นักรบจอมราชันย์

บทที่ 3 ถูกซ้อม!



บทที่ 3 ถูกซ้อม!

บทที่ 3 ถูกซ้อม!

หลินเย่เองก็คิดไม่ถึงว่าแค่สถานที่จัดหาคู่ดีๆ แบบนี้ ทําไมต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย อีกอย่างกิจกรรมที่ กำลังจัดกันอย่างคึกคักตรงนั้นเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะได้รับ ผลกระทบอะไรจากตรงนี้เลย จึงทำให้หลินเย่นิ่งเงียบไป

โครม! พอเห็นว่าวัยรุ่นหัวทองนั้นกล้าลงมือกับตัวเอง สีหน้าของหยางล่อก็สงบนิ่งลง พลางใช้มือขวาออกแรง บิดไปทีหนึ่ง

อ๊าก! ชั่วขณะนั้นวัยรุ่นผมทองก็ส่งเสียงร้องโหยหวน เหมือนหมูที่โดนเชือด ข้อมือที่ถูกหยางล่อจับไว้ก่อนหน้า นี้ถูกบิดจนหัก

เปรี้ยง! หยางล่อออกแรงเตะวัยรุ่นผมทองนั้นโดยไม่ รอให้เขาได้ตอบสนองอะไร พลันวัยรุ่นผมทองคนนั้นก็ กระเด็นไปไกล

ปัง! พอได้ยินเสียงที่คาดไม่ถึงแบบนี้ ทำไมให้กิจกรรมที่ กำลังครึกครื้นอยู่ตอนนี้หยุดลงทันที

ทุกคนต่างก็หันมามองหยางล่อเป็นตาเดียว คิดไม่ถึง เลยว่าจะมีคนกล้าทะเลาะกันที่นี่ ที่กิจกรรมหาคู่เลือกจัดที่นี่ก็เป็นเพราะที่นี่มีคนอยู่เยอะ ไม่น่าจะมีคนก่อเรื่อง ได้ง่ายๆ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำให้คนจัดงานเสียหน้าเป็นอย่างมาก

“ใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่กัน?!” ขณะนั้นเองก็มีกลุ่มนักเลง หัวไม้ประมาณสิบกว่าคนโผล่ออกมา หนึ่งในกลุ่มนักเลง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่มีรอยบากบนใบหน้า อีกทั้งหน้าตาที่ หยิ่งยโสเดินออกมาจากกลุ่มนั้น

พอมองเห็นผู้ชายที่มีรอยบากนั้น ทุกคนในคาเฟ่ต่างก็ แสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาทันที

“พี่หู่ พี่ต้องแก้แค้นให้ผมนะ!” พอวัยรุ่นผมทองเห็นหน้า ผู้ชายที่มีรอยบากคนนั้นก็คลานไปหาเขาหางจุกตูด

ผู้ชายคนนั้นมีชื่อว่าว้างหู เขาเป็นคนที่คอยคุมงานที่นี่ ถือว่าเขาพอจะมีชื่อเสียงในเมืองเจียงเฉิงอยู่บ้างเล็กน้อย ไม่ว่าพวกสถานบันเทิงอย่างเช่นพวกบาร์หรือว่าไนต์คลับ ก็มักจะต้องการคนพวกนี้คอยคุมอยู่เสมอ

อีกอย่างถ้าสถานบันเทิงพวกนี้ไม่มีคนคอยคุมอยู่ล่ะก็ คงยากที่จะเปิดได้แน่ๆ เพราะมักจะมีพวกกุ๊ยมาก่อเรื่อง อยู่บ่อยๆ เพราะแบบนั้นเถ้าแก่ของบาร์ต่างๆ จึงต้องจ้าง นักเลงพวกนี้มาคอยคุมเอาไว้ ทุกๆ เดือนต้องนำของไป ให้เหมือนกับเครื่องบรรณาการนั่นล่ะ แล้ววัยรุ่นผมทองนี้ ก็เป็นคนของว๊างหูคนนี้ด้วย
“วัยรุ่นผมทอง เล่ามาซิว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” พอเห็นสภาพที่น่าเวทนาของวัยรุ่นผมทองนี่ ว้างหูถามขึ้น อย่างเยือกเย็น

วัยรุ่นผมทองคนนั้นใช้มือชี้ไปที่หยางล่อก่อนจะเช็ด ขี้มูกกับน้ำตาไปด้วย : “พี่หู่ เขานั่นล่ะครับ เพิ่งจะทําร้าย ผม”

พอได้ยินวัยรุ่นผมทองบอกแบบนั้น ว๊างหูก็จ้องไปที่ พอ หยางล่อพลางถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย : “นี่ไอ้หนุ่ม นายเป็นคนต่อยคนของฉันงั้นหรือ?”

สีหน้าของหยางล่อแทบไม่มีความหวาดกลัวใดๆ เลย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับว้างหูที่หยิ่งยโสคนนี้ พลางพูดขึ้น : “ใช่แล้ว!”

“มาต่อยคนของฉันในที่ของฉันอีก ฉันว่านายหาเรื่อง ตายมากเลยนะ!” พอฟังคำพูดของหยางล่อแบบนั้น ว้างหู ก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความเดือดดาลออกมา

“งั้นหรือ? แล้วนายว่าคิดว่าอย่างไร?” หยางล่อได้ยิน แบบนั้นก็หัวเราถาม

ขณะนั้นเองว้างหูก็หันไปเห็นหลินเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆ หยาง ล่อ พอเขาได้เห็นเธอแล้วแววตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ว้างหูเองก็เป็นคนเจ้าชู้ มั่วสุมกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่กับผู้หญิงที่ดูใสบริสุทธิ์อย่างหลินเย่นี่ เขาก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก ทำให้ใจของเขาอดไม่ ได้ที่จะรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วพูดขึ้น : “ไอ้หนุ่ม แค่นายมอบน้องสาวข้างๆ นายคน นั้นมาให้ฉัน ฉันก็จะให้อภัยแล้วกันนะ นายว่าอย่างไร ล่ะ?”

พอได้ยินว้างหูพูดแบบนั้น หลินเย่ก็รีบเข้าไปหลบหลัง หยางล่อด้วยความหวาดกลัวทันที หลินเย่เองก็ไม่ได้โง่ เธอรู้ดีว่าในมือของว้างหูคงมีแต่เรื่องไม่ดีเป็นแน่

หยางล่อเห็นแบบนั้นก็หัวเราะขึ้นถาม : “ถ้าหากฉันไม่ ยอมล่ะ?” ถึงแม้ว่าหยางล่อจะยิ้มอยู่ตลอด แต่สายตา ของเขากลับดูสงบเยือกเย็นลงอย่างช้าๆ

พลันว้างหูก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ : “ถ้าหากว่านาย ไม่ยอมล่ะก็ วันนี้ก็อย่าได้คิดออกไปจากที่นี่เลย”

“เฮอะ!” หยางล่อแค่นเสียงออกมา : “งั้นหรือ? ฉันล่ะ อยากเห็นจริงๆ ว่านายจะทำให้ฉันออกไปไม่ได้อย่างไร กัน?”

“นายนี่มันอวดดีจริงๆ เลยนะ ดูเหมือนว่าไม่เห็นโลงศพ จะไม่หลั่งน้ำตาสินะ” พอเห็นว่าหยางล่อไม่มีท่าทีหวาด กลัวเลย จึงทำให้สีหน้าของว๊างหูเปลี่ยนไปเป็นฉุนเฉียว ขึ้น จากนั้นเขาก็โบกมือขึ้นพูด : “ลงมือเลย เอาให้มันรู้ว่านี่มันถิ่นใคร!”

“โจมตีเลย!” พอสิ้นคําพูดของว้างหูก็เห็นเหล่านักเลง กว่าสิบคนพุ่งไปทางหยางล่อทันที

“พวกเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ หยางล่อ?” พอเห็นพวก นักเลงที่กำลังพุ่งเข้ามา สีหน้าของหลินเย่ก็อดจะฉายแวว ความหวาดกลัวออกมาไม่ได้ พลันเธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ถ้ารู้ว่าวันนี้จะเป็นแบบนี้คงไม่มาหรอก แล้วก็คงไม่ต้อง เกิดเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย ฝ่ายตรงข้ามเยอะขนาดนี้เธอ เองก็ไม่เชื่อว่าหยางล่อแค่ตัวคนเดียว จะรับมือไหว

หยางล่อตบเข้าไปที่หลังมือของหลินเย่เบาๆ แล้วยิ้ม พูด : “คุณวางใจเถอะนะ มีผมอยู่ทั้งคน ไม่มีใครทำร้าย คุณได้หรอก”

“หยางล่อ!” พอได้ยินเขาพูดแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ความรู้สึกหวาดกลัวที่หลินเย่มีก็หายไปหมด จนมีแต่ ความรู้สึกปลอดภัยที่ปกคลุมเธอไปทั้งร่างกาย เธอไม่รู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ที่เธอรู้แน่ๆ ก็คือพวกนักเลง เหล้านั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของหยางล่อเลยแม้แต่นิด

ชั่วขณะที่หยางล่อกำลังพูดกับหลินเย่นั่นเอง ก็เห็น นักเลงสองคนกำลังยกหมัดพุ่งมาทางเขา
“ในเมื่อแกรนหาที่ตาย จะมาโทษฉันไม่ได้นะโว้ย!” เห็น แบบนั้น หยางล่อก็พูดขึ้นด้วยแววตาเยือกเย็น

ปัง! โครม!

สิ่งที่เห็นคือหยางล่อกำหมัดทั้งสองข้างพุ่งไปข้างหน้า ชั่วขณะนั้น นักเลงทั้งสองคนก็ถูกต่อยจนลอยกระเด็นไป

หลังจากที่นักเลงทั้งสองคนนั้นกระเด็นไป หยางล่อก็ พุ่งไปหาพวกนักเลงเหล้านั้นราวกับหมาป่าที่ไล่ฝูงแกะ อย่างไรอย่างนั้น

ปัง! โครม! ตูม!

ตอนนี้ได้ยินเสียงเพียงแค่หยางล่อต่อยพวกนักเลงนั้น กระเด็นไป จนเกิดเสียงดังโครมครามไม่หยุด

หยางล่อลงมืออย่างรุนแรงจนหลังจากที่พวกเขา กระเด็นกระดอนไปนั้น กระดูกของทุกคนก็หักหมดจน แม้แต่จะยืนยันไม่ได้

แค่ชั่วพริบตาเดียว นักเลงหัวไม้สิบกว่าคนก็ถูกหยางล่อ อัดลงไปนอนกองกับพื้นจนหมด
หยางล่อยืนฟังพวกนักเลงนั้นร้องโหยหวนอย่างไม่รู้สึกรู้ สาอะไร

” พอเห็นความโหดร้ายของหยางล่อแบบนี้ “istu……” ทำให้คนทั้งหมดที่อยู่ต่างก็ตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ ถูก โดยเฉพาะหลินเย่ที่ตอนนี้สีหน้าของเธอเต็มไปด้วย ความเลื่อมใส เธอคิดไม่ถึงเลยว่าฝีมือของหยางล่อจะ เก่งกาจแบบนี้

“คุณเก่งจังเลยหยางล่อ!” เดิมทีหลินเย่คิดว่าตัวเอง ต้องตายอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้กลับพบว่านักเลงพวกนั้น เหมือนจะไม่ใช่คู่มือของหยางล่อเลยแม้แต่น้อย

ว้างหูเองก็ตะลึงกับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างทำอะไร ไม่ถูก จนอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ว้างหูเองก็คิด ไม่ถึงว่าหยางล่อคนนี้จะเก่งกาจขนาดนี้ จนทำให้เหงื่อ กาฬไหลท่วมเต็มตัวเขาหมด

“เหอะๆ ไม่ใช่ว่านายจะทำให้ฉันออกไปจากที่นี่ไม่ได้ หรือ?” หลังจากที่ส่งพวกนักเลงสิบกว่าคนนั้นลงไปกอง หยางล่อก็เดินเข้าไปหาว้างหูทีละก้าวด้วยรอยยิ้มที่เยือก เย็น

พอเห็นว่าหยางล่อกำลังเดินเข้ามาหาเขา ว๊างหูก็รีบพูด ขึ้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว : “นี่สหาย มีอะไรก็พูดจากันดีๆ ก่อนเถอะนะ”
เหอะ!

พอได้ยินคำพูดนั้นของว้างหู หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะ แค่นเสียงดูถูกออกมา บางคนก็เป็นเสียแบบนี้ ถ้าเกิด ไม่ยอมอยู่ในโอวาทเขา เขาก็จะทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้า ตลอด ขอเพียงแค่ทำให้เขายอมเชื่อฟัง แค่นั้นก็เขาก็จะ ทำตัวก้มหัวตามหลังต้อยๆ เหมือนกับหลานสนิทเลยล่ะ

“ไม่มีอะไรดีๆ พูดหรอก วันนี้ฉันจะให้นายได้ลองความ เก่งกาจของฉันซะบ้าง!” พูดจบ หยางล่อก็พุ่งเข้าไปอัด ว้างหูทันที

“ช่วยด้วย!”

พอได้เห็นความเก่งกาจของหยางล่อแล้ว ว้างหูก็ไม่กล้า ที่จะต่อต้านเขาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งพอได้ฟังเสียงร้อย โหยหวนของว้างหู คนทุกคนในคาเฟ่ก็มองไปที่หยางล่อ ด้วยสีหน้าหวาดกลัว ทุกคนคิดไม่ถึงเลยว่าหยางล่อคน นี้จะดุร้ายถึงขนาดนี้ แค่แป๊บเดียวก็อัดว้างหูคนนั้นจนน่า เวทนาแบบนี้

“แบบนี้ค่อยยังชั่วขึ้นเยอะเลย!” หยางล่อนวดหมัดของ ตัวเองไป พลางพูดขึ้นอย่างสดชื่น

ตอนนี้เห็นเพียงว้างหุ่นอนอยู่กับพื้นอย่างน่าเวทนา ทั้ง หน้าทั้งจมูกที่ถูกอัดจนบวมเหมือนกับหัวหมู จนมองไม่ออกเลยว่าเป็นคนที่หยิ่งยโสเมื่อครู่นี้เลย

“คุณเก่งมากๆ เลยหยางล่อ!” พอเห็นว่าหยางล่ออัดว้าง หู่ซะอยู่หมัดแบบนั้น หลินเย่ก็วิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่น เต้นดีใจ หลินเย่ในตอนนี้จ้องไปที่หยางล่อราวกับว่ากำลัง คลั่งไคล้ในตัวเขาอย่างไรอย่างนั้น

“อ้าว แล้วคุณจะมาดูผมทำไมล่ะเนี่ย?” พอเห็นว่าหลิน เย่จ้องตัวเองมาตลอด หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

สีหน้าของหลินเย่ตอนนี้เต็มไปด้วยความเลื่อมใสเขา อย่างมาก : “หยางล่อคิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะเก่งขนาด

พอเห็นว่าหลินเย่พูดได้แบบนี้ หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะ ยิ้มขึ้น พอคิดถึงคำพูดของวัยรุ่นผมทองเมื่อสักครู่นี้ที่ บอกว่า หลินเย่คืออาจารย์ของโรงเรียนกังฟูฉี่หาง หยาง ล่อก็ยิ่งรู้สึกสดชื่นเข้าไปใหญ่ เขาไม่เคยเล่นสนุกกับ อาจารย์มาก่อนเลยนี่นะ ไม่สิ เขาไม่เคยเรียนกับอาจารย์ มานานแล้วต่างหาก

ในเมื่อมีโอกาสแล้ว เขาต้องหาเวลาเรียน หาเวลาแลก เปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างกับอาจารย์คนนี้แล้วล่ะ แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่โอกาสหรือไง ฉันคิดออกแล้ว แล้วนายล่ะคิด ออกหรือยัง?หยางล่อรู้สึกได้ว่าตัวเองนี่เป็นเจ้าความคิดจริงๆ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ