บทที่ 7 ใครจะคลอดบุตร
เฉียนหลันนึกไม่ถึงว่าตัวเองกลับเป็นคนที่มาหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ นางจึงหันไปมองเย่หลิงอย่างโหดเหี้ยม แต่พอสบตากับสายตา ที่เหมือนดั่งหมาป่าที่หิวโหยของนาง จึงรู้สึกกลัวจนสั่นเทา แล้ว หันหลังเดินจากไป
นึกไม่ถึงว่าเหลิงที่สามีเคยบอกว่าเก็บกลับมานั้น แถมยัง เป็นคนในภูเขาอีก นี่ไม่ใช่ว่าเก็บปิศาจกลับมาหรอกนะ?
พอเห็นแต่ละคนเดินจากไปแล้ว เย่หลิงจึงกลอกตามองบน และเป็นจังหวะที่จางเสี่ยวหวาที่เดินผ่านมาพอดี จนถึงกลับสะดุ้ง ตกใจ จึงรีบเข้ามาถามทันที “สาวน้อย เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?
เย่หลิงไม่รู้ว่าตอนนี้ในสายตาคนอื่น ตอนที่เห็นนางกลอก ตามองบนกลับเหมือนคนที่กำลังจะอาการกำเริบเป็นลมและชัก
จางเสี่ยวฮวาก็ไม่ได้ตั้งใจมองเย่หลิงไม่ออก ตอนที่ฉินสือวิ่ง และเย่หลิงแต่งงานกันนั้น เย่หลิงก็ถูกสวมใส่ด้วยชุดมงคลที่ เลือกแบบง่าย บนหัวยังปกคลุมด้วยผ้าแดง ใครก็ไม่ได้เห็นว่า หน้าตาเป็นอย่างไร
“ก่อนหน้านี้เหตุใดถึงไม่เคยเห็นเจ้า…..เจ้าคงไม่ใช่…….. 11 จางเสี่ยวหวาลูบที่แขนของเย่หลิงแล้วถึงกับตกใจทันที “เมีย ของสือจิ่งใช่หรือไม่!? ”
ทันใดนั้นเย่หลิงก็เข้าใจแล้วว่าคนที่หมู่บ้านคงจะไม่เคยเห็น ตัวเองมาก่อน พอหลังจากที่พยักหน้า พลางเผยรอยยิ้มที่มีจน เห็นฟันแปด “ท่านคือ? เมื่อวานข้าเพิ่งถึงที่นี่ จึงไม่ค่อยคุ้นเคย กับคนที่นี่”
“โถ่ ข้าคือป้าสะใภ้จางที่อยู่ข้างๆ เอง ทำไมสาวน้อยอย่างเจ้า ถึงผอมเยี่ยงนี้ แบบนี้ไม่ง่ายต่อการมีบุตรนะ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้อง บำรุงร่างกายให้ดีๆ เป็นอย่างแรก” นางตบไหล่เย่หลิงแล้วพูด ด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ
เย่หลิงได้ยินก็พลันสำลักทันที พลางไอไปสองสามที ใคร
ใครจะคลอดบุตรกัน!
“อย่าเห็นว่ามันเป็นเรื่องไม่สำคัญ ผู้หญิงน่ะต้องถือโอกาส ตอนที่ยังสาวคลอดลูกสักสองสามคน…..” ป้าสะใภ้จางเริ่ม เทศนาดั่งเจ้าแม่กวนอิม เป็นการสั่งสมประสบการณ์ที่มีให้กับ เย่หลิง จนทำให้นางสะดุ้งตกใจ พลันรีบเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย ทันที แล้วจึงหันมาคุยเรื่องราวในหมู่บ้านกับป้าเมียจางด้วย สีหน้าที่ดูปกติ
หมู่บ้านหวีนตั้งอยู่ตรงชายแดนเขตทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ แคว้นตาเล่น เป็นของเซินโจว จังหวัดหลัวหยางเหมือนเป็นเขต ของเชินโจว ทั้งหมู่บ้านมีคนอาศัยอยู่ประมาณสองร้อยกว่า หลังคาเรือน ส่วนมากเป็นครอบครัวชาวนาที่ทำงานหลังสู่ฟ้า หน้าสู้ดิน ดังนั้นนอกจากพอฉินเหวินอานได้ร่ำเรียนหนังสือแล้ว จึงทำให้คนมากมายแม้ว่าจะดูถูกฉันต้าไฟและหลิงซื่อ ทว่าก็ยัง คงมีคนที่กล่าวทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มอยู่
และเป็นไปตามคาด ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนปัญญาชนก็มักจะ เป็นคนที่เนื้อหอม เยฝูหลิงกำลังครุ่นคิดอยู่ภายในใจลึกๆ ของ นางยังคงมองว่าฉินเหวินอานไม่ได้เก่งอะไรมาก เพราะคนอย่าง หลังชื่อจะสามารถสอนใคร ให้เป็นปัญญาชนได้?
ถ้าดูจากทุกคนในตระกูลฉินแล้ว ก็คงมีเพียงนางกับฉินสื่อสิ่ง ที่ดูปกติหน่อย
เวลาผ่านไปเร็วแบบไม่รู้ตัว ฉันสื่อสิ่งที่กลับบ้านมาจึงทำให้ พวกนางสองคนต้องจบบทสนทนาลง ซึ่งมาพร้อมกับเหล่าชาย หนุ่มกลุ่มหนึ่งที่น่าจะขึ้นเขามา ชายที่ดูท่าทางอ่อนโยนคนหนึ่ง ทั้งเดินไปด้วยแล้วเอ่ยชมความสามารถในการยิงสัตว์ป่าของฉัน สือจึงไปด้วย
และในจังหวะนี้เย่หลิงถึงได้สังเกตเห็นว่าฉันสือจึงกำลังแบก กวางกลับมาด้วยหนึ่งตัว หัวของกวางถูกเสียบด้วยธนูไม้ ที่ ทำให้รู้เลยว่ามันตาย โดยที่โดนยิงใส่ครั้งเดียว
หลังจากที่ชายหนุ่มมองเห็นป้าสะใภ้จาง ก็เรียก “ท่านแม่” อย่างดีใจ ดูๆ แล้วคนๆ นี้ก็คือบุตรชายของป้าสะใภ้จาง ชื่อสิง
พอเห็นฉันสือจึงใช้สายตานั้นจับจ้องมาที่ตัวเอง เย่หลิงจึง หันข้างแล้วยืนขึ้น “เหนื่อยไหม จะดื่มน้ำหรือไม่?
ป้าสะใภ้จางจึงหัวเราะทันที แล้วเดินเข้ามาตบไหล่ของฉินสื่อ
จิ่ง “เมียของเจ้าช่างรักใคร่และเอ็นดูคนเป็นจริงๆ ”
ชายกลุ่มนั้นที่อยู่รอบข้างฉินสือจึงต่างก็หัวเราะขึ้นมา ทว่าเย หลิงรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้มีความประสงค์ร้ายแอบแฝง
สายตาของฉันสือจึงจึงอ่อนโยนขึ้นมาเล็กน้อย พลางพยักหน้า พูดขึ้น “เมียที่ข้าหมายของ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ