ก้าวย่างสู่มาเฟียไลฟ์

บทที่5



บทที่5

หัวหน้ากลุ่มเดินเข้ามสำรวจเซ่เหวินตง พลางพูดในใจ ว่า : แม่ง โรงเรียนนคนตายกันหมดแล้วใช่ป่ะว่ะ หาคน ขาดสารอาหารมาเป็นลูกพี่ เซ่เหวินตงไม่ได้ปล่อยความ เหยียดหยาม แวบผ่านดวงตาเขา ยืนหัวเราะขึ้นมา

มองสักพัก คนนั้นพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า“ลูกพี่เซ่ พี่ ใหญ่ของพวกเรามีเรื่องจะหารือกับนาย คืนนี้มีเวลาให้ เกียรติไปพบหน้ากันหรือป่ะ?”

“ไม่มีปัญหา นายบอกเวลาสถานที่ได้เลย ดึงมากไปผม ไม่มีเวลา”เซ่เหวินตงรับปากรวดเร็วทันใจ

คนนั้นพยักหน้าอีกครั้ง พร้อมกับพูดว่า”หลังเลิกเรียน นายมาที่บิลเลียดฮอลล์ซินซิน ลูกพี่ของพวกเราจะรอ นายอยู่ตรงหน้า นายคิดว่าเป็นไง?”

“โอเค เอาอย่างนี้เลย”ที่จริงเซ่เหวินตงอยากเจอหน้า นังเลงสามตามานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาส คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะมาหาเขาเอง มองคนกลุ่มนั้นจากไป เขาก็พูดกับ หลี่ส่วงกับเกาเฉียงว่า “พวกนายสองคนใจร้อนเกินไป แล้ว วันหลังต้องแก้”เกาเฉียงก้มหน้าไม่พูดอะไร หลี่ล่วง พูดเสียงดัง“พี่ตง พวกเขาโอหังเกินไปแล้ว ถ้าพวกมันไม่ ด่าลูกพี่ก่อนผมก็ไม่ลงมือเหรอ”

เซ่เหวินตงหัวเราะ“ผมไม่ได้โทษพวกนาย ผมแค่เตือนพวกนาย ตั้งสติทุกเมื่อจะได้ไม่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ!”

หลี่ล่วงกับเกาเฉียงพยักหน้าพูดพร้อมกันว่า “รู้แล้วพี่ ตง!”พวกเขารู้สึกว่าลูกพี่พูดมีเหตุผล เมื่อกี้ถ้าลูกพี่ไม่มา คงตีกันจริงๆแล้ว เห็นฝ่ายตัวเองคนเยอะอย่างนี้ก็ไม่แน่ ว่าจะได้เปรียบ

เกาเฉียงคิดดูแล้วพูดว่า “พี่ตง ผมว่าสามตาเรียกพวกเรา ไปไม่มีเจตนาดีเหรอ พี่ว่าไม่…”

เซ่เหวินตงพูดอย่างจริงจังว่า”ถ้าพวกเราอยากยืนหยัด อยู่ที่นี่ งั้นต้องผ่านด่านคืนนี้ก่อน อาจมีอันตรายบ้าง แต่ ถ้าใจไม่กล้าแล้วออกมาทำทำไม?”เกาเฉียงได้ยินก็หน้า แดง พยักหน้าตอบ“พี่ตง คืนนี้เอาไงดี ผมฟังพี่!”

เซ่เหวินตงพยักหน้า ใช้สมองครุ่นคิดเงียบๆ

‘ฟีบ~~’เสียงกริ่งเลิกเรียนของโรงเรียนมัธยมที่สองดัง ขึ้น ทันใดนั้นมีคนพลุกพล่านอยู่ประตูโรงเรียนมากมาย ไม่รู้เพราะอะไรนักเรียนต่างพุ่งไปยังประตูโรงเรียนที่ ไม่ได้กว้างขวางอยู่แล้ว คนที่ออกมาคนแรกร้องตะโกน ว่า’YE~~S~’ตื่นเต้นเหมือนลูกลอตเตอรี่

ภายในอาคารเรียน ระหว่างทางเดินบันไดชั้นสองกับ ชั้นหนึ่ง มีนักเรียนยืนอยู่ยี่สิบกว่าคน รายหนึ่งสองมือล้วง กระเป๋ากางเกง ปากคาบบุหรี่ไว้ไม่ว่าสูบเป็นจริงๆหรือไม่ อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเท่ เห็นนักเรียน หญิงสวยๆเดินผ่าน ก็จะทั้งร้องทั้งผิวปาก “คุ้มว่ะ คุ้มว่ะ คนนี้น่ารักจริงๆ!สบายตาจัง~~””พอเลยมึงอ่ะ ตามึงเป็น ไงว่ะ?หน้าตาเหมือนน้ารองของตือโป๊ยก่าย…ฮ่าๆ!”แม่งมี

หลี่ส่วงกับเกาเฉียงที่ยืนอยู่ในกลุ่มคนไม่ได้ตื่นเต้น เหมือนพวกเขา หลี่ส่วงถามเกาเฉียง “พี่เฉียงกี่โมง แล้ว?”เกาเฉียงมองดูนาฬิกาพลางตบไหล่เขาพึ่งเลิก เรียนมึงว่ากี่โมงล่ะ?ตื่นเต้นห่าอะไร!เรื่องใหญ่ค้ำฟ้ายังไง กูก็ขอแบกรับไว้เอง”

หลี่ส่วงกล้ำกลืนน้ำลาย“ไอ้บ้า ไม่ตื่นเต้นก็หลอกผีแล้ว! อีกฝ่ายคือสามตานะ!”

“สามตาแล้วไง?ไม่ใช่คนเหรอ ดื่มมากไปก็อ้วก กินมาก ไปก็ขี้แตก? “คำพูดของเกาเฉียงดึงเสียงหัวเราะได้มากที เดียว หลี่ส่วงพลางหัวเราะพูดว่า “มึงพูดเก่ง”

เวลานี้เซ่เหวินตงเดินลงมาจากชั้นสอง ทุกคนก็เก็บรอย ยิ้ม ยืนเป็นสองแถวตรง แล้วโค้งตัวกันอย่างพร้อมเพรียง “สวัสดีพี่ตง!”

เซ่เหวินตงพยักหน้าถาม“พกของมาหรือป่ะ?”หลี่ล่วงพูด ว่า“พี่ตงวางใจได้ มีกันทุกคน”
“อืม ไปเถอะ พวกเราจะได้เจอหน้าสามตาในตำนาน แล้ว!”เซ่เหวินตงพูดในเชิงตลก ทุกคนมองหน้าไร้กังวล ของเซ่เหวินตงก็ยิ่งสบายใจ พูดคุยด้วยเสียงหัวเราะ ร่าเริงระหว่างทางเดินไปที่บิลเลียดฮอลล์ซินซินบิลเลีย ดฮอลล์ซินซิน

บิลเลียดฮอลล์ซินซินตั้งอยู่ด้านขวามือของโรงเรียน มัธยมที่สอง นักเรียนอยากเล่นสนุกเกอร์เมื่อไหร่ ปกติ จะไปที่นั่น เพราะทั้งใกล้โรงเรียนและราคายังถูกอีกด้วย เฟรมละห้าเจี่ยว (แต่โต๊ะเสียแล้วนิดหน่อย!)

พวกเซ่เหวินตงมาถึงซินซินเวลานี้ไม่มีลูกค้าในร้าน สนุกเกอร์เลยสักคน เพราะถูกสามตาเหมาหมดแล้ว สามตาถือไม้สนุกเกอร์เล่นกับลูกน้องคนหนึ่งอยู่ เห็นเซ่ เหวินตงพาพวกเข้ามาก็หัวเราะ ฮ่าๆ’เดินเข้าไปต้อนรับ ห้องสนุกเกอร์มืดมาก พอเขาเดินเข้าใกล้แล้วเซ่เหวิน ตงถึงรู้ว่าเป็นสามตา อายุยี่สิบกว่าปี สูงร้อยเจ็ดแปดสิบ ทรงสกินเฮด ทำให้มองแล้วดูเป็นคนร่าเริง หัวเราะอยู่ ตลอดเวลา

สามตาก็มองประเมินเซ่เหวินตงอยู่ พยักหน้าพูดว่า “น้อง ชายก็คือเซ่เหวินตงที่ช่วงนี้โด่งดังใช่ไหม?”

เซ่เหวินตงหัวเราะคิกๆ”พี่สามตารู้ชื่อน้องชายอย่างผม ด้วย ไม่รู้ว่าเป็นโชคหรือเคราะห์ของผมกัน?”
สามตาอึ้งไปเลย จากนั้นก็หัวเราะอีกครั้ง”น้องชายเป็น คนเข้าใจอะไรง่าย! ชอบ!ฮ่าๆ~”เอาไม้คิวให้เซ่เหวินตง หนึ่งอัน พลางพูดว่า”น้องชายสนใจเล่นสักเฟรมมั้ย!”

เซ่เหวินตงไม่เคยเล่นนุกเกอร์มาก่อน แต่รับไม้คิวมา อย่างไม่ลังเล “โอเค ถึงผมจะเล่นไม่เป็น แต่ก็จะเล่น ไม่ งั้นก็ไม่ให้เกียรติพี่สามตาแล้ว”สามตาหรี่ตา”อืม น้องชาย พูดน่าฟังมาก”

สามตาถือไม้คิวแทงลูกสนุกเกอร์ที่วางเรียบร้อย แรงๆ”น้องชายอยู่โรงเรียนแล้วเป็นยังไง เดิมทีพี่ไม่ควร ถาม แต่ในเมื่อตั้งแก๊งในถิ่นของพี่ ถ้าไม่ทักทายก่อนเลย สักนําก็ถือว่าเกินไปหน่อยนะ”

เซ่เหวินตงเคยดูคนอื่นเล่นมาก่อน เลยรู้วิธีแทง เขาเอา ไม้คิวแทงลูกหมายเลขหก พลางพูดว่า “น้องชายก็เพิ่ง’ตั้ง แก๊ง’ ไม่นาน

บางเรื่องไม่เข้าใจก็ขอให้พี่สามตาชี้แนะด้วย”แทงลูกไม่

เข้า

“ไม่กล้ารับว่าชี้แนะหรอก ทุกคนก็แค่ร่วมด้วยช่วยกัน เท่านั้นเอง!”สามตาแทงเข้าหนึ่งลูก“ช่วงนี้น้องชายมีราย ได้จากโรงเรียนไม่น้อยมั้ง?”

“เก็บเยอะก็เปล่าประโยชน์ มีแต่นักเรียนยากจน วันหนึ่งเก็บได้แค่ไม่กี่ร้อย!”เซ่เหวินตงเช็ดหัวไม้คิว สามตา หัวเราะ’ฮ่าๆ’ แทงลูกไปด้วยพูดไปด้วย น้องชายยอด เยี่ยมมาก เดือนหนึ่งอย่างน้อยก็ได้หมื่นกว่าแล้วนี่!”ลูก ไม่เข้าหลุมสามตาพูดต่อว่า เดิมทีที่นี่พี่เป็นคนควบ ตอน นี้นายตั้งแก๊งในโรงเรียนมัธยมที่สอง ลูกน้องของพี่ไม่มี ใครเข้าไปได้เลย น้องชายควรจะให้ทางรอดหน่อยหรือ เปล่า!”

เซ่เหวินตงพูดอย่างยิ้มแย้ม”ไม่กล้าพูดว่าให้ทางรอด! ในเมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้ว ผมว่ามีแค่ไม่กี่วิธีให้เลือกแล้ว นะ?”สามตาถือไม้คิวมองเซ่เหวินตงที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะ สนุกเกอร์ ออ?ยังไง”’ไม่พี่ถอยก็ผมถอย หรือพวกเราร่วม กลุ่มกัน”

“ฮ่าๆ น้องชายพูดถูกเผงเลย!”แววสามตาตาเย็นลงมา ทันที น้องชายเตรียมจะถีบพี่ออกจากที่นี่เหรอ?”

เซ่เหวินตงหัวเราะฮ่าๆ จ้องสามตา“พี่สามตาไม่ต้องขู่ผม สิ ในเมื่อผมมาแล้วก็ไม่กลัวพี่เหรอ สู้กันขึ้นมาพวกเราก็ ไม่แน่ว่าจะต้องแพ้ เพียงแต่อย่างนี้ไม่เป็นผลดีกับทุกคน เลย”เซ่เหวินตงโน้มตัวลงไปแทงลูก

สามตาไม่กล้าดูแคลนวัยรุ่นผอมแห้งตรงหน้าอีกต่อไป สัญชาตญาณบอกเขาว่าคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่ว่าสมองหรือ ความกล้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่เข้าวงการอันธพาลมา นานแล้วเลย
สามตาล้วง’HongHe’ออกจากกระเป๋ากางเกงหนึ่งซอง เอาออกมาสองม้วนยื่นให้เซ่เหวินตง เซ่เหวินตงยิ้มพูด ว่า’ขอบคุณ’รับมาหนึ่งม้วน แล้ววางไว้ที่ปาก หลี่ล่วงที่ อยู่ด้านข้างเดินเข้ามาจุดบุหรี่ให้เซ่เหวินตงกับสามตา สามตามองหลี่ล่วง แล้วพูดกับเซ่เหวินตงว่า “ไอ้เด็กนี่ บริการไม่เลวเลย!”‘หยุดชั่วครู่ แล้วพูดต่อว่า ความหมาย ของน้องชายคือควรทำยังไง?”

“ผมว่าร่วมกลุ่ม อย่างนี้จะเป็นผลดีกับทุกคน ไม่ต้องเสีย เปรียบ”เซ่เหวินตงพ่นควันบุหรี่เป็นรูปวงกลม

“ฮ่าๆ!ร่วมกลุ่ม?อืม เป็นความคิดที่ดี ต่างมีผลดี”สามตาถู ไม้คิวในมือพร้อมกับพูดว่า แต่ว่า……

เซ่เหวินตงจะไม่เข้าใจความหมายของสามตาได้ อย่างไร”พี่สามตาหมายถึงใครมานั่งตำแหน่งลูกพี่ใช่ มั้ย?”สามตาไม่พูด เพียงแต่พยักหน้า หรี่ตามองเซ่เหวิน ตง”ที่จริงผมไม่มีคุณสมบัติแย่งตำแหน่งลูกพี่กับพี่สามตา เลย แต่ถ้ายอมมอบมือเปล่าลูกน้องจะว่าผมไม่มีถ่านได้ งั้นก็แค่คําเดียว….”สามตาขมวดคิ้วถาม คำไหน?”

“สู้ตัวต่อตัว!พี่กับผม ใครชนะใครเป็นลูกพี่ใหญ่”ดวงตา เซ่เหวินตงฉายแสงเย็นแวบผ่าน

สามตารู้สึกอึ้ง ไม่กล้าเชื่อคำพูดของเขา แล้วมองประเมินเซ่เหวินตงอีกครั้ง ดูแล้วก็ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรนิ ตัว สูงเกือบได้ร้อยเจ็ดสิบ แถมยังผอมแห้งอีก คนนี้เป็นคน ประเภทไหนกัน?ถึงกล้าพูดอย่างนี้

“ฮ่าๆ~~”สามตาหัวเราะคิกคัก“น้องชายคำไหนคำ

นั้น?”คิกคิก พูดแล้วไม่ทำตามจะตั้งแก๊งไปเพื่อ!” “งั้นดี เอาอย่างนี้แหละ!เอ็งว่าวันไหนดี?”สามตาพูดอย่าง

เชื่อมั่นในตัวเอง

เซ่เหวินตงมองรอบๆ แล้วพูดว่า“ที่นี่ไม่เลว เวลาว่างผมก็ ไม่เยอะ ผมว่าตอนนี้เลย!”

“ฮ่าๆ ดี !”

เซ่เหวินตงถอดเสื้อกันหนาวออก หลี่ส่วงกับเกาเฉียง คิดไม่ถึงว่าผลจะกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ หลี่ล่วงถาม อย่างเป็นห่วง “พี่ตง จะสู้ตัวต่อตัวจริงๆเหรอ?สามตา มีชื่อเสียงต่อสู้ทั้งใกล้และไกลเลยนะ!”เซ่เหวินตงโยน เสื้อให้หลี่ส่วง แล้วพูดเสียงเบา“อันนี้คือวิธีแก้ไขปัญหา ที่ดีที่สุด ความสามารถพวกเราอ่อนหัด สู้พวกสามตาไม่ ไหวหรอก!”หันหลังเดินไปยังใจกลางห้องสนุกเกอร์ หลี่ ส่วงกับเกาเฉียงจับมีดบนเอวพร้อมกัน หากเดี๋ยวลูกพี่มี อันตราย พวกตนก็จะฟันไอ้เวรนั้นเลย เห็นอีกฝ่ายก็มี ท่าทางเดียวกัน สองทั้งสบตากันแล้วหัวเราะ ทุกอย่าง หยุดอยู่ที่ไม่พูดอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ