Devil Breaker กิลด์แสบป่วนโลกอ

ตอนที่ 15 : การถ่วงเวลา



ตอนที่ 15 : การถ่วงเวลา

ตอนที่ 15 : การถ่วงเวลา

ในเกมวันที่ 27 มีนาคม 2044 เวลา 01.20 น.

การต่อสู้ระหว่างสมาชิกทีม Devil Breaker และ เต่าทมิฬ พันปียังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แต่ทว่าแนวหน้าทั้งห้า ได้แก่ มาร์ค สน ตุลย์ เข็มและภพต่างไม่สามารถเข้าถึงตัว เต่าได้เลย มันเริ่มรักษาระยะห่างระหว่างพวกเขามากขึ้น

หนอย ! นอกจากจะรักษาระยะการต่อสู้แล้วยังไม่ยอม ให้พวกเราเข้าถึงตัวกรงด้วยนะ” เข็มน

เมื่อห้านาทีก่อนเธอถอยจากแนวหน้าไปอยู่กองกลาง เพียงคนเดียว โดยใช้มาร์ค สน ตุลย์ และภพดึงความสนใจ และค่อยรับการโจมตีของเต่ายักษ์ เมื่อได้จังหวะเผลอเธอ จึงรีบเบี่ยงตัวเข้ามุมบอดของมันเพื่อตรงเข้าไปยังกรงสี ทองเพื่อช่วยเหลือหญิงสาวที่สลบอยู่ แต่ดวงตาสีแดง ของมันก็ยังจะเหลือบเห็นเธอ มันยิงลำแสงสีฟ้าไปดักหน้า เธอเป็นกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ เข็มตีลังกาหลบลำแสงสีฟ้าลูกที่สองที่กำลังถูกยิง ตามเข้ามา

“การป้องกันของมันแน่นหนาขึ้นมากพอพวกเรารู้จุด อ่อนของมัน มันเลยเปลี่ยนบทบาทจากผู้ไล่ล่าเป็นผู้ ป้องกันสินะ” มาร์คที่ปกติจะใจร้อนไม่สนหน้าอินทร์หน้า พรหม พยายามใจเย็นลงเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ เขารู้ว่า หากเสริมสถานะทำลายเกราะของกระบองยักษ์อีกเพียง สองครั้งนั้นจะต้องใจเย็นกว่านี้

“เจมส์ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง ?” ภพส่งข้อความไปหาเพื่อน สี่ตาสุดสนิทของเขา พลางวิ่งอ้อมเพื่อหาจังหวะเข้าประชิด อีกรอบ

“พึ่งจะสิบห้าเปอร์เซนต์เท่านั้น ตอนนี้พวกนายทำไง ก็ได้ซื้อเวลาให้มากที่สุด ตอนนี้พวกมันสนใจแต่พวกนาย และไม่ยอมให้พวกนายเข้าใกล้กรงแล้วสินะ” เจมส์กล่าว ดวงตาของเขาเป็นสีส้มซึ่งเป็นผลจากการใช้สกิล คอนเน คติ้งวิชชั่น’ ซึ่งจะเชื่อมมุมมองของเขาและสัตว์อัญเชิญเข้า ด้วยกัน
“อั้ม ยังไงก็ฝากนายด้วยนะเจมส์” ภพจบการสนทนา

“จากที่ผมคุยกับเจมส์และสถานการณ์คร่าวๆ ผมคิดว่า ควรจะดึงความสนใจมันเอาไว้ เพื่อที่จะให้แผนของเรา สําเร็จครับ” ภพเสนอ ซึ่งทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับแผนการ ของเขา ทั้งสน ภพ เจมส์ มาร์ค และเข็มต่างก็กระจายตัว แยกกลุ่ม เพื่อหาทางเข้าไปตีประชิด

เต่ายักษ์คำราม มันเลือกที่จะเหวี่ยงหมัดโจมตีใส่คน ที่ใกล้ที่สุดซึ่งนั่นก็คือตุลย์ หัวหน้าทีม Devil Breaker นั่นเอง

“อ้ก !!” ตุลย์ถูกแรงกระแทกทำให้เขากระเด็กออกไปจาก รัศมีกระแทกไปหลายเมตร

“บ้าจริง !! โดนเข้าจนได้” ตุลย์สบถ เมื่อเห็นภพที่เข้ามา ใกล้ที่สุดเป็นลำดับต่อมา มันก็พุ่งสามง่ามตรงเข้าไปยังเขา ทันที
“รอจังหวะนี้มานานแล้วเฟ้ย !! Event Skill !! The last point !!” ฉับพลันที่เขาร่ายสกิลร่างของภพก็หายไปจาก จุดที่เต่ายักษ์เพ่งเล็งเอาไว้ทําให้สามง่าม งพลาดไปปัก ลงแต่พื้นเปล่าๆ ปล่อยให้ร่างยัก งงเป็นไก่ตาแตก เมื่อมัน รู้ตัวอีกทภพก็ยืนอยู่ที่เดิมก่อนที่พวกเขาจะกระจายตัวกัน เสียอย่างนั้น ภพยิ้มยั่วกวนประสาทใส่มัน กว่าจะรู้ตัวมาร์ค ก็กระโดดไปอยู่ด้านหลังกระดองมัน ออร่าสีเหลืองทอง อ หุ้มกระบองของเขาขนาดของมันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น

“ครั้งที่สี่ !! กระบองยักษ์ !!” ชายหนุ่มดวงตาสีส้มฟาดเข้า กลางหลังของมันอย่างจัง เนื่องจากมันยังอยู่ในท่าที่กำลัง กัมเพื่อจะโจมตีภพอยู่ทำให้มันล้มหน้าทิ่มพื้นทันที ไม่มี โอกาสได้สวนมาร์คแบบครั้งก่อนๆ

“ฮ่าๆๆไงละ อีกครั้งนึงเท่านั้นแกเละแน่เจ้าเต่าโง่” มาร์ค เย้ยหยันด้วยความสะใจ เขากระโดดถอยออกจากบอส ยักษ์เพื่อรักษาระยะห่างเอาไว้

“เฮ้ยภพทาใหม่ของแกเจ๋งนี่หว่า ไปเรียนมาจากไหนเนี่ย สนตะโกนทักในช่องแชท

“อยู่ดีๆฉันก็ได้รับข้อความแจ้งว่าปลดล็อคสกิลใหม่อะ พออ่านคำอธิบาย ก็เลยลองเสี่ยงเอามาใช้” ภพกล่าว
Skill data: Event Skill – The last point

ระดับ : ไม่มี LV:1/1

เงื่อนไข : ใช้ ‘เอ็กซ์พีเรียนซอร์ด’ ในการต่อสู้กับมอนส เตอร์บอส สะสมเวลารวม 3 ชั่วโมง

สร้างจุด Last point ไว้บริเวณหนึ่ง เมื่อเรามีการ เคลื่อนที่ออกจากจุดดังกล่าว สามารถร่ายสกิลนี้อีกครั้ง ภายในเวลา 5 นาที จะเคลื่อนย้ายตัวเรากลับไปยัง ‘Last point ได้ทันที และเราจะได้บัพเคลื่อนที่เร็วขึ้นเป็นเวลา 30 วินาที

Cool down skill : 10 นาที

เป็นท่าประเภทหลบหนีสินะ ช่างเป็นสายอาชีพที่เดาทาง ไม่ถูกเลยจริงๆ’ พีระวิเคราะห์ เขาพยายามปามีดบินเพื่อทำ ดาเมจในระหว่างที่เต่ายักษ์ค่อยๆยันตัวขึ้นมา มันพ่นออร่า สีฟ้าก่อเป็นโดมยักษ์ห้อมล้อมตัวมันและกรงสีทองเอาไว้

“มันกำลังสร้างโดม ใครมีสกิลประเภทไฟร่ายมาให้หมด หยุดมันเอาไว้” พีระสั่งการทำให้สมาชิกทุกคนต่างเปิดหน้าต่างสกิลเพื่อหาสกิลที่มีการร่ายไฟออกมา

“กระสุนเพลิงดำ !!” ฟ้ายิงลูกบอลไฟสีดำไปสิบกว่านัด เพื่อทลายกำแพงน้ำแข็งที่ค่อยๆสร้างขึ้นมา ดูเหมือนจะ สัมฤทธิ์ผลกำแพงน้ำแข็งก่อตัวช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะ เดียวกันตุลย์และสนที่อยู่อีกฝั่ง แม้จะไม่มีสกิลประเภทไฟ แต่พวกเขาก็พยายามใช้สกิลทลายการป้องกันเพื่อไม่ให้ โดนสร้างได้อย่างที่เต่าทมิฬต้องการ

“ทิ่มแทงทะลวงชีพ !!”

“Crushing Forward !!”

ตุลย์ร่ายสกิลรัวทวนแทงกำแพงน้ำแข็งให้เร็วที่สุด ขณะ เดียวกันสนร่ายสกิลทำให้โล่ของเขาเปล่งแสงและใช้โล่ พุ่งเข้ากระแทกกำแพงน้ำแข็งแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ

เนื่องจากบริเวณส่วนบนของตัวโดมที่พึ่งถูกสร้างมีผิวที่ บางจึงทำให้โดมแตกกระจาย แล้วค่อยๆก็ตัวอีกครั้ง
“สกิลประเภทไฟงั้นหรอ ? ของถนัดพอดีเลย โหมดร่าง อัคคี !!”

ผมสีเหลืองของเธอเปล่งแสงสว่าง ดวงตาเปลี่ยนเป็นสี ส้มเพลิง ออร่าสีเพลิงห่อหุ้มทั่วทั้งตัวของหญิงสาว ปลอก มือทั้งสองข้างถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสว่างไสว

“เอาละนะ ย่าห์ !!” เข็มอัดเข้าผนังน้ำแข็งอย่างจังอาจจะดู เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่กำแพงน้ำแข็งก็ยังก็ตัวไป เรื่อยๆ หญิงสาวขยับยิ้มที่มุมปากก่อนจะร่ายสกิลลำดับต่อ

“Burst !!” เมื่อเธอตะโกนเสร็จก็เกิดระเบิดเพลิงไปทั่วทั้ง ผนัง าแข็ง บางบริเวณก็ละลายเพราะความร้อนจากเปลว ไฟ บางส่วนก็ถล่มลงเพราะแรงระเบิด หญิงสาวกระโดด ข้ามน้ำแข็งแล้วพุ่งเข้าหามอนสเตอร์ยักษ์ที่กำลังพ่นไอ เย็นอยู่ เธอกระโดดสูงถึงศีรษะของมันเนื่องจากเต่ายักษ์ ยังอยู่ในสถานะใช้สกิลพ่นไอน้ำแข็งสร้างโดมอยู่จึงทำได้ แค่มองเท่านั้น
“ขอเอาคืนหน่อยเถอะ Meteor Kick !!” ถุงมือกำปั้นคู่ใจ ยิ่งไฟออกจากฝามือเป็นไอพ่นผลักให้หญิงสาวถีบเข้า ใบหน้าของมอนสเตอร์บอสเข้าอย่างจัง ทำให้ตัวมันเซตาม แรงถีบ เสียหลักล้มคะมาลงกับพื้นจนไม่สามารถพ่นไอน้ำ แข็งต่อได้

“คุณมาร์ค !!” สนตะโกนเรียกชายหนุ่ม เขาคุกเข่าและ สองมือชูโล่ขึ้นเหนือศีรษะ เมื่อเห็นดังนั้นมาร์คก็ยิ้มมุม ปากวิ่งสุดแรงไปยังพาราดินหนุ่มทันที สองเท้ากระโดด ขึ้นไปเหยียบบนโล่ เขางอเข่าดวงตาสีส้มคู่งามจ้องไปก กระดองเต่ายักษ์ที่ยังนั่งมึนเป็นเป้านิ่งอยู่

ไปเลยยยยยยยยยยยยยยย !!” สนดันโล่สุดแรงประสาน กับการกระโดดของมาร์คทําให้พุ่งออกไปยังกระดองเต่า อย่างรวดเร็ว

“รับไปซะ ! กระบองยักษ์ !!” มาร์คฟาดกระบองยักษ์ครั้งที่ ห้าเข้าไปยักฝากระดองอย่างจัง

กระบองยักษ์สะสมสถานะซ้ำซ้อนได้ครั้งที่ห้าแล้ว แรง กระแทกของมาร์คทําให้มอนสเตอร์บอสหน้าคะนําลงกับพื้นทันที ในตอนนี้ค่าป้องกันของเต่ายักษ์ถูกลด ลงจนเหลือแค่เพียงครึ่งเดียว การโจมตีของทีม Devil Breaker จึงทวีรุนแรงยิ่งขึ้น

“ได้เวลากระหน่ำแล้วสินะ” หญิงสาวชูคันธนูขึ้นฟ้า เปล่ง แสงออร่าสีน้ำเงินเข้ม มันก่อตัวเป็นรูปนกสยายปีกกว้าง

มันส่งเสียงร้องราวกับว่ามันมีชีวิตอยู่จริงๆ นานาลดระดับ ธนูมาที่แนวสายตา มือขวาถึงเส้นเอ็นธนูจนสุดแรง

“Lethal Bird !!” คันธนูที่เปล่งออร่าสีน้ำเงินเป็นรูปนกถูก ยิงออกไปตามแรงปล่อยเส้นเอ็นธนู มันบินวนรอบเต่ายักษ์ ราวกับมีชีวิตมันอ้อมมาจนถึงรอยแตกของกระดอง แล้วจึง หักเลี้ยงพุ่งเข้ากลางหลังอย่างจัง เกิดเป็นดาเมจคริติคอล กอปรกับการลดค่าพลังป้องการของมาร์คจึงทำดาเมจได้ ถึงสองหมื่นกว่า
มินค่ารามด้วยความโมโห มันไล่ตีคนที่อยู่ในสายตา อย่างสะเปะสะปะ เพราะตอนนี้สถานการณ์ถูกทีม Devil Breaker ควบคุมไว้หมดแล้ว

“นานา พยายามยิงเร็วๆนะพวกฉันพยายามล่อมันเอาไว้ อยู่” ตุลย์ส่งข้อความ พลางหลบสามง่ามที่พุ่งลงมาด้วย

“รู้แล้วน่า ทางนี้มีมีแค่สองมือเองน้า~~~~~~~ ไม่มีคน ช่วยยิงเลย อยากได้สายอาชีพยิงไกลมาช่วยอีกสักคนจัง” นานาแกล้งบ่นเสียงเหนื่อย แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็คือความเร็ว สูงสุดที่เธอจะทำได้ในตอนนี้แล้ว

“ฟ้าไม่ต้องร่ายสกิลโครงกระดูกแล้ว ใช้กระสุนเพลิงดำ ช่วยยิงสนับสนุนที พีระสั่งการ

“โอเค !” ฟ้าสะบัดมือออกเป็นการคลายคำสั่งนักรบโครง กระดูก ทําให้บรรดานักรบโครงกระดูกกลายเป็นฝุ่นสีดำ จากนั้นจึงชูฝ่ามือไปยังเต่ายักษ์ วงแหวนเวทย์สีดำถูกร่าย ออกมา ห่ากระสุนเพลิงดำถูกระดมยิงออกมาจากวงแหวน เวทย์ยังไม่หยุดหย่อน

“ท่านี้โจมตีได้ ก็จริง แต่ดาเมจโดยรวมเบามากเลยนะ” ฟาอธิบาย

“เอาเถอะยังไงซะ พวกฉันที่ดีใกล้ก็เข้าใกล้ไม่ได้อยู่ แล้ว ยิงไกลๆตอดมันไปเรื่อยๆดีกว่า” เลยตอบ ในตอน นี้แนวหน้าทีม Devil Breaker ถอยร่นออกมาเพื่อรักษา ระยะ ขณะเดียวกันก็เพื่อป้องกันให้ฟ้ากับนานาได้ทำตา เมจจากระยะไกล ในตอนนี้เตาทมิฬพันปีทำได้เพียงเดินไป ข้างหน้าเพื่อจะเข้าถึงฟ้าและนานา แต่ก็ถูกบรรดาแนวหน้า กันเอาไว้อย่างหนาแน่นจนกระทั่งเลือดของมันเหลือไม่ถึง แสนสองหมื่น พฤติกรรมของมันก็เปลี่ยนไป

เต่าทมิฬพันปี 115,419/300,000

เต่ายักษ์คำรามเสียงดังก้องกังวาล เมื่อถูกผนังห้องก็ สะท้อนไปมาทำให้การโจมตีของทีม Devil Breaker หยุด ชะงัก กระดองของมันที่ร้าวถูกฟื้นฟูกลับมา เลือดของมัน ฟื้นฟูกลับมาที่หนึ่งแสนห้าหมื่น สามง่ามของมันถูกเคลือบ ออร่าสีแดงเอาไว้
เต่าทมิฬพันปี เบอร์เซิร์กโหมด HP 150,000/300,000

“ทุกคนถอยออกมา มันแปลงร่างแล้ว” พีระสั่งการแต่ ทว่าแนวหน้าทุกคนอยู่ในรัศมีใกล้เกินไปทำให้พวกเขาติด สถานะ ‘อัมพาต

“พวกผมขยับไม่ได้ครับ” มาร์คตอบเขาพยายามขยับตัว แต่ก็ไม่เป็นผล

“แย่ละ !!” สนอุทาน

เต่ายักษ์แทงสามง่ามลงตรงหน้าพวกเขาทั้งห้าคน แต่อยู่ ห่างจากพวกเขาไม่ถึงห้าเมตร

“แทงพลาดหรอ !!” ตุลย์ถามด้วยความงุนงง ขนาดเจมส์ ที่ตอนกำลังขี่นกอยู่มันยังแทงสวนกลับมาได้อย่างแม่นยำ เลย แล้วเป้านิ่งแบบนี้มันไม่มีทางแทงพลาดอย่างแน่นอน เต่ายักษ์แสยะยิ้มสามง่ามค่อยๆเปล่งแสงสีแดงเข้มขึ้น เรื่อยๆ ภพที่เห็นดังนั้นจึงตอบทันที

“ไม่ครับ มันจงใจ” ภพตอบได้ไม่ทันไรก็เกิดแรงระเบิด
สามง่ามที่แทงค้างอยู่บนพื้นก็เกิดระเบิดใส่แนวหน้าทั้ง ห้าคน ทุกคนต่างตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด

“ทะ…..ทุกคน” วารีที่ซัพพอร์ตอยู่ห่างจากแนวหน้าไกล เกินไปจึงไม่สามารถล้างสถานะหรือสร้างโล่ป้องกันให้ พวกเขาได้ จึงได้แต่ตะโกนเรียก

สิ้นเสียงระเบิด ควันสีดำค่อยๆจางหายไป แนวหน้าทีม Devil Breaker ต่างนอนนิ่งอยู่บนพื้น ทุกคนต่างได้รับ ข้อความเตือนว่าถูกสถานะ ลุกไม่ได้ เป็นสถานะที่ทำให้ ผู้ที่นั่งหรือนอนอยู่นั้นไม่สามารถลุกขึ้นได้ แต่ยังสามารถ เคลื่อนที่ได้ในสภาพนั้นๆ

“สองนาทีงั้นหรอ แบบนี้แย่แน่” สนพยายามยันตัวขึ้นแต่ แขนลำตัวของเขากลับสั่นเทาทำให้ไม่สามารถลุกคนขึ้น ได้ สุดท้ายแขนของเขาก็หมดแรงล้มฟุบกับพื้นอีกครั้ง วารี พยายามวิ่งไปเพื่อให้การช่วยเหลือแต่เต่ายักษ์ขว้างสามง่ามก้นเธอและแนวหน้าทั้งห้าเอาไว้

“วารี !!” ภพและสนต่างตะโกนเรียกชื่อเพื่อนสนิทของ พวกเขาด้วยความเป็นห่วง

“พี่วารีอย่าเข้ามานะคะ !!” เข็มเยือน เธอนอนนิ่งอยู่กับพื้น ไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย กอปรกับเสียงคําราม จากมอนสเตอร์บอสเพื่อไล่ให้เธอไม่ต้องเข้ามายุ่ง

“คิดว่าฉันกลัวหรอ !!” วารีตะโกนเสียงแข็งเธอวิ่งต่อโดย ไม่สนใจสามง่ามที่ปักพื้นขวางเธอเอาไว้ เธอจงใจจะวิ่ง ลอดช่องว่างของสามง่ามเพื่อเข้าไปล้างสถานะให้เพื่อน ทุกคน แต่พีระเหลือบเห็นมอนสเตอร์บอสแสยะยิ้ม มันช มือขึ้นอย่างใจเย็น มันรอระยะที่นักบวชสาวจะใกล้สามง่าม ยักษ์ที่สุดเพื่อให้เธอไม่สามารถหลบได้

“ระวัง !!” พีระวิ่งเอาตัวเข้าไปขวางหญิงสาว ก่อนจะอุ้ม ตัวเธอให้ห่างจากสามง่าม ซึ่งพอดีกับที่เต่ายักษ์ดีดนิ้ว สามง่ามที่ปักอยู่บนพื้นก็ระเบิดใส่ทั้งสองคน
โชคดีที่พีระสามารถพานักบวชสาวพ้นระยะระเบิดได้ อย่างฉิวเฉียดทำให้พวกเขาไม่เป็นอะไร

“คุณพีระ….” วารีพูดเสียงอ่อน

“เธอนี้บ้าบิ่นจริงๆเลย ระวังหน่อยสิ อิ๊ก !!” พีระตำหนิเล็ก น้อย ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้น ถึงจะไม่โดนระเบิดแต่เขาก็ ยังได้รับความเสียหายจากแรงกระแทกอยู่ดี

“น้องวารีไม่เป็นไรใช่ไหมจ๊ะ !!” ฟ้าตะโกน เธอร่ายคาถา เรียกนักรบโครงกระดูก เนโครแมนเซอร์สาวสั่งการให้ นักรบโครงกระดูกบุกเข้าจู่โจมเพื่อถ่วงเวลาทันที แต่โชค ร้ายที่เต่ายักษ์รู้ทันมันเอามือตบลงพื้น ทันทีที่บรรดานักรบ โครงกระดูกพ้นเขตสามง่ามยักษ์มันถูกแช่แข็งไม่สามารถ เดินต่อไปได้

ต่อให้ถูกทำลายกี่ร้อยกี่มันครั้งตราบเท่าที่ฟ้าสั่งการมันก็ จะกลับมาเหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าบรรดา โครงกระดูกเหล่านี้ถูกพันธนาการไม่สามารถเคลื่อนที่ และ ไม่ได้ถูกทำลายได้ละ ? มันจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไร ซึ่งเป็น หนึ่งในจุดอ่อนของสกิลนี้ ฟ้าพยายามสะบัดมือเพื่อคลาย การควบคุมแต่ความพยายามของเธอกลับสูญเปล่า
“บ้าจริง มันรู้จุดอ่อนของฉัน” ฟ้าพูดด้วยนําเสียงหงุดหงิด ซึ่งข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของการอัญเชิญหุ่นเชิดโครง กระดูกก็คือ จนกว่าจะคลายการควบคุมหุ่นเชิดเหล่านี้ผู้ ควบคุมจะเป็นเป้านิ่ง ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ เต่ายักษ์ยิ้ม หยันจากนั้นมันจึงค่อยๆเดินไปหาภพที่นอนอยู่ใกล้ที่สุด โดยไม่สนใจฟ้าที่ถูกพันธนาการแน่นิ่งเอาไว้

นานาพยายามยิงธนูลำแสงสกัดการเคลื่อนไหวแต่ดา เมจที่เธอทำได้จากปกติทำได้หลักพันเพราะผลจากสกิล กระบองยักษ์ของมาร์ค ในตอนนี้เธอทําได้เพียงดอกละ หลักสิบเท่านั้น จึงทำให้มันได้แค่แสบๆคันๆซึ่งมันไม่ได้ สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย

“แย่ละ ดาเมจเบาเกินไป เจ้าเก่านั่นไม่สนใจฉันเลย” นานา พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เธอขมวดคิ้วยิงธนูไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้

เด็กหนุ่มกำลังคลานเพื่อไปหยิบดาบเอ็กซ์พีเรียนซอร์ด เขายื่นมือสุดแขนแต่ก็อยู่ห่างจากเขาเพียงเอื้อมมือเท่านั้น ในตอนที่เขาถูกสถานะอัมพาตนั้นที่เขาไม่ได้ใช้ ‘เอ็กซ์พี เรียนดีลีท’ เพราะยังติดคูลดาวน์อยู่อีกเพียงไม่กี่สิบวิ แต่ ตอนนี้คูลดาวน์ของดาบได้จบลงแล้ว ขอแค่เขาหยิบดาบ ประจำตัวของเขาได้ก็จะลุกขึ้นมาสู้เพื่อยื้อเวลาได้

แต่แล้วความหวังของเขาก็ดับลงในพริบตา เต่ายักษ์ เหยียบดาบของเขาแตกสลายกลายเป็นฝุ่นสีทอง พร้อม กับข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาที่เขา

Experience Sword ถูกทำลาย ไม่สามารถเรียกใช้งาน ได้ 1 ชั่วโมง’

“แกนะแก !!” ภพตะโกนด้วยเสียงกราดเกรี้ยว เต่ายักษ์ ยิ้มอย่างสะใจ มันยกเท้าแล้วเหยีบภพเข้าอย่างจังโดยไม่

รอ

“ภพ! !” วารีตะโกนเรียกด้วยความตกใจ

เมื่อเสียงดังสนั่นสิ้นสุดลง ภพที่หลับตาอยู่ไม่ได้รู้สึก ถึงความเจ็บปวดจึงค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ ก็พบว่าเขา และสมาชิกทีม Devil Breaker ทุกคนต่างมีออร่าสีทอง ห้อมล้อมอยู่ ดาเมจที่เต่าทมิฬสร้างให้กับภพได้คือ “ศูนย์
บอสยักษ์ผงะ มันค่อยๆหันหลังไปมองสิ่งที่มันได้รับ หน้าที่ให้เฝ้าคุ้มกันไม่ให้ใครเข้าใกล้ แต่เพราะโทสะทำให้ มันลืมหน้าที่ดังกล่าวไป ประตูกรงสีทองถูกเปิดออก หญิง สาวในชุดราตรีสีฟ้า ผมสีขาวอมเขียว เธอค่อยๆลืมตาสี เขียวน้ำทะเลอย่างช้าๆ ใบหน้าอันเรียบเฉยของเธอค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา มือทั้งสองข้างที่อยู่ภายใต้ถุงมือสีขาวกำลัง ประสานราวกับกำลังภาวนาอยู่ส่องแสงสีทองสว่างไสว

เต่ายักษ์มีสีหน้าตื่นตระหนก มันค่อยๆขยับตัวถอยหนี อย่างหวาดกลัว สมาชิกทุกคนต่างมองเหตุการณ์ตรงหน้า ด้วยความประหลาดใจ

“โทษทีที่ให้ทุกคนรอนะครับ” เจมส์พูดด้วยน้ำเสียงที่ เริงร่า เขาค่อยๆเดินเข้าสนามรบอย่างช้าๆพร้อมกับใช้ มือขวาดันกรอบแว่นให้เข้าที่

“ผมช่วยเจ้าหญิงออกมาได้แล้วนะครับ !!”

เจมส์ทำอย่างไรถึงช่วยเจ้าหญิงออกมาเพื่อได้ทันเวลา โปรดติดตามชมตอนต่อไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ