บทที่16
เสียงสะท้อนของหญิงสาวดังวนอยู่ในหูของเซ่เหวินตง “เกาฮุยยู่ ชื่อสวยมาก!” มองดูแผ่นหลังที่แข็งแกร่งของ หญิงสาว ในใจรู้สึกตื่นเต้น เขามีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา: ผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช่ลูกพี่เกามั้ง? เซ่เหวินตงส่ายหัว รีบ ขจัดความคิดนี้ออกไป คิดในใจว่า บนโลกนี้ผู้หญิงแซ่เกา มีถมเถไป คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก! ไม่รู้เพราะอะไร เซ่เหวินตงไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกพี่เกา
เมื่อเซ่เหวินตงเดินเข้าไปในห้องเรียน ข้างในเสียงดัง โหวกแหวก เนื่องจากหลี่ล่วงเข้ากับคนง่าย กระโดดโลด เต้นพูดคุยกับผู้ชายรอบข้างสามสี่คนอย่างสนิทสนม ไม่รู้คุยอะไรกัน! เซ่เหวินตงนั่งลงที่ของตัวเอง หลิวถึงที่ นั่งอยู่ข้างเขาถามขึ้นมาว่า: “เพื่อนร่วมโต๊ะ! นายรู้ไหม เมื่อวันสวนป่าเล็กหลังสนามมีคนทะเลาะวิวาทกัน วันนี้มี นักเรียนหลายคนอยู่ที่โรงพยาบาลมาเรียนไม่ได้!
เซ่เหวินตงยิ้มเล็กน้อย ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า: “ไม่รู้ เหมือนกัน” แล้วถามหลิวถิงว่า: “ทางโรงเรียนมีพูดไหมว่า จะจัดการเรื่องนี้ ”
หลิวถิงส่ายหัว: “อันนี้ยังไม่ได้ยิน แต่ว่าเรื่องใหญ่ขนาด นี้ทางโรงเรียนคงไม่เพิกเฉยหรอกมั้ง?”
เซ่เหวินตงพูด: “ก็ไม่แน่! อย่าลืมว่าที่นี่คือโรงเรียนมัธยมที่หนึ่ง ทั้งเมืองไม่มีโรงเรียนมัธยมที่ไหนที่วุ่นวาย เท่าที่นี่ ใช่แล้ว ทำไมเธอถึงมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมที่ หนึ่งแห่งนี้?” เซ่เหวินตงรู้สึกหลิวถึงน่าจะเป็นผู้หญิงที่ ฉลาด การเรียนน่าจะดีใช้ได้ ไม่น่าที่จะมาเรียนที่นี่
หลิวถิงสีหน้าเสียใจพูดขึ้นว่า: “ปรกติฉันห่วงเล่นเกินไป ตอนสอบกลางภาคสอบได้ไม่ดี จึงต้องมาเรียนที่นี่!”
เซ่เหวินตงถามขึ้นด้วยความสงสัย: “ปรกติเธอเล่นอะไร เหรอ? สิ่งที่ผู้หญิงเล่นได้น่าจะไม่ค่อยเยอะ!”
เมื่อพูดถึงเล่นหลิวถิงดีใจขึ้นมาทันที เช่นเดียวกันกับ หลี่ส่วงที่เห็นตอนเข้ามาเมื่อกี้เลย กระโดดโลดเต้นอย่าง ดีใจแล้วพูดว่า: “เวลาอยู่บ้านก็ดูทีวี ฟังเพลง ไปข้างนอก ก็เล่นโรลเลอร์สเกตน้ำแข็ง ว่ายน้ำ เต้นรำ ดูหนัง และ คาราโอเกะต่างๆ อย่างไรก็ตาม……
เซ่เหวินตงมองเธอแล้วยิ้มออกมาว่า: “อย่างไรก็ตามก็ คือไม่ชอบอ่านหนังสือ ใช่ไหม?”
หลิวถึงหน้าแดง หยิกไปที่แขนของเซ่เหวินตงเบาๆ แล้ว พูดขึ้นว่า: “นายพูดน่าเกลียด!” เห็นท่าทางเขินอายของ หลิวถิงแล้ว ทำให้เซ่เหวินตงหัวเราะฮ่าๆ ออกมา ‘ช่างเป็น ผู้หญิงที่น่ารักเหลือเกิน!’ แต่เซ่เหวินตงก็เก็บเสียงหัวเราะ กลับมายังรวดเร็ว เพราะเขาเห็นสายตาที่กำลังจะพ่นไฟ ของหลี่ส่วงจ้องเขาอยู่ สายตานั้นแฝงไว้ด้วยความ ‘เสียใจ’ เซ่เหวินตงตบไปที่ไหล่ของหลี่ล่วง เบาๆ ด้วยสีหน้าที่จริงจัง: “เพื่อนรัก นายลำบากละ แต่ นายต้องอดทนไว้ใน เป็นบุคคลรักชาติปีหนึ่งละกัน!”
ภายในห้องมีเสียงกัดฟันของหลี่ส่วงดังขึ้นมา: ‘พี่ตง! นี่ มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย ผม……ผมเสียใจ…’ และยังมีเสียง หัวเราะฮิๆ ของหลิวถึงด้วย
ตอนเที่ยงจางเหยียนเจียงมาหาเซ่เหวินตง พูดอย่าง ระวังว่า: “หลังจากที่ลูกพี่เการู้เรื่องของเมื่อวันแล้วเธอ โกรธมาก แต่เธอทําอะไรพี่ทันทีหรอก เธอคงจะสังเกต ระยะหนึ่ง พี่ต้องระวังตัวหน่อย!”
เซ่เหวินตงพยักหน้า ถามขึ้นว่า: “พี่หู่ที่ถูกฉันตีเมื่อวัน อาการเป็นยังไงบ้าง? มีคนได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่?”
จางเหยียนเจียงหันไปมองที่ทางเดินห้องสักครู่ จากนั้น ก้มหน้าลงแล้วพูดเสียงเบาว่า: “ได้ข่าวมาว่าพี่ฟูอาการ หนักมาก คงจะไม่หายในระยะสั้นนี้ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ ลูกพี่เกาโกรธมาก คิดว่าพี่ทำเกินไป ลงมือหนักไปหน่อย ส่วนที่เหลือก็ประมาณสิบกว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บ!”
เซ่เหวินตงยิ้ม: “ในเมื่อเป็นศัตรูกัน เวลาลงมือฉันไม่มี ความเมตตาหรอก นายรู้เรื่องข่าวนี้ได้ยังไง?
จางเหยียนเจียงพูด: “ถึงแม้ผมจะเข้าแก๊งของพี่ตงแล้ว แต่ผมก็ยังมีเพื่อนที่เป็นลูกน้องของลูกพี่เกาอยู่ เขาเป็น คนบอกผมเอง!”
เซ่เหวินตงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ถามขึ้นเบาๆ ว่า: “คน คนนี้เชื่อถือได้ไหม? ข่าวสารที่เขาให้มาเชื่อถือได้หรือ เปล่า?”
จางเหยียนเจียงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “เรื่องนี้พี่ตงไว้ใจ ได้ พวกเราเป็นเพื่อนเล็กกันมาตั้งแต่เด็กจนโต เขาเชื่อ ฟังผมทุกเรื่อง ผมบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่ผมมาเข้าแก๊งพี่ ตอนแรกเขาก็จะเข้ามาพร้อมผมเพื่อมาอยู่กับพี่ตงเหมือน กัน แต่ผมห้ามไว้ ผมรู้สึกว่าเบื้องต้นให้เขาอยู่กับลูกพี่เกา ก่อนน่าจะช่วยเหลืออะไรพวกเราได้!”
เซ่เหวินตงตบไปที่ไหล่เขาเบาๆ แล้วพูดขึ้นว่า: “เรื่องนี้ นายทำถูกต้องแล้ว มีเพื่อนของนายอยู่ พวกเราสามารถ ทราบความเคลื่อนไหวของลูกพี่เกาได้ตลอดเวลา” หยุด ไปชั่วขณะ ทันใดนั้นเซ่เหวินตงถามขึ้นมาว่า: “ลูกพี่เกา ของพวกนายหน้าตาเป็นยังไงเหรอ?”
จางเหยียนเจียงตกตะลึงเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นต่อว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ผมยาว ตาโต ความสูงอยู่ที่ ประมาณร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร หุ่นดีมาก..……….” เซ่เหวิน ตงพูดขัดจังหวะเขาขึ้นมาแล้วถามว่า: “คือปรกติใส่เสื้อ กางเกงชุดยีนส์หรือเปล่า และขี่มอเตอร์ไซค์ใช่ไหม?”
จางเหยียนเจียงมองเซ่เหวินตงด้วยความตกใจแล้วถาม ว่า: “พี่ตง พี่รู้ได้ยังไง? พวกพี่เคยเจอกันมาก่อนเหรอ?”
เซเหวินตงถอนหายใจออกมา คิดในใจว่า: กลัวอะไร ก็มักจะเป็นแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นลูกพี่ เกา แต่ท่าทางของเธอใส่บริสุทธิ์มาก ไม่เหมือนเป็นชู้รัก ของคนอื่น เซ่เหวินตงหงุดหงิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว จะนิ้วมือ เคาะเบาๆ ที่โต๊ะ
เห็นสีหน้าของเซ่เหวินตงไม่ดี จางเหยียนเจียงรู้ว่า สถานการณ์เริ่มไม่ได้จึงเดินออกไปแต่โดยดี คิดในใจว่า พี่ตงกับลูกพี่เกาต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ปรกติแน่นอน
หลังจากนั้นสามวัน เวลาพักเที่ยง เซ่เหวินตงกินบะหมี่ที่ ร้านค้าเล็กๆหน้าโรงเรียนคนเดียว สองวันนี้เขาไม่เคยเจอ ผู้หญิงคนนั้นอีกเลย ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย เซ่เหวิน ตงกินแค่ไม่กี่คำ ก็มีนักเรียนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากข้างนอก เข้ามาในร้านกวาดสายตารอบหนึ่ง เห็นเซ่เหวินตงกิน บะหมี่อยู่ รีบเข้าไปหาและพูดเสียงดังว่า: “พี่ตง ไม่ดีแล้ว พี่ส่วงกับพี่เฉียงและพี่น้องบางส่วนถูกคนอีกแก๊งหนึ่งตี!”
“อะไรนะ?” เซ่เหวินตงลุกขึ้นมาดู ที่แท้เป็นพี่น้องของตัว เองนั่นเอง ใบหน้ามีคราบเลือดติดอยู่ คิดในใจว่า: ลูกพี่ เกาคนนี้ลงมือเร็วจริงๆ ! “ไป พาฉันไปดู” โยนเงินไว้บนโต๊ะสองเหรียญ และวิ่งเข้าไปที่โรงเรียนพร้อมกับ คนคนนั้น
คนคนนั้นพาเซ่เหวินตงเจ้ามาถึงห้องเรียน ภายในห้อง เสียหาย เก้าอี้แตกยับเยินไปทั่ว และมีพี่น้องที่ได้รับบาด เจ็บล้มลงกับพื้นและร้องครวญอยู่ เมื่อเห็นเซ่เหวินตง กลับมา มีคนคนหนึ่งวิ่งกระโพลกกระเผลกเข้ามา พูดออก มาเสียงคลอว่า : “พี่ตง! พี่ส่วงกับพี่เฉียงถูกคนของลูกพี่ เกาจับไปแล้ว ให้พี่ไปที่ห้องวาดรูปชั้นสามเพื่อนำคนกลับ มาแต่ต้องไปแค่พี่คนเดียว! พวกเขาบอกว่าถ้าพี่ไม่ไปก็ให้ พวกเราเตรียมเก็บศพได้เลย
เซ่เหวินตงพยักหน้าด้วยสีหน้าอย่างไร้ความรู้สึก ไม่ได้ พูดอะไร หมุนตัวแล้วเดินออกไปข้างนอก แต่กลับถูกพี่ น้องที่พูดอยู่เมื่อกี้ดึงเสื้อไว้ “พี่ตง พี่ไปคนเดียวไม่ได้ มัน อันตรายเกินไป! ผมไปตาม สามตามาปรึกษากันก่อนดี กว่า!”
เซ่เหวินตงตบไปที่มือของคนที่ดึงเสื้อของเขาอยู่แล้ว พูดว่า: “ไม่ทันแล้ว นายวางใจได้ ฉันรับมือได้ ไม่เป็นไร หรอก! อย่าเพิ่งไปตามสามตา มาแล้วเรื่องยิ่งวุ่นวาย”
คนคนนั้นเมื่อได้ยินเซ่เหวินตงพูดว่ารับมือไหว จึงยอม ปล่อยมือโดยปริยาย เวลานี้มีคนเข้ามาจากข้างนอกยี่สิบ กว่าคน จางเหยียนจางคือหนึ่งในนั้นด้วย พูดเสียงดังขึ้น ว่า: “พี่ตง พี่ไปไม่ได้ ผมได้ข่าวมาว่าลูกพี่เกาครั้งนี้โหด มาก ถ้าพี่ไปคงไม่ปล่อยให้พี่เดินออกมาได้ อีกอย่างข่าวปิดเงียบมาก ลูกน้องก็ไม่มีใครรู้ปฏิบัติการของ วันนี้ ผมก็เพิ่งได้ข่าวมา!”
เซ่เหวินตงส่ายหัว มือทั้งสองข้างสอดเข้าไปในกางเกง แล้วพูดว่า: “หลี่ส่วงกับเกาเฉียงถูกพวกมันจับตัวไป ถ้า ฉันไม่ไปพวกเขาจะเป็นยังไง? อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด หลบซ่อนก็ไม่ได้ช่วยอะไร พอดีเลยฉันก็อยากเจอลูกพี่ เกาเหมือนกัน!”
“แต่พี่ไปคนเดียวจะไปรับมืออะไรพวกเขาได้? ไม่ได้ อันตรายเกินไป!” จางเหยียนเจียงยังคงยืนยัน
“ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันไปสายหนึ่งนาที หลี่ส่วงเขาสองคน ก็จะมีอันตรายเพิ่มหนึ่งนาที ฉันรู้ว่าต้องรับมือยังไง ขอให้ พี่น้องเชื่อฉันเถอะ! ” เมื่อเซ่เหวินตงพูดจบก็เดินออกไป นอกห้อง เห็นพี่น้องทั้งหมดเดินตามออกมา หยุดเดินและ ยื่นมือขวางไว้แล้วพูดว่า: “พวกนายรอฉันอยู่ที่ห้อง ถ้ามี ใครเดินตามฉันอีก…….อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ!” เมื่อได้ ยินเซ่เหวินตงพูดแบบนี้ ทุกคนจึงไม่กล้าเดินออกมา ถึง แม้จะเป็นห่วง แต่ก็ได้แต่อธิษฐานภาวนาในใจ จางเหยี ยนเจียงเรียกทุกคนรวมตัวกัน พูดเสียงต่ำซุบซิบกัน ทุก คนพยักหน้าพร้อมกัน
เซ่เหวินตงเป็นกังวลมาก เดินอย่างรวดเร็ว และขึ้นไป ห้องวาดรูปชั้นสามคนเดียว หลี่ส่วงกับเกาเฉียงคือคนที่ เข้ามาติดตามเซ่เหวินตงก่อนใครอื่น ดังนั้นความสัมพันธ์ ของพวกเขาจึงแน่นแฟ้นที่สุด ตอนที่ได้ยินว่าพวกเขาสองคนถูกจับตัวไปนั้น เซ่เหวินตงเหมือนถูกมีด แทงเข้าไปในใจ รู้ว่าลูกน้องของลูกพี่เกาไม่ยอมปล่อย พวกเขาทั้งสองคนง่ายๆ แน่ แอบสาบานในใจ ถ้าเกิดหลี่ ส่วงกับเกาเฉียงเกิดมีอันตรายอะไรขึ้นมา ถึงแม้ต้องแลก ด้วยชีวิตก็จะสู้กับลูกพี่เกาให้ถึงที่สุด
เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสาม ไม่ต้องสอบถามใคร ก็เห็นบนทาง เดินมีนักเรียนยืนรออยู่สี่ห้าคน ในมือถือกระบองไม้อยู่ เซ่เหวินตงรู้ได้ทันทีว่านั่นคือห้องวาดรูป ก้าวเท้ายาวๆ เข้าไป ในใจเริ่มสงบลง
“เฮ้ย! นาย นายจะทำอะไร?” นักเรียนที่ไว้ทรงผมสั้น เกรียนเอียงศีรษะถามเซ่เหวินตงคนเดียว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ