Devil Breaker กิลด์แสบป่วนโลกอ

ตอนที่ 7 : สมาชิกที่เพิ่มขึ้น



ตอนที่ 7 : สมาชิกที่เพิ่มขึ้น

ตอนที่ 7 : สมาชิกที่เพิ่มขึ้น

รุ่งเช้าของวันที่ 26 มีนาคม 2044 เวลา 11.36 น.

ท้องฟ้าในเวลาเที่ยงนั้นเมฆปลอดโปร่ง มีเพียงแดดจ้าที่ สาดส่องไปทั่วพื้นที่ ส่งผลให้อากาศโดยรอบร้อนอบอ้าว ไปด้วย ภพที่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาทใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ด เหงื่อที่ไหลออกมาราวกับสายธารอย่างเบื่อหน่ายพลางบ่น ไปด้วย

“ให้ตายดิเจ้าสน เจ้าเจมส์ทำไมถึงต้องนัดเจอที่ร้านกาแฟ ด้วยนะ ไม่มาที่บ้านฉันฟะถ้าไปถึงจะให้เจ้าพวกนั้นเลี้ยง มอคค่าฉันห้าร้อยแก้วเลยคอยดู” พูดแล้วชายหนุ่มผมหน้า ม้าสีดำเข้มก็ออกตัววิ่งเหยาะๆเพื่อจะหนีแดด จนกระทั่ง ถึงหน้าร้าน ภพปรับลมหายใจให้เป็นปกติอยู่พักหนึ่งก่อน จะค่อยๆเปิดประตูเข้าไปอย่างช้าๆใบหน้าของเขาปะทะลม เย็นจากเครื่องปรับอากาศอย่างจังทำให้เขารู้สึกสบายขึ้น เล็กน้อย

ร้านกาแฟแห่งนี้เป็นร้านที่อยู่หน้าหมู่บ้านของเอกภพ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเขาที่อยู่ลึกเข้าไปพอสมควร ภายใน ตกแต่งแบบเรียบง่ายมีกระถางต้นไม้ใบเล็กๆวางอยู่กลางโต๊ะของทุกๆโต๊ะ ช่วยเพิ่มความสดชื่น มีเพลงไทย สากลเปิดให้ฟังอยู่ตลอดเวลา ที่ด้านขวาของร้านจะมีมุม ที่ตกแต่งอย่างสวยงามเป็นพิเศษกว่าจุดอื่นๆ เพื่อชวน ให้ลูกค้าที่สนใจไปถ่ายรูป ทําให้ร้านน่าสนใจไปอีกเท่า ตัว ภพเดินมาที่เคาน์เตอร์มองป้ายเมนูร้านสีดำที่เขียน ด้วยตัวอักษรสีขาวคล้ายๆใช้ชอล์กเขียนแปะอยู่ด้านหลัง เคาน์เตอร์

ขอมอคค่าเย็นแก้วนึงครับ” เมื่อชายหนุ่มสั่งเสร็จเขาก็ มองหาโต๊ะที่เพื่อนของเขานั่งอยู่ไม่นานนักก็เห็นมือที่ยก ขึ้นสูงกำลังโบกเรียกเขาอยู่ ภพจึงเดินไปหาเจ้าของมือนั้น เมื่อไปถึงที่โต๊ะ เขาก็พบกับผู้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่ง คนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา

“ไงภพ” เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่คนหนึ่งกล่าวทักทาย เขาสวม แว่นสี่เหลี่ยมกรอบสีดำหนาเตอะรับกับดวงตาสีเทาอย่าง ลงตัว ใบหน้าเรียบเนียน ท่าทางสุภาพและดูเป็นเด็กเรียน เขาสวมเสื้อสีเทาคอ ไม่มีลาย และกางเกงยีนส์ขายาวไป จนถึงข้อเท้า

“สะ….สวัสดีจ่ะภพ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวกล่าวอย่าง เขินๆ เธอไว้ผมทวินเทลลอนสีน้ำเงินคาดผมสีขาว ดวงตา สีน้ำเงินเข้มทั้งทรงผมและดวงตานั้นเป็นที่มาของชื่อของ เธอที่แปลว่า ‘น้ำ’ บวกกับผิวที่ขาวอมชมพูซึ่งดูกี่ทีก็น่ารัก

ทำไมไม่มาบ้านฉันอะ อากาศร้อนจะตาย” ภพทิ้งตัวนั่ง ลงเก้าอี้เบาะนวมที่ว่างอยู่ พลางสะบัดคอเสื้อเพื่อระบาย ความร้อน

“ก็แหมฉันชอบมาที่ร้านนี้นี่หว่า สาวสวยน่ารักมีให้มอง ทั้งวันไม่มีเบื่อเลยอะ” เพื่อนของภพอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เขานั่งเท้าคางเหล่สายตามองซ้ายมองขวาไปมาอย่าง เพลิดเพลิน

“แกนี่เอะอะอะไรก็ต้องสาวสวยน่ารักไว้ก่อนตลอดเลยน่ะ สน” ภพพูดแขวะชายหนุ่มที่ดูมีนิสัยขี้เล่นเป็นกันเอง ผมสี น้ำตาลอ่อนมีเส้นผมกระจกหนึ่งตั้งขึ้นมาราวกับเสาอากาศ ดวงตาสีน้ำตาลทองเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทางฝ่ายที่ถูกแขวะ ก็ทำท่าไม่ได้สนใจในสิ่งที่เอกภพพูดนัก

“ว่าแต่ที่นัดมากันวันนี้มีอะไรหรอ ?” ภพถามเข้าเรื่อง ทันที

“ก็จะถามเรื่องเกมนี่แหละเพราะยังไงตอนนี้พวกเราก็มีที่ เรียนกันแล้ว เลยจะถามว่านายเล่น MUO ยังแล้วตอนนี้อยู่ เมืองไหนอะ ?” เจมส์เริ่มประเด็น
“นั่นดิ พวกฉันสามคนกำลังรอแกมาตั้งทีมเก็บมอนเตอร์ กันนะเว้ย” สนเสริม

“ตอนนี้ฉันก็เข้าเกมแล้วละ เอ่อ…..แล้วก็ฉันมีทีมแล้วน่ะ” ภพตอบ

“เอ้ามีทีมแล้วหรอ !! พวกฉันอุตส่าห์จะชวนนายมาตั้งทีม ด้วยกันน่ะ ถ้ารวมนายแล้วก็หาอีกแค่คนนึงเองนะ ?” เจมส์ กล่าว เขามีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย

“แล้วภพอยู่กิลด์ไหนหรอจ๊ะ ?” วารีถามต่อ

“Devil Breaker น่ะพึ่งสร้างเมื่อวานเอง พอดีพี่ฟ้าก็อยู่ ด้วยขอให้ฉันเข้าร่วมก็เลยตกลงไปอะ

“เฮ้ย !! เรื่องจริงดิ” สนโพล่งขึ้นมาทำให้ทั้งสามตกใจไม่ แพ้กัน

“ก็เรื่องจริงไง ทำไมแกต้องโอเวอร์แอคติ้งขนาดนั้นฟะ” ภพถอยห่างสนธยาที่เอาหน้าเข้ามาแทบจะชิดกับใบหน้า ของเขาแล้ว

“คือตอนนี้มีหลายคนในเกมกำลังพูดถึงน่ะว่าทีม DevilBreaker สามารถเคลียร์ภารกิจตามหาลูกแมวที่ทําหน เหลวมาแล้ว 35 ครั้งได้ตอนนี้จะเรียกว่าพวกนายกําลังดัง มากเลยก็ว่าได้นะ แถมมีหลายคนเลยที่อยากจะเข้าม นาย แต่ไม่กล้าเพราะพวกเก่งๆจะชอบตั้งรับคนเลเวลสูงๆ เอาไว้น่ะสิ” เจมส์อธิบาย

“ไม่ใช่ซะหน่อย !! ตอนนี้หัวหน้าทีมฉันอยากได้สมาชิก เพิ่มจะตาย เขาอยากจะเปลี่ยนทีมให้เป็นกิลด์เร็วๆด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องเลเวลค่อยว่ากันทีหลังเพราะของแบบนี้เพลย์เยอ ร์สามารถพัฒนากันได้พวกฉันมีความเห็นอย่างนี้กันนะ ภพโต้

“หมายถึงเกือบทุกกิลด์ทุกทีมอะ ล่าสุดพวกฉันสามคน ไปยื่นขอเข้ากิลด์ เด….เดวิล….อะไรสักอย่างนี่แหละ แต่ เจ้าหัวหน้ากิลด์ไม่รับบอกว่าพวกเราเลเวลอ่อนไป ฉัน ละโคตรเคืองเจ้าหัวหน้ากิลด์เลย” สนพูดด้วยความแค้น ราวกับว่าอยากจะอัดหน้าหัวหน้ากิลด์ที่เขากำลังพูดถึงให้ ได้

“ใช่กิลด์ Devil Knight หรือเปล่า” ภพถามเพราะชื่อแรก ของกิลด์มันคุ้นหูเขาเหลือเกิน

“นั่นแหละจ่ะ ใช่เลย” วารีเอ่ยทันทีหลังจากที่เงียบอยู่นาน ก็ดังขึ้น
“อ๋อ ทำไงได้กิลด์นั้นมีสมาชิกมากที่สุดในเกมเลยนะ แถมเลเวลเฉลี่ยก็สูงที่สุดอีก คนที่อยากจะสมัครเข้ากิลด์ ก็ต้องมีเยอะดิ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วพวกนายสนใจเข้า ทีมฉันไหม” ภพอธิบายถึงกิลด์ Devil Knight เสร็จก็ชวน เพื่อนสนิททั้งสามเข้าทีมทันที สน, เจมส์ และวารีมองหน้า ปรึกษากันครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

“อั้ม เอาดินายอยู่ไหนพวกเราไปด้วยแล้วกันๆๆๆๆ” สน เอ่ยขึ้นมา สีหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์เล็กน้อย

“ฝากนายด้วยนะ ว่าจะนัดเจอกันที่ไหนน่ะ” เจมส์ถามเพื่อ เป็นการสรุป

“เอาเป็นว่าฉันขอรหัส ID ของพวกนายด้วยแล้วกันจะ ได้ส่งคำขอไปถูก ส่วนเรื่องสถานที่คงอยู่แถวๆเมือง Sunlight Town ที่ดาวนิวพลาโต้แหละ” หลังจากนั้นทั้ง สี่คนก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยหลายๆเรื่องอย่างสนุกสนานจน กระทั่งเวลาได้ล่วงมาจนถึงตอนเย็น

“เอาเป็นว่าเดี๋ยวคืนนี้เจอกันนะ” ภพโบกมือลาเพื่อนทั้ง สามคนของเขา
“คืนนี้เจอกันนะจ๊ะ” วารีเอ่ย เธอยิ้มให้กับเด็กหนุ่มอย่าง อ่อนโยน

“อื้ม คืนนี้เจอกัน วารีก็ดูแลตัวเองดีๆละ” ภพยิ้มกว้างตอบ ทำให้เธอหน้าแดงหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอก้มหน้า หลบตาก่อนจะหันหลังจะก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว ภพ, สนและเจมส์จึงมองเจ้าตัวตามอย่างงุนงง

“เดี๋ยวพวกฉันไปส่งวารีให้ไม่ต้องห่วง บายยยยย สน ลากเสียงยาวโบกมือลา เมื่อทั้งสามคนลับสายตาไปแล้ว เขาจึงจะเดินกลับเข้าหมู่บ้านไป

ในเกมวันที่ 26 มีนาคม 2044 เวลา 22.05น.

“อืม…..ฮัลโหลเจมส์ สน วารี ได้ยินฉันไหม” ภพทักทาย เพื่อนทั้งสามคนผ่านช่องสนทนา
“นั่นภพหรอ ได้ยินจ่ะตอนนี้เธออยู่ไหนหรอ ?” หญิงสาว ตอบเด็กหนุ่มเป็นคนแรกอย่างสุภาพ

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่แผนที่ ทุ่งหญ้าชานเมือง-3 น่ะเป็นแผนที่ พักไม่มีมอนสเตอร์ เธอมาหาฉันแล้วกันฉันจะรออยู่ตรงนี้ นะ” ภพอธิบายพร้อมกับส่งโลเคชันในเกมไปให้หญิงสาว

“โอเคล่ะ แล้วเจอกันนะจ๊ะ” วารีตอบ ห้านาทีต่อมาเธอจึง มาถึงแผนที่ที่ภพนัดเธอเอาไว้ เธอสวมเครื่องแบบนักบวช สีขาว มีผ้าคลุมสีฟ้าน้ำทะเลคลุมไหล่ของเธอเอาไว้ ขอบ ชายเสื้อและแขนเสื้อเป็นสีน้ำเงินเข้ม รับกับดวงตาคู่งาม ของเธอได้อย่างกลมกลืน ทำให้เธอมีเสน่ห์ในชุดนักบวช ขึ้นมามากเลยทีเดียว

“รอนานไหมจ๊ะภพ ?”

“เอ่อ…………..ไม่นานหรอก สนกับเจมส์ยังมาไม่ถึงเลย” ภพรู้สึกหน้าแดงเล็กน้อยที่ได้เห็นวารีในอีกมุมหนึ่งที่เขา ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาทำเป็นหันซ้ายหันขวาสำรวจแผนที่ กลบเกลื่อนความเขินของเขา ทันใดนั้นเองเจมส์และสน ปรากฏตัวขึ้นมาตรงวาร์ปพอดี ไม่ทันที่ภพจะพูดอะไรสนก็ ชิงอธิบายก่อน
“โทษที่ๆ พอดีฉันกับเจมส์ลืมไปว่า Log out เมื่อคืนตอน อยู่แผนที่หุบเขาทางใต้ 2 น่ะแล้วลืมไปว่าวารีเข้าเมืองไป ซื้อของเมื่อคืน แฮะๆๆ” เมื่อทั้งสองคนอธิบายเสร็จ สนก็ สำรวจกรแต่งกายของเพื่อนตัวดีทั้งสองคร่าวๆ สนสวมชุด เกราะอัศวินสีขาวสะอาดตายังคงกระจุกผมตั้งคล้ายกับเสา อากาศอันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ ส่วนเจมส์สวมเครื่องแบบ จอมเวทย์ฝึกหัดสีน้ำเงิน ผ้าคลุมตัวสีเทาอ่อน แม้จะอยู่ ในเกมแต่เขาก็ยังสวมแว่นกรอบสีดำหนาเตอะเหมือนเดิม ทำให้เขาดูไม่เปลี่ยนไปมาก

“เออๆไม่เป็นไรพวกเราไปกันเถอะตอนนี้ทีมฉันกำลังรอ อยู่ที่แผนที่ ทุ่งหญ้าชานเมือง-7 น่ะ”

“อืมเอาสิ” เจมส์เอ่ย

“ฉันอยากจะเห็นทีมของนายแล้วล่ะสิ มีสมาชิกแค่หกคน แต่สามารถเคลียร์ภารกิจสุดโหดได้เนี่ย ต้องขอจับมือคน ที่เป็นหัวหน้าทีมของนายซะแล้วสิ ฮ่าๆๆๆ” สนพูดอย่าง กระตือรือร้น สีหน้าของเขาดูตื่นเต้นออกนอกหน้านอกตา ภพเปิดช่องสนทนาเมื่อเห็นว่าทุกคนในทีมออนไลน์อยู่ พอดีเขาจึงทักทาย

“ฮัลโหลครับ พี่ตุลย์ พี่ฟ้า เข็ม คุณมาร์ค คุณพีระอยู่ไหมครับ ผมภพเองนะอยู่ไหนกันครับ”

“ไงภพพึ่งออนหรอ อยู่ไหนน่ะ ? พวกฉันรออยู่ที่ทุ่งหญ้า ชานเมือง-7 นี่แหละพวกเราได้ภารกิจใหม่มาแล้วนะรีบมา เร็วเข้า” ตุลย์กล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง น้ำเสียงของ เขาดูกระตือรือร้นอย่างมาก

“เอ่อคืองี้นะพี่ตุลย์ ตะกี้ผมไปรับเพื่อนของผมมา พวก เพื่อนๆของผมจะขอเข้าทีมด้วยนะครับ” ทันทีที่ภพพูดจบ ตุลย์ก็โพล่งขึ้นมาทันที

“มะ….เมื่อกี้นายว่าไงนะ ?” ตุลย์ตาโตสีหน้าของเขาเต็ม เปี่ยมไปด้วยความปลื้มปิติยินดีอย่างบอกไม่ถูก

“เอ่อ…..เพื่อนของผมจะขอเข้าทีมด้วยนะครับ” ภพตอบ ช้าๆกลัวตุลย์จะได้ยินไม่ทันอีกรอบ

“ตกลงๆ รีบพามาเลย ฉันรับๆ” ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าทีม อนุญาตทันทีโดยไม่ต้องปรึกษาใคร

“เฮ้ยไอบ้า !! ปรึกษากันก่อนสิฟะ” มาร์คแย้งแต่ดูเหมือน ว่าจะไม่เป็นผลเมื่อตุลย์ตอนนี้กำลังกระโดดโลดเต้น เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ไปเสียแล้ว
“ให้ตายสิ ไม่ฟังกันเลย” มาร์คพูดอย่างปลง

“หมอนี่ก็เป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้วละ” ฟ้าเสริม เธอดูชินกับ พฤติกรรมกับเพื่อนตั้งแต่วัยเด็กของเธอเหมือนเป็นเรื่อง ปกติ

“แต่แบบนี้ก็ดีนะคะ ในที่สุดทีมเราก็มีสมาชิกเพิ่มสักที ที่ สําคัญเป็นคนที่ภพชวนมาเองด้วย หนูไว้ใจภพค่ะ” คำพูด ของเข็มชักชวนให้ทุกคนต่างก็เห็นด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่า ไม่รับสมาชิกเพิ่มพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเลื่อนระดับจาก ทีมไปเป็นกิลด์ได้

“จริงสิน้องภพมีเพื่อนมาขอเข้าทีมกี่คนหรอจ๊ะ ?” ฟ้าถาม ส่วนที่สำคัญที่สุดถ้าหากคราวนี้สมาชิกที่ภพพามาถึง 4 คน พวกเขาก็จะเลื่อนเป็นกิลด์ได้อย่างสมบูรณ์

“เอ่อ….สามคนครับ” ภพตอบทำให้ตุลย์รู้สึกเซ็งๆเล็ก

น้อย

“ชิ ! น่าจะมีอีกคนนึงเนอะจะได้ครบสิบคน คราวนี้จะได้ เป็นกิลด์สักที” ตุลย์บ่น

“เอาน่า น้องภพอุตส่าห์หาคนมาเพิ่มได้ก็ดีแล้วอย่าบ่นน่าอีกแค่คนเดียว เดี๋ยวพวกเราค่อยหาทีหลังก็ได้ ฟ้าเอ่ย ทําให้ดุลยต้องยอมรับอย่างขัดไม่ได้ไม่นานนักภพก็พา เพื่อนทั้งสามคนของเขามาถึงแผนที่ทุ่งหญ้าชานเมือง-7 สนกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างตื่นเต้นเมื่อได้เจอกับสมาชิก ทีม Devil Breaker ตัวเป็นๆ

“เอ่อ….สามคนนี่เพื่อนผมครับ สน, เจมส์ และก็วารี”

“สวัสดีครับผมสน LV 30 Class อาชีพ พาราดิน ครับผม” สนยืนตัวตรงรายงานตัวเสียงดัง สีหน้าของเขาดูตื่นเต้น อย่างเห็นได้ชัด

“สวัสดี แต่ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้มั้ง ฮ่าๆๆๆๆ ตุลย์ทักทายอย่างเป็นกันเอง

“โห ! นี่คือคุณตุลย์หัวหน้าทีม Devil Breaker นะครับ ได้เจอตัวเป็นๆสักที่ขอจับมือเพื่อนเป็นเกียรติหน่อยนะ ครับ” ดวงตาของสนดูเป็นประกาย ถ้าไม่รู้จักนิสัยจริงๆ ใครๆก็คงคิดว่าเขาเพี้ยนแน่ๆ แต่ทว่าตุลย์เองก็ชอบการยอ ของสนพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบใจ

“ฮ่าๆๆๆๆๆ ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แหมๆๆ ภพนายนี่มี เพื่อนที่ดีเหมือนกันนะเนี่ย
“ครับๆ” ภพอย่างปลงๆที่นิสัยสองคนนี้บังเอิญเข้ากันได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

“เอาเข้าไป ทีมเราได้คนเพี้ยนเพิ่มอีกคนแล้วสินะ” มาร์ค คิดในใจพลางมองสนที่กำลังกอดคอกับตุลย์เฮฮาอย่าง เป็นกันเอง

“สวัสดีครับผมเจมส์ LV 28 อาชีพ นักอัญเชิญครับ ยินดี ที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ” เจมส์กล่าวทักทายอย่างนอบน้อม

“คนนี้ค่อยเป็นปกติหน่อย” มาร์คคิดในใจอีกครั้ง ดวงตาสี แสดมองดูเด็กใหม่คนนี้อย่างมีหวัง

“สวัสดีจ่ะน้องเจมส์ แหมไม่ได้เจอตั้งนานหล่อขึ้นเยอะ เลยนะ” ฟ้าเดินเข้าไปแซวอย่างสนิทสนม

“เอ่อ…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับแค่ปีเดียวเอง แฮะๆ ๆๆๆๆ” เจมส์ก้มหน้าหนีอย่างเขินๆเขายกมือขึ้นมาลูบหัวแก้ เขิน

“เดี๋ยวนะ นี่เอ็งชอบพี่รหัสเพื่อนตัวเองเรอะ !!” มาร์คโพล่ง ขึ้นมาสีหน้าเขาดูตกใจมากขึ้นไปอีก
“ถ้าพูดให้ถูกพี่ฟ้าเขามีน้องรหัสสองคนครับคือผมกับ เจมส์ครับ” ภพแก้ไขข้อข้องใจของมาร์คอย่างเข้าใจ ดี มาร์คเลิกใส่ใจกับภาพตรงหน้าก่อนจะหันไปมองคน สุดท้าย ‘วารี’

“เอ่อ……..สวัสดีค่ะ ฉันชื่อวารี LV 26 อาชีพ นักบวช ฝึกหัดค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” วารีก้มหน้าแนะนำ ตัว เธอดูเกร็งๆเป็นพิเศษ เมื่อเห็นดังนั้นเข็มจึงวิ่งเข้ามา มองวารีที่ก้มอยู่ใกล้ๆ

“หืม~~~~~~~~ แฟนภพหรอเนี่ย มีแฟนแล้วไม่เห็น บอกกันเลยนะเนี่ย” เข็มแซว ดวงตาสีส้มเหล่ตาสังเกต อากัปกิริยาของนักบวชสาวอย่างมีเลศนัย

“มะ….ไม่ใช่ค่ะ !!” วารีเงยหน้าปฏิเสธันควัน เธอดูหน้า แดงเหมือนกับคนที่กำลังจะเป็นไข้

“ไม่ใช่สักหน่อย วารีเขาเป็นเพื่อนของฉันตั้งแต่เด็กๆน่ะ” ภพรีบแก้ต่างให้วารี

“อะไรกันภพปกป้องหรอ นายมีฉันอยู่แล้วนะทำแบบนี้ กับฉันได้ไง” เข็มทำท่าไปกอดแขนของชายหนุ่ม เธอดู สนุกสนานมากที่ได้แกล้งเพื่อนของเขา
“อย่าบอกนะว่าคนนี้คือแฟนภพหรอ !!!!” วารีพูดขึ้นมา อย่างตกใจ

“ไม่ใช่ !! เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว” ภพปฏิเสธทันควัน ท่ามกลางเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย พีระได้แต่กอดอก หลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นภาพตรงหน้า ส่วนมาร์คก็ทำหน้า นิ่งมองอย่างปลงๆ

“สรุปไม่มีใครปกติเลยสินะ” มาร์คสรุปได้เช่นนั้น เมื่อการ แนะนำตัวเสร็จสิ้นสมาชิกทั้งเก้าคนก็ออกเดินทางไปยัง สถานที่ที่ต้องทำภารกิจ จนกระทั่งถึงชายหาด

“ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจระดับ E+ ก็คือไปชิงไข่มุกดำสิบ แปดจันทรา ถ้ำที่อยู่ข้างใต้ทะเลสาบจันทรานิรันดร์ ในนั้น มีมอนสเตอร์บอสเฝ้าอยู่ และมีด่านทั้งหมดสี่ด่าน ภารกิจ นี้เคยล้มเหลวแล้ว 28 ครั้ง” ตุลย์เปิดหน้าจอเพื่ออ่านราย ละเอียดของภารกิจนี้ให้กับทีมของเขาฟัง

“คือพวกเราต้องดำนำลงไปใช่ไหมครับ” คำถามของภพ ทําให้ทุกคนฉุกคิดขึ้นมาได้ แม้ว่าจะเป็นในเกม แต่การ ดำรงชีวิตเรียกได้ว่าเหมือนในชีวิตจริงๆเลยก็ว่าได้ สมาชิก ทีม Devil Breaker พึ่งจะนึกได้ว่าทางระบบให้พวกเขาดำ นำแบบไม่ขึ้นมาหายใจได้อย่างมากก็แค่ 5 นาทีหลังจาก นั้นเราจะสูญเสีย HP เรื่อยๆจนกลับไปเกิดใหม่ในที่สุด

“เออจริงด้วยทำไงดีฟะ พวกเราไม่มีใครมีบัฟหรือไอเทม ที่เอาไว้ช่วยดำนำได้เลยนะโถ่เอ้ย !!! อุตส่าห์ช่วยกันเลือก แล้วแต่ดันลืมเรื่องนี้ซะได้” ตุลย์ใช้มือทั้งสองข้างขย้ำหัว ไปมาอย่างแรงเมื่อรู้ว่าเขาลืมจุดที่สำคัญที่สุดของภารกิจ ไป

“เอาไงดีล่ะ ? จะเอาไปยกเลิกและรับภารกิจใหม่ไหม ?” มาร์คเสนอ

“นั่นสิ ก็พวกเราดำนำลงไปทำภารกิจเพียงแค่ 5 นาทีไม่ ได้ซะด้วยสิ” ฟ้าเสริม

สำหรับเกม MUO นั้นหากทำการดำน้ำโดยไม่หายใจเลย จะได้รับดีบัพ ‘ขาดอากาศ’ โดยหากไม่ได้รับอากาศหายใจ เป็นระยะเวลา 5 นาที จะบังคับให้เราตายทันทีและกลับไป เกิดใหม่ที่ “โบสถ์กลาง

หลังจากที่ทุกคนทำหน้าคิดหนักได้ไม่นานนัก วารีจึงเอ่ย

ขึ้นมา

“เอ่อ……ดิฉันมีสกิลที่ทำให้ดำน้ำได้นานขึ้นค่ะ” วารีกล่าว

“จริงด้วย ! พวกเราได้นักบวชเข้าทีมมาแล้วนี่น่า ลืมไปได้ ไงเนี่ย” ตุลย์โพล่งขึ้นมา แน่นอนทุกคนก็พึ่งนึกได้เช่นกัน

“ดีนะที่ทีมเรามีนักบวชไม่งั้นพวกเราต้องเอาภารกิจนี้ ไปคืนล่ะ” มาร์คกล่าววารีจึงร่ายบัพให้ทุกคนอย่างพร้อม เพรียง

“สกิลสนับสนุน – บรรยากาศแห่งสายน้ำ !!” ละอองน้ำก่อ ตัวล้อมรอบเหล่าสมาชิก Devil Breaker ทั้งเก้าคนก่อนจะ ซึมเข้าไปในร่างกายของพวกเขา

“เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ !” ตุลย์ตะโกนนำก่อนจะวิ่ง ออกไป

“โอ้ !” สมาชิกทุกคนยกเว้นพีระออกเสียงขานรับก่อนจะ วิ่งตามออกไป พีระที่รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งอยู่ใกล้ๆตัวพวก เขานานแล้วเขาจึงขว้างมีดบินไปยังพุ่มไม้ที่อยู่ใกล้ส

ฟ้าวววววว ซวบ !!!
“มีอะไรหรอครับคุณพีระ ?” มาร์คถามอย่างนอบน้อม พีระ มองพุ่มไม้อยู่ครู่นึงจึงหันหลังให้กับพุ่มไม้ดังกล่าว

“ไม่มีอะไรหรอก พวกเราไปกันเถอะ” ชายหนุ่มตอบพร้อม กับเดินออกไป

เมื่อสมาชิก Devil Breaker ลับตาไปในท้องทะเล ในพุ่ม ไม้ที่พีระขว้างมีดบินไปนั้น มีดบินได้ปักอยู่ตรงลำต้นที่อยู่ ด้านหลังมันมีคราบเลือดติดอยู่ มันค่อยๆสลายไปจากการ ใช้งานเสร็จแล้ว ร่างของผู้หญิงคนนึงลูบแก้มตัวเองไปมา ไม่นานนักแผลมันค่อยๆหายไปเพราะระบบฟื้นฟู เธอเปิด กระเป๋าหยิบเอาวัตถุที่คล้ายๆลูกอมออกมา เธอแกะห่อ ออกก่อนจะเอาเข้าปาก ไม่นานนักสัญลักษณ์บัพก็ขึ้นเตือน

ขณะนี้คุณๆได้รับสถานะหายใจในน้ำได้เป็นเวลา 3

ชั่วโมง

เธอเดินออกมาจากพุ่มไม้อย่างช้าๆ และบิดขี้เกียจไปมา ก่อนจะวิ่งลงทะเลตาม Devil Breaker ไป

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อ ไป..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ