My lady นายหญิงเป็นผู้ หญิงของผม 18+

ตอนที่ 2 คิดทําไม



ตอนที่ 2 คิดทําไม

ด่วนเทียนเฟิงอายุ 22 ปี เป็นคนชนบทที่แม่เสียชีวิตตั้งแต่เขายัง แบเบาะ พ่อของเขาคือด้านยีโซวเป็นคนที่อารมณ์รุนแรง แต่ กลับเป็นนักล่าสาวๆ ที่ชื่อเสียงกระฉ่อนโด่งดัง ตั้งแต่เริ่มจำ ความได้ ด้านเทียนเฟิงเห็นผู้หญิงหลากหลายสไตล์ต่างพากัน เข้าออกห้องของเขาอย่างน้อยประมาณสามสิบสี่สิบคน ตอน กลางดึกก็มักจะได้ยินเสียงร้องอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสียง กรีดแหลมอันเซ็กซี่ เสียงสูงแหลมแห่งความป่าเถื่อน หรือเสียง ทุ้มต่ำที่อบอุ่น ลอยออกมาจากข้างในห้องของเขา

แม้ว่าชีวิตส่วนตัวของด้วนยีโซววุ่นวายอย่างหาที่สุดมิได้ แต่ ว่าเขากลับเป็นพ่อครัวหัวป่าที่เก่งและมีชื่อเสียงโด่งดังมาก เมื่อ ก่อนได้ฝ่าฟันผ่านร้อนผ่านหนาวอยู่ในเมืองใหญ่ แต่หลังจากที่ เขาละทิ้งเมืองใหญ่แล้วกลับมาอยู่ที่ชนบทด้วยเหตุผลบาง ประการนั้น ทั้งตำบลไม่ว่าบ้านไหนมีงานมงคล หรือจัดงานเลี้ยง สังสรรค์ ต่างก็พากันมาเชิญเขาให้เป็นพ่อครัวให้ ดังนั้นตั้งแต่ ประมาณ 6-7 ขวบ ด้วนเทียนเฟิงก็ต้องเข้าไปช่วยเขาทำงาน หลังจากที่ ด้วนเทียนเฟิงผู้มีศิลปะและฝีไม้ลายมือในการทำครัว ที่สูงมาก เดินทางออกมาจากชนบท ก็ได้ไปทำงานเป็นผู้ช่วยใน ครัวในร้านอาหารของโจวเสี่ยวหลิง

นี่เป็นร้านอาหารจีนขนาดกลางแห่งหนึ่ง ชื่อว่าร้านหมู่สือ ใน ห้องครัวมีคน 18 คน พ่อครัว 4 คน งานเขียง 3 คน ผู้ช่วยในครัว 3 คน งานหน้าเตา 2 คน งานเชือด 2 คน ติ่มซำ 1 คน และงานล้าง 2 คน พ่อครัวนอกจากงานทำอาหารแล้วอย่างอื่นไม่ต้องทำ นี่ถือว่าเป็นเจ้านายที่ใหญ่ที่สุด ในห้องครัว งานหน้าเตาจะรับผิด ชอบในด้านการนิ่ง การตุ้น การอบ การต้ม นี่ถือว่าเป็นเจ้านาย ใหญ่อันดับสองในห้องครัว ส่วนงานเขียงมีหน้าที่ในการรับผิด ชอบนั่นอาหารให้ออกมาเป็นรูปร่างต่างๆ ที่สวยงาม เพื่อใช้ใน การตกแต่งและในการทำอาหาร นี่ถือว่าเป็นเจ้านายใหญ่อันดับ สามของห้องครัว งานเชือดถือว่าเป็นมือสังหารในการเชือดไก่ ฆ่าเปิด เฉือนอาหารทะเล ถือว่าเป็นเจ้านายใหญ่อันดับที่ 4 ผู้ ช่วยในครัวจะต้องทำทุกอย่าง เสิร์ฟอาหาร เสิร์ฟจาน ทําความ สะอาด เป็นต้น วนเทียนเฟิงเป็นหนึ่งในพนักงาน ในครัว งาน ประเภทนี้ไม่ใช่งานระดับหัวหน้า เป็นแค่งานเบ็ดเตล็ดระดับลูก น้องทั่วไป แต่ว่า ในขณะเดียวกันด้วนเทียนเฟิงก็ได้คุมเรื่องซอส ปรุงรสด้วย สําหรับงานล้างจะทำหน้าที่ในการล้างผัก และล้าง จาน ซึ่งพวกหล่อนจะเป็นผู้หญิงที่มีอายุเยอะ

แน่นอนว่าคนที่เก่งที่สุดในห้องครัวต้องนับให้เป็นนักเลงขา ใหญ่ประจำห้องครัวเลย แม้ว่าจะดูเหมือนว่าไม่มีหน้าที่อะไรที่ ต้องรับผิดชอบ แต่กลับว่าจะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง พ่อ เฮย เมี่ยนเป็นคนนี้ชอบด่าคนทั้งวัน แถมยังมีความสัมพันธ์ลับๆ กับ โจวเสี่ยวหลิงอีก ด้วนเทียนเพิ่งเคยพบกับเขาเพียงแค่ครั้งเดียว เท่านั้น วันนั้นเขามาอยู่เวรช่วงบ่าย เข้ามาที่โกดังเพื่อหยิบซอส ปรุงรสสำหรับวางแผนการปรุงให้เหมาะสมสำหรับใช้ในงาน เลี้ยงตอนกลางคืน ตอนที่ก้าวเท้าเข้าประตูโกดังเพียงก้าวเดียว ก็ได้ยินเสียงบ้านของมึงเหรอ ไปตายซะ”

หลังจากเสียงค่าจบลง ก็มีชุดชั้นในตัวหนึ่งปามายังบนหัวของ ด้านเทียนเฟิง ด้วนเทียนเฟิงรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจาก ที่ปิดประตูแล้ว ถึงจะรู้สึกว่าชุดชั้นในยังคงห้อยอยู่บนหัวเขาอยู่ เขาจึงหยิบมันลงมา ถือติดมือไปโยนทิ้งในรางน้ำที่ทั้งดำและ สกปรก

ในตอนนั้นด้วนเทียนเฟิงยังไม่รู้ว่านั่นเป็นชุดชั้นในของใคร จนกระทั่งถึงเวลาทำงานตอนที่ โจวเสี่ยวหลงเดินออกมา มอง เห็นจุดนูนๆ บนหน้าอกของหล่อน ตอนนั้นก็รู้เลยว่าชุดชั้นในตัว นั้นเป็นของหล่อนนั่นเอง พูดตามตรงว่า ด้วนเทียนเฟิงรับไม่ได้ จริงๆ หล่อนยังอายุไม่ถึง 30 แม้ว่าจะเป็นแม่ม่าย แต่เนื่องจากมี การดูแลตัวเองจึงดูคล้ายกับหญิงสาวในวัย 23-24 ปี สัดส่วน และหน้าตาโดดเด่นมาก แต่กลับมามีความสัมพันธ์ลับๆ กับ เฮย เมี่ยนเซ็นในวัย 40 กว่าปี ตกลงแล้วหล่อนถูกใจอะไรในตัว เฮย เมียนเชินกันแน่

คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็มีคำตอบออกมาอย่าง รวดเร็ว วันนั้นด้วนเทียนเฟิงมาเข้าเวร และได้ทําความสะอาด เสร็จในเวลา 9 โมง โจวเสี่ยวหลิงกำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตู หล่อนแต่งตัวได้เซ็กซี่มาก ปล่อยผมยาวนุ่มสลวย สวมใส่ชุด ทำงานสีขาวรัดแน่นเปี๊ยะ จนสามารถเห็นสัดส่วนนูนเว้าบนเรือน ร่างของหล่อนได้อย่างชัดเจน ในส่วนคอเสื้อที่ด้านหน้าเปิดให้ เห็นขอบลูกไม้สีขาว กระดุมสองเม็ดที่ไม่ได้ติดนั้น ทำให้เห็นชุด ชั้นในที่อยู่ด้านในได้อย่างชัดเจนมาก เป็นชุดชั้นในลูกไม้สีดำ
ตรงท่อนล่างของชุดเครื่องแบบทำงานของหล่อน โชว์ให้เห็น ถึงขายาวเรียวตรงที่สวมใส่ถุงน่องสีเนื้อไว้ รองเท้ารัดส้นแบบไฮ โซ สีขาวดำตัดกัน ที่มีระดับส้นสูงปานกลาง นี่ช่างเป็นเท้าคู่หนึ่ง ที่ทำให้ชวนน่าหลงใหลจนแทบจะบ้าคลั่งได้เลย ใบหน้าของ หล่อนถือว่าเป็น ใบหน้ารูปไข่แบบมาตรฐานเลย ภายใต้คิ้วอัน โค้งงอนเรียวบางช่างเป็นที่น่าหลงใหล รวมกระทั่งถึงดวงตา เรียว เฉี่ยวอย่างเมล็ดอัลมอนด์ จมูกของหล่อนก็เล็ก โด่งคมเป็น สันมาก ริมฝีปากดูแล้วช่างนุ่มนิ่มและเซ็กซี่เป็นพิเศษ ในขณะที่ ผมปล่อยปลิวสยาย ได้ทำให้เกิดแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทาน ยากที่จะยับยั้งได้ จนกระทั่งถึงแรงเย้ายวนใจ…

เพราะว่านอกจากการรักษาความปลอดภัยแล้ว ก็ไม่มีเหตุผล อื่นๆ อีก ด้วนเทียนเฟิงรู้สึกอึดอัดมากอย่างเห็นได้ชัด ไม่กล้าที่ จะทักทาย โจวเสี่ยวหลิง จึงคิดที่จะออกไป แต่ผลปรากฏว่า โจว เสี่ยวหลังได้พูดขึ้นมาทันทีว่า “เทียนเฟิง นายก็เข้ามาทำงานได้ 2 เดือนแล้ว เป็นคนดี ขยันขันแข็ง พูดจาจริงจังเข้มงวด ฉันคิด ว่าจะเพิ่มเงินเดือนให้นาย 200 หยวน แต่ว่านายจะต้องตอบ คําถามฉันมาหนึ่งข้อก่อน ฉันได้ยินพวกเขาคุยกันว่านายยัง บริสุทธิ์อยู่ นายไม่ใช่…ใช่ไหม”

ด้วนเทียนเฟิงตะลึงงัน ไม่ตอบสนองใดทั้งสิ้น จู่ๆ โจวเสี่ยวหลิ งก็ถามคำถามแบบนี้ขึ้นมา คิดที่จะทำอะไรกัน

โจวเสี่ยวหลิงลุกขึ้นมา เอาปลายนิ้วกลางมาชนกับปลายนิ้ว หัวแม่มือ กรีดกรายนิ้วที่เหลือ ทำให้เห็นเป็นรูปรูวงกลมชัดเจน หน้าอกอวบอั๋นสั่นระริก ทำให้หล่อนยิ่งดูออดอ้อนฉอเลาะอย่างหาที่เปรียบมิได้ หลังจากที่ยิ้มเสร็จก็ได้พูดออกมาว่า “ดูท่าแล้ว นายช่างบริสุทธิ์จริงๆ เลิกงานก่อนเถอะ กลับไปที่หอพัก อาบน้ำ อาบท่าเสร็จ มาที่บ้านฉัน พวกเราจะเซ็นต์สัญญาจ้างงานใหม่

เซ็นต์สัญญาจําเป็นต้องไปบ้านหล่อนด้วยเหรอ ขณะที่กำลัง ครุ่นคิดถึงปัญหานี้อยู่ ต้วนเทียนเฟิงก็ได้เดินเป็นหุ่นยนต์ออก จากร้านอาหารไป มุ่งหน้าไปทางหอพัก

หอพักอยู่ที่หมู่บ้านชนบทตรงด้านหลังของร้านอาหาร เป็น บ้านอาหารเก่าหลังหนึ่ง เตียงของต้วนเทียนเพิ่งอยู่ตรงมุมด้าน ซ้ายของห้องรับแขก ติดกับหน้าต่าง หลังจากที่เขากลับไปถึงก็ นั่งลงบนเตียง จากนั้นหยิบบุหรี่ราคาถูกขึ้นมาจุดมวนหนึ่ง แล้ว สูบควันตลบอบอวล พอสูบเสร็จถึงจะไปอาบน้ำ แล้วออกไปข้าง นอก การขึ้นเงินเดือน ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้ แต่ว่าการเซ็นต์สัญญาจ้าง งานใหม่จําเป็นต้องไปที่บ้านหล่อนจริงๆ เหรอ แถมยังต้องไป ตอนดึกขนาดนั้นอีก มิหนำซ้ำยังเป็นช่วงหลังจากที่หล่อนเพิ่งจะ ถามตัวเองว่ายังเป็นชายหนุ่มบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่าอีก

ด้วนเทียนเฟิงคาดเดาในแง่ร้ายว่า หล่อนจะช่วยให้ตัวเอง ออกจากชายหนุ่มที่บริสุทธิ์มาเป็นผู้ชายเต็มตัวหรือเปล่า

คิดไปพลางเดินออกจากห้องเช่าไปพลาง ทันใดนั้นข้างๆ ก็มี เสียงหนึ่งดังขึ้นมา “ทำไมทำท่าอย่างกับจะตายเสียอย่างนั้น ตอนที่ลงมาจากหอพักเห็นผีมาเหรอ”

ด้วนเทียนเฟิงตกใจสะดุ้ง จึงหันมองไปแวบหนึ่ง คนที่พูดคือ ตำแหน่งพ่อครัวคนที่ห้าอูเสี่ยวป่าวที่แต่งกายเรียบหรูดูดี พ่อหนุ่มคนนี้ก็ออกไปข้างนอกเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเดินมาอยู่ข้างๆ ตอนไหน ซึ่งตัวเองก็ไม่ทันได้รู้ตัวเลย

ทั้งห้องครัว เสี่ยวป่าวเป็นพี่ชายที่ดีกับ ต้วนเทียนเฟิงที่สุด คอยดูแล ม้วนเทียนเฟิงเป็นอย่างมาก นิสัยของพวกเขาค่อนข้าง ที่จะคล้ายกัน ในส่วนที่เหมือนกันคือ ทั้งห้องครัวก็มีเพียงแค่พวก เขาทั้งสองคนนี้แหละที่เป็นชายบริสุทธิ์ เสี่ยวบ่าวพ่อคนนี้ช่าง เป็นคนที่เก่งมากจริงๆ ทำงานในห้องครัวได้เพียงปีเดียวก็ สามารถเป็นพ่อครัวใหญ่ได้แล้ว ในความเป็นจริง ตอนแรกเขาก็ เริ่มทำหน้าที่ผู้ช่วยในห้องครัว ด้วยความที่เขามีความสามารถ ในการเรียนรู้ที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม เขาเรียนเพียง ครั้งเดียวก็สามารถทำได้เลย โอ้ เขายังเป็นบุคคลเพียงคนเดียว ในห้องครัวที่ทะเลาะมีปากเสียงกับขาใหญ่อย่างเฮยเมียนเป็น แล้วไม่ถูกเลิกจ้างไป โดยรวมๆ แล้ว พวกเขามีความชื่นชอบที่ คล้ายๆ กัน ชอบดูละครเอวี ถ้าหาก เฮยเมี่ยนเป็นเลิกจ้างเขา จริงๆ ก็ยากที่จะหาคนดีๆ แบบนี้ได้อีกแน่ และจะต้องรู้สึกเสียใจ มาก

ด้วนเทียนเฟิงพูดถามออกมาด้วยสายตาอันเกลียดชังว่า “มองหาปู่เหรอ”

“ฮา ฮา ปูเราตายไปหลายปีแล้ว เป็นผีไปแล้ว นายเห็นเหรอ เขาพูดอะไรบ้าง”

“เขาบอกว่า ให้นายรีบหาหลานสะใภ้ให้เขาสักหนึ่งคน หลัง จากนั้นให้แบ่งให้ฉันใช้ในคืนวันแรก”
“ฮา ฮา ปูนายสิ คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดจากปากนายจริงๆ เหรอ นายพูดทำไมนายไม่ไปตายเองล่ะ”อูเสี่ยวปาวจู่ๆ สีหน้าก็ ปรากฏความกลัดกลุ้มใจขึ้นมาทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “มีเรื่องจะบอกนายเรื่องหนึ่ง พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของฉัน นายลอง ทายดูว่าฉันนัดใครไว้

ล้วนเทียนเฟิงครุ่นคิดอยู่ไม่กี่วินาที แล้วพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้า คนงานของร้านอาหาร ปุ๋ยในหนึ่งเหรอ”

“ช่างรู้ใจฉันจริงๆ เลย ด้วนเทียนเฟิง ฉันเตรียมที่จะพาหล่อน ไปเดินเล่น เดินเที่ยวที่สวนสาธารณะ หลังจากนั้นก็ดูภาพยนตร์ แล้วก็…”

“มันดูเชยไป ไม่ได้ ปุ้ยชิ้นหนึ่งไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆ เป็น บุคคลพิเศษ บุคคลพิเศษจะต้องเลือกใช้วิธีพิเศษๆ ฉันคิดว่า… ด้วนเทียนเฟิงไม่ได้พูดอะไรต่อไป เพราะว่าอูเสี่ยวป่าวไม่น่าจะ ทํามันสําเร็จได้ ปุ๋ยชิ้นหนึ่ง แม้ว่าจะมีชีวิตอยู่ในโลก โลกีย์ แต่ก็ดู เหมือนว่าหล่อนจะไม่ใช่คนโลกีย์แบบนั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่ว่า คนอย่างพวกเขาแบบนี้จะไปยุ่งเกี่ยวมีความสัมพันธ์แบบนั้นได้ สําหรับพวกเขาแล้ว หล่อนสามารถแค่คิดจินตนาการอนาจาร ด้วยได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถเล่นเอาจริงได้ พรุ่งนี้ เสี่ยวป่าว ต้องพาหล่อนไปรันทดกลับมาแน่ๆ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่พูดแล้ว ฉันอวยพรให้นายแล้วกัน แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้นายจะไปไหน”

“ตอนนี้จะไปกินอาหารมื้อดึกกับเซียนเขียนใกล้จะสายแล้ว กลับมาแล้วค่อยคุยกัน…” พอพูดจบอูเสี่ยวป่าวก็รีบวิ่งไปอย่าง รวดเร็ว
ตัวนเทียนเฟิงค่าไล่หลังเสี่ยวปาวอกใหญ่ “นายมันไอ้หมา เย็ด ใกล้จะสําส่อนไปทุกทีแล้ว พรุ่งนี้นัดกับ ปุ๋ยในหนึ่งคืนนี้ยัง จะไปพบกับเชียนเซียนอีก ฉันจะต่านาย ไอ้ ซิฟิลิส…

อูเสี่ยวป่าวไม่ได้มีคำพูดโต้ตอบกลับใดๆ ก็แค่หันหลังมาหา ต้วนเทียนเฟิงแล้วชูนิ้วกลางให้…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ