My lady นายหญิงเป็นผู้ หญิงของผม 18+

ตอนที่ 8 คุณมันบ้า



ตอนที่ 8 คุณมันบ้า

ต้วนเทียนเฟิงเดินออกไปสิบกว่าก้าว ทันใดนั้นก็พบว่าลืมหยิบ น้ำยาล้างจานมา จึงรีบหันหลังเดินไปที่ห้องล้างจาน ผลปรากฏ ว่าตอนที่เดินเข้าไปใกล้ๆ เฮยเมียนเซ็นได้ยินเสียงเขากระซิบ กระซาบว่า “แม่โจรสาวคนนี้ช่างดีจริงๆ ให้บุหรี่กูด้วย อาบยา พิษไว้ล่ะสิ ฮา ฮา แต่ว่าอย่างไรก็ตามคนที่ถูกยาพิษตายก็ไม่ใช่ ฉัน”

ทันใดนั้นด้วนเทียนเฟิงก็รีบหันหลังเดินกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาเหงื่อออกท่วมตัว เมื่อกี้เพิ่งจะเอาบุหรี่คาบไว้ในปาก ถ้าหาก ว่าโจวเสี่ยวหลังวางยาพิษให้ เฮยเมียนเป็นจริงๆ ละก็ ตัวเองได้ ตายม่องเท่งไปก่อนแน่ๆ หากดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน แม้ว่า ทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า ด้านเทียนเฟิงก็ยังรู้สึก กลัวอยู่ดี เพราะว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันจะกลายเป็นเรื่องที่เป็นไป ได้ หลังจากนั้นตัวเองก็จะต้องตายกลายเป็นผีแทนเสียเอง น่า สยองขวัญมาก…

เอาบุหรี่ทิ้งลงถังขยะ ด้วนเทียนเฟิงก็รีบไปยังอ่างล้างจาน ใช้ น้ำเย็นล้างหน้าอยู่หลายรอบจนรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ตอนนี้ก็มีลุง พนักงานล้างจานยื่นบุหรี่ให้เขามวนหนึ่ง แต่เขาก็ไม่กล้ารับ ได้ แต่บอกไปว่ายุ่ง แล้วจึงรีบเดินออกไปโดยเร็ว ด้วนเทียนเฟิงยัง ไม่กล้าที่จะสูบบุหรี่ของคนอื่นมั่วๆ อีกเลย นอกเสียจากว่าอยาก จะหาเรื่องตาย ต้วนเทียนเฟิงรู้สึกประหลาดใจตรงจุดนี้ว่าทำไม เฮยเมียนเงินถึงคิดว่า โจวเสี่ยวหลังวางยา ความสัมพันธ์ของพวกเขาแยถึงระดับไหนกัน หรือเหลือแค่กระดาษบางๆ 1 ชั้นที่ยัง ไม่ขาดทะลุเท่านั้น

ตอนที่ทําความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เลิกงานด้านเทียน เพิ่งเดินตามหลังพนักงานรุ่นใหญ่ พวกเขาที่เดินอยู่ข้างหน้าต่าง ก็พากันหัวเราะเฮฮา ด้วนเทียนเฟิงไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย เพราะว่า เรื่องที่พวกเขาคุยกัน หากไม่ใช่เรื่องผู้หญิงก็เป็นเรื่องการพนัน ยิ่งอย่างหลังยิ่งเป็นเรื่องที่ ด้วนเทียนเฟิงไม่ได้สนใจเลย ส่วน อย่างหน้า ด้วนเทียนเฟิงซึ่งเป็นชายหนุ่มบริสุทธิ์ พวกเขารู้สึกว่า ด้วนเทียนเฟิงยังไม่มีคุณสมบัติที่จะมาคุยเรื่องนี้ หากเข้าไปร่วม ก็จะต้องถูกอัดกระเด็นออกมา ดังนั้นถ้าหากไม่ใช่เป็นด้วนเทียน เฟิงที่มาเข้าเวรแล้ว ตอนที่เลิกงานพร้อมกันด้วนเทียนเฟิงจะเป็น ผู้ที่เดินตามหลังตลอด เข้ากับพวกเขาไม่ได้สักที

สิ่งที่ต้วนเทียนเฟิงดูถูกพวกเขาก็คือ ใครบ้างที่ไม่เคยเป็นชาย บริสุทธิ์มาก่อน แม่มึงสิ พอไม่ใช่ผู้ชายที่บริสุทธิ์ก็รู้สึกถึงจะ มีหน้ามีตามากเลยใช่ไหม กูยอมขาดแคลนดีกว่าได้ของที่ด้วย คุณภาพ

ข้ามถนนไปแล้ว ตอนที่เข้าหมู่บ้านชนบท ทันใดนั้นด้วนเทียน เฟิงก็มองเห็นหัวของคนหนึ่งคนกับมือของคนหนึ่งข้างโผล่ออก มาจากในซอยที่อยู่ข้างๆ มือข้างนั้นทำท่าทางเรียกให้เขาเข้าไป หา เนื่องจากอยู่ในมุมอับแสงเข้าไม่ถึง ด้วนเทียนเฟิงจึงมองไม่ เห็นถึงลักษณะของคนคนนี้ จึงรู้สึกลังเลนิดหน่อย ถึงอย่างไร ก็ตามในสังคมนี้ต่างก็มีเรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด แต่ว่าพอลอง มองดูให้ละเอียดถี่ถ้วน คนนี้เป็นผู้หญิง ด้วนเทียนเฟิรู้สึกกลัวอีกต่อไป และเตรียมจะเดินเข้าหา

พอเดินถึงงออกมา หลังจากนั้นด้วนเทียนเข้าไปในซอย แล้วพูดอ้วนเทียนเฟิง เสี่ยวเป็นอย่างไรบ้าง

นี่คือปุ๋ยหนิงหล่อนกายด้วยเครื่องแบบพนักงาน หาก เปรียบเทียบหุ่นของหล่อนกับเซียนเขียนแล้วละก็ หุ่นของหล่อน กว่ามาก ตอนใส่เครื่องแบบพนักงานช่างดูงดงามอย่างไร้หล่อนตัวเองหรือ ด่วนเทียนเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เพราะว่า ในหน้าของอาคารเลิกงานเร็วกว่าห้องครัวครึ่งชั่วโมง ก็หมายความหล่อนมารอได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว เพื่อที่มาถาม ผมว่าอูเสี่ยวป่าวเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมหล่อนจึงโทรหา เสี่ยวตนเองในใจคิดอะไรอยู่ ด้วนหลุด ปากถามออกไปเสี่ยวป่าวปิดเครื่องเหรอ

ไม่รู้”

เธอได้โทรศัพท์ถาม

ปุ๋ยหนิงส่ายเบือนหน้าออกไป

ด้านเทียนเฟิงรู้สึกห่อเหี่ยวใจขึ้นมา เป็นอะไรอีก ที่เกี่ยว ป่าวเกิดเรื่องขึ้นมา มันเกี่ยวข้องกับเธอ แต่เธอกลับไม่ไปถาม คนเกิดเรื่อง เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ด้วนเทียนเฟิงเกิดอาการพอใจนิดหน่อย จึงพูดออกไปว่า ปุ๋ยหนึ่งรู้ควรกับอย่างไรดี ฉันรู้สึกว่าเธอควรจะโทรศัพท์ไปถามอูเสี่ยว ป่าวด้วยตนเองกว่า”
“ขอโทษ” ปุ๋ยซินหนึ่งหันหลังเดินออกไปอย่างไม่ลังเล เพียง ประเดี๋ยวเดียวก็หายวับไปในมุม แต่พอ ด้วนเทียนเฟิงเตรียมตัว ที่จะเดินจากไป หล่อนกลับส่งเสียงเรียกขึ้นมาอีกว่า “ด้วนเทียน เพิ่งช่วยฉันหน่อยนะ…ช่วยบอกขอโทษกับอูเสี่ยวป่าวด้วย”

ต้วนเทียนเฟิงยังคงคิดว่าหล่อนคงจะเข้าใจ ผู้หญิงคนนี้ดูท่า แล้วเป็นคนที่ตัวเองไม่ควรที่จะไปเข้าใกล้ด้วยจริงๆ ช่างไม่ เข้าใจอะไรเลย เพื่อเรื่องบ้าๆ ของหล่อนแล้วทำให้เสี่ยวป่าว ต้องเป็นถึงขนาดนี้ ขณะที่กำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่ ต้วนเทียนเฟิงก็ ได้เดินเข้าไปในอีกซอย กลับหออย่างรวดเร็ว

อูเสี่ยวป่าวไม่ได้อยู่ที่หอพัก ด้วนเทียนเฟิง โทรศัพท์หาเขา เขา บอกว่าอยู่ข้างนอก อีกประเดี๋ยวเดียวก็กลับแล้ว ด้วนเทียนเฟิง เลยวางใจ นั่งสูบบุหรี่อยู่บนเตียง รอคิวอาบน้ำอยู่ การอาบน้ำมี กฎระเบียบ ต้องเป็นพ่อครัวก่อน จากนั้นเป็นคนคุมงานเขียง และงานเชือด งานล้าง สุดท้ายถึงจะเป็นผู้ช่วยในครัว ดังนั้นทุก ครั้งที่หมุนเวียนมาถึงคิว สุดท้ายก็เป็นเวลาจะเที่ยงคืนแล้ว

พอ ด้านเทียนเฟิงอาบน้ำเสร็จ ซักเสื้อผ้าเสร็จ ก็เที่ยงคืนกว่าอู เสี่ยวบ่าวกลับมาแล้ว ได้นำข้าวโพดร้อนๆ กลับมาให้ด้วนเทียน เฟิง1 ฝักด้วย ที่ด้านนอกระเบียง ด้วนเทียนเฟิงกำลังกินอยู่อ เสี่ยวป่าวก็สูบบุหรี่แล้วพูดกับ ด้วนเทียนเฟิงว่า “พี่ชาย เงิน 6000 หยวนนี้ ฉันอาจจะแบ่งจ่าย 10 เดือน ให้นายนะ เดือนละ 600 หยวน”

“ไม่เป็นไร ฉันยังไม่ได้ใช้เงิน” ในความเป็นจริงแล้ว ด้วน เทียนเฟิงอยากจะพูดออกไปมากว่าไม่ต้อง แม้ว่าเงินนี้จะเป็นเที่ค่อนข้างสกปรก แต่ ด้วนเทียนเฟิงก็ไม่รู้จะพูดกับอูเสี่ยวป่าว อย่างไร “นายสะดวกตอนไหนก็ตอนนั้นแล้วกัน ไม่ต้องวางแผน หรอก”

อูเสี่ยวป่าวหัวเราะฮา ฮา แล้วพูดขึ้นมาว่า “นายไม่กลัวว่าฉัน จะหนีหายไปเหรอ”

“ถ้าหากนายเป็นคนแบบนั้น ก็ถือว่าฉันตาบอดก็แล้วกัน หลัง จากนั้นทุกวันตอนที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ฉันก็จะอธิษฐานว่าขอ ให้ลูกนายไม่มีตูด ไม่มีตา

“ฮา ฮา 6000 หยวนเท่านั้น ร้ายแรงขนาดนี้เลย

มองดู เสี่ยวป่าวที่อารมณ์ดี เขาคงจะคิดตกแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ ดี เห็นเขาเป็นแบบนี้ ในใจของด้านเทียนเฟิงก็ดีใจขึ้นว่า แล้วพูด ว่า “รีบไปนอนเถอะ พรุ่งนี้นายจะต้องเข้างานไปทํางานอาหาร ตอน 8 โมง”

อูเสี่ยวป่าวผงกหัว ดีดก้นบุหรี่ทิ้งลงไปยังข้างล่างตึก หันหลัง เดินเข้าไปข้างใน แต่ว่าเดินไปได้แค่ครึ่งก้าวเท่านั้น ก็ถอยหลัง หันกลับมาพูดว่า “ใช่แล้ว นายเจอ ปุ๋ยซินหนึ่งบ้างไหม หล่อนมา ทํางานหรือเปล่า”

ด้วนเทียนเฟิงผงกหัวแล้วพูดว่า “มา”

“แปลกจัง ฉันโทรหาหล่อน แต่หล่อนปิดเครื่อง”

“หล่อน…จริงๆ แล้วตอนที่เลิกงานกลับบ้าน เพิ่งจะมาพบฉัน หล่อนให้ฉันบอกกับนายว่า ขอโทษ”
เสี่ยวป่าหงุนงง คิดไปสัก 2-3 วินาที แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก เดินเข้าไปนอนด้านเทียนเพิ่งกินข้าวโพดเสร็จ ก็สูบบุหรี่หนึ่งมวน จึงค่อยเข้าไป…

สองวันนี้ที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศคลื่นสงบลมสงัดก็ได้ผ่าน ไปแล้ว ท่าทีที่สงบก็ได้จบลงไป ในส่วนของเครื่องปรุง ด้วนเทียน เฟิงได้เตรียมเสร็จเรียบร้อยไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เนื่องจากว่าตั้งแต่ เล็กจนโตไม่เคยทําเรื่องเลวๆ อะไรมาก่อนเลย ด้วนเทียนเฟิงจึง รู้สึกจิตใจไม่สงบนิดหน่อย รู้สึกว่าความทรมานใจกำลังก่อกวน อยู่ภายในใจนิดหน่อย แต่พอเห็น เฮยเมียนเป็นที่ด่าคนไปทั่วทำ จนเป็นเรื่องปกติ ความกล้าในเรื่องชั่วร้ายก็เกิดขึ้นมา จะไป สนใจความเป็นความตายของเขาทำไม ทำตามนั้นไปแหละ วิธี การที่ ด้วนเทียนเฟิงเลือกใช้ก็คือ เครื่องปรุงให้พ่อครัวใช้เพียง คนเดียวเท่านั้นด้วนเทียนเฟิงคำนวณเวลามาเป็นอย่างดี ก่อนที่ จะเริ่มจัดงานเลี้ยงวันเกิด ต้องใช้เท่าไร่ เติมเท่าไหร่ ถึงจะใช้ หมดพอดีกับงานเลี้ยงวันเกิด ด้วนเทียนเฟิงล้างจานเครื่องปรุงไว้ อย่างสะอาด เปลี่ยนมาเป็นเครื่องปรุงตัวใหม่ แบบนี้ก็จะทำให้ ไม่มีใครรู้สังเกตได้

สําหรับตัวอย่างนั้นด้วนเทียนเฟิงก็ได้เก็บจากอาหารที่เหมือน กันไว้แล้ว 1 ชุดสำนักบริหารธุรกิจตรวจหาไม่เจอแน่ว่ามันคือ อะไร

มองดูอาหารที่ทำเสร็จและถูกใส่ยาระบายลงไปนั้น ทั้งหมดได้ ถูกยกออกไปแล้ว ด้วนเทียนเพิ่งรีบจัดการเรื่องที่เหลือให้ เรียบร้อย พ่อครัวที่เขาติดตามคือพ่อครัวหมายเลข 3 เขาไม่พบเห็นอะไร และวันนี้ก็ยังเป็นพิเศษ นอกจากงานเลี้ยงวันเกิด แล้ว ก็ยังมีงานเลี้ยงขนาดเล็กใหญ่อีกหลายงาน บรรยากาศใน ห้องครัวที่กว้างใหญ่คล้ายกับว่ากำลังทำสงครามอยู่อย่างนั้น แหละ เสียงของพัดลม เสียงของเตา เสียงปิดตู้เย็น และยังมี เสียงฉ่าของกระทะเหล็ก เป็นภาพบรรยากาศที่วุ่นวายมาก

แน่นอนว่าจะต้องมีเสียงตะโกนร้องเรียกต่างๆ กับเสียงโยน จาน จริงๆ แล้วห้องครัวก็คล้ายๆ กับตลาดสดนี่แหละ วุ่นวาย มาก สกปรกมาก อาหารที่จัดตกแต่งด้วยรูปทรงต่างๆ อัน สวยงามนั้น ในความเป็นจริงแล้วก็สำเร็จมาด้วยมือของคนนี้ แหละ อย่างเช่น ผักกวางตุ้ง ถ้าหากใช้ตะเกียบมันก็จะช้าไป ตอนที่ยุ่งๆ ก็ใช้มือกันนี่แหละ คุณอาจจะสงสัยว่า ใช้มือแล้วมัน ไม่ลวกมือเหรอ ในความเป็นจริงแล้ว สำหรับผู้ช่วยในครัว นี่มัน ก็คืองาน ซึ่งได้ฝึกฝนมือที่ต้านทนความร้อนมาไว้ตั้งนานแล้ว ไม่ เช่นนั้นแล้วจะยกกับข้าวออกไปที่เคาน์เตอร์ครัวเพื่อส่งต่อให้ พนักงานเสิร์ฟได้อย่างไร

ยุ่งมาชั่วโมงกว่าๆ ได้ ตอนนี้ก็เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว ช่วงเวลาพีค ในตอนกลางคืนของห้องครัวผ่านไปแล้ว ห้องครัวก็ดูว่างลง อย่างเห็นได้ชัด พ่อครัวจำนวนครึ่งหนึ่งได้ไปสูบบุหรี่อยู่ที่ประตู ด้านหลัง ตอนนี้พนักงานเขียงก็เริ่มยุ่งกับการเช็กสต๊อกอาหาร แล้ว จากนั้นก็นำอาหารที่ขายไม่ออกและแช่แข็งมาเป็นระยะ เวลานานออกมาเตรียมสำหรับทำอาหารในวันพรุ่งนี้ หลังจาก นั้นพวกเขาก็เตรียมตัวที่จะสั่งซื้อของเข้ามาใหม่ พรุ่งนี้จะซื้ออะไร บ้างนั้นจะต้องผ่านการตรวจนับสต๊อกก่อนถึงจะตัดสินนั้นฝ่ายที่ยุ่งที่สุดในช่วงเปิดร้านกับเก็บร้านก็จะเป็นฝ่ายงาน เขียง แล้วเริ่มเปิดร้านพวกเขาจะต้องเตรียมของเยอะเป็นพิเศษ การหั่นวัตถุดิบอาหารนั้นจะต้องใช้คนเฉพาะในการหั่นตลอดทั้ง ช่วงเช้า

พ่อครัวสบายที่สุด เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาพีคเท่านั้นที่จะต้อง ผัดอาหารไม่หยุด พวกเขาไม่ต้องเตรียมอะไร พวกเกลือ น้ำมัน เครื่องปรุงรสต่างๆ จะเป็นผู้ช่วยห้องครัวรับผิดชอบในการเตรี ยมไว้ให้ เรื่องการทําความสะอาดก็เป็นความรับผิดชอบของผู้ ช่วยในครัว และผู้ช่วยในครัวยังจะต้องไปเอาจานที่ห้องล้างจาน ด้วยตัวเอง หลายร้อยกว่าใบเลย เหนื่อยมาก ลำบากมาก

พอพ่อครัวระดับแนวหน้ากลับมาจากการสูบบุหรี่แล้ว ก็จะ หมุนมาถึงคิวของอูเสี่ยวป่าวพ่อครัวอันดับสุดท้ายไปสูบ ก่อนที่ เขาจะออกไปสูบ เขาก็ได้ส่งสายตาให้กับ ล้วนเทียนเพิ่งบอกให้ ด้านเทียนเฟิงออกไปด้วยกันด้วนเทียนเฟิงส่ายหัว เขาไปไม่ได้ ต้องรอดูว่า เฮยเมียนเซินที่จะเข้ามาในไม่ช้ามีปฏิกิริยาอย่างไร บ้าง

อูเสี่ยวป่าวไปคนเดียวเป็นอันดับสุดท้าย ออกไปยังไม่ถึง 1 นาที เฮยเมียนเซินก็เดินหน้าเข้ามา ตะโกนเสียงดังว่า “ไอ้ เหี้ย พวกมึงทำความสะอาดกันหรือเปล่า คนทั้งหมดที่มากินใน งานเลี้ยงวันเกิดต่างก็พากันอ้วกและถ่ายท้องกันหมด รีบไปดู เลยนะว่าอาหารอะไรที่มีปัญหา หาออกมาและจัดการมันซะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ