Devil Breaker กิลด์แสบป่วนโลกอ

ตอนที่ 17 : คราเคน



ตอนที่ 17 : คราเคน

ตอนที่ 17 : คราเค่น

ในเกมวันที่ 27 มีนาคม 2044 เวลา 02.16 น.

สมาชิกทีม Devil Breaker ได้ทำภารกิจชิงไข่มุกสิบแปด จันทราได้มาถึงด่านสุดท้ายแล้วสิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือลา สต์บอสของภารกิจนี้ เขามีนามว่า คราเคน’ ซึ่งตอนนี้เขา ได้ปรากฏตัวต่อหน้าทีม Devil Breaker แล้ว

” ๆๆๆๆ ยินดีต้อนรับทีม Devil Breaker ทุกคนครับ ก่อน อื่นเลยผมต้องขอชื่นชมพวกคุณนะครับที่สามารถจัดการ เลเวียธานและเต่าทมิฬได้จนมาถึงตรงนี้ แต่ถ้าให้พูดตรงๆ พวกคุณไม่สามารถเอาชนะผมได้หรอกนะครับ ถ้าจะให้ดี ส่งตัวเจ้าหญิงคานาเลียมาให้ผมและออกไปจากที่นี่จะดี กว่าครับ ผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ คราเคนพูดอย่า งมั่นใจ พร้อมกับส่งรอยยิ้มเหยียด เป็นสัญญาณกลายๆว่า ทั้งสิบคนตรงหน้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน

“ไร้สาระ !! ที่แกพูดมันก็แค่สคริปต์ตายตัวที่เกมกำหนด มาละวะ เตรียมตัวโดนพวกเราจัดการได้เลย” ตุลย์ตอบ อย่างไม่ต้องคิด เขาเรียกทวนคู่กายของเขาออกมาเป็นสัญญาณประกาศศึกกับบอสหนุมตรงหน้า

“เฮ้อ ผมเตือนแล้วนะครับ” คราเล่นตอบอย่างสุภาพ เขาเรียกดาบโจรสลัดและปืนโบราณออกมา ดวงตาสีดำ คมกริบจ้องมองศัตรูตรงหน้าด้วยความเย็นชา

บอสคราเค่น ร่างมนุษย์ HP 450,000/450,000

“ชิ ! ถ้าเอ็กซ์พีเรียนซอร์ดของฉันไม่พังไปก่อนละก็..……. ภพพูดอย่างเจ็บใจ

“ภพ ดาบยาวที่ฉันเคยให้ไปน่ะ เอามาใช้ก่อน” ตุลย์พูด เตือนความจําเอกภพ ซึ่งทำให้เขานึกขึ้นมาได้

“อ๊ะ !! จริงสิดาบยาวที่พี่ตุลย์เคยให้ ผมยังเก็บไว้อยู่นี่น่า ขอบคุณนะครับช่วยเตือน” ภพกล่าวขอบคุณ เขาเรียกดาบ ยาวธรรมดาออกมาจากช่องกระเป๋าแม้จะมีดาเมจที่น้อย มากๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเอาไปสู้

“ทุกคน ฉันกับคุณกานาเลียจะร่ายสกิลซัพพอร์ตเองค่ะ” วารียกไม้เท้าร่ายคาถาสนับสนุน ในขณะเดียวกันเจ้าหญิง คานาเลียก็ยกสองมือประสานร่ายคำอวยพรเพิ่มค่าสถานะ ให้กับสมาชิกทุกคนเช่นกัน
“แต่ก่อนอื่นเลยจัดการกับกับดักเจ้าปัญหาของแกก่อน แล้วกัน” พีระโยนลูกบอลระเบิดไปยังบริเวณด้านหน้าของ คราเค่นทําให้เขามองไม่เห็นวิสัยทัศน์ข้างหน้า เขาจึงตั้ง ท่าเตรียมรับมือศัตรูที่จะเข้ามาจู่โจม ไม่ว่าจะจากทิศทาง ไหนก็ตาม แต่กลับไม่เป็นไปตามที่เขาคาด

เมื่อควันระเบิดจางหาย กับดักหนามแหลมที่เขาซ่อนไว้ ทํางานโดยอัตโนมัติ เมื่อไอเทมในเกมถูกใช้งานแล้วก็ สลายไป พร้อมกับสมาชิกทีม Devil Breaker ที่หายไป จากตรงหน้าเขาแล้ว ฉับพลันธนูลำแสงสิบดอกก็พุ่งออก มาจากทุกทิศทาง เขากระโดดหลบด้วยความคล่องแคล่ว พื้นที่ที่เขาเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ระเบิดระเนระนาดไม่เหลือ เค้าเดิม

“โห่ ชอบเล่นเกมซ่อนแอบก็ไม่บอกนะครับ” คราเค่นกล่า วด้วยความสงบ แต่เมื่ออยู่ในอากาศเขาก็เป็นเป้านิ่ง ดาว กระจายเจ็ดดอกหมุนฝ่าอากาศ เขาแสยะยิ้มมือขวาวาด ดาบเล่มงามสร้างบาเรียน้ำปัดดาวกระจายทั้งหมดอย่าง สบายใจ

“ถามจริงพวกคุณคิดว่าการโจมตีแค่นี้จะทำอะไรผมได้ หรอครับ ?” คราเค่นแสยะยิ้ม เขาลอยตัวลงอย่างสง่า ดวงตาสีดำกวาดมองพื้นที่โดยรอบอย่างใจเย็น เขาชูปืน ขึ้นฟ้าพร้อมกับหลับตาร่ายคาถา เมื่อร่ายเสร็จเขาจึงลั่นไกปืน กระสุนลำแสงสีน้ำเงินถูกยิงขึ้นฟาไปได้สัก ระยะเขาก็ดีดนิ้วกระสุนลําแสงแตกตัวเป็นสิบเอ็ดนิดต่าง พ่งกระจายไปยังพื้นที่ว่างเปล่าคนละทิศทาง

กําแพงลวงตาได้พังทลาย เผยตัวตนสมาชิกทั้งสิบเอ็ดคน ที่อยู่กระจายตัวซ่อนอยู่บริเวณต่างๆในห้องโถง

ร้ายจริงๆเลยนะครับ ใช้ควันผนึกการมองเห็นของผม และใช้วิชากำแพงลวงตาซ่อนตัว ไม่ทราบว่ามีลูกเล่นอะไร จะงัดมาใช้กับผมอีกไหมครับ คราเคนจ้องมองพร้อมกับ เผยรอยยิ้มเย็นอย่างท้าทาย

“ก็ไม่มีอะไรแล้วละ” คําตอบอันสงบของพีระทําให้ทำให้ อีกฝ่ายเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ แต่สิ้นประโยคพีระก็ ยกนิ้วขึ้นมาแล้วดีดนิ้วบริเวณที่คราเคนยืนอยู่ก็ระเบิดสร้าง ดาเมจใส่คราเค่นอย่างไม่หยุดหย่อน

“Chaos Rain” นานาใช้ร่ายสกิลยิงธนูลำแสงสีเขียวขึ้น ฟ้า ธนูถูกแยกร่างเป็นสิบดอกเป็นวงกลมล้อมบริเวณควันที่ ฟุ้งกระจาย แล้วพุ่งตรงเข้าใส่ใจกลางของควันระเบิดทันที
“สําเร็จมั้ย !!* ดุลยไพลงถามอย่างล้นๆ

แต่ไม่นานนักความหวังของเขาก็พังทลายลงบ้านบา เรียน้ำโอบล้อมชายหนุ่มรูปงามเอาไว้

บอสคราเคน ร่างมนุษย์ HP 448.245/450,000

“เกือบไปๆ ถ้าผมโดนท่าของคุณผู้หญิงที่ยืนอยู่บนเสาต้น นั้นเต็มๆละก็…อาจจะโดนดาเมจหนักกว่านี้ก็ได้นะครับเนี่ย คราเคนกล่าวอย่างสงบ เขาเอามือปัดฝุ่นที่เปื้อนอยู่ตามสูท ทักซิโด้ของเขา

“คุณชายนินจาคงเป็นหัวหน้าทีมสินะครับ ? เราเล่นยิง คําถามใส่พีระที่กำลังยืนกอดอกอยู่

“ไม่ใช่หรอก หัวหน้าทีมปะคนนั้น พระตอบเขามือไป ยังตุลย์ที่กำลังยืนอยู่ข้างๆเขา

“งั้นหรอครับ ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
“อ่า….ช่างเถอะครับ

“ช่างเถอะหรอ ? ไอการพูดที่เมินกันแบบนี้หมายความว่า ไงฟะ” ตุลย์เอ่ยอย่างมีน้ำโห แต่ชายหนุ่มรูปงามก็ไม่ได้ สนใจแต่อย่างใด

“แต่คุณนร้ายจริงๆเลยนะครับ จังหวะที่ผมกระโดดหลบ ลูกธนู คุณก็กะบริเวณที่ผมกระโดดลงมาและวางกับดัก ระเบิดพลางตาผมเอาไว้” คราเค่นอธิบายแผนของพีระ ซึ่ง ชายผู้อาวุโสก็ไม่ได้เถียงอะไร

“ลักษณะการพูดแบบนี้ บวกกับรูปแบบการเคลื่อนไหว นายคือ NPC รูปแบบคนคุมใช่ไหม ?” คำถามของพีระ ทำให้สมาชิกทุกคนต่างแปลกใจในสิ่งที่ชายหนุ่มอายุเยอะ สุดกล่าว

“คุณพีระครับ หมายความว่า ?” ภพเข้าใจสิ่งที่พีระพูดแต่ ต้องการถามย้ำ

“โดยปกติ NPC จะมีการเคลื่อนไหวแบบตายตัวและจะมี ข้อความที่คอยตอบกลับอัตโนมัติแบบเจ้าหญิงคนนั้น” พี ระอธิบาย เขาชี้ไปยังเจ้าหญิงคานาเลียที่กำลังภาวนาร่าย คาถาอยู่ หญิงสาวยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนพร้อมกับอธิบายต่อ

“แต่หมอนี่ทั้งลักษณะการพูดที่มีลูกเล่น บวกกับการ เคลื่อนไหวหลบการโจมตีของพวกเราได้อย่างว่องไวแบบ นี้ ก็มีเพียงตัวเลือกเดียวก็คือมีคนควบคุมอยู่ไงละ

แปะ แปะ แปะ แปะ

คราเคนปรบมือชื่นชมพร้อมกับใบหน้าที่ประดับไปด้วย รอยยิ้มที่เดาทางไม่ถูก

“แค่นี้ผมก็จับพิรุธผมได้ขนาดนี้ เก่งจริงๆเลยนะครับ แต่ มันจะไปมีประโยชน์อะไรหรอครับ ?” ไม่ปล่อยให้ทันได้ทั้ง ตัวเขา คราเค่นเอามือตบพื้นแท่งน้ำแข็งพุ่งออกมาจากพื้น ดินบริเวณที่ทุกคนยืนอยู่ทำดาเมจใส่ทุกคน

ทุกคนถูกแรงกระแทกกระเด็นไปล้มอย่างบาดเจ็บ มีเพียง พีระที่กระโดดหลบได้อย่างว่องไว

“บ้าจริง !! ไอหมอนี้ใช้สกิลประเภทล็อคเป้าได้ด้วยงั้นหรอ” มาร์คกล่าว เขาขบเขี้ยวด้วยความไม่พอใจในลูกเล่น ที่หลากหลายของคราเคน

“ฮีล !!” วารีร่ายสกิลฮีลทันที ท่าให้ฟื้นฟูความเสียหายให้ สมาชิกทุกคนกลับมาเต็มหลอดได้อีกครั้ง

“นักบวช ดูท่าจะเป็นอุปสรรคกับผมนะครับ ถ้าต่อสู้กัน ระยะยาว คงต้องกำจัดคุณก่อนแล้ว” สิ้นประโยค บอสโจร สลัดก็หายตัวไปกับตา

“วารีระวัง !!” พีระตะโกนเตือนหญิงสาวนักบวชที่ยืนอยู่ หลังสุด แต่ก็สายไปเสียแล้วคราเด่นปรากฏตัวอยู่ด้านหลัง ของวารี มือขวาเอื้อมดาบสูงเตรียมจะฟันหญิงสาว

“เอ๊ะ !!” วารีหันหลัง สีหน้าของเธอดูตกใจมาก ดวงตา สีน้ำเงินได้แต่มองดาบที่กำลังเคลื่อนลงมาหาเธออย่าง

ช้าๆ

เคร้ง !!

“โทษทีว่ะ ดูท่าจะไม่ใช่แบบที่แกหวังนักหรอกนะ” โชคดี ที่เอกภพถูกจัดให้อยู่แนวรบด้านหลัง เนื่องจากเขามีเพียง ดาบธรรมดาที่เอาไว้สู้เท่านั้น คราเค่นรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเพราะสกิลเคลื่อนไหวฉับพลันนั้นใช้ ระยะเวลาในการร่ายน้อยมากทำให้กว่าจะรู้ตัวก็ถูกโจมตี กันไปแล้ว

มาร์คที่อยู่ใกล้สุดจึงวิ่งเข้ามาพร้อมกับฟาดกระบองเข้า ลำตัวคราเค่นอย่างจัง ทำให้เขากระโดดถอยออกมา สน จึงต่อจังหวะใช้สกิล Crushing Forward ใช้โล่กระแทก เข้าคราเค่นอีกครั้งทำให้เข้าปลิวตามแรงกระแรกไปหลาย สิบเมตร ในตอนนี้สมาชิกทีม Devil Breaker กลับมารวม กลุ่มกันอีกครั้ง ประจัญหน้ากับคราเคนที่ตอนนี้ยืนอยู่ตัวคน เดียว

บอสคราเค่น ร่างมนุษย์ HP 444,620/450,000 ดวงตาสีดำมองศัตรูที่อยู่ตรงหน้า

“เป็นทีมที่ดีจริงๆนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวชม เนื่องจาก ภารกิจชิงไข่มุกสิบแปดจันทรานั้น มีคนเข้ามาทำภารกิจแต่ ก็ไม่สำเร็จมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งทั้งหมดล้วนจบชีวิตและ ถอดใจตั้งแต่ด่านเลเวียธานแล้ว ทำให้เขาไม่ได้สัมผัสการ ต่อสู้กับเพลย์เยอร์คนอื่นๆเลยสักครั้ง

แต่ทว่าทีม Devil Breaker ที่มีสมาชิกเพียงสิบคนเท่านั้นก็สามารถผ่านได้ทั้งด่านเลเวียธาน และด่านเต่า ยักษ์ทมิฬ จนกระทั่งมาถึงตัวเขาได้ เขาจึงค่อนข้างคาด หวังกับการต่อสู้นี้ แม้เขาจะรู้ว่าสเตตัสของเขาตอนนี้ เหนือ กว่าค่าเฉลี่ยของผู้เล่นทั้งเซิฟเวอร์ด้วยซ้ำ โอกาสแทบจะ เป็นศูนย์ที่จะเอาชนะเขาได้ในตอนนี้ โดยเขาหวังว่าทีมนี้ จะสามารถเอาชนะเขาได้จริงๆ

“ขอบใจ ชม แต่ว่านะอีกไม่นานแกก็จะแพ้แล้ว” ตุลย์ ตอบอย่างเด็ดขาด เมื่อได้ยินดังนั้นคราเคนจึงคลี่ยิ้มออก มา

“ถ้าทําได้ก็ลองดูนะครับ” ชายหนุ่มตอบ

“พวกเราลุย !!” เสร็จสิ้นการออกคำสั่งดุลย์ดวงทวนคู่ใจ แล้ววิ่งนำ และสมาชิกแนวหน้าทั้งหมดจึงทุ่มทุกอย่างที่มี เพื่อสู้กับคราเค่น

“หมาป่าแดนนรก !!” ฟ้าเรียกหมาป่าซอมบี้ออกมาสามตัว โดยขึ้นไปขี่ตัวที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม เธอจับเคียวให้ถนัดมือ ก่อนจะออกคําสั่งให้หมาป่าวิ่งออกไป ส่วนนานาก็วิ่งไปยัง เสาต้นที่ใกล้ที่สุดเพื่อหาทำเลในการยิง

“สกิลซัพพอร์ต คำอวยพรแห่งสายน้ำ” คานาเลียประสานสองมือเข้าด้วยกันร่างของทุกคนถูกโอบล้อมไป ด้วยออร่าสีฟ้าอ่อนครู่หนึ่ง ไม่นานักทุกคนก็ได้รับบัพ

คําอวยพรแห่งสายน้า ทําให้ความเสียหาย จากศัตรูธาตุ นาที่เกิดขึ้นถูกลดลง 30 % เป็นระยะเวลา 15 นาที

คําอวยพรแห่งสายน้า ทําให้ความเสียหายที่สร้างใส่ศัตรู ธาตุน้าเพิ่มขึ้น 25 % เป็นระยะเวลา 15 นาที

คำอวยพรแห่งสายน้ำ ทำให้ศัตรูธาตุน้ำ ตอบสนองการ โจมตีช้าลง 10 %

“โห บัพของคุณคานาเลียดีมากๆสำหรับหนูเลยนะคะเนี่ย” เข็มพูดอย่างตื่นเต้น เพราะธาตุพื้นฐานของเธอคือธาตุไฟ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายใส่ศัตรูได้น้อยมาก กลับกัน หากเธอถูกโจมตีกลับจะทำให้ได้รับความเสียหายจากธาตุ น้ำรุนแรงมากเช่นกัน ดังนั้นบัพที่เธอได้รับจากคานาเลีย เป็นอะไรที่ช่วยเธอได้เยอะมาก

“ขนปักษาสวรรค์” วารีร่ายสกิลบัพเพิ่มความเร็วการ เคลื่อนที่ให้กับทุกคนในทีม
“เอกภพ เจมส่ยังไงก็ฝากดูแลวารีด้วยนะ”

“ครับ” พีระทิ้งท้ายก่อนจะวิ่งออกไป ซึ่งดูจาก สถานการณ์ทั้งหมด ภพทําได้แค่คอยปกป้องแนวหลัง เท่านั้น เขาจ้องมองแถบสกิลดาบคู่ใจของเขา ซึ่งมันขึ้นตัว อักษรสีแดง นเดือน

‘อีกเวลา 00 : 27 : 42 เอ็กซ์พีเรียนซอร์ด จะซ่อมแซม เสร็จสมบูรณ์

โดยตัวเลขในข้อความค่อยๆนับถอยหลังอย่างช้าๆ

‘บ้าจริง เราจะไม่มีประโยชน์ไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมงเลย หรอเนีย’ ชายหนุ่มคิดในใจ พลางกัดฟันด้วยความเจ็บใจ วารีที่เห็นอาการของภพเป็นแบบนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงเธอจึง ใช้มือขวาจับแขนซ้ายของเด็กหนุ่มดึงสติของเขากลับมา

“ไม่เป็นไรหรอกนะภพ ไม่มีใครโทษภพหรอกนะ เพราะ ว่าภพน่ะ…..ปกป้องทุกคนไม่ใช่หรอ เชื่อฉันสิ ทุกคนก็ โกรธตัวเองเหมือนกันที่ทำให้ภพไม่สามารถต่อสู้ต่อได้ และต่างก็พยายามทดแทนในส่วนของภพ” วารีปลอบด้วย น้ำเสียงอันนุ่มนวล ซึ่งทำให้ภพค่อยค่อยยิ้ม
“ปืนของหมอนั่น ‘น็อคแบ็ค’ (Knock Back) ได้งั้นหรอ ตุลย์บ่นกับตัวเอง พลางมองหน้าขมวดคิ้วใส่มอนสเตอร์ บอสหนุ่ม

“อย่ามองผมแบบนั้นสิครับ ก็แค่ท่าพื้นฐานที่หลายๆเกม มี” คราเค่นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ แต่ชวนให้โมโห

มาร์ค และสนต่อจังหวะตุลย์ ทั้งดาบและกระบองโจมตี ใส่ แต่เขาก็กระโดดหลบถอยออกเพื่อรักษาระยะ แต่ใน ระหว่างที่เขาลอยอยู่กลางอากาศ ธนูลำแสงสีเขียว และชูริ เคนก็พุ่งเข้าหาเขารอบทิศ

“กำแพงวารี” ม่านน้ำโอบล้อมรอบตัวเข้าเป็นลูกบอล ป้องกันการโจมตีของนานาและพีระอย่างง่ายดาย

“ลูกไม้เดิมๆใช้กับผมไม่ได้ผลหรอกนะครับ” คราเด่นคลี่ ยิ้มพร้อมกับอย่างจัดท่วงท่าอย่างผ่อนคลาย

“แน่ใจหรอ ?” พีระยิ้มอ่อนดวงตาสีเทาจ้องเป้านิ่งในบา เรียน้ำอย่างมีเลศนัย วินาทีนั้นกว่าคราเคนจะรู้ตัวมาร์ค ที่ไปอยู่ด้านหลังของลูกบอลน้ำ ก็ร่ายคาถากระบองยักษ์ เสร็จแล้ว
“เอาไปกินซะ !! ย้ากกกกกกก !!!”

กระบองยักษ์ทลายม่านน้ำของเราเล่นออก แรงฟาดหลัง จากที่หักล้างกับม่านน้ำยังคงเหลืออยู่นั้นได้ฟาดเข้ากลาง ลำตัวของคราเค่นอย่างจัง พร้อมกับขึ้นสถานะทลายเกราะ ขั้นที่หนึ่งบนตัวคราเคน

“อ๊ก !!” แรงกระแทกทำให้คราเค่นร่วงลงสู่พื้นแต่ยัง ไม่ทันได้ตั้งตัว ตุลย์และสนก็รอรับอยู่ด้านล่างอยู่แล้ว Crushing Forward สนกระโดดใช้โล่พุ่งใส่บอสหนุ่ม ทำให้เขาลอยอยู่กลางอากาศอีกครั้ง พร้อมกับเอี้ยวตัว หลบให้ตุลย์ต่อจังหวะ

“ทิ่มแทงทะลวงชีพ” การระดมแทงอย่างต่อเนื่องสิบสอง ครั้งยังคงเลี้ยงร่างของชายหนุ่มให้ยังคงลอยอยู่อากาศ ค่า เลือดของคราเค่นลดลงอย่างต่อเนื่อง และในระหว่างนั้น นานายังคงยิงธนูสร้างดาเมจอย่างต่อเนื่อง เมื่อจบสิบสอง คอมโบเข็มจึงต่อจังหวะ

“โหมดร่างอัคคี !! ย่าห์” เข็มวราระเบิดพลังของตนเอง และพุ่งต่อยคราเคนให้ยังคงลอยอยู่กลางอากาศไม่ให้เขาได้พัก พร้อมกระโดดตามขึ้นไป

“Shotgun Punch !!” เข็มวัวหมัดที่ปกคลมไปด้วยเปลว เพลิงชกใส่คราเค่น ทุกหมัดที่เธอชกนั้นทั้งแม่นยำและ รวดเร็วทําให้อีกฝ่ายไม่สามารถตอบสนองได้ทัน เมื่อหมด คอมโบเธอชกร่างร่างของเขาลงสู่พื้นอีกครั้ง

“ตอนนี้แหละค่ะคุณพีระ !!” เข็มตะโกนตามร่างที่ปลิวลง ไปด้านล่าง ซึ่งพีระกำลังยืนรอต่อจังหวะอยู่แล้ว เขาแยก ร่างตนออกทั้งหมดหกร่าง รวมตัวเขาก็เป็นเจ็ดร่าง

“ระบำเงาสังหาร – ซากุระเจ็ดกลีบ !!” ร่างเงาทั้งเจ็ดพุ่งเข้า ใส่คราเด่นทุกทิศทาง เมื่อแต่ละเงาโจมตีร่างเสร็จแล้วเงา จะหายไป โดยพีระร่างจริงกำลังยืนนิ่งอยู่ มือขวาเอื้อมไป จับด้ามดาบคาตานะที่อยู่ด้านหลังของเขา เมื่อเงาสุดท้าย โจมตีเสร็จ เขาจึงพุ่งเข้าไปและดึงดาบออกจากฝักด้าน หลังและฟันอย่างเต็มแรงใส่คราเคนเกิดดาเมจคริติคอล และถีบร่างนั้นให้ปลิวออกไป

Critical 7,472

“สุดท้ายก็ฉันละนะ !!” ฟ้าควบหมาป่าตามร่างที่กำลังปลิวอยู่ เมื่อเธอตามร่างของชายหนุ่มทัน เธอจึงกระโดด จากหลังหมาป่าซอมบี้และต่อคอมโบทันที

“ระบำเคียวแห่งความตาย” ฟ้าควงเคียวฟาดใส่คราเล่นครั้ งแล้วครั้งเล่า เมื่อจบกระบวนท่าสุดท้ายของระบำเคียว ฟ้า ก็ฟาดร่างนั้นให้ปลิวออกไป พร้อมกับต่อคอมโบสุดท้าย ด้วย กระสุนเพลิง สามลูกใส่

เมื่อควันจางลง คราเค่นก็นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เขาหายใจ หอบด้วยความเหนื่อยจากการโดนโจมตีประสานอย่างต่อ เนื่อง ไม่นานนักตัวเลขก็เด้งขึ้นมาแสดงค่าความเสียหาย ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

Total Damage 187,625

บอสดราเค่น ร่างมนุษย์ HP 256,995 / 450,000

“ผมประมาทพวกคุณเกินไปจริงๆ” คราเค่นกล่าว เขา ค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งตอนนี้หลายๆสกิลของทีม Devil Breaker ก็ติดคูลดาวน์อยู่ จึงทำให้ไม่สามารถต่อคอมโบ ได้อีก แต่การประสานครั้งนี้ บวกกับบัพของคานาเลียทำให้สร้างดาเมจที่รุนแรงได้มากพอสมควร

“นี่แค่น้ำจิ้ม น่า” ตุลย์แสยะยิ้มบลัฟซึ่งจริงๆแล้วเขาก็ หายใจหอบพักฟื้นค่าสตามิน่าเช่นกัน

“ประทับใจพวกคุณจริงๆ ครับแต่ผมเองก็ปล่อยให้พวก คุณชนะง่ายๆไม่ได้หรอกนะครับ คราเคนยิ้มอ่อนเขาเอา ฝ่ามือ ขึ้นฟ้า

“ทุกคนครับรีบกระโดดขึ้นที่สูงครับ !!” เอกภพตะโกน เสียงดัง พอดีกับที่มอนสเตอร์บอสเอาฝ่ามือตบลงพื้น ไม่ ถามอะไรต่อสมาชิก Devil Breaker ทุกคนรีบกระโจน ขึ้นไปที่เสา ส่วนทางคานาเลียก็ร่ายสกิลเป็นฟองอากาศ ห้อมล้อมเธอ เจมส์ ภพ และวารีลอยขึ้นเหนือพื้นอย่างช้าๆ ฉับพลันพื้นห้องโถงก็แตกกระจาย น้ำทะเลทะลักเข้ามา ตามรอยแตกของพื้น

‘อีกแล้ว ?’ คราเค่นขมวดคิ้วมองไปยังเอกภพอย่าง ประหลาดใจ ตั้งแต่จังหวะที่เขาเคลื่อนย้ายฉับพลันไป ลอบสังหารวารี และไหนจะจังหวะที่เขาร่ายสกิลเปลี่ยน ภูมิศาสตร์จากพื้นปกติให้กลายเป็นทะเลอีก

“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ’ นี่คือสิ่งที่มอนสเตอร์บอสหนุ่มได้แต่คิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“เกือบไปแน่ะ ขอบใจมากนะภพ นายรู้ได้ไงเนี่ยว่าหมอนี่ คิดจะเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นทะเล” ตุลย์ตะโกนถามผ่าน ช่องแชททีม พลางมองคราเค่นที่ยืนนิ่งอยู่บนผิวน้ำ

“ไว้เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับ” เอกภพตอบ ฟองอากาศ ที่ร่ายโดนคานาเลียเมื่อมาถึงยอดเสาที่ใกล้ที่สุด จึงคลาย ตัวให้ทั้งสี่คนกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง

“จงใจเปลี่ยนพื้นที่เพื่อให้เราเข้าถึงตัวยากสินะ” พีระ วิเคราะห์สถานการณ์

ว้า —— แย่จังเลยนะครับ ไม่งั้นผมคงได้เห็นพวก คุณจมอยู่ในน้ำทะเลซะแล้ว” ชายหนุ่มผมยาวกล่าวด้วย น้ำเสียงสภาพ ลึกๆแล้วเขาพยายามใจดีสู้เสือเพราะเริ่ม ยอมรับแล้วว่าทีม รับมือยากจริงๆ

“ถ้าคิดว่า แค่นี้จะทำให้พวกเราโจมตีลำบากก็ลองดู The Hundred Mach Arrow” นานายิงธนูความเร็วสูงพุ่ง ตรงไปยังศัตรูที่ยืนอยู่ตรงใจกลางของห้องโถง คราเค่น เหลือบมองทิศทางที่ธนูยิงมา เขายกดาบขึ้นเหนือศีรษะ น้าที่อยู่ใต้เท้าเขาก็พุ่งขึ้นมาก่อตัวเป็นบ้านน้ำโอบ รอบด้วชายหนุ่ม มวลน้ำที่หนาแน่นป้องกันไม้ตายของ นานาทําให้ไม่สามารถทะลุเข้ามาได้ แต่ไม่เพียงเท่านั้น น่านน้าค่อยๆก่อตัวเป็นรูปปราสาทสไตล์ยุโรป โดยมีคราเค นอยู่ใจกลางของปราสาทนั้น

“บาน่า หยุดธนูร้อยมัคของฉันได้ง่ายๆ เลยหรือ บานา กล่าวด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเสียเซลฟ์ เป็นอย่างมาก แต่ไม่ปล่อยให้เธอได้ตกใจนักเอกภพ รีบตะโกนเดือนทุกคนอีกครั้ง

“ทุกคนครับร่ายสกิลป้องกัน !! สิ้นเสียงของเอกภพ ทุก คนจึงยอมร่ายสกิลป้องกันแต่โดยดี ซึ่งตรงกับจังหวะที่ จากปราสาทถูกสั่งให้ยิงออกไปใส่ยอดเพลย์เยอร์ที่อยู่ ยอดเสาทุกต้นได้อย่างพอดี

“เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย รู้สึกว่าคุณคนนั้น มีพลังที่รับรู้ สกิลผมได้สินะครับ คราเคนหันไปมองเอกภพ ทุกคนใน ทีมต่างก็มองไปยังเอกภพเช่นกัน ซึ่งพวกเขาเองก็รู้สึก ประหลาดใจกับความพอดีในการเดือนของเอกภพกับการ ร่ายสกิลของอีกฝั่งเช่นกัน ทันทีที่ได้มองไปยังเด็กหนุ่ม ทุกคนก็ตกใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น

ดวงตาข้างขวาของเอกภพที่เคยเป็นสีดำ ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงทับทิมไปแล้ว

โปรดติดตามชมตอนต่อ

ไป…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ