นักรบจอมราชันย์

บทที่ 7 แค่สามกระบวนท่า



บทที่ 7 แค่สามกระบวนท่า

บทที่ 7 แค่สามกระบวนท่า

หยางล่อไม่คิดมาก่อนเลยว่าพละกำลังของอาจารย์ สอนศิลปะป้องกันตัวของโรงเรียนกังฟูฉี่หางจะแข็งแกร่ง ขนาดนั้นเชียว? ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงอย่างว้างเสี่ยวเสี่ยว หรือว่าหลินเย่นี่ก็ไม่มีประโยชน์แบบนั้นสิ?

หยางล่อพลันถามขึ้นอย่างนิ่งเฉย : “แล้วมันอย่างไร ล่ะ?”

พอได้มาเจอกับท่าทางที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรอย่างหยาง ล่อแล้ว ไฟโกรธในตัวของหวางหมิงก็เหมือนถูกจุดให้ลุก โชน ในโรงเรียนศิลปะป้องกันตัวนี้ ยังไม่มีใครสักคนที่ กล้าจะพูดกับเขาแบบนี้เลย ถ้าไม่แสดงอำนาจให้หยาง ล่อนี่เห็นสักหน่อยล่ะก็ หลังจากนี้เขาคงไปควบคุมใครไม่ ได้แน่ๆ

หวางหมิงจึงพูดขึ้น : “เพราะฉะนั้นในฐานะที่นายเป็น ครูของโรงเรียนสอนศิลปะป้องกันตัวแห่งนี้ นายก็ต้องมี ความสามารถอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นจะทำให้ทุกคนเชื่อฟัง นายได้อย่างไร จริงไหม?”

พอได้ฟังแบบนั้นหยางล่อก็ยิ้มถามขึ้น : “แล้วไม่ทราบว่า นายจะทำอย่างไรล่ะ?”
หวางหมิงพลันยืนขึ้นแล้วยิงไปที่หยางล่อด้วยสีหน้า ดูถูก : “ง่ายมาก! มาสู้กับฉัน ขอเพียงนายรับมือฉันได้สิบ หมัด ก็สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนายได้แล้ว”

พรูด! พอได้ยินแบบนั้น เขาก็สำลักจนบุหรี่ที่อยู่ในปาก กระเด็นออกไปทันที คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้ามาท้าสู่ เขาแบบนี้เลย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนมาท้าสู้เขาแบบนี้ล่ะ แต่ตอนนี้คนๆ นั้นอยู่ในหลุมฝังศพจนหญ้าสูงกว่าสาม เมตรแล้วล่ะ!

หยาง อคิดได้แบบนั้นก็มองไปทางหวางหมิงอย่าง ประหลาดใจแล้วพูดขึ้น : “นายแน่ใจน่ะ?”

มองดูท่าทางของหยางล่อแบบนี้แล้ว หวางหมิงก็คิดว่า เขาคงจะหวาดกลัวอยู่แน่ๆ ในมุมมองของหวางหมิง หยาง ล่อไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรของโรงเรียนนี้เลย ดังนั้นก็ เลยยังคงทําตัวเอ้อระเหยจนถึงตอนนี้

“แน่นอนสิ นายกลัวแล้วหรือไง?” หวางหมิงถามขึ้นด้วย สีหน้าเหยียดหยาม

หยางล่อพลันลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไม่พอใจ : “กลัวนั้น หรือ? ที่ฉันกลัวก็แค่ว่าจะลงมือหนักไป จนทำให้นายตาย ก็เท่านั้นล่ะ”
“นี่นาย……….” หวางหมิงคิดไม่ถึงเลยว่าหยางล่อจะพูดจา อวดดีแบบนี้ ทำให้สีหน้าของเขายิ่งฉุนเฉียวมากขึ้นไปอีก

“เลิกพูดอะไรไร้สาระได้แล้วล่ะ ถ้าหากนายกล้าล่ะก็ก็ มาสู้กับฉันเดี๋ยวนี้ ขอเพียงนายรับมือได้สิบหมัด หลังจาก นี้ฉันก็จะไม่ไปยุ่งอะไรนายอีก” หวางหมิงกัดฟันพูด

หยางล่อได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะร่า : “รับมือได้สิบหมัด งั้นหรือ? เอาแบบนี้แล้วกัน ขอเพียงแค่นายรับมือฉันได้ สามหมัดแล้วไม่แพ้ล่ะก็ ฉันก็จะออกไปจากโรงเรียนนี้ ทันที

หือ? หวางหมิงคิดว่าหยางล่อคนนี้คงบ้าไปแล้วแน่ๆ ตัว เองขอให้เขารับมือแค่สิบหมัด แต่หยางล่อกลับมาบอกว่า แค่สามหมัดก็ทําให้เขาแพ้แล้ว แล้วแบบนี้หวางหมิงจะไป อดทนต่อได้อย่างไร

“ได้สิ นายพูดออกมาเองนะ!” พูดจบหวางหมิงก็ก้าวเท้า มาตรงกลางลานของสนามกีฬาทันที

ชิ! พอเห็นหวางหมิงเดินไปแบบนั้น หยางล่อก็ทำสีหน้า ไม่พอใจ ก็แค่จัดการกับครูสอนศิลปะป้องกันตัวแค่คน เดียว ถ้าหากว่าลงมือไปแล้วเขาไม่แพ้ล่ะก็ ฉายาของ หยางล่อที่ว่าเทพประยุทธ์คงต้องเอาไปให้คนอื่นใช้แล้ว ล่ะ
“ทุกคนเงียบหน่อย!” หวางหมิงพูดให้ทุกคนได้ยิน ที่นี่มี นักเรียนอยู่ไม่น้อย ทั้งวิ่ง ทั้งฝึกศิลปะป้องกันตัว แถมยังมี อีกหลายคนที่ชอบแต่งตัวมาอวดกัน ที่ไม่ชอบจะยุ่งอะไร ให้มากเรื่อง พอทุกคนได้ยินหวางหมิงพูดแบบนั้น ทุกคน ต่างก็เงียบลง แล้วค่อยๆ ก้าวมาข้างหน้าทีละคน

เหล่าคณาจารย์ที่อยู่ในโรงเรียน ต่างก็มองมาที่หวางหมิ งด้วยความอยากรู้อยากเห็น

หวางหมิงพลันมองไปทางทุกคนและพูดขึ้น : “ตอนนี้ฉัน ขอประกาศเรื่องๆ หนึ่ง!” พูดปุ๊ป เขาก็มองไปทางหยางล่อ ที่อยู่ข้างๆ : “คนๆ นี้คือหยางล่อ เขาเป็นครูของคนใหม่ ของโรงเรียนแห่งนี้!”

พอรู้ว่าหยางล่อเป็นครูคนใหม่ ทุกคนต่างก็จ้องมาที่เขา

ด้วยสายตาประหลาดใจ

หยางล่อเองก็ยิ้มแล้วหันไปพูดกับทุกคนว่า : “สวัสดีทุก คน ต่อจากนี้ไปพวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้วนะ” พอหยางล่อพูดจบ หวางหมิงก็พูดขึ้นต่อ : “เมื่อสักครู่นี้ อาจารย์หยางเพิ่งจะรับคําท้าของฉันไป บอกว่าจะล้มฉัน ให้ได้ภายในสามหมัด ดังนั้นฉันก็เลยอยากให้ทุกคนเป็น สักขีพยาน ว่าอาจารย์หยางคนนี้จะล้มฉันได้อย่างไร”

“อะไรนะ? หยางล่อจะท้าสู้กับอาจารย์หวางงั้นหรือ?แถมจะล้มเขาให้ได้ภายในสามหมัดด้วย?”

“หยางล่อคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือไง? อาจารย์หวางแก เคยอยู่ในหน่วยรบพิเศษเลยนะ

“ฉันว่าเขามันรนหาที่ตายชัดๆ!”

หลังจากได้ยินว่าหยางล่อจะล้มหวางหมิงภายในสาม หมัด ทุกคนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ แถมยังคิด ว่าหยางล่อคนนี้มันบ้าไปแล้วแน่ๆ ตอนนี้ไม่มีใครมองว่า หยางล่อจะสามารถล้มหวางหมิงได้ภายในสามหมัดเลย เพราะฝีมือของหวางหมิงทุกคนต่างก็รู้อยู่แล้ว ไม่อย่าง นั้นเขามีทางกลายเป็นผู้คุมสอบหลักของโรงเรียนศิลปะ ป้องกันตัวได้หรอก

พอเห็นแบบนี้ หยางล่อก็เข้าใจได้ทันว่าหวางหมิง วางแผนอะไรไว้ หวางหมิงคิดจะล้มเขาต่อหน้าทุกคนให้ ดู หลังจากนั้นก็ทำให้เขายอมแพ้ไปเอง พลันหวางหมิงก็ หันหน้ามาพูดกับหยางล่อว่า : “หยางล่อ ฉันรู้ว่านายพอ มีฝีมืออยู่บ้าง แต่ฉันขอให้นายยอมแพ้จะดีกว่า ไม่อย่าง นั้นฉันก็ไม่กล้ารับประกันหรอกนะว่าฉันจะไปหักไม้หักมือ อะไรของนายบ้าง ถ้าหากฉันทำแบบนั้นเดี๋ยวสีหน้าของ ทุกคนจะดูไม่ดีเอาน่ะ”

หยางล่อได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะร่า : “นายวางใจเถอะ ถ้า หากฉันแพ้นายล่ะก็ เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนาย”

พอได้ยินหยางล่อพูดแบบนั้น หวางหมิงก็เลือดขึ้นหน้า จริงๆ หยางล่อเองก็รู้ตั้งนานแล้ว ที่หวางหมิงพูดแบบนั้น ก็เพียงที่จะตัดเรื่องความสัมพันธ์ออกไปเท่านั้น ในเมื่อ หยางล่อกลายเป็นตัวแทนของทุกคน เท่านั้นหวางหมิงก็ ไม่มีสิ่งให้พะวงใจข้างหลังแล้ว

พอคิดได้ถึงตรงนี้ หวางหมิงก็พูดขึ้น : “ดี ในเมื่อนายไม่ ยอมแพ้ งั้นฉันจะมอบบทเรียนให้นายสักหน่อยแล้วกัน ให้นายรู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่ควรจะยุ่งด้วย”

หยางล่อหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้น : “มาสิ! อย่างที่ฉันพูด ถ้าหากฉันล้มนายไม่ได้ภายในสามหมัด ฉันก็จะออกไป จากโรงเรียนนี้ทันที

“เจ้าหมอนั่นมันจะสู้กับอาจารย์หวางจริงๆ หรือเนี่ย!” พอเห็นว่าหยางล่อกำลังจะสู้กับหวางหมิง ทุกคนก็แสดง สีหน้าประหลาดใจ

“ทุกคนหลีกไป!” พอหวางหมิงพูด ทุกคนต่างก็หลีกทาง ให้เขาทันที

หวางหมิงจ้องไปที่หยางล่อแล้วพูดขึ้น : “ฉันต่อให้ก่อน สามหมัด ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวทุกคนหาว่าฉันใจร้ายกับเด็ก ใหม่มากเกินไป”
“จะลุยก็ลุยเลย จะมาพูดต่อความยาวสาวความยึดอะไร ไปทําไม?” หยางล่อกลอกตามอง ตั้งแต่ต้นจนจบหยาง ล่อก็ทำท่าทางไม่รู้สึกรู้สาอะไรตลอด เขาแทบไม่ได้เอา หวางหมิงอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ

“ในเมื่อนายรนหาที่ตายเอง ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วย สมหวังเร็วขึ้นละกัน!” พอเห็นท่าทางของหยางล่อ หวางห มิงก็เดือดดาลถึงขั้นสุดทันที

จ๊าก!

สิ่งที่เห็นคือหวางหมิงตะโกนร้อง หลังจากนั้นก็มีหมัด พุ่งมาหาหยางล่ออย่างรวดเร็ว ความเร็วหมัดของหวางห มิงนั้นไวมาก แถมยังมีพละกำลัง คิดออกเลยว่าถ้าหยาง ล่อโดนหมัดนั้นเข้าไป อย่างน้อยที่สุดเขาต้องกระดูกหัก อย่างแน่นอน

“อาจารย์หวางดูจะโกรธจริงๆ แล้ว เจ้าหยางล่อได้ตายจริงๆ แน่”

“เจ้าหยางล่ออะไรนี่มันบ้าไปแล้ว ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอา เสียเลย”

“ให้อาจารย์หวางสั่งสอนเจ้านั่นสักหน่อยก็ดี ให้เขาได้รู้ ว่าโรงเรียนของพวกเราไม่ใช่ว่าจะมายุ่มย่ามได้ง่ายๆ”
เห็นหวางหมิงลงมือพุ่งเข้าใส่ หยางล่อ สีหน้าของคน ส่วนใหญ่ก็รู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง หวางหมิงเองก็อยู่ใน โรงเรียนนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ทุกคนต่างก็สนิทกับเขา พูดได้เลยว่าการโจมตีของเขาเหนือชั้นกว่าคนอื่น สมแล้ว ที่เคยอยู่ในหน่วยพิเศษมาก่อน แต่ถึงแม้หวางหมิงจะเคย เป็นทหารในหน่วยพิเศษมาก่อน แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายตา ของหยางล่อเลยแม้แต่นิดเดียว

หยางล่อยืนนิ่งอยู่กับที่ มองดูหวางหมิงพุ่งมาหาเขาด้วย สีหน้านิ่งเฉย พอทุกคนเห็นว่าหยางล่อไม่ขยับเลยแม้แต่ นิด ต่างก็ทำสีหน้าประหลาดใจออกมา

“ไม่ใช่เจ้านั่นมันกลัวหัวหดแล้วหรือไง? ทำไมไม่ขยับ

เลย?” “เหมือนฉันจะเห็นว่าเจ้าหยางล่อนั่นน่าจะกลัวหัวหดแล้ว

จริงๆ นั่นล่ะ

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังขึ้นรอบๆ ทำให้หยางล่อเบะ ปากมอง

พอเห็นว่าหยางล่อไม่ขยับหวางหมิงก็ทำสีหน้าดูหมิ่น ในมุมมองของหวางหมิงแล้ว หยางล่อก็เป็นแค่คนที่ไม่มี ความสามารถเท่านั้น แค่นี้ก็ตกใจกลัวจนขยับไม่ได้แล้ว พลันมุมปากของหวางหมิงก็เผยอยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ แบบนี้จะได้ให้เจ้าหยางล่อนี่ได้ลิ้มรสความเก่งกาจของตัวเองซะบ้าง พลันหมัดก็พุ่งไปที่ส่วนหัวของหยางล่อ อย่างรวดเร็ว

ถ้าหากหยางล่อถูกหมัดนั้นซัดเข้าล่ะก็ ผลลัพธ์ก็คงออก มาอย่างที่ทุกคนคิดนั่นล่ะ แต่หยางล่อคือเทพประยุทธ์ที่ สง่างามเลยนะ เขาจะยอมโดนหมัดนั้นของหวางหมิงได้ อย่างไรกันล่ะ พลันทุกคนสายตาที่เห็นว่าหมัดของหวา งหมิงกำลังจะมาถึงเขานั้น ต่างก็ทำสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง ยามรักษาความปลอดภัยสองคนที่หยางล่อมาทักทาย ด้วยเองก็ส่ายหัว ในมุมมองของพวกเขาแล้ว หยางล่อ ต้องแพ้ราบคาบแน่ๆ

ขณะที่ทุกคนคิดไปแล้วว่าอย่างไรหยางล่อก็ต้องแพ้ แน่ๆ แล้วนั้น ก็เห็นหยางล่อขยับตัว หยางล่อยื่นมือขวา ออกไปฉับพลัน พลางคว้าข้อมือของหวางหมิงเอาไว้ อย่างรุนแรง ชั่วขณะนั้นการโจมตีของหวางหมิงก็ถูกหยุด ไว้โดยสิ้นเชิง

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?” พอเห็นหยางล่อลงมือแบบนั้น ทุกคนที่เห็นต่างก็ตะลึงกันจนอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงเลย ว่าแค่หยางล่อขยับมือแค่นิดเดียวก็หยุดการโจมตีของ หวางหมิงได้แล้ว ความเร็วหมัดของหวางหมิงเองก็ไม่ได้ ช้า ไม่ใช่ว่าคิดจะจับก็จับได้หรอกนะ มันต้องใช้สายตา ความเร็ว พละกำลัง แค่มีสามอย่างนี้ก็สามารถจับข้อมือ ของหวางหมิงไว้ได้แล้ว

“นี่มัน…” พอเห็นว่าข้อมือของตัวเองถูกหยุดไว้หวางหมิงก็สีหน้าประหลาดใจออกมา

ม๊าก!

หวางหมิงตะโกนลั่น พลางใช้กำลังเพื่อที่จะสะบัดให้ หลุดออกจากมือของหยางล่อ

หึๆ! พอเห็นหวางหมิงที่กำลังจะดิ้นรนออกจากมือของตัว เอง หยางล่อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะขึ้น ไม่ว่าหวางหมิงจะ ใช้แรงมากแค่ไหน มือของหยางล่อก็ยังจับข้อมือเขาไว้ แน่น พลันหวางหมิงก็รู้สึกได้ว่า มือของตัวเองเหมือนถูก คีมเหล็กหนีบไว้จนขยับไม่ได้อย่างไรอย่างนั้น

หยางล่อพลันหัวเราะ : “คงพอแล้วล่ะ ถึงเวลาที่ฉันจะ ลงมือแล้ว!” พอพูดจบ สิ่งที่เห็นก็คือหยางล่อบิดข้อมือ

ของเขาทันที

กร๊อบ!

พลันมีเสียงกระดูกหักดังขึ้น สิ่งที่เห็นคือข้อมือของหวา งหมิงถูกหยางล่อบิดจนหักอย่างฉับพลัน!

อ๊าก!
พอข้อมือของตัวเองถูกบิดจนหักแบบนั้น หวางหมิงก็ส่ง เสียงร้องโหยหวนขึ้นมาเหมือนหมูที่โดนเชือด

นี่มัน…….

ขณะนั้นเองทุกคนต่างก็ทำสีหน้าประหลาดใจอย่างมาก ทุกคนคิดไม่ถึงเลยว่าหยางล่อหักข้อมือของหวางหมิง เพียงแค่ท่าแรกเท่านั้น นี่หวางหมิงเคยเป็นถึงคนมีฝีมือ ของหน่วยรบพิเศษเลยนะ!

หยางล่อปล่อยมือของหวางหมิงไปแล้วก็พูดขึ้นอย่าง เย็นชา : “หมัดแรก!”

พอได้ยินคําพูดของหยางล่อแบบนั้น หวางหมิงก็รู้สึก อับอายอย่างมาก ถึงแม้ว่าหวางหมิงจะเจ็บปวดเสียจน เหงื่อกาฬไหลออกมาเต็มหัว แต่เขาก็ยังคงกัดฟันพูด : “หยางล่อฉันคงต้องบอกว่าเมื่อสักครู่ฉันเผลอไปหน่อย เท่านั้น ถึงแม้จะเสียมือไปข้าง แต่ยังก็ยังเหลือมืออีกข้าง หนึ่งอยู่ดี”

“งั้นหรือ?” หยางล่ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น : “ฉันก็พูด ไปแล้วนี่ว่าฉันจะล้มนายให้ได้ในสามหมัด นี่เป็นเพียงแค่ รอบแรก อย่าทําให้ฉันผิดหวังซะล่ะ ไม่อย่างนั้นคงหมด สนุกพอดี”

“ไปตายซะไป!”
ยิ่งเจอกับคนหน้าไม่อายอย่างหยางล่อแบบนี้ หวางหมิ งก็ใช้มือซ้ายของเขาเหวี่ยงสับไปที่เขาอย่างรุนแรง ด้วย ความโกรธ

“ใช้ฝ่ามืองั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นฉันใช้หมัดละกัน!” หยาง ล่อยิ้มเยาะ ก่อนจะใช้กำหมัดที่มือขวา แล้วก็เหวี่ยงหมัด พุ่งไปทันที

เปรี้ยง! เกิดเสียงดังสนั่น พลันฝ่ามือของหวางหมิงก็ถูก หมัดของหยางล่อโจมตีเข้าอย่างแรง จนเกิดเสียง “กร๊อบ” ดังขึ้นอีกครั้ง ขณะนั้นเองนิ้วมือซ้ายของหวางหมิงก็ถูก หมัดของหยางล่อโจมตีจนหักหมด

อ๊าก! ภาพที่เห็นดูน่าปวดใจอย่างมาก เพราะหวางหมิง ตะโกนร้องโหยหวนขึ้นมา

“ครั้งที่สอง!” หยางล่อพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“ฉันจะเอาจริงกับนายแล้วนะหยางล่อ!” หวางหมิง ตะโกนลั่น หลังจากนั้นก็ใช้เท้าขวาเตะมาที่หยางล่ออย่าง เต็มแรง

“เหอะๆ พอใช้มือไม่ได้ก็จะใช้เท้างั้นหรือ? ก็ได้ จะให้ นายได้ลิ้มรสฝีเท้าของฉันเอง” พอเห็นหวางหมิงเหวี่ยง เท้าเตะมาแบบนั้น หยางล่อเองก็ใช้เท้าขวาของเขาเตะไป อย่างไม่ลังเลเช่นกัน
กร๊อบ!

ขาของหยางล่อราวกับเหล็กไม่ปาน ที่ทุบลงไปบนขา ของหวางหมิงอย่างหนักหน่วง

อ๊าก! หวางหมิงตะโกนร้องสุดเสียง หลังจากนั้นเขาก็ หมดสติไปทันที

หยางล่อเองก็ก้มมองหวางหมิง พลางพูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา : “ครั้งที่สาม!” ตอนนี้หวางหมิงหมดสติไปแล้ว ความเจ็บปวดที่มีทำให้เขาอดทนต่อไปไม่ไหว ชั่วขณะ นั้น คนรอบๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าหยางล่อจะล้มหวางหมิงได้ภายใน สามหมัดจริงๆ

หมัดแรก มือขวาของหวางหมิงถูกบิดจนหัก

หมัดสอง มือซ้ายของหวางหมิงถูกอัดจนหัก

หมัดสาม ขาขวาของหวางหมิงก็เตะจนหัก

ทุกคนต่างมองไปที่หยางล่อด้วยสีหน้าหวาดกลัว ต่างก็ คิดไม่ถึงเลยว่าหยางล่อจะเก่งกาจขนาดนี้

จากสายตาเย็นชาที่เหล่าครูพวกนั้นมองมาก่อนหน้าตอนนี้ต่างคนก็ต่างมองหน้ากันหน้าซีด ตอนนี้เกิดความ กลัวขึ้นในจิตใจพวกเขา ถ้าหากหยางล่อลงมือกับพวก เขาแต่แรกล่ะก็ พวกเขาคงจะต่อต้านไม่ได้เลยแม้แต่นิด!

หยางล่อไม่ค่อยใส่ใจเรื่องที่เขาโจมตีหวางหมิงจนแพ้ มากนัก สำหรับหยางล่อ หวางหมิงไม่ใช่คู่มือเขาด้วยซ้ำ ถ้าหากทุกคนที่รู้จักหยางล่อรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็จะบอกว่า เจ้าหวางหมิงนี่มันโชคดีจริงๆ

ก็ไม่ผิด! โชคดีจริงๆ เพราะคนที่เคยท้าสู้หยางล่อมา ก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วแต่ไม่มีชีวิตเหลือรอดกันทั้งนั้น

จริงๆ แล้วหยางล่อก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ตัวเองแค่ มาสมัครเป็นครูสอนศิลปะป้องกันตัวเท่านั้น ถ้าเกิดตัวเอง ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ก็คงบอกได้ว่าตัวเองคงล้มเหลว แล้วจริงๆ ล่ะ

หลังจากการต่อสู้ดังกล่าว ชื่อเสียงของหยางล่อก็แพร่ กระจายไปทั่วทั้งโรงเรียน ตั้งแต่นี้ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้า มายุแหย่อะไรหยางล่ออีก เป็นเพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าคน ที่มาล่วงเกินหยางล่อนั้น สภาพต่อไปจะเป็นอย่างไร

แต่สุดท้ายก็จะมีพวก ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาอยู่ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ