Devil Breaker กิลด์แสบป่วนโลกอ

ตอนที่ 14: แผนที่พังแล้วพังอีก



ตอนที่ 14: แผนที่พังแล้วพังอีก

ตอนที่ 14: แผนที่พังแล้วพังอีก

ในเกมวันที่ 27 มีนาคม 2044 เวลา 01.08 น.

หลังจากยื้อการต่อสู้มาร่วมสิบนาที สมาชิกทีม Devil Breaker ก็เสียกระบวนเนื่องจาก มาร์คและนกสดายุของ เจมส์ได้รับบาดเจ็บทำให้แผนที่ทำลายเกราะของเต่ายักษ์ พันปีต้องพังลง

เต่ายักษ์คำรามใส่กลุ่มนักผจญภัยที่อยู่ตรงหน้า มันเดิน ไปยังมาร์คที่กำลังนั่งพิงผนังกำแพงเนื่องจากพิษอัมพาต

“บ้าเอ้ย !!” มาร์คสบถ แถบเลือดของเขาในตอนนี้หาก โดนหอกยักษ์แทงเข้าจังๆอีกทีนึงก็ทำให้เขาตายได้ใน ทันที เวลาที่เขายังไม่สามารถเคลื่อนที่ได้คือ 20 วินาทีซึ่ง มากพอที่จะทำให้เต่ายักษ์เดินมาถึงตัวเขาได้พอดี

“คุณมาร์ค” เอกภพจะวิ่งเข้าไปกันอีกครั้ง แต่ทว่าบอสพ่น ลำแสงสีฟ้าลงพื้นเกิดก้อนน้ำแข็งยักษ์ดักหน้าเขาเอาไว้

เปรี้ยงๆๆๆ

นานายิงธนูลําแสงใส่เต่ายักษ์ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อเรียก ความสนใจแต่ก็ไม่ได้ทําให้มันชะงักเลยแม้แต่น้อย เต่า ยักษ์ยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งไปถึงนักรบ กระบองที่นั่งหมดสภาพอยู่ มันชูสามง่ามเหนือศีรษะ ดวงตาสีแดงก่ำเล็งชายหนุ่มตรงหน้าเตรียมที่จะแทง เข้าไปยังมาร่ค

แกร๊ง แกร่ง แกร่ง

เสียงโลหะกระทบกันทําให้เต่ายักษ์หยุดชะงัก มันรีบหัน ไปยังต้นเสียงก็พบว่าหญิงสาวผมสีเหลืองอ่อน ยืนอยู่หน้า กรงยักษ์สีทอง เธอลองเอากำปั้นทุบกรงให้เกิดเสียงดัง ดวงตาสีแสดมองเจ้าเต่ายักษ์ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์

“หน้าที่ของแกคือ ดูแลกรงนี้สินะ อยากรู้จังเลยถ้าฉันพัง กรงนี้จะเป็นยังไงบ้า~~~~~~” เข็มลากเสียงยาวอย่าง ยียวน และชกเข้ากรงสีทองสุดแรงจนเกิดเสียงดังก้อง กังวาลไปทั่วทั้งห้องโถง ทำให้เต่ายักษ์คำรามตะโกนด้วยความโกรธมันกระโดดกลับไปยังที่ๆของมัน โดยไม่ได้สนใจที่จะจัดการมาร์คต่อ เมื่อเห็นดังนั้นเข็มจึง ตีลังกาหลบเต่ายักษ์ที่กระโดดลงมาจากอากาศได้อย่าง หวุดหวิด

ในจังหวะที่หญิงสาวที่อายุน้อยที่สุดถอยออกมา เธอ เหลือบมองแถบเลือดกรงสีทองได้ทันเวลา

กรงสีทอง HP 50,815/55,000

เต่าทมิฬพันปี HP 230,152 / 300,000

“นี่สินะจุดอ่อนของแกน่ะเจ้าเต่ายักษ์ แต่ไม่ยักกะรู้ว่าตัว หนักแบบแกจะกระโดดได้สูงแบบนี้นะเนี่ย” เข็มตะโกน ถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาท

เต่ายักษ์คำราม มันพ่นลำแสงสีฟ้าใส่เข็มแต่หญิงสาวก็ กระโดดหลบได้อย่างสบายพร้อมกับส่งสายตาสื่อว่า แน่ จริงก็จับให้ได้สิ’ ทำให้เต่ายักษ์เดินไล่นักสู้สาวทันทีโดยไม่สนใจมาร์คที่นั่งนิ่งอยู่ที่ผนังห้อง

“ไหวไหมครับคุณมาร์ค” สนฉวยโอกาสแอบเข้าไปพยุง มาร์คให้พ้นสายตาของเต่ายักษ์ ในขณะเดียวกันภพและ วารีก็แอบไปช่วยเจมส์เช่นกัน

“ค่อยๆลุกนะเพื่อน”

“ขอบใจนะ กลับมาก่อนสดายุ” เจมส์ชูการ์ดร่ายคาถา ร่าง ของนกยักษ์สลายเป็นออร่าสีเหลืองและถูกดูดเข้าไปยัง การ์ด ทันใดนั้นเขาก็ได้รับข้อความแจ้งเตือน

นกสดายุได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถอัญเชิญได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมงต่อจากนี้

“ปัดโธ่น้อย !! แบบนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้วอะดิ” เจมส์บ่น อย่างเซงสุดขีด

“เอาน่าใจเย็นก่อนนะเพื่อน ตอนนี้ให้วารีฮีลก่อนเถอะ” ภพกล่าว ซึ่งเจมส์ก็ยอมทำตามเพื่อนรักทั้งสองของเขาแต่ โดยดี

“เจ็บใจชะมัด ไม่คิดว่าไอเต่าบ้านั้นจะเล่นจู่โจมสวนกลับ ฉันประมาทไปหน่อย” เจมส์มองไปยังเต่ายักษ์ที่ตอน นี้กำลังมุ่งเป้าหมายไปยังเข็มอย่างบ้าคลั่ง

“ไม่เป็นไรหรอกน่า พวกเราก็โดนรูปแบบการโจมตี แปลกๆตั้งแต่เลเวียธานแล้วนิ” ภพกล่าวให้กำลังใจเพื่อน ของตน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกโจมตีด้วยรูปแบบที่ นอกเหนือจากการคํานวณ เขากลับมองว่ามันท้าทายกว่า เดิมเสียด้วยซ้ำ เพราะหากมอนสเตอร์ทุกตัวมีแพทเทิร์น การโจมตีที่ตายตัว พวกเขาคงจับทางได้ไม่ช้าก็เร็วอยู่ดี

“ใช่ๆ ตอนนี้ให้ฉันฮีลนายให้เสร็จก่อนแล้วพวกเราค่อย คิดแผนใหม่ก็ได้นิเนอะ” วารีเสริม

“อืม….นั่นสินะของใจพวกเธอสองคนมาก” ในระหว่าง นั้นวารีใช้มือซ้ายของเธอจับไม้เท้าเล่มสีขาวคู่ใจให้ถนัด มือ พร้อมกับร่ายพลังศักดิ์สิทธิ์ไปยังมือขวาจากนั้นจึง ถ่ายทอดไปยังตัวของเจมส์ทำให้เขารู้สึกอบอุ่น แถบเลือด ของเขาค่อยๆเด้งกลับมาเต็มหลอดอีกครั้ง

“เอาละฉันพร้อมกลับสนามรบอีกครั้งแล้วล่ะ แต่ว่านะ สดายุบาดเจ็บแบบนี้ก็ค่อนข้างลำบากหน่อยละเพราะ สัตว์ อัญเชิญของฉันอีกตัวไม่ใช่สัตว์ที่ใช้ในการต่อสู้ซะด้วย เจมส์พูดอย่างเศร้านิดๆที่บทบาทด้านการต่อสู้ของเขาได้จบลงแล้ว เขาหยิบการ์ดสัตว์อัญเชิญอีกตัวของ เขาขึ้นมาดู ในตอนนี้เจมส์มีสัตว์อัญเชิญที่เขานําพันธะอยู่ เพียงสองตัวเท่านั้น และมีเพียงนกสดายุเท่านั้นที่ใช้ในการ ต่อสู้ ส่วนอีกหนึ่งนั้น…ไม่ใช่

ภพและวารียนหน้ามาดูการ์ดของเจมส์ด้วยความอยากรู้ ว่าสัตว์อัญเชิญอีกตัวของเขาคือตัวอะไร

“นะ….น่ารักจังเลย” วารีกล่าวดวงตาของเธอดูเคลิบเคลิ้ม มากเมื่อได้เห็นหน้าสัตว์อัญเชิญอีกตัวของเจมส์ แต่ภพ กลับไม่ได้พูดอะไร เขาเงยหน้ามองสถานการณ์โดยรอบ อย่างใจเย็น ไม่นานนักดวงตาสีดำก็ใช้แววส่องประกาย

“เจมส์ ฉันว่าฉันรู้แล้วล่ะว่าสัตว์อัญเชิญของนายจะพลิก สถานการณ์ยังไง” ภพหันไปบอกเพื่อนเขาทันทีที่คิด แผนการออก ทำให้เพื่อนของเขาทั้งสองหันไปหาเขา อย่างประหลาดใจ ภพฉีกยิ้มกว้างดวงตาของเขาเต็มเปี่ยม ไปด้วยความมั่นใจ

ทางด้านมาร์คที่ได้รับการช่วยเหลือจากสน ตอนนี้เขา เรียกไอเทมขวดยาออกจากกระเป๋าและค่อยๆดื่มเพื่อฟื้น เลือดของตนเองทุกครั้งที่คูลดาวน์กลับมา
สําหรับเกม MUO ทุกครั้งที่ใช้ไอเทมประเภทโพชัน (Potion) จะไม่สามารถดื่มได้อีกเป็นระยะเวลาหนึ่งขึ้น อยู่กับระดับของตัวโพชันด้วย เมื่อครบเวลาตามที่ตัวไอเท มกําหนดจึงจะสามารถใช้งานได้อีกครั้ง

“พอไม่มียัยวารีฮีลแล้วสิ้นเปลืองยาชะมัด แต่ก็ขอบใจนะ ที่ช่วยฉัน” มาร์คบนแต่ก็ไม่ลืมที่ขอบคุณสน ขณะเดียวกัน เขาก็กดใช้งานไอเทมโพชันเพื่อฟื้นเลือดเขาจนเต็มหลอด

ไม่เป็นไรครับ สถานการณ์มันบังคับนิครับ พวกเราก็เลย อยู่ห่างจากวารีพอสมควรเลย” สนกล่าว แต่ก็ยังถือว่าโชค ดีเพราะถึงสนจะเป็นอาชีพอัศวิน ก็เป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์จึง ยังสามารถใช้สกิลฟื้นฟูเลือดได้อยู่บ้างแม้จะไม่สามารถ ฮีลได้ปริมาณมากๆแบบวารี แต่ก็ช่วยให้มาร์คประหยัดยา ไปได้สองสามขวด

“ช่างมันเถอะ โดนมันโจมตีหนักๆไปตั้งสองครั้งชีวิตจริง ป่านนี้ฉันคงกระดูกแหลกไปทั้งตัวแล้วล่ะคงไม่ได้มายืนบน แบบนี้ ดีนะที่เกมมันไม่มีระบบบาดเจ็บจริงๆไม่งั้นคงแย่ มาร์คกล่าว เขาเปิดกระเป๋าเพื่อเรียกอาวุธประจำตัวของเขา อีกครั้ง

“พร้อมลุยต่อแล้วสินะครับ” สนถาม มือทั้งสองของเขาขยับดาบและโล่ให้ถืออย่างถนัดเพื่อพร้อมกลับเข้าสู่ สนามรบ

“อ่า พร้อมแล้ว !!” ทั้งสองวิ่งออกไปพร้อมเพรียงกันเพื่อ หาจังหวะเข้าโจมตีเตาทมิฬอีกครั้ง

“นี่ๆนายเร็วได้แค่นี้เองหรอเจ้าเต่า” เข็มวราตะโกนยั่ว โทสะ ดวงตาสีเหลืองคู่งามจ้องท้าทาย เธอกระโดดหลบ การโจมตีของเต่ายักษ์ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างง่ายดาย

เต่ายักษ์ฟิวส์ขาด มันตะโกนคำรามด้วยความโมโห จาก นั้นจึงอ้าปากชาร์จออร่าสีฟ้ามาอัดแน่นเป็นลูกบอลที่มี ขนาดใหญ่กว่าปกติ มีเพียงพีระเท่านั้นที่ดูออก

“ทุกคนหาที่หลบด่วน !! มันเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี !!” แต่สายไปเสียแล้ว สิ้นเสียงที่พีระเตือนลูกบอลสีฟ้าก็แตกกระจายเป็นลำแสงสิบเส้นพุ่งไปหาสมาชิกทุกคน

เข็มวราเอี้ยวตัวหลบอย่างสบายใจ

“นี่ๆยิงแบบไร้สติแบบนั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนะ” เข็ม พูดพร้อมกับขยับยิ้มจนเขี้ยวโผล่ด้วยความมั่นใจ แต่ทว่า ลำแสงสีฟ้าที่ยิงผ่านตัวเธอนั้นเลี้ยวกลับมายิงเข้ากลาง หลังของเธออย่างจัง

“อ๊ก !!” แรงกระแทกของลำแสง ทำให้ร่างเล็กกระเด็น กลิ้งไปหลายตลบก่อนจะนอนนิ่งไป

“การโจมตีรูปแบบติดตามงั้นหรอ” หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอ พยายามขยับตัวแต่ก็ไม่สามารถขยับได้ตามที่ตัวเองต้อง กัน กว่าจะรู้ตัวเธอก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนเสียแล้ว

‘คุณถูกสถานะแช่แข็งทำให้ไม่สามารถขยับร่างกายได้ เป็นเวลา 2 นาที และระหว่างนี้หากถูกโจมตีด้วยธาตุน้ำ แข็งจะทำให้ได้รับดาเมจแรงขึ้นอีก 50%
“กลาส บาเรีย !!” สนชโล่ขึ้นฟ้ากางบาเรียใสคุ้มกันดุลย์ ฟ้าและมาร์คเอาไว้ ทำให้ลำแสงสีฟ้าที่พุ่งเข้าใส่บาเรีย ถูกทะท้อนกลับ แต่ทว่าว่าลำแสงสีฟ้าทั้งสี่ก็เลี้ยวกลับมา พุ่งใส่มาเรียของเขาอีกครั้ง ทุกครั้งที่ถูกสะท้อนกลับมันก็ เลี้ยวกลับมายิงใส่มาเรียของเขาอีกครั้งอย่างไม่ลดละ บา เรียของเขาเริ่มมีรอยร้าวอย่างช้าๆเนื่องจากต้องรับการ โจมตีจากล่าแสงทั้งสี่พร้อมๆกัน

แบบนี้แย่แน่” สนพึมพัมกับตัวเอง ฟ้าจึงเดินมายืนข้างๆ

“เดี๋ยวพี่ช่วยสนับสนุนเองจะฟ้ากล่าว เธอหลับตาเมือ เรียวยาวที่สวมถุงมือสีดำขึ้นฟ้า ออร่าสีดำมารวมกันที่มีอ ของหญิงสาว

บาเรียทมิฬ !!” บาเรียสีดำแผ่ครอบคลุมพวกเขาทั้งสี่คน เอาเป็นชั้นที่สองทำให้รับการโจมตีของลำแสงสีฟ้าได้ง่าย ขึ้น ลำแสงสีฟ้าถูกสะท้องพุ่งเข้าใส่กันเองทำให้เกิดการ ระเบิดหักล้างและหายไป จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

“สุดยอดเลยแฮะ พึ่งเคยเห็นการใช้ท่าประสานครั้งแร กนะเนี่ย” ตุลย์กล่าว ออร่าสีทองและสีดำที่ลอยคละกันไป มาทำให้ดูสวยงามแปลกตาจนเขาอดชมไม่ได้
ขณะเดียวกันนานา และพีระ อาศัยความคล่องตัวที่ได้มา จากอาชีพของตนหลบลำแสงสีฟ้าที่บินว่อนไปมาได้อย่าง ไม่นํามากนัก

นักธนูสาวยืนอยู่เฉยๆ เธอยิ้มมุมปากพลางจ้องลำแสงสี ฟ้าด้วยแววตาที่ท้าทายเมื่อลำแสงพุ่งมาห่างจากเธอไม่ถึง เมตร เธอก็เอี้ยวตัวหลบหลังเสาอย่างว่องไว ทำให้ล่าแสง สีฟ้าหักเลี้ยวไม่ทันเข้าปะทะกับเสาอย่างจังจนสลายไป

ส่วนพีระนั้นกระโดดเข้าหลังก้อนหินใหญ่ แต่ล่าแสงก็ ยังเลี้ยวอ้อมมาเข้าชนกับเป้าหมายอย่างไร้ความปราณีแต่ ทว่าสิ่งที่ล่าแสงสีฟ้าจัดการไปนั้นเป็นเพียงท่อนไม้ธรรมดา ที่หักเป็นสองท่อนเท่านั้น

ในขณะเดียวกันทางด้านวารีก็กางมาเรียสีทองป้องกัน เจมส์และภพเอาไว้ แต่แตกต่างจากมาเรียของสนนิด หน่อยตรงที่บาเรียของเธอนั้นมีสัญลักษณ์เป็นวงกลม ทึบสีทอง และมีปีกทั้งสองข้างสลักอยู่บนบาเรียของเธอ ลำแสงสีฟ้าพุ่งใส่อย่างไม่ลดละ แต่ทุกครั้งที่มีเด้งกลับ มาขนาดของพลังก็ค่อยๆมีขนาดเล็กลงจนสุดท้ายก็เหลือ ขนาดเท่าเส้นด้ายแล้วค่อยๆจางหายไป

“แย่หน่อยนะ ‘เบลสซิ่งมาเรีย’ (Blessing Barrier)เป็นบาเรียที่อัพเกรดมาจาก ‘กลาส มาเรีย’ ทำให้วัตถุที่ เข้าจู่โจมถูกบั่นทอนพลังจนหายไป นายเจาะเข้ามาเรียนี้ ไม่ได้ง่ายๆหรอก” นักบวชสาวพูดด้วยความมั่นใจเมื่อบา เรียคลายลงภพและเจมส์ก็ได้รับข้อความแจ้งเตือน

ผลจาก เบลสซิ่งมาเรีย ทำให้เอกภพได้รับบัพโจมตีแรง ขึ้น 10% เป็นเวลา 1 นาที’

‘ผลจาก เบลสซิ่งบาเรีย ทำให้เจมส์ได้รับบัพทำให้สัตว์ อัญเชิญได้รับความเร็วโจมตี 15 % เป็นเวลา 1 นาที 30 วินาที’

‘ผลจาก เบลสซิ่งบาเรีย ทำให้วารีได้รับบัพใช้สกิลฟื้นฟู ได้มากขึ้น 15 % เป็นเวลา 2 นาที

“โห !! บาเรียของเธอบัพได้ด้วยหรอเนี่ย” ภพกล่าวด้วย ความตื่นเต้น

“ใช่จ่ะ นอกจากจะป้องกันแล้ว เบลสซิ่งมาเรีย’ จะแจก บัพให้กับผู้เล่นที่อยู่ในมาเรียนทุกคน คนละหนึ่งบัพแบบ สุ่มน่ะ” วารีตอบ เธอยิ้มกว้างทุกครั้งที่ได้คุยกับภพ
“เจ๋งไปเลย สมแล้วที่ได้ชื่อว่า เบลสซิ่ง” เจมส์เสริม

“แต่ว่านะ คูลดาวน์ของสกิลนี้เริ่มต้นที่ 5 นาที และจะเพิ่ม ขึ้น 2 นาทีต่ออัศวินคนอื่นที่อยู่บาเรียนี้น่ะ เพราะฉะนั้นหลัง จากนี้ 9 นาทีก็ระวังตัวกันด้วยนะจ๊ะ

“คำอวยพรของเธอฉันจะไม่ทำให้เสียเปล่าแน่นอน” ภพ ตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น ทำให้หญิงสาวหลบ สายตาด้วยความเขินๆ

“จ่ะ ระวังตัวด้วยนะ” หญิงสาวกล่าว ภพและเจมส์จึงวิ่ง ออกไปคนละทาง โดยภพวิ่งตรงเข้าหามอนสเตอร์บอส ใน ขณะที่เจมส์ก็หาพื้นที่ลับสายตาของเต่ายักษ์เพื่อเตรียม การบางอย่าง

“ใครที่พร้อมรบให้กลับสู่สนามรบซะ วารีฝากเข็มด้วยนะ” พีระแจกแจงหน้าที่ให้กับสมาชิกทุกคนด้วยความใจเย็นอีก ครั้ง

“คุณพีระครับ เรื่องทำลายเกราะของเจ้านั้นขอผมไปอีก ครั้งเถอะนะครับ” มาร์คขอร้องชายหนุ่มผู้อาวุโส เมื่อพระ หันไปหาต้นเสียงเขาได้เห็นดวงตาสีส้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความมุ่งมั่น เขาหลับตาคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“สมาชิกคนอื่นจะปิดเกมมันได้เร็วขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ นายนะ” พีระพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ก็เข้าใจได้ว่าเขา อนุญาตแล้ว

“ครับ !!” มาร์คยิ้มตอบอย่างแข็งขัน ก่อนจะวิ่งจากไป

“งั้นสิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็น…… พีระพูดกับตัว เองในใจ ก่อนจะประสานมือร่ายคาถาแยกร่างตัวเองออก มาเจ็ดร่าง

ทางด้านวารีที่วิ่งไปหาเข็มเพราะทุกคนช่วยหลอกล่อ ทำให้มันเลิกสนใจหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่เนื่องจากสถานะ แช่แข็ง นักบวชสาวค่อยๆร่ายสกิลล้างสถานะและฮีลให้กับ เธอพร้อมๆกัน ในระหว่างนั้นเองเข็มก็ทำหน้ารู้สึกผิดซึ่ง วารีก็สังเกตได้

“เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะเข็ม ?” วารีถามด้วยความเป็นห่วง

“ขอโทษนะ เพราะเราประมาทเองเลยทำให้พวกวารีต้อง เดือดร้อนเลย” หญิงสาวผมสีเหลืองทองกล่าว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ก็แค่เกมนี่น่าอย่าไปซีเรียสเลย อีก อย่างพวกเราควรจะขอบคุณเธอด้วยซ้ำที่ทำให้พวกเรารู้ จุดอ่อนของมัน ไม่คิดว่าการเข้าใกล้กรงสีทองจะทำให้มัน บ้าคลั่งได้ขนาดนี้” วารีตอบพพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ

“ค่ะ มัวแต่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเรานี่แย่จัง” เข็มตอบแต่ น้ำเสียงของเธอก็ยังเจือความรู้สึกผิดอยู่ดี

เด็กคนนี้คงผ่านแต่เรื่องจริงจังในชีวิตแน่ๆเลย ไม่งั้นคง ไม่คิดมากแบบนี้’ วารีได้แต่คิดในใจแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร ออกมา ไม่นานนักแถบเลือดของเข็มก็กลับมาเต็มเหมือน เดิม

“ฮีลเสร็จแล้วจ่ะ สู้ๆนะจ๊ะ แพ้ชนะก็แค่เกม อย่าไปจริงจัง กับมันมากละ” วารีพูดให้กำลังใจ รอยยิ้มของเธอทำให้ เข็มยิ้มออกอีกครั้ง

“นั่นสินะคะ บางเรื่องก็ไม่ต้องจริงจังกับมันมากก็ได้ ขอบคุณค่ะพี่วารี” เข็มกลับมาดูมีกำลังใจอีกครั้ง เธอวิ่งเข้า สู่สนามรบอีกครั้งด้วยความพร้อมสุดๆ
“จงออกมา นักรบโครงกระดูก” ฟ้าอัญเชิญโครงกระดูก ถือดาบเล่มใหญ่ออกมาหาตัว เธอใช้คำสั่งมือบงการการ โจมตีของพวกมันได้อย่างชานาญ โครงกระดูกพยายาม ฟันไปที่ขาของมันหลายต่อหลายครั้งแต่หนังของมันนั้น หนามากจนดาเมจที่ทำได้นั้นอยู่แค่เพียงหลักสิบเท่านั้น

เต่ายักษ์เอามือตบลงพื้นฟาดเข้านักรบโครงกระดูกด้วย ความรำคาญ ซากกระดูกกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่ว บริเวณ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลยแม้แต่ น้อย

ฟ้าขยับยั้มุมปาก ดวงตาสีม่วงอ่อนของเธอเย้ยหยัน เจ้า เต่าทมิฬ เธอก๋ามือขวาและทำท่ากระชากกำปั้นเข้าหาตัว เศษกระดูกที่แหลกอยู่บนพื้นคอยๆกลับมาปะติดปะต่อราว กับจิ๊กซอว์ นักรบโครงกระดูกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง พวกมัน ยังคงตั้งหน้าตั้งตาฟันที่เท้าของมันต่อไป
เต่าทมิฬพันปีจึงทำการตบพวกโครงกระดูกอีกครั้ง แต่ฟ้า ก็ทำท่าเช่นเดิม พวกมันก็ยังคืนชีพกลับมาเหมือนเดิม

“ถ้าแกยังมัวแต่สนใจนักรบที่แสนน่ารักของฉัน แกจะแพ้ เอานะ” ฟ้าพูดยั่ว เต่ายักษ์คำรามด้วยความโมโหมันฟาด ตรีศูลใส่กลุ่มนักรบที่อยู่ตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง

“หนอยแน่ะ เข้าไม่ถึงตัวมันเลย” มาร์คเอามือป้องฝุ่นควัน ที่คลุ้งกระจายจากแรงปะทะของสามง่ามลงบนพื้น

“นั่นสิครับแบบนี้คุณมาร์คใช้กระบองยักษ์ใส่มันไม่ได้แน่ๆ เปลือกมันแข็งแบบนี้ตีเป็นชาติอะครับ กว่าจะตาย” สนเสริม

“ไม่มีวิธีจัดการมันง่ายๆเลยหรอ บ้าชะมัด” ตุลย์บ่น เพราะ ตอนนี้เจ้าเต่ายักษ์ระวังตัวสุดขีด

“ไม่นานหรอกครับ… ” คำพูดเรียบๆจากเด็กหนุ่มทรงผม หน้าม้าสีดำทำให้ทั้งสองคนชะงักและหันไปหา

“หมายความว่าไงฟะเจ้าภพ ?” สนถาม ใบหน้าของเขา ตอนนี้เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“ฉันเตรียมแผนที่จะทำให้คุณมาร์คเข้าถึงมันไว้แล้วไง ละ” คำพูดของภพกระตุ้นต่อมอยากรู้ของทั้งสามคน พวก เขาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

“แผนนี้ขึ้นอยู่กับเจมส์และสัตว์อัญเชิญของเขาครับ ราวกับอ่านความคิดออก ภพก็ตอบพวกเขาทันทีพร้อมกับ ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ด้านหลังก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่ห่างจากเจ้าเต่ายักษ์พอ สมควร เจมส์ร่ายคาถาอัญเชิญสัตว์ของเขาพร้อมจะดำเนิน แผนการที่ภพเตรียมกับเขาเอาไว้แล้ว

“เอาละ ได้เวลานายออกโรงแล้วนะ…

โปรดติดตามชมตอนต่อ

ไป…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ