My lady นายหญิงเป็นผู้ หญิงของผม 18+

ตอนที่ 4 พอเป็นพิธี



ตอนที่ 4 พอเป็นพิธี

โจวเสี่ยวหลิงที่ร่างกายนุ่มนิ่มไปทั้งตัวได้เข้ามาประชิด ด้วน เทียนเฟิง ใกล้มาก กลิ่นตัวที่หอมหวนสะกดใจคนได้ลอยเข้าไป ในจมูกของต้วนเทียนเฟิงอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ได้ชักจูง เข้า ยวนกระตุ้นให้ด้วนเทียนเฟิงมีความอยาก และมีความหวัง ซึ่ง กำลังท้าทายความอดทนอันขีดสุดของด้านเทียนเฟิงอยู่ และที่ แย่ที่สุดก็คือ ต้วนเทียนเฟิงได้ไปถูกกับหน้าอกของหล่อนที่ทั้งนุ่ม นิ่มและอวบอิ่ม นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากที่ ด้วนเทียนเฟิง เติบโตเป็นหนุ่มขึ้นมา นี่ถือว่าเป็นครั้งที่เขาได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ หญิงมากที่สุด อารมณ์พรั่งพรูมาไม่หยุด น้องชายของด้านเทียน เฟิงได้ลุกเป็นไฟขึ้นมา คนเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเพียงนิดเดียวก็ อาจจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายได้ ดังนั้นก่อนที่จะอดใจไว้ไม่ไหวที่ จะทำเรื่องที่ผิดขึ้นมา จึงจำเป็นต้องดึงแขนของตัวเองออกไปเสีย ก่อน แล้วพูดขึ้นมาว่า “จริงๆ แล้วคุณสามารถใช้วิธีทางลัดอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีไร้มนุษยธรรมแบบนี้ การที่คุณทำแบบนี้จะ เป็นการทําร้ายให้มีคนตายหลายคน และไม่แน่ว่าสุดท้ายก็อาจ จะเป็นการทำร้ายตัวเอง ดังนั้นขอให้คิดทบทวนให้ดีก่อนทำ เถอะ”

“ฉันคิดทบทวนมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว วิธีนี้เข้าท่าที่สุด นายไม่เข้าใจเฮยเมี่ยนเป็นคนนั้นหรอก แต่ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่ เลือกผิด มันจะไม่มีปัญหาจริงๆ ฉันได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีงาม ไว้แล้ว งานวันเกิดนี้ไม่ได้จัดขึ้นมาอย่างมั่วซั่ว มีคนช่วยฉันพูดจะไม่ลุกลามใหญ่โตหรอก แล้วก็จัดการภายใน หลักๆ คือสร้าง สถานการณ์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการกำจัดเฮยเมียนเป็นคนนั้นออก ไป คุณลองคิดดูนะ ร้านอาหารเป็นของฉัน ฉันคงจะไม่ทำเพื่อมา ฝังตัวเองหรอก” โจวเสี่ยวหลงจับแขนของด้านเทียนเฟิงไว้อีก ท่าทางแบบนั้นดูเหมือนกับว่ากำลังรบเร้าขอร้องให้ ล้วนเทียน เพิ่งช่วยเหลืออยู่ สายตาเป็นประกาย ท่าทางออดอ้อน เสียงอ่อน โยนกว่าที่เสียงที่เพิ่งจะพูดออกไปหลายเท่า ท่าทางได้เข้าใกล้ อาการอ้อนมากขึ้นทุกที “เทียนเฟิง ฉันดีใจมากนะ หากนายจะ สามารถคิดทำเพื่อร้านอาหารได้ นายเป็นพนักงานที่ดีมากคน หนึ่ง ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว นายทำเพื่อร้านอาหารหน่อยได้ไหม

ด้านเทียนเฟิงพูดออกมาว่า “ผมกลับไปคิดก่อน แล้วค่อยให้ คําตอบคุณแล้วกัน”

โจวเสี่ยวหลิงรู้สึกว่า ด้วนเทียนเฟิงกำลังบอกปัดอยู่ จึงรีบพูด ขึ้นมาว่า “เทียนเฟิง ถ้าหากนายไม่ชอบผู้หญิงจริงๆ แล้วล่ะก็ นายก็บอกเงื่อนไขมาเถอะ ขอแค่เป็นสิ่งที่สามารถรับได้ ฉันจะ ทําให้นายพอใจแน่นอน

ช่างเย้ายวนมาก ทำให้ตัวเองพอใจ แต่พอคิดดูแล้ว มันก็แค่ อุบายหลอกลวงอย่างหนึ่ง อะไรที่เป็นสิ่งที่หล่อนสามารถรับได้ ถ้าหากหล่อนบอกว่าไม่สามารถรับได้ทั้งหมดล่ะ นั่นเท่ากับว่า เป็นแค่เด็ก 3 ขวบเท่านั้นล่ะสิ แม้ว่าจะมาจากชนบท แต่ว่าก็ได้ เติบโตมาจากการสั่งสอนแบบพิเศษจากด้านโซวไม่ว่าเรื่อง อะไรก็ตาม ต่างก็ต้องตระหนักและไตร่ตรองให้ดีก่อนว่ามันเป็น เรื่องที่ดีหรือไม่ดี
ด้านเทียนเฟิงยังคงตอบออกมาอย่างไม่รีบร้อนว่า “เงื่อนไข ฉันขอกลับไปคิดให้ดีก่อน

ใบหน้าอันออดอ้อนของ โจวเสี่ยวหลังได้มีความกลัดกลุ้มขึ้น มาหลายเท่า เทียนเฟิง นายกำลังตอบพอเป็นพิธีให้กับฉันหรือ เปล่า”

“ขอร้องล่ะ คุณธรรมของผมมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ผมจะบอก กับคุณตรงๆ เลยนะ ผมจะทำหรือว่าไม่ทำ ไม่ใช่ว่าทำให้พอเป็น พิธี แต่ว่าคือคุณ…” ด้วนเทียนเฟิงมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แวบหนึ่ง แล้วจึงพูดต่อไปว่า “ดูเหมือนว่ากำลังทำลวกๆ กับผม มากกว่า”

โจวเสี่ยวหลิงก็มองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เห็นได้ชัดว่ามี อาการฉงนใจนิดหน่อย แต่ก็พูดกลับไปด้วยท่าทีที่เข้มแข็งและ จริงจัง “สิ่งที่ฉันรับปากไว้ ฉันทำให้เป็นจริงได้แน่นอน

“งั้นก็ดี…” ด้วนเทียนเพิ่งแสดงความรู้สึกที่มีออกมาต่อหล่อน เป็นครั้งแรก เป็นความรู้สึกที่ชั่วร้ายว่า “ฉันต้องการลูกพี่ลูกน้อง ของคุณ”

“หล่อนก็กำลังรออยู่ในห้อง นี่มันง่ายมาก นายเข้าไปก็ เรียบร้อยแล้ว ฉันรับประกันได้เลยนะว่า หล่อนจะเป็นฝ่ายรุกใน การจับ ถอด เพื่อให้นายจัดการ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นนายแซงฉัน ให้เป็นมะเร็งเต้านมได้เลย

ด้วนเทียนเฟิงชำเลืองมองไปที่หน้าอกของหล่อนที่ใหญ่มาก ราวกับจะระเบิดแตกออกมา นี่ถ้าหากเป็นมะเร็งเต้านมแล้วต้องโดนตัดทิ้ง จะต้องน่าเสียดายมากเลย เขาส่ายหัวแล้วพูดขึ้นมา ว่า “คุณทำผิดแล้ว ที่ผมพูดหมายถึงลูกพี่ลูกน้องของคุณจริงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะครับ” พอพูดจบ ด้วนเทียนเฟิงก็เดินออกไปที่ ประตู

“ไม่ใช่ นี่คือลูกพี่…ของฉันจริงๆ…เทียนเฟิง…

ด้านเทียนเฟิงไม่ได้สนใจหล่อน แล้วรีบเปิดประตู พลิกตัวออก จากประตูอย่างไว ปิดประตู แล้วเดินลงบันไดไปที่ชั้นล่าง…

หลังจากที่ออกจากตึกใหญ่ไป ด้วนเทียนเฟิงก็ถอนหายใจ อย่างโล่งอกมา 1 เฮือก ทันใดนั้นก็มีเสียงของ โจวเสี่ยวหลงร้อง เรียกดังขึ้นมาจากข้างบนตึก “เทียนเฟิง รับนะ”

ด้วนเทียนเฟิงเงยหน้าขึ้นไปดู ก็เห็นสิ่งของสีแดงชิ้นหนึ่งลอย ลงมาจากหน้าต่างชั้น 4 เขายื่นมือออกไปรับไว้ สิ่งที่เห็นเป็นไป อย่างที่คิดไว้ ก็คือ ชุดชั้นใน 1 ตัว แถมยังประณีตและดูหรูหราไฮ โซมาก ผมปลิวสยาย ครีมอาบน้ำกลิ่นหอมมาก นี่มัน หมายความว่าอะไร น่าเสียดายที่ไม่ทันได้ถาม โจวเสี่ยวหลิงก็ ปิดหน้าต่างไปแล้ว หลังจากนั้นด้วนเทียนเฟิงก็พบว่า ตรงรอย จีบย่นของชุดชั้นในมีกระดาษโน้ตเสียบไว้ หยิบออกมาเปิดดู บน นั้นเขียนข้อความไว้ 1 ประโยคว่า เทียนเฟิง คนที่นายอยากจะมี อะไรด้วยคงจะไม่ใช่ฉันใช่ไหม ถ้าหากต้องการฉัน เงิน 5000 หยวนก็จะไม่ได้แล้วนะ นายลองคิดดูให้ดีๆ มีผลบังคับใช้คืนนี้ ฉันจะรอนายอยู่

ตั้งแต่เด็กความภาคภูมิใจในตัวเองของด้วนเทียนเฟิงก็ถูกด้วนยีโชวคนนั้นเหยียบจนไม่เหลือชิ้นดี ตบหน้าขวาเสร็จก็ไป ที่ด้านซ้าย ตบหน้าซ้ายเสร็จก็ใช้ขาเตะ เตะเสร็จก็ปามีดใส่ หาก จะพูดถึงในระดับนี้แล้วละก็ ต้วนเทียนได้ถูกเจ้าคนแก่อ้วน โซวคนนั้นทําจนอับอายไม่ไว้หน้าเสียหมดแล้ว ไม่รู้สึกถึงความ อัปยศอดสูอะไรอีกแล้ว แต่ว่าเขารู้สึกว่าหากจะเปรียบเทียบกับ โจวเสี่ยวหลิงแล้วละก็ เขายังบริสุทธิ์ยิ่งกว่าแตงกวาและมะเขือ ยาวเสียอีก ที่ยังไม่เคยผ่านการใช้เสียพรหมจรรย์กับผู้หญิงมา ก่อน

แต่ว่า พออ่านข้อความที่อยู่บนกระดาษโน้ตแล้ว ด้วนเทียน เพิ่งที่อ่านข้อความจบหน้าก็แดงหูก็แดงไปหมด ผู้หญิงคนนี้ช่าง กล้าพูดคำพูดที่ลามกออกมาได้ง่ายจริงๆ แม่ม่ายเป็นแบบนี้หมด ใช่ไหม

ครั้งนี้ ล้วนเทียนเฟิงไม่ได้ทิ้งชุดชั้นในไป เพียงแค่ทิ้งกร งกระดาษ โน้ตไปเท่านั้น คืนนี้มีผลบังคับใช้ กูไม่ได้ขาดแคลนจริงๆ หรอก

ด้วนเทียนเฟิงเดินมุ่งหน้าออกไปยังข้างนอกของวิลล่าอย่าง สง่าผ่าเผย อย่าถามว่าทำไมเขาถึงไม่ทิ้งชุดชั้นในไป โดยรวมๆ แล้วประมาณว่าของชิ้นนี้ประณีตมาก หรูหราไฮโซมาก แถมยังมี กลิ่นหอมๆ ที่ยั่วยวน ดึงดูดคนอีก เอากลับไปด้วย ให้เลี้ยวขาว ใช้ในการช่วยตัวเองให้ขึ้นสวรรค์เวลาดูหนังเอวี รู้สึกว่ามันไม่ เลวเลยทีเดียว ถ้าหากบอกเขาไปว่าของชิ้นนี้เป็นของ โจวเสี่ยว หลังคาดว่าคงจะยิ่งดีมากเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ในชีวิตจริงของคนไม่สามารถมีความคิดชั่ว ร้ายไปทั้งหมดได้ เพราะว่าความคิด ชั่วร้ายก็เหมือนน้ำป่าที่ไหลพราก ที่สามารถกลืนตลอดเวลา เรื่องมันเป็นแบบนี้ ต้วน เทียนเฟิงชุดชั้นในแดงเดินออกมาจากวิลล่า ตรงเบื้องหน้า ก็ได้พบกับตำรวจที่ขี่มอเตอร์ไซค์ตรวจจํานวน 2 คน ชาย จริงๆ เลย ด้วนเทียนรีบเอาชุดชั้นในไว้ที่ข้างหลัง เขา เพียงแค่รู้สึกอายเท่านั้น จิตใต้สำนึกเลยตอบสนองแบบนั้น เอง แต่ตำรวจมีปฏิกิริยาต่อความรู้สึกกลับว่าใจ ของเขามีพิรุธ จึงได้จับเขาเอาไว้ พบเขาซ่อนเอาคือ ชุดตำรวจ 1 คนได้เข้ายามรักษาความปลอดภัยของวิลล่า สอบถามพวกโรคจิตมาขโมยชุดชั้นในบ่อยไหม ผลปรากฏ ว่าจริง

ในมือสองข้างเขาใส่กุญแจมือเรียบร้อย เขาต่อต้าน อย่างสุดขีด แล้วพูดว่า เดี๋ยวก่อน เข้าใจแล้ว ไม่ใช่คน

ตำรวจควงกระบองขึ้นมา ทำว่าจะฟาดใส่ ด้วนเทียนเฟิง พร้อมพูดด้วยเสียงแข็งกร้าวว่า ซื่อสัตย์หน่อย”

“พวกคุณจับผิดแล้ว ผมไม่คนโรคจิต”

พอถึงสถานีตำรวจ อธิบายมาเสียดีๆ ว่าชุดในตัวนี้นาย เอามันอย่างไร ตำรวจอธิบายความบริสุทธิ์นาย

“หากพวกคุณให้ความรุนแรงให้สารภาพคำให้การจะทำอย่างไรล่ะ อธิบายตรงนี้แหละ ต้วนเทียนเฟิงโตมาถึงขนาดนี้ เคยเข้าไปที่สถานีตำรวจเลย แต่อูเสี่ยวเคยเข้าไป แล้วก็เคยเล่าประสบการณ์การสถานีตำรวจให้ฟัง บอกว่าครั้งพวกก็พูดกันด้วยเหตุผลเลย พอเข้าไปกระบองก่อนตุ้บ แสดงอำนาจก่อนแล้วค่อยสอบถาม ซึ่ง มนุษยธรรม ไร้ซึ่งหลักธรรมจากสวรรค์ ผมอธิบายได้ นี่เป็นชุด ชั้นในของเถ้าแก่เนี้ยผม เป็นสิ่งหล่อนให้ผมมา…

ตำรวจทั้งสองยิ้ม หัวเราะเสียงดัง หลังจากนั้นตำรวจ หนึ่งในนั้นก็ขึ้นมาว่า มึงพ่อคนนี้ช่างโกหกจริงบอกว่าของนายให้ชุดชั้นนายมา ทำไม ต้องให้นาย

ผมจะได้อย่างไร คงจะให้เอากลับชักว่าวถ้า หากไม่เชื่อ ผมสามารถพาคุณสอบถามความจริงหล่อนได้ ก็ผมเข้าไปแบบล็อกกุญแจมืออย่างนี้แหละ พวก คุณจะต๊อกต๋อย กลับบ้านปลูกก็น่าจะเหมาะกับพวกมากเสียงค่อนข้างหนักแน่น ว่าจริงแล้ว ด้วนโมโหอยู่ ไม่เพียงแค่โกรธตำรวจเท่านั้น ยังโกรธเลวๆ ของไอ้เอ๊ย ทำไมถึงไม่ทิ้งชุดชั้นในไปนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ