ตอนที่ 15 สาวน้อย
อ้วนเทียนเฟิงกลอกตามองบนหลายครั้ง : “พอเถอะนาย นี่ยัง วุ่นวายไม่พออีกหรือไง?
“แล้วนายคิดว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงล่ะ?” เสี่ยวป่าวทำ หน้าฉงนขึ้นมา หรือนายยังคิดจะให้….เพื่อนของด้วนยีโซวช่วย จัดการอีก? จะว่าไป เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย นายยังไม่ตอบฉันมา เลย”
ด้านเทียนเฟิงพูดด้วยความเอือมระอา “เป็นคุณป้าอายุ ประมาณห้าสิบ หน้าตาขี้เหร่มาก นายอยากเจอหล่อนใช่ไหม? ฉันพานายไปได้”
อูเสี่ยวป่าวรีบส่ายหน้าทันที “งั้นก็ช่างเถอะ!
ทั้งสองคุยกันไปมา จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของด้านเทียนเฟิงดังขึ้น ยังคงเป็นสายจากโจวเสี่ยวหลิง ด้วนเทียนเฟิงไม่กล้ารับสายต่อ หน้าอูเสี่ยวป่าว จึงพูดขึ้น : “นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ ฉันไปรับ สายที่ระเบียงด้านนอก”
อูเสี่ยวป่าวขยิบตาให้ด้วนเทียนเฟิง จากนั้นจุดบุหรี่เดินเข้าไป ในห้องน้ำ ห้องน้ำสวยงามมาก มีอ่างใหญ่ เมื่อเห็นเขามีท่าที สบายใจก็อยากจะลงไปนอนแช่สักหน่อย
เมื่อด้วนเทียนเฟิงเดินถึงระเบียงด้านนอก กดรับสาย จากนั้น โจวเสี่ยวหลิงพูดขึ้น “เทียนเฟิง ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
ล้วนเทียนเฟิงพูดขึ้น : “คุยบ้าอะไรกัน อูเสี่ยวป่าว อยู่ที่นี่ จะ คุยกันได้ยังไง?”
“ไม่ได้มีแค่ห้องเดียวสักหน่อย ไปคุยกันที่ห้องข้างๆก็หมด ปัญหาแล้วไม่ใช่หรือไง?” โจวเสี่ยวหลิงพูดด้วยน้ำเสียง คลุมเครือ หัวเราะร้าย “เทียนเฟิง นายกลัวฉันหลอกนายหรือไง? ฉันผู้หญิงตัวเล็กคนเดียวยังไม่กลัวเลย นายเป็นถึงผู้ชายจะกลัว อะไร?”
“ไม่ต้องเลย ถึงคุณผู้หญิงตัวเล็ก แต่คุณฉลาดจนวางแผนเรื่อง ราวทั้งหมดได้ขนาดนี้
ดูสิ นายยังเข้าใจผิดฉันอยู่เลย ฉันต้องไปคุยกับนายให้รู้ เรื่อง อีกสิบห้านาทีฉันถึงที่นั่น นายจับเวลาออกมารอที่ประตู และแน่นอนถ้านายไม่แคร์ว่าอูเสี่ยวป่าวจะรู้เรื่องนี้ ฉันก็จะไป เคาะประตูทันที หลังจากเสียงหัวเราะดังขึ้น โจวเสี่ยวหลิงก็ตัด สายไปทันที…
ด้านเทียนเฟิง เก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบบุหรี่ออก
มาจุดหนึ่งมวน มองดูท้องฟ้าอันมืดครึ้มไปด้วยเมฆหมอก
อารมณ์ไม่สู้ดีนัก ด้วนเทียนเฟิงกำลังคิดถึงปัญหาบางอย่าง ควร
บอกเรื่องนี้กับ อูเสี่ยวป่าว รึเปล่า? ถ้าไม่บอก ดูเหมือนสุดท้าย
หล่อนอาจจะนำเรื่องนี้มาขู่เข็ญเขาได้ ถ้าบอก เรื่องก็จะกลับมา
วุ่นวายอีกครั้ง ที่สำคัญคือยังไม่จบ ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร
หรือควรคุยกับโจวเสี่ยวหลงก่อน แล้วค่อยตัดสินใจดี ดูว่าผู้หญิงคนนี้คิดเห็นยังไงถึงได้รีบมาคุยกับเขาขนาดนี้ หรือเป็น เพราะกลัวว่าเขาจะไปอยู่ฝั่ง เฮยเมียนเป็นจริงๆ ถ้าหล่อนกลัว เช่นนั้น เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน ทั้งยังกล้าที่จะเอ่ยปากขอผล ประโยชน์มากขึ้นอีกด้วย
แล้วต้องการอะไรล่ะ? ไม่รู้ นี่ไม่ใช่นิสัยของด้านเทียนเฟิง เข้า ต้องการอะไรก็มาจะพึ่งน้ำพักน้ำแรงของตัวเองไปหามาได้เสมอ เพราะการลงมือทำด้วยตัวเองจึงจะสามารถพูดได้เต็มปากอย่าง มั่นใจ นี่คือสิ่งที่ด้วนยีโซวปลูกฝังเขามาตั้งแต่เด็ก บางครั้งลอง เปลี่ยนมุมมองในการคิดดู ด้วนยีโซวก็สอนอะไรมากมายให้เขา เช่นกัน
โจวเสี่ยวหลงบอกว่าอีกสิบห้านาทีถึง ด้วนเทียนเพิ่งเดินออก มาจากระเบียงด้านนอก เปิดประตูพูดกับอูเสี่ยวป่าวที่ยังแช่น้ำ อย่างสบายใจ: “ฉันออกไปข้างนอกแป๊บนึง เดี๋ยวก็กลับมา
อูเสี่ยวป่าวนิ่งตะลึงไปสักพัก พูดขึ้น: “ด้านนอกวุ่นวายอยู่
นายจะออกไปทําไม?
“แก้ไขปัญหา นายอยู่นี่ เสพสุขไปก่อนเถอะ ฉันยังมีธุระอีก “อ๋อ งั้นนายดูแลตัวเองด้วย”
ด้วนเทียนเฟิงพยักหน้าลง ปิดประตูห้องน้ำเสร็จเดินออกไปรอ
ด้านนอกประตู
รออยู่ประมาณสิบวินาที จู่ๆเสียงลิฟต์ทางเดินดังยิ่งขึ้น มีใคร บางคนออกมา นั่นคือโจวเสี่ยวหลิง หล่อนรีบเดินมาอย่าง รวดเร็ว ตามมาด้วยกลิ่นหอมฉุยลอยเข้าจมูกของด้วนเทียนเฟิงจนทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หายใจติดขัด หล่อไม่ได้คุยกับ ด้วนเทียนเฟิงทันที โยนคีย์การ์ดห้องไปมา นิ้วชี้ตรงไปยังประตู ห้องฝั่งตรงข้าม จากนั้นเดินเข้าไป ใช้คีย์การ์ดแตะเปิด ประตู ห้องถูกเปิดออก หล่อนทำมือกวักเรียกด้านเทียนเฟิง ให้เข้าไป
เป็นห้องชุดที่มีลักษณะคล้ายกับห้องฝั่งตรงข้าม เมื่อเข้าไปใน ห้องโจวเสี่ยวหลิงตั้งกระเป๋าไว้บนโซฟา จากนั้นเปิดตู้เย็น หยิบ เครื่องดื่มออกมาสองขวด ยื่นให้ด้วนเทียนเฟิงหนึ่งขวด หล่อน หยิบขึ้นมาดื่มหนึ่งขวด จากนั้นจึงนั่งลงบนโซฟา ส่งสายตา ยั่วยวน พูดขึ้น “เทียนเฟิง นายยืนไม่เมื่อยหรือไง?”
ด้วนเทียนเฟิงนั่งลงตรงข้ามหล่อน หล่อนใส่เสื้อเชิ้ตผ้าโปร่งสี แดง ปล่อยสบาย เสื้อบางจนเห็นชุดชั้นในสีดำที่ปกคลุมหน้าอก อันเอิบอิ่มไว้ ส่วนท่อนล่าง หล่อนใส่กางเกงขาสั้นลายดอกบัวที่ สั้นมากๆ
ใส่ชุดแบบนี้ยังกล้านั่งไขว่ห้างอีก ยิ่งทำให้ผ้ารัดแน่นขึ้น จน ด้วนเทียนเฟิงแทบจะเห็นต้นขาของหล่อน ทั้งยังมีบางอย่างโผล่ ออกมาจากจุดซ่อนเร้น ด้วนเทียนเฟิงเบี่ยงสายตามองไปอีกด้าน เปิดเครื่องดื่มพลางพูดขึ้น : “จะคุยอะไร คุยเถอะ!”
โจวเสี่ยวหลิงยิ้ม : “ตอนที่ฉันขับรถมา ฉันคิดอะไรมากมาย พอเจอนายฉันก็ลืมแล้ว นาย…ไม่เป็นไรใช่ไหม? เจ็บตรงไหน เปล่า?”
ด้วนเทียนเฟิงยกแขนข้างซ้ายที่บวมแดงขึ้นมา พูดขึ้น “ขอบคุณสําหรับคําเตือน ตอนนี้ยังไม่ตาย…
“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเฮยเมี่ยนเป็นจะทำถึงขนาดนี้ เรื่องที่ห้อง ครัว ฉันยอมรับว่าฉันซื้อตัวเซฟมาสร้างความวุ่นวายมากขึ้น ทำให้ฝ่ายทําอาหารกับฝ่ายหั่นล้างมีเรื่องกัน” เมื่อพูดถึงตอนนี้ จู่ๆ โจวเสี่ยวหลังก็ทำสีหน้าน้อยใจขึ้นมา “ถ้ารู้ว่าเรื่องจะวุ่นวาย ใหญ่โตมากขนาดนี้ ฉันจะไม่มีทางทำแบบนี้แน่นอน ตอนนี้ฉัน เสียหายมาก ห้องครัวเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้
ด้านเทียนเฟิงรู้สึกเอือมระอา “ยอดเยี่ยมมาก คุณแสดงสิ แสดงต่อสิ”
โจวเสี่ยวหลงยังคงทำสีหน้าเสียใจ : “ฉันไม่ได้แสดง “เฮยเมี่ยนเงินต้องเป็นคนชดใช้ทั้งห้องครัว คุณไม่ได้เสียหาย อะไร”
“คนอย่างเฮยเมียนเป็นนายคิดว่าเขาจะยอมชดใช้ทั้งหมดเห รอ? เขาเพียงแต่ให้พวกนายชดใช้ จากนั้นก็อมเงินพวกนายไม่ ให้ฉัน เข้าใจไหม? ดังนั้นฉันต้องไล่เขาออกไป ไม่เช่นนั้นร้านห สื่อต้องเกิดเรื่องสักวัน
“คุณเป็นคนไปขอความร่วมมือจากเฮยเมี่ยนเป็น คุณไม่รู้เลย งั้นเหรอว่าเขาเป็นคนยังไง?” ด้วนเทียนเฟิงถูกหล่อนพูดหลอก ล่อ เพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาคุยเรื่องนี้ “หยุด ไม่พูดเรื่องพวกนี้ ก่อน ผมไม่สนใจว่าคุณจะคิดยังไง ผมแค่อยากรู้ว่าคุณจะจัดการ เรื่องผม…กับอูเสี่ยวป่าวยังไง? พวกเราจะโดนเฮยเมี่ยนเงินตาม โจมตีตลอดงั้นเหรอ?”
“จัดการไม่ยาก แต่ถ้าตอนนี้ฉันพูดกับเฮยเมี่ยนเงินตรงๆ เฮยเมี่ยนเป็นจะสงสัยเข้า นั้นรอให้เขายอมออกก่อน เมื่อ เขาออกแล้วค่อยกัน ไม่เขากลับมาหมู่อีก ห้าม แตะต้องคนร้านหมู่สือ ฉันมั่นใจจะทำเรื่องได้” โจว เสี่ยวหลังดื่มน้ำอีกครั้ง บิดขี้เกียจออก หน้าอกเอิบอิ่มตั้งชูชัน เคลื่อนไหวตามท่าทางของหล่อน ปรากฏอยู่ตรงของด้วน เทียนเฟิง ทำให้น้องชายของแข็งตัวขึ้น เทียนเฟิงท่าปกติ เปลี่ยนยิ้มยั่วยวน พูดขึ้น เทียนเฟิง เฮยเมียนก่อน คลี่คลาย ไม่ได้ใช้เงินหน่อย คิดว่าร้อนแล้วกัน
ด้วนเทียนเฟิงตอบกลับ คุณบอกว่าพักผ่อน ถ้าเฮยเมียนเป็น ตามมา
“เหอะเทียนเฟิง ไม่เหมือนคำพูดของนาย นายกลัวเมี่ยนเป็นนายไม่ทางกลัวเฮยเมียนเซน นายแค่ไม่สบายใจไหม? มา ทำยังไงนายถึงจะสบายใจ?หล่อนทำท่าทาง ยั่วยวนและขึ้น ยื่นมือเชิ้ตอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นแผ่นหน้าขาวเนียนของด้วนเทียน เฟิง หรือจะฉันอยู่เป็นเพื่อนหนึ่งคืนนายทำอะไร ก็โอเคไหม?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ