นักรบจอมราชันย์

บทที่ 10 สาวสวยทั้งสองคน!



บทที่ 10 สาวสวยทั้งสองคน!

บทที่ 10 สาวสวยทั้งสองคน!

พอคิดได้ว่าตัวเองหางานได้แล้ว ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี เสียจริง พอนึกได้ว่าเขายังไม่ได้บอกพี่สาวของเขาที จึง รีบหยิบมือถือขึ้นโทรหาเฉินเส่ทันทีอย่างรู้สึกผิด

“เกิดอะไรขึ้นล่ะ? ถึงได้โทรมาหาให้ขอให้ฉันช่วย คิดได้ แล้วใช่ไหมว่าจะมาทํางานกับฉันน่ะ?” ยังไม่ทันทีหยางล่อ จะได้พูดอะไร คนจากอีกฝั่งก็ระดมพูดมาเป็นชุด

หยางล่อเองก็รู้ว่าเฉินเส่เป็นห่วงตัวเขาเอง จึงรีบพูดขึ้น “นี่พี่ ผมหางานได้แล้วนะ ผมก็เลยโทรมาบอกข่าวดีให้ฟัง น่ะ”

พอเฉินเสได้ยินว่าเขาหางานได้แล้ว ก็ไม่ได้แสดง ความรู้สึกดีใจอะไรเหมือนอย่างที่เขาคิด จนกระทั่ง เงียบไปหลายวินาที จนรู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันจะ กระอักกระอ่วนเกินไปแล้ว เฉินเส่ก็กระแอมขึ้น ก่อนจะ รีบพูด “ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีด้วยนะ แล้ววันนี้เที่ยงว่างหรือ เปล่าล่ะ? ไปทานข้าวด้วยกันสิ จะได้แนะนำน้องสาวของ ฉันให้รู้จัก”

“น้องสาวของพี่งั้นหรือ? นี่พี่มีน้องสาวด้วยหรือเนี่ย?” หยางล่อไม่เคยรู้มาก่อนเลย พอคิดถึงรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นของเฉินเสก็คิดไปถึงว่าน้องสาวของเธอก็ไม่น่าที่ จะต่างกันมากนักหรอก

“ก็ใช่น่ะสิ ก่อนหน้านี้เธอไปเรียนที่ต่างประเทศตลอด ตอนนี้กลับมาจากต่างประเทศแล้ว แล้วจะมาช่วยงานที่ บริษัทฉันเนี่ยล่ะ” เฉินเส่พูดอย่างจริงจัง

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ไว้เจอกันที่ประตูหน้าบริษัทตอน เที่ยงนะครับ” พูดจบหยางล่อก็วางสาย พลางปิดปากหรือ เรียกรถคันหนึ่งให้ไปส่งที่บริษัทการ์เม้นท์คนเสน่ห์

เพียงไม่นาน ผู้หญิงทั้งสองคนที่มีท่าทางน่าหลงใหลก็ เดินออกมาจากบริษัท หยางล่อที่ยืนอยู่ไกลก็สังเกตได้ จากรูปร่างบรรยากาศของผู้หญิงทั้งสองคน

รูปร่างที่สูงร้อยเจ็ดสิบ สวมรองเท้าส้นสูงสีดำย่างกราย มา เธอสวมเสื้อเชิ้ตคอปกสีขาว สวมกระโปรงยาวสีดำ ขลับ ชายเสื้อเชิ้ตของเธอนั้นใส่อยู่ในกระโปรง รูปร่าง ของเธอดูอ่อนช้อยงดงามอย่างมาก แค่สวมชุดง่ายๆ ก็ เผยให้เห็นร่างกายที่น่าหลงใหลได้อย่างไม่ต้องสงสัย หน้าอกที่ดูสมบูรณ์ เอวที่เรียวบาง ประกอบด้วยใบหน้าที่ แต่งแต้มเครื่องสำอางจางๆ ที่สวยงามนั้นอีก ผมหยักศก ที่ปล่อยคล้อยลงมาทั้งสองข้างรวมถึงด้านหลังของเธอ กลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดิออร์บนร่างกายของเธอมันช่างทำให้ เธอดูสง่ามากขึ้น
รูปร่างที่ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด ท่าทางสีหน้าที่ดูสุภาพ เรียบร้อยและเยือกเย็น ดูเพียบพร้อมเป็นที่สุด

“พี่สาวเส่ บรรยากาศรอบตัวพี่นี่มันดูสวยสง่าจริงๆ เลย นะ” ยังไม่ทันที่เฉินเส่จะเดินเข้ามาใกล้ หยางล่อก็เริ่มพูด ประจบทันที

“เธอเลิกพูดจามั่วซั่วใส่พี่สาวของนายได้แล้ว ฉันเอง ก็เป็นหญิงมีอายุแล้วนะ…ถ้าอย่างนั้นฉันขอแนะนำน้อง สาวให้รู้จักนะ เธอชื่อด้ายเสี่ยวหลิง เพิ่งจะกลับมาจาก ประเทศอังกฤษ”

หยางล่อพลางจ้องมองไปที่ด้ายเสี่ยวหลิง เธอดูสวยงาม น่าดึงดูดอย่างมาก ถ้าไม่ถูกบรรยากาศที่แข็งแกร่งของ เฉินเสกดทับไว้ล่ะก็นะ แต่ความงามของเธอก็ยังไม่ลด หายไป ผิวหนังที่ขาวผ่อง รูปร่างที่สูงเพรียว ใบหน้าที่ วิจิตรอ่อนช้อย

“นายคงจื่อหยางล่อใช่ไหม? ฉันได้ยินพี่สาวของฉันพูด ถึงนายบ่อยๆ น่” ด้ายเสี่ยวหลิงยื่นนิ้วมือที่ดูเรียวยาวดั่ง หยกขาวบริสุทธิ์ออกไป

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณพี่สาวเส่มากจริงๆ นะครับ เนี่ย ไปกันเถอะ พวกเราไปหาอะไรกินกันดีกว่า” ตอนนี้ ท้องของหยางล่อหิวจนร้องโครกครากแล้ว
หลังจากนั้น หยางล่อก็ขับรถบีเอ็มดับบลิวของเฉินเส่ไป ทันที

จริงๆ แล้วถึงแม้เฉินเส่จะเป็นถึงประธานของบริษัทการ์ เม้นท์คนเสน่ห์ แต่เธอก็ทำตัวเงียบๆ มาโดยตลอด รถบีเอ็ มดับบลิวนี้ก็เป็นรถที่เฉินเสใช้มาทํางานบ่อยๆ ส่วนรถล้ม โบกินีที่เธอมีอยู่นั้น ปรกติแล้วเธอไม่ค่อยจะเอาออกมา ใช้หรอกนะ

“แล้วพวกเราจะไปกินข้าวที่ไหนกันดีล่ะเสี่ยวหลิง?” พอ ท้องหิว เฉินเสก็อดไม่ได้ที่จะหันไปถามด้ายเสี่ยวหลิง

ด้ายเสี่ยวหลิงเองก็พูดขึ้น : “ฉันกินอะไรก็ได้ค่ะพี่ หรือ ไม่พี่ก็ลองถามหยางล่อดีกว่านะคะ”

“หยางล่อพวกเราจะไปกินข้าวที่ไหนกันดีล่ะ?” เฉินเสี่ หันหน้ามาถามเขา

หยางล่อก็ยักไหล่แล้วพูดขึ้น : “ผมไปกินอะไรก็ได้ เพราะอย่างไรพี่ก็เลี้ยงอยู่แล้วนี่นะ จะอาหารทะเลหรูๆ บุฟเฟ่ต์อะไรผมก็ไม่ปฏิเสธหรอก”

“อะไรนะ? เธอต้องเลี้ยงฉันสิ!”

พอได้ยินหยางล่อพูดแบบนั้น เฉินเส่ก็ถามเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาพูดว่าถ้าหางานได้จะพาไปเลี้ยง ข้าวหรือไง? สุดท้ายก็ขี้โกหกทั้งเพ

หยางล่อเองก็ยิ้มพูด ; “มันก็ธรรมดาอยู่แล้วนี่พี่ พี่เป็นถึง ประธานบริษัทนะ เพราะฉะนั้นพี่ก็ต้องเลี้ยงผมที่เป็นแค่ ครูสอนศิลปะป้องกันตัวเล็กๆ คนนี้สิครับ”

“หยางล่อความหมายของพี่ก็คือให้นายเลี้ยงนะ นี่นาย เป็นผู้ชายนะ!” ด้ายเสี่ยวหลิงยิ้มพูด

หยางล่อเองก็กลอกตามองแล้วพูดขึ้น : “ใครตั้งกฎเรื่อง ผู้ชายผู้หญิงนี่กัน? จะให้ผู้ชายเลี้ยงตลอดไปเลยงั้น หรือ?”

“หือ?” ด้ายเสี่ยวหลิงนึกไม่ถึงเลยว่าหยางล่อจะพูดแบบ นี้ เธอจึงพูดอย่างดูถูกหน่อยๆ : “หยางล่อนายไม่ควรจะขึ้ งกแบบนี้นะ แม้แต่มื้อเดียวก็เลี้ยงพวกเราไม่ได้เลยหรือ?”

หยางล่อพูดพลางทำหน้าโศกเศร้า : “ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอม เลี้ยงนะ แต่ตัวของผมมันไม่มีเงินเหลือเลยสักบาทนี่สิ ผม ก็อยากจะเลี้ยงนะ แต่มีแค่ใจไม่น่าจะพอนะ!”

ชิ! ด้วยคำพูดของหยางล่อแบบนี้ ด้ายเสี่ยวหลิงแทบจะ ไม่เชื่อเลยแม้แต่นิด ยุคนี้ยังมีคนที่ไม่มีเงินติดตัวเลยสัก บาทอีกหรือ?
เฉินเสพูดขึ้น : “เสี่ยวหลิงไม่ต้องพูดแล้วล่ะ หยางล่อก็ขึ้ งกแบบนี้ล่ะ พี่ว่าไปถอนขนไก่ยังดูง่ายกว่าการทำให้เขา ยอมเลี้ยงพวกเราเสียอีก”

“ฮ่าๆๆๆ!” หยางล่อหัวเราะเสียงลั่น : “พี่สาวเส่ พี่อย่าง พูดจาใส่ร้ายผมแบบนี้สิ พี่เป็นถึงประธานบริษัทการ์เม้นท์ คนเสน่ห์ที่มีมูลค่าเป็นพันล้านเลยนะ แค่เลี้ยงผมมื้อเดียว ขนหน้าแข้งพี่ไม่ร่วงหรอก” หยางล่อพูดกับเฉินเส่ เขาไม่ เคยพูดให้สุภาพมาก่อนเลย

“ไปตายซะเหอะไป!” เจอกับคนที่เกียจคร้านอย่างหยาง ล่อแบบนี้ เฉินเส่เองก็จนปัญญาจริงๆ

ขณะที่ทั้งสามคนต่างส่งเสียงอึกทึกครึกโครมกันอยู่นั้น ที่ด้านหลังของพวกเขาก็มีรถโตโยต้าคันหนึ่งตามพวกเขา มา

หยางล่อเองก็สังเกตเห็นได้ถึงรถโตโยต้าคันนั้น แต่เขา ทำเป็นเหมือนว่าไม่เห็น

“มาแล้วหรือเนี่ย? คิดไม่ถึงเลยนะว่าจะลงมือเร็วขนาด นี้!” หยางล่อแอบพึมพำกับตัวเองในใจ หลังจากนั้นสิบ นาที เฉินเส่ก็ขับรถมาจอดที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งพอดี

“ฮ่าๆๆ พี่สาวเส่ คิดไม่ถึงเลยนะครับเนี่ย ว่าครั้งแรกพี่ก็ พาผมมาเลี้ยงโรงแรมห้าดาวแบบนี้แล้ว ดูเหมือนว่าพี่จะดูแลผมดีจริงๆ เลยนะครับเนี่ย” หยางล่อหัวเราะเสียงลั่น

เฉินเส่เห็นดังนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก : “อย่ามั่นอก มั่นใจเกินไปล่ะ ฉันแค่พามาเลี้ยงต้อนรับเสี่ยวหลิงเท่านั้น ไม่ง่ายเลยที่เธอจะกลับมา ฉันก็ต้องเลี้ยงข้าวเธอดีๆ แน่นอนอยู่แล้ว”

“จะเลี้ยงใครก็เหมือนกันนั่นแหละครับ ขอแค่มีของกินก็ โอเคแล้ว” หยางล่อพูดขึ้น

เฉินเส่ขี้เกียจจะไปสนใจหยางล่อต่อ เธอจึงหันไปพูดกับ ด้ายเสี่ยวหลิงว่า : “พวกเราเข้าไปกินข้าวกันเถอะเสี่ยว หลัง!”

“อืม ค่ะ!” ด้ายเสี่ยวหลิงพยักหน้าหง็ก ก่อนที่จะเดินตาม เข้าไปในโรงแรม

ขณะที่หยางล่อกำลังเตรียมจะเดินเข้าไปนั้น เขาก็เห็น รถโตโยต้าที่ตามเขามานั้นหยุดลง

หยางล่อยังไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามมีเป้าหมายอะไรกันแน่ ดัง นั้นจึงยังไม่แหวกหญ้าให้ตื่น

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการใช้บริการอะไรดี คะ?” ขณะที่หยางล่อเดินเข้ามาในโรงแรม ก็มีพนักงานเดินออกมาต้อนรับทันที

แต่สิ่งที่เห็นคือเฉินเส่หยิบบัตรสมาชิกไดมอนด์ออกมา แล้วพูดขึ้น : “ช่วยเปิดห้องอาหารให้พวกเราหน่อย!”

พอพนักงานคนนั้นเห็นบัตรสมาชิกไดมอนด์ในมือของ เฉินเส่ ก็แสดงสีหน้าที่นอบน้อมขึ้นกว่าเดิม บัตรสมาชิก ไดมอนด์นี้ไม่ใช่บัตรที่คนธรรมดาจะมีไว้ในครอบครอง ได้ บัดนี้ไม่ใช่แค่แสดงถึงสัญลักษณ์ฐานะและความ ร่ำรวยเท่านั้น เพราะฉะนั้นการที่เฉินเส่นำเอาบัตร สมาชิกไดมอนด์ออกมาก็แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดาอย่าง แน่นอน

“เสี่ยวเล่!”

ขณะที่ทุกคนต่างก็รอจะกินอาหารกันนั้น พลันมีผู้ชาย ใส่ชุดสีดำ อายุประมาณยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปีโผล่มาหาพวก เขาทันที ผู้ชายคนนั้นดูหล่อเหลาอย่างมาก จนดูเหมือน เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวในใจของผู้หญิงหลายๆ คนเลย

พอเฉินเส่มองเห็นผู้ชายคนนั้นก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด : “เฉินเฉิง ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้วนะ ว่าอย่าเรียกฉัน ว่าเสี่ยวเส่ ฉันกับคุณไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะคะ หลัง จากนี้ก็รบกวนเรียกชื่อเต็มฉันด้วยนะคะ ว่าเฉินเส่ค่ะ”
พลันด้ายเสี่ยวหลิงก็เข้ามากระซิบที่ข้างหูของหยางล่อ : “หยางล่อ เฉินเฉิงคนนี้เป็นคุณชายใหญ่ของบริษัทเจียง เฉิงน่ะ เขาชอบพี่สาวฉันมาตลอดเลย เหมือนว่านายจะ ได้เจอศัตรูคู่หัวใจของนายครั้งแรกแล้วล”ะ”

พอได้ยินแบบนั้น หยางล่อก็เบะปากทำหน้ามุ่ย กล้ามา แย่งผู้หญิงของเขางั้นหรือ เจ้าเฉินเฉิงนี่เหมือนกับมาฆ่า ตัวตายชัดๆ

แต่ถึงท่าทางของเฉินเส่จะเป็นแบบนั้น แต่เฉินเฉิงก็ยัง ยิ้มโดยที่ไม่โกรธเลยแม้แต่นิดเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ