามวันนวดครั้ง หนึ่ง ทำต่อเนื่องสักหนึ่งเดือน น่าจะดีขึ้นมาได้
“ยังต้องอีกหนึ่งเดือน?”
ซูเหมยเบิกตาในชั่วขณะนั้น สายตาเปล่งประกายเล็กน้อย
“ตอนนี้ผมแค่ช่วยบรรเทาความปวดให้คุณชั่วคราว ต่อไปยัง จะกำเริบใหม่ได้ ถ้าไม่อยากรักษา ก็แล้วแต่คุณ” เย่เทียนยักไหล่ บอก
“ฉันเหนื่อยบ้างแล้ว นายออกไปก่อนเถอะ ฉันจะเรียกคนมาจัดเตรียมที่พักให้นาย
เหมยพูดอย่างหมดแรงชัดเจน นอนลงไปบนโซฟาอีกครั้ง รูปร่างที่ยอดเยี่ยมนั้นของตนเอง แสดงอยู่ต่อหน้าเยเทียนอย่าง หมดจด
เย่เทียนมองเป็นบุญตาอย่างไม่ถือสาแม้แต่น้อย จากนั้นถึงลุก ขึ้นเดินออกไป ทิ้งภาพด้านหลังที่สง่างามไว้ให้ดูเหม
ตามองเห็นว่าเปเทียนก้าวใหญ่ๆ ออกจากห้องทำงาน ในตาซู เหมยมีแววตาที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้นมา ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
คฤหาสน์ที่มีสวน ใกล้ช่วงกลางดึก
เฉินหวั่นชิงอาบน้ำเรียบร้อย ใส่ชุดคลุมที่กึ่งโปร่งแสงตัวหนึ่ง นอนบนเตียง พลิกกลับไปกลับมาอย่างไรก็นอนไม่หลับ
ในหัวสมองของเธอ ปรากฏภาพขณะที่อยู่โรงพยาบาล ที่เป็ เทียนจากไปแบบไม่หันหน้ากลับมาเลยโดยตลอด
ผ่านไปตั้งนาน เฉินหวั่นชิงจับพลัดจับผลูหยิบมือถือออกมาต่อ
สายไปหาเยเทียน แต่ในสายโทรศัพท์นั้นเป็นเสียงตุ๊ดๆ ลอยมา คาดไม่ถึงว่าปิด
เครื่องแล้ว!
“สารเลว!”
เธอสบถคําหนึ่ง หงุดหงิดจนโยนมือถือลงบนเตียงอย่างแรง
ดึกดื่นไม่กลับบ้านก็แล้วไป นึกไม่ถึงยังกล้าปิดเครื่อง จะมา งอนใส่ฉันเหรอ? เชอะ ฉันจะดูว่านายจะหยิ่งไปได้ถึงเมื่อไรกัน!
ในใจเฉินหวั่นชิงทั้งกลัดกลุ้มทั้งโมโห ทั้งที่เธอเป็นคนไม่เย เทียนไป เวลานี้กลับรู้สึกโกรธเคืองเพราะเย่เทียนไม่กลับบ้าน เฉินหวั่นชิงถือโอกาสไม่สนใจอีก ปิดไฟทันที คลุมตนเองไว้
ในผ้าห่ม ค่อยๆ เข้าสู่ความฝัน………
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ