Devil Breaker กิลด์แสบป่วนโลกอ

ตอนที่ 12 : ปฏิบัติการโคลเวอร์สีทอง



ตอนที่ 12 : ปฏิบัติการโคลเวอร์สีทอง

ตอนที่ 12 : ปฏิบัติการโคลเวอร์สีทอง

ในเกมวันที่ 27 มีนาคม 2044 เวลา 00.18 น.

เสียงระเบิดยังคงดังกึกก้องไปทั่วทั้งลานทราย เลเวียธาน ยังคงไล่ตามเจมส์ที่ขี่นกยักษ์สดายุอยู่ งูยักษ์ยิงลำแสง สีฟ้ากราดอย่างโมโหแต่ก็ไม่โดนตัวนกยักษ์ที่กำลังบิน หนีมันอยู่ได้เนื่องจากสกิล คอนเนคติ้งวิชชั่น’ ที่เจมส์ใช้ ทำให้การมองเห็นของเขาและสัตว์อัญเชิญเชื่อมการมอง เห็นของกันและกัน เจมส์มีหน้าที่มองว่าบอสเลเวียธานยิง นําแสงมาทางไหน ส่วนนกสดายุมีหน้าที่มองว่าด้านหน้าจะ ต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง

“จ้างให้ก็ยิงไม่โดนหรอกเฟีย” เจมส์พูดยั่ว ทำให้ เลเวียธานคำรามด้วยความโมโห และยังคงบินตามอย่าง ไม่ลดละ ในขณะเดียวกันนานาก็ยังคงยิงธนูล่าแสงทำดา เมจใส่เกราะของเลเวียธานอย่างต่อเนื่อง

“เกราะของมันหนามาก ฉันพึ่งทำดาเมจไปได้สี่พันกว่าๆเอง” นานาบ่นให้เจมส์ฟัง พลางวิ่งเปลี่ยนตำแหน่งที่ ยืนยิงเรื่อยๆ

“เร่งมือหน่อยนะครับทุกคน ผมไม่รู้ว่ามันจะมีลูกเล่นอะไร อีกหรือเปล่า แต่จะพยายามดึงความสนใจให้นะ” เจมส์ ตอบ ในขณะเดียวกันพีระได้อธิบายแผนการ “โคลเวอร์ส ทอง’ ให้กับสมาชิก Devil Breaker ทุกคนเรียบร้อยแล้ว

“อ๋อ เป็นอย่างงี้นี่เอง มิน่าถึงได้ชื่อว่า โคลเวอร์สีทอง” ตุลย์เอ่ย สีหน้าของเขาบ่งบอกว่า เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว

“หนูนึกว่าคุณพระจะกั๊กไม่ยอกเล่าแล้วซะอีกนะคะเนี่ย ขอโทษนะคะคุณพีระ” เข็มพูดด้วยความรู้สึกผิด

“อืม….แต่ว่าแผนการนี้มีข้อเสียอยู่อย่างเดียว…” พีระ เอ่ยซึ่งฟ้าที่นั่งฟังอยู่ก็ตอบได้ทันที

“ใช้ได้ครั้งเดียวสินะคะ” ทำให้ทุกคนแปลกใจในสิ่งที่ หญิงสาวตอบ ยกเว้นพีระที่พยักหน้าให้เล็กน้อย

“หมายความว่าไง ?” ตุลย์ถาม เขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนของเขาพูด

“สกิลของน้องภพน่ะ คือการเก็บสะสมความเสียหายที่ตัว เองได้รับมาตลอดในการต่อสู้นั้นๆ แล้วปล่อยดาเมจมหา ศาลทีเดียว แต่ข้อเสียของสกิลนั้นก็คือ ดาเมจของสกิล จะกลับมาเป็นศูนย์เหมือนเดิม และคูลดาวน์ของสกิลที่ไม่ สามารถใช้งานได้อีกเป็นเวลานานด้วย” ฟ้าอธิบายซึ่งภพก็ พยักหน้าให้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นจริง

“คุณพีระคิดว่าโอกาสที่แผนการนี้จะสําเร็จคือเท่าไหร่ ครับ ?”มาร์คถาม ชิงพีระเงียบสักพักและหลับตานึก

“ความพอดีในเรื่องทำลายเกราะ และการร่ายสกิลของทั้ง สามคน ฉันคิดว่าห้าสิบห้าสิบ สน วารีหน้าที่ของพวกเธอ สองคนคือการรอจังหวะที่เหมาะสม ส่วนภพ หน้าที่ของ เธอต่อคือรับดาเมจให้มากที่สุด ส่วนที่เหลือตามฉันและ ภพมาพวกเรามีหน้าที่คือการทำลายเกราะ พระสรุปหน้าที่ ทั้งหมดซึ่งพอดีกับที่นานาส่งข้อความขึ้นมา

“คุยแผนกันเสร็จยัง มาช่วยฉันทำลายเกราะที่น่ารำคาญ ที” นานาบ่น เธอยังคงยิงธนูลำแสงไปที่เกราะของมันอย่าง ต่อเนื่อง
“อืม เข้าใจละ ฉันหวังว่าพวกเธอจะทำได้นะ” พีระหันไป หาเด็กมอปลายทั้งสามคน ก่อนจะเดินออกไป มาร์ค ตุลย์ ฟ้า ก็เดินออกจากก้อนหินยักษ์ไปเพื่อช่วยทำลายเกราะ ของเลเวียยธาน เหลือเพียงสามคนที่เป็นฟันเฟืองของ แผนการ “โคลเวอร์สีทอง’ ยืนอยู่ วารีมีสีหน้ากังวลพอ สมควรสองมือก่าคทานักบวชแน่น เมื่อเห็นดังนั้นภพจึงพูด

ให้กำลังใจ

“พวกเรามาลุยไปด้วยกันเถอะ” ภพยิ้ม เขายื่นมือมาตรงก ลางทั้งสามคน

“นั่นสินะพวกเรากังวลไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก สู้ทำให้ ดีที่สุดดีกว่า” สนเสริม น้ำเสียงของเด็กหนุ่มดูผ่อนคลายได้ ซึ่งความกังวล เขายื่นมือวางบนมือของภพ ทั้งสองหันไป หาหญิงสาวที่ยังยืนนิ่งอยู่ พวกเขายิ้มให้ทำให้เธอคลี่ยิ้มที่ สวยงามออกมา

“อั้ม !” วารีตอบ กำลังใจจากสนและภพปัดเป่าความกังวล ในใจของหญิงสาวจนหมดสิ้น เธอยื่นฝ่ามือวางบนมือของ สนและภพ

“ลุย !!” ทั้งสามตะโกนพร้อมเพรียง สนและภพวิ่งออกมา จากก้อนหิน วารีค่อยๆเดินออกมา เธอเปิดหน้าต่างแถบ เลือดและสถานะของสมาชิกทุกคน เธอหลับตารายคถาอีกครั้ง

“ขนปักษาสวรรค์ !!” วารีร่ายสกิลที่ช่วยให้สมาชิกทุกคนมี ความเร็วเคลื่อนที่และความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้น

“สกิลนี้ใช้เมื่อไหร่ก็รู้สึกตัวเบาโคตรเยอะเลยแหะ” สนพูด พร้อมกับยิ้มร่า เด็กหนุ่มจับโล่และดาบให้กระชับมือ เขา กระโดดขึ้นไปยังที่สูงเพื่อเข้าใกล้งูยักษ์ที่กำลังไล่เจมส์อยู่

“ต้องโจมตีไกลสินะ เอาล่ะ ย่าห์ !!” สนชูโล่ขึ้นท้องฟ้า โล่ ของเขาเปล่งออร่าสีทอง จากนั้นเขาจึงง้างโล่สุดแขน

“โล่ของข้าเอ๋ย จงเปลี่ยนตัวเจ้าจากผู้ปกป้องสู่การเป็นผู้ ทำลาย โล่พิชิตมาร !!” สนขว้างโล่ออกไปอย่างเต็มแรง โล่ สีเงินค่อยๆหมุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันบินเข้าปะทะเกราะของ เลเวียธานเข้าอย่างจัง แรงปะทะทำให้เกิดประกายไฟสี ขาวแม้จะยังไม่สามารถทำลายเกราะของงูยักษ์ได้แต่ก็ทำ ดาเมจได้ถึงสี่พันดาเมจ

“เห้ย ! แรงจังวะสน” ภพที่วิ่งอยู่บนพื้น พูดด้วยความ ตะลึงในดาเมจที่เพื่อนรักของเขาทำได้
“แน่นอน ฮ่าๆๆๆ” สนตอบพร้อมกับชูมือขึ้นเหนือฟ้า ไม่ นานนักโล่สีเงินของเขาก็หมุนกลับมาที่แขนของเขาอีกครั้ง ราวกับบูมเมอร์แรง

เกราะน้ำแข็งของเลเวียธาน 7,210/20,000

“เกราะของมันเหลือต่ำกว่าครึ่งแล้ว อีกนิดเดียว !!” พีระ ตะโกน เขาขว้างดาวกระจายเสริมดาเมจไปเรื่อยๆ

“ชิ ! ไม่สบอารมณ์เลย เล่นบินอยู่สูงขนาดนั้นฉันก็ทำไร ไม่ได้สิฟะ ถ้ามันอยู่ใกล้ๆละก็เกราะแค่นั้นไม่คณามือฉัน หรอก” มาร์คบ่น ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนวิ่งตามงูยักษ์ที่กำลัง บินอยู่บนฟ้าแต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นเพลย์เยอร์โจมตี ระยะใกล้ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเลเวียธานได้

“คุณมาร์คทำลายเกราะนั่นได้ในครั้งเดียวเลยใช่ไหม ครับ ?” เจมส์ซึ่งกำลังดึงความสนใจของบอสงูยักษ์ ได้เปิด หน้าจอสนทนาไปหามาร์ค เมื่อได้ฟังดังนั้นชายหนุ่มผู้ใช้ กระบองแสยะยิ้มออกมาก่อนจะตอบเด็กหนุ่มนักอัญเชิญ ด้วยความมั่นใจ

“แน่นอนขอแค่ได้เข้าใกล้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น !!
“โอเคครับ กำแพงตรงแปดนาฬิกา อีกสิบวิเจอกันครับ” เจมส์สรุปก่อนจะปิดหน้าจอ มาร์คที่กำลังงุนงงก็นึกขึ้นมา ได้

“เจ้าบ้า !! มันไกลมากเลยนะเฟ้ย มาพูดอะไรเอาตอนนี้ ฟะ” มาร์คตะโกนกับความว่างเปล่าข้างหน้าของตนเองที่ เคยมีหน้าจอของเจมส์ปรากฏ เขามีทางเลือกไม่มากนักจึง วิ่งสุดแรงเพื่อไปหากำแพงตามที่เจมส์บอก

เจมส์และนกสดายุบินหลบลำแสงน้ำแข็งของเลเวียธาน ได้หมด เขาบังคับให้นกยักษ์บินลดระดับไปถึงกำแพงที่ เขานัดกับมาร์คเอาไว้ ซึ่งพอดีกับที่มาร์คขึ้นมาถึงยอด กำแพง ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนกระโดดคว้ามือของเจมส์เอา ไว้ได้

“นี่คือการเดิมพันนะครับคุณมาร์คพร้อมนะครับ” เจมส์ กล่าว ซึ่งมาร์คก็เข้าใจในสิ่งที่เด็กหนุ่มพูดจึงตอบห้วนๆ

“เออ !! เข้าใจแล้ว” ดวงตาสีส้มคู่งามของมาร์คหันไปมอง บอสงูยักษ์ เขาสูดหายใจเข้าตั้งสติ มือขวาของเขาขยับ กระบองให้ถนัดมือที่สุด

“จับให้แน่นๆนะครับ” เจมส์บังคับนกของเขาให้บินพุ่งขึ้นให้สูงขึ้นในแนวดิ่ง ซึ่งมอนสเตอร์บอสก็บินตาม ซึ่งใน ตอนนี้นกสดายุอยู่เหนือเลเวียธานตรงตามที่เจมส์ต้องการ เลเวียธานเตรียมชาร์จล่าแสงสีฟ้าอีกครั้งเพื่อที่จะยิงนก ยักษ์ให้ล่วง

“ตอนนี้และครับคุณมาร์ค !!” เมื่อได้สัญญาณ มาร์ค กระโดดตีลังกาออกจากนกยักษ์ที่เขาขอยู่ เขาพุ่งเข้าหา เลเวียธานซึ่งทำให้มันตกใจ ออร่าสีฟ้าที่ชาร์จอยู่จึงหายไป จะกลับตัวตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว

“นี่คือท่าทะลวงการป้องกันที่รุนแรงที่สุดที่ฉันมี กระบอง ฟาดพิภพ !!” กระบองของมาร์คยืดออกอย่างรวดเร็ว สอง มือของชายหนุ่มจับปลายกระบองก่อนจะฟาดไปยังเกราะ ของเลเวียธานเข้าอย่างจัง เกราะสีฟ้าโปร่งใส่เกิดรอยร้าว ไปทั่ว พร้อมกับเลือดของเกราะที่ลดอย่างต่อเนื่องจน กระทั่งเหลือศูนย์

เกราะน้ำแข็งของเลเวียธาน 0/20,000

เพลง !!

เกราะของบอสงูยักษ์แตกเป็นเสี่ยงๆ แต่แรงฟาดกระบอง ของมาร์คยังไม่จบแค่นั้น กระบองของเขาทะลวงผ่ารอยแตกของเกราะน้ำแข็งฟาดเข้าลำตัวของ เลเวียธานทําดาเมจเพิ่มเติมได้อีกสองพันดาเมจ

เลเวียธานร้องอย่างเจ็บปวดแรงฟาดจากกระบองทำให้ มันเสียหลักร่วงลงสู่ลานทรายอีกครั้ง

“สะ….สุดยอด นี่นะหรอผู้ใช้กระบอง สายอาชีพที่ว่ากันว่า สามารถทะลวงทุกการป้องกันอย่างง่ายดาย น่ากลัวจริงๆ แฮะ” สนกล่าวชื่นชม เพราะในหมู่สายอาชีพการป้องกัน สุดแกร่งอันดับต้นๆของเกมอย่างพาราดินนั้น ศัตรูโดย ธรรมชาติของเขาคือผู้ใช้กระบองอย่างไม่ต้องสงสัย จึงไม่ แปลกที่เด็กหนุ่มจะต้องรู้ข้อมูลของสายอาชีพนี้พอสมควร

“ตอนนี้มันล้มแล้วจะทำอะไรก็ทำ !!” มาร์คตะโกนเขา พยายามพยุงตัวในอากาศ นกสดายุบินมารับเขาเอาไว้ได้ ทันก่อนจะตกถึงพื้น

“ตอนนี้แหละลุยเลย !!” ตุลย์ตะโกนออกคำสั่ง สมาชิกทุก คนไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือ พวกเขาใส่สกิลทั้งหมดที่ ตัวเองมีเพื่อทำให้เลือดของเจ้างูยักษ์ลดลงให้เร็วที่สุด

ผ่านไปราวสามนาที เลเวียธานลุกขึ้นมันเลื้อยบนพื้น ทรายราวกับงูเพื่อหลบการโจมตี พร้อมกับยิงลำแสงสีฟ้า สวน สมาชิกทุกคนกระโดดหลบไปมาแต่ตุลย์พลาดเหยียบ ก้อนหินทำให้เขาเสียหลักการทรงตัว ซึ่งพอดีกับจังหวะที่ นําแสงสีฟ้ายิงมาหาตัวเขา

“บ้าเอ้ย !!” ตุลย์สบถ

ภพเอาตัวเข้ารับกระสุนลำแสงแทนตุลย์

“อ๊ก !!” แรงกระแทกของลำแสงส่งผลให้ภพกระเด็นชน ตุลย์พอดี ทำให้ทั้งสองปลิวไปโดนกันหินที่ใกล้ที่สุด ซึ่ง คนที่รับดาเมจจากการกระแทกก้อนหินเต็มๆเป็นดุลย์แทน

“เจ้าภพ เป็นไรไหม ?” ตุลย์ถามด้วยความตกใจ เพราะที่ จริงแล้วเขาควรเป็นคนที่รับลำแสงและกระแทกกับก้อนหินแต่เพียงผู้เดียว

“ไม่เป็นไรครับ พี่ตุลย์อะ ?”

“เจ้าบ้า แกจะเอาตัวมารับแทนฉันทำไมฟะ”

“มันเป็นแผนครับ ฮ่าๆๆๆ” ภพตลกกลบเกลื่อน

“ไม่ตลกนะเฟ้ย!!”

“เอาละครับ ตอนนี้เราควรจะโฟกัสกับการต่อสู้ตรงหน้า มากกว่านะครับ” ภพพูดพร้อมกับยันตัวขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อ ยืนได้เขาเซเล็กน้อยเนื่องจากอาการบาดเจ็บ

เอกภพ LV 25 อาชีพ Event Unlocker HP 3,155 / 7,150

เลเวียธาน LV 50 HP 44,516 /220,000

“วารี สนตอนนี้เลือดของฉันได้ที่ละพวกเธอพร้อมนะ” ภพ ส่งข้อความไปหาวารีที่ดูแลเลือดของทุกคนจากนอกเขต การต่อสู้
“อั้ม !! ฉันพร้อมแล้ว” หญิงสาวตอบด้วยความมั่นใจที่เพิ่ม มากขึ้น

“เออ ฉันก็พร้อมละ” สนตอบห้วนๆ

“เอาละ !! ปฏิบัติการโคลเวอร์สีทอง จะลุยละนะ” สิ้นเสียง ให้สัญญาณภพกดาบ เอ็กซ์พีเรียนซอร์ดคู่ใจให้ถนัดมือ แล้ววิ่งเข้าหาเลเวียธานโดยไม่สนใจลำแสงที่มันยิงอย่าง ต่อเนื่อง เด็กหนุ่มวิเคราะห์ทิศทางที่กระสุนจะยิงมาก่อนจะ หลบอย่างใจเย็น

“ทุกคนเปิดพื้นที่ให้ภพที” พีระออกคำสั่ง เขาเรียกร่าง แยกวิ่งสมทบเด็กหนุ่ม ในระหว่างนั้นเขาก็ใช้ร่างแยกรับ กระสุนน้ำแข็งแทน

“ไปเลยหมาป่าแดนนรก !!” ฟ้ากระชากโซ่เรียกหมาป่า ซอมบี้สามวิ่งเสริมทัพเพื่อป้องกันภพ

“ได้เลย !!” นานายิงธนูสกัดกระสุนสีฟ้าแรงปะทะทำให้ เกิดการระเบิดรอบๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภพลดความเร็วลงแต่ อย่างใด
เลเวียธานเริ่มร้อนรนมันยิงลำแสงมั่วซัว เน้นยิงให้เร็ว ที่สุดโดยไม่ต้องชาร์จทำให้มีบางนัดที่เข้าถึงตัวภพ แต่ดา เมจที่เกิดขึ้นก็ไม่มากพอที่จะทำให้เขาหยุดวิ่งได้เลย แต่ กระสุนที่เยอะเกินไปทําให้หมาป่าซอมบี้และร่างแยกของ พีระสลายไปหมดเกลี้ยง ทําให้เหลือตัวเขาเพียงคนเดียว กับห่าฝนล่าแสงนับพัน

“มันจะมากไปแล้วนะยะ !! คราวนี้ฉันจะปกป้องภพเอง เกราะเพลิงกัมปนาท เข็มวิ่งนําภพกางแขนออกสองข้าง เรียกม่านไฟป้องกันห่าฝนของเลเวียธานทั้งหมดที่เข้าหา ภพ ในระหว่างที่เกราะเพลิงยังแสดงผลอยู่นั้นเธอประสาน มือสองมือเข้าหากันไว้บริเวณเอว ออร่าสีสัมซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของธาตุไฟแผ่ปกคลุมมือของเธอ ผมสีเหลือง ทองของหญิงสาวเปล่งแสงอย่างสวยงาม

“อสูรแห่งนรกเอ๋ย จงใช้เปลวเพลิงปีศาจของเจ้ากลืน กินทุกสรรพสิ่งตรงหน้าให้ผมสูญสิ้น เขี้ยวอสูรแห่งนรก เมื่อร่ายสกิลเสร็จมือสองข้างถูกย้ายมาด้านหน้าของเข็ม เปลวเพลิงสีส้มก่อตัวเป็นหัวหมาป่าขนาดใหญ่มันอ้าปาก กว้างตามมือของหญิงสาว ปากของมันค่อยๆขยับตามการ เคลื่อนไหวของเธอ เมื่อมือทั้งสองข้างค่อยๆหุบเข้าหากัน ปากของอสุรกายก็ค่อยๆงับ กลืนกินฝนกระสุนลำแสงของ เลเวียธาน พร้อมกับสร้างดาเมจใส่เลเวียธานอีกประมาณ สามพันดาเมจ จากนั้นเปลวเพลิงสีส้มก็สลายตัวหายไปอย่างช้าๆ

Skill data : เขี้ยวอสูรแห่งนรก

ระดับ : 3 ดาว

LV : 10/10

เงื่อนไข : ใช้ได้กับสายอาชีพ ‘นักสู้แห่งเปลวเพลิง เท่านั้น

เป็นท่าไม้ตายระดับ 3 ดาวของสายอาชีพ นักสู้แห่งเปลว เพลิง’ อัญเชิญสัตว์อสูรแห่งนรกทำลายสิ่งกีดขวางและ ศัตรูที่ขวางหน้าด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรง ทำให้การโจมตี ประเภทตีไกลที่กำลังพุ่งเข้ามานั้นสลายหายไปทันที และ สร้างความเสียหาย 100 % (+10% / LV Skill) ของดาเม จกายภาพจํานวน 9 ฮิต ความเสียหายจะลดลงตามการ โจมตีไกลที่สกิลนี้ทำลายด้วย หลังจากใช้สกิลเสร็จผู้ใช้ สกิลจะติดสถานะ ‘เหนื่อยล้า’ เป็นเวลา 10 วินาที

Cool down skill : 30 นาที (- 1 นาที / LV Skill)

“ว่าจะเก็บท่านี้ไว้ใช้กับบอสด่านสุดท้ายนะเนี่ย บ้าจริง” เข็มบ่นเธอหายใจหอบด้วยความเหนื่อยล้าเนื่องจากท่านใช้ค่าสตามิน่าของผู้ใช้ไปมากพอสมควร ทําให้เธอคุกเข่าขวาลงกับพื้น

ค่าสตามิน่า คือค่าความเหน็ดเหนื่อยของตัวละคร ซึ่งหาก ทำการวิ่งเร็ว, กระโดดสูง หรือใช้สกิลใหญ่ๆบางสกิล จะ ทําให้สูญเสียค่าสตามิน่า และทำให้เรารู้สึกเหนื่อย เรา สามารถฟื้นฟูค่าสตามิน่าได้โดยการเดินธรรมดา หรือนั่ง พักฟื้นเป็นระยะเวลาหนึ่งค่าสตามิน่าก็จะกลับมาเต็ม 100 % เช่นเดิม สําหรับเกม MUO หากค่าสตามิน่าเหลือต่ำกว่า 20 % จะเข้าสู่โซนสีแดง ซึ่งจะทำให้ค่าสตามน่าฟื้นฟูช้า กว่าปกติ

“อย่ามัวตกใจสิภพ ไปต่อได้แล้ว” เข็มตะโกนไล่ภพ ซึ่ง ทำให้เด็กหนุ่มที่ยังตะลึงกับเหตุการณ์เมื่อครู่ตั้งสติได้ แล้ว วิ่งต่อ

“ขอบใจนะเข็ม” ภพตะโกนขอบคุณ เขาวิ่งตรงไปในระยะ ห้าเมตรสุดท้าย เขากระโดดขึ้นสูงเข้าหาบอสเลเวียธาน เมื่อไปถึงบริเวณหัวของมันภพลดระดับดาบให้ต่ำลงถึง ประมาณขาเพื่อเตรียมร่ายสกิลสุดท้าย

แต่ทว่าเจ้างูยักษ์กลับแสยะยิ้มพร้อมกับยิงลำแสงขนาด ยักษ์ใส่ตัวภพโดยไม่ให้สัญญาณว่าต้องชาร์จพลังเลย แม้แต่น้อย ทุกคนตกใจมากเพราะภพนั้นรับสกิลทีว่าเต็มๆในระยะเผาขน ในระหว่างที่ทุกคนตกใจ น เองข้อความเตือนเกี่ยวกับสกิลของมอนสเตอร์บอสได้ถูก ส่งเข้ากล่องข้อความของทุกคน

Boss’s skill data: Last Blizzard

ระดับ : ไม่ทราบ LV : ไม่ทราบ

เงื่อนไข : บอสเลเวียธานประชันหน้ากับศัตรูเพียงคนเดียว โดยไม่มีสมาชิกอื่นอยู่ในรัศมีการต่อสู้ 10 เมตร

เป็นท่าไม้ตายของมอนสเตอร์เลเวียธาน เป็นท่าที่ สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องชาร์จพลัง เป็นสกิลที่ ใช้โจมตีศัตรูเพียงคนเดียว สร้างความเสียหายตายตัว 25,000 ดาเมจ + (1,000 คูณผลต่างเลเวลกรณีเลเวลของ เลเวยธานน้อยกว่า) + (3,000 คูณผลต่างเลเวลกรณีเลเวล ของเลเวยธานมากกว่า) หากใช้สกิลนี้แล้วสามารถฆ่าเพล ย์เยอร์ได้จะได้รับการฟื้นฟูเลือดจนเต็ม และได้รับเกราะน้ำ แข็ง 50,000 หน่วย

Cool down skill : จนกว่าปาร์ตี้ที่มันสู้ด้วยจะถอยทัพ

ไอเย็นปกคลุมตัวภพจนไม่มีใครเห็นภพที่อยู่ด้านใน
“บ้าน่า ! นี่พวกเราดันทำเรื่องไม่เข้าท่า เข้าทางเจ้าบอส นั่นจนได้” ตุลย์พูดด้วยความตกใจกับความโกงของสกิล ไม้ตายก้นหีบของมอนสเตอร์บอส แต่ไม่นานนักเขาก็ขยับ ยิ้มมุมปาก

“โทษทีวะ ! ที่ไม่เป็นไปตามที่แกต้องการ” ตุลย์เย้ยใส่ ท่า ให้มอนสเตอร์ บอสหันไปมองที่กลุ่มควัน ภพกระโดดฝา ควันไอเย็นออกมาเข้าหาตัวมอนเตอร์บอสอีกครั้ง

เอกภพ LV 25 อาชีพ Event Unlocker HP 1 / 7,150

“ฉันร่ายสกิลสกิล ‘โคลเวอร์แห่งความหวัง’ ก่อนนายจะใช้ สกิล Last blizzard น่ะสิ” วารีกล่าว

skill data : โคลเวอร์แห่งความหวัง

ระดับ : 3 ดาว LV:1/1

เงื่อนไข : ใช้ได้กับสมาชิกในทีมที่มีเลือดไม่ถึง 50 %

เป็นสกิลบัพที่จะร่ายให้กับสมาชิกเพียงคนเดียวในทีม เท่านั้น บัพนี้จะมีผลเพียง 10 วินาทีเท่านั้น ทันทีที่บัพนี้แสดงผลบัพนี้จะหายไปทันที ในระหว่างผู้ที่ได้รับบัพนี้แล้ว ได้รับดาเมจที่มากกว่า HP ปัจจุบันที่ตนเองมีจะทำให้เลือด เหลือ 1 ได้ 1 ครั้งและได้รับบัพ ‘Last clover’ การโจมตี ครั้งต่อไปดาเมจจะเป็น 2 เท่าโดยไม่สนใจเงื่อนไขสกิล

Cool down skill : 3 ชั่วโมง

เมื่อเห็นดังนั้นบอสเลเวียธานตวัดหางเตรียมฟาดภพที่ เป็นเป้านิ่งในอากาศ เพราะหากโดนสะกิดเพียงนิดเดียว เด็กหนุ่มก็ตายแล้ว แต่ทว่าหางที่มันฟาดเต็มแรงนั้นแสดง ดาเมจเป็นศูนย์

“โทดทีวะ สกิลสุดท้ายที่ฉันมี “ผ้าคลุมทองคำ’ แสดงผล แล้ว” สนยิ้มยิงฟัน

Skill data : ผ้าคลุมทองคํ

ระดับ : 3 ดาว LV:1/1

เงื่อนไข : ไม่ทราบ

เป็นสกิลประเภทบัพ สามารถบัพให้กับสมาชิกในทีมได้เพียงคนเดียวเท่านั้นสมาชิกได้รับบพอมตะจากดาเมจ และสถานะทุกประเภทเป็นเวลา 5 วินาที และบัพนี้จะหาย ไปทันทีเมื่อผู้ที่ได้รับบัพที่ทำให้การโจมตีครั้งถัดไป ดาเม จที่เกิดขึ้นจะเป็น 2 เท่าทันที บัพนี้จะไม่ทับกับบัพเพิ่มพลัง โจมตี หรือบัพเพิ่มดาเมจใดๆ บัพนี้จะแสดงผลหลังสุดใน บรรดาทุกบัน

Cool down skill : 3 ชั่วโมง

ภพมาถึงตัวเลเวียธานในระยะประชิดได้สําเร็จจากการ ช่วยเหลือของสมาชิกทุกคน ภพเงยหน้ามองมอนสเตอร์ บอสด้วยสายตาเกรี้ยวกราด เอ็กซ์พีเรียนซอร์ด’ ส่องแสง สีทองเหมือนตอนที่เขาใช้กับบอสแมงมุม

“นี่คือการตอบแทนของฉันที่มีต่อเพื่อนๆทุกคนในทีม คม ดาบจันทราศักดิ์สิทธิ์ !!” ภพตวัดดาบเป็นรูปจันทร์เสี้ยวผ่า เข้านําตัวของมอสเตอร์เลเวียธานอย่างจัง

คมดาบจันทราศักดิ์สิทธิ์ : ดาเมจที่เก็บสะสม 11,742

บันดาเมจจาก Last clover : X2

บัพดาเมจจาก Golden cape : X2
Total damage 46,968

บอสเลเวียธาน LV 50 HP 0 /220,000

บอสเลเวียธานค้ารามอย่างเจ็บปวด มันล้มลงกับพื้น แน่นิ่ง ร่างของมันค่อยๆสลายกลายเป็นออร่าสีฟ้า ค่า ประสบการณ์และของรางวัลแจกจ่ายให้กับสมาชิกทุก คนในทีม Devil Breaker เป็นสัญญาณว่าภารกิจ ‘ชิงไข่มุก สิบแปดจันทรา’ ด่านที่สองได้จบลงแล้ว ทุกคนต่างยืนมอง ออร่าสีฟ้าของเลเวียธานอย่างเหม่อลอย ก่อนจะตั้งสติได้

“สําเร็จ !! พวกเราเคลียร์ด่านสองแล้ว” สมาชิกทุกคนต่าง กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

“เย้ๆพวกเราทําได้” สนกอดคอภพและวารีเข้าไว้ด้วยกัน

“สําเร็จแล้วนะวารี” ภพหันไปพูดกับหญิงสาว
“อั้ม !!” หญิงสาวยิ้มตอบพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ สุดๆ

“เฮ้ๆ เล่นดีใจไม่รอฉันเลยนะ” เจมส์ตะโกน เขากระโดด จากหลังนกสดายุ วิ่งไปหาเพื่อนทั้งสาม

“นกของนายก็สุดยอดเหมือนกันน่าเจมส์” ภพชม

“ฮ่าๆๆๆๆ มันแน่อยู่แล้ว นกสดายของฉันน่ะสุดยอดที่สุด

เลย”

ในระหว่างที่ทั้งสี่คนกำลังคุยอยู่นั้นพีระก็ยืนมองอยู่ห่างๆ ด้วยใบหน้านิ่ง พร้อมกับนึกตอนที่เริ่มวางแผน “โคลเวอร์สี ทอง’

“งานที่ฉันจะให้นายทำก็คือ รับดาเมจให้มากที่สุดเท่าที่นายจะรับไหว”

“เอ๋ รับดาเมจหรอครับ ?” ภพถาม

“ใช่สกิล ‘โคลเวอร์แห่งความหวัง’ ของวารีจะทำให้นาย รับดาเมจจนเหลือเลือดเพียง 1 ได้ 1 ครั้ง ส่วนสกิล ‘ผ้า คลุมทองคํา’ ของสนจะทําให้นายเป็นอมตะตอนที่เลือด เหลือ 1 และความพิเศษของสองบัพนี้คือการโจมตีครั้งถัด ไปจะสร้างความเสียหายสองเท่าทันที การโจมตีครั้งถัดไป ของนายคือ ‘คมดาบจันทราศักดิ์สิทธิ์ เท่านั้น” พีระอธิบาย แผนการ

“แต่ว่า…..” วารีกำลังจะขัด เพราะสีหน้าของเธอดูไม่ค่อย มั่นใจเท่าไหร่นัก

“ฉันเข้าใจ ความยากของแผนการนี้คือความพอดีของ เวลาบัพของพวกเธอทั้งสองคน แต่เชื่อฉันสิว่าพวกนาย ทำได้ ฉันขอตั้งชื่อแผนการนี้ว่า โคลเวอร์สีทอง แล้วกัน” พีระกล่าวและยิ้มให้กับวารีเพื่อสร้างกำลังใจ

“สําเร็จแล้วนะครับคุณพีระ” มาร์คเดินมายืนอยู่ข้างๆชาย หนุ่มผู้อาวุโส เขาดันกรอบแว่นให้เข้าที่ก่อนจะขยับยิ้มที่ มุมปากเล็กน้อย
“พวกเราไปอ่านต่อไปกันเถอะ” พีระกล่าว ในใจลึกๆ นั้นอยากจะลุยด่านต่อไปเต็มที่แล้ว แต่ในระหว่างนั้นเขา ก็แอบเหลือบมองเด็กหนุ่มผู้มีอาชีพ Event Unlocker โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว

‘ภพ ถ้าเป็นนายละ

ในที่สุดทีม Devil Breaker ก็สามารถผ่านภารกิจชิงไข่มุก สิบแปดจันทราด่านสองแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไป..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ