ก้าวย่างสู่มาเฟียไลฟ์

บทที่15



บทที่15

เซ่เหวินตงพูดอะไรไม่ออก ก้มหน้าลงครุ่นคิดเกือบห้า นาที

หลี่ล่วงที่ร่างกายใหญ่กว่าหัวสมองเห็นด้วยว่าข้อเสนอ แนะ ดีมาก ดึงจางเหยียนเจียงไว้พยักหน้าเห็นด้วย ตลอด จากนั้นตบไปที่ไหล่เขา ‘สุดยอด’ มาก: “อืม แผน ลูกพี่เยี่ยมมาก!”

จางเหยียนเจียงก็ชื่นชอบนิสัยใจตรงไปตรงมาของนาย อ้วนคนนี้ แล้วพูดอย่างถ่อมตัวว่า: “เรื่องนี้ฉันก็คิดมั่วไป งั้นและ ไม่มีอะไรสุดยอดหรอก”

คนฉลาดไม่ได้ชอบคนฉลาดเหมือนกันเสมอไป แต่ถ้า ต้องอยู่กับคนที่ฉลาดน้อยกว่าตัวเองพวกเขาก็จะไม่รู้สึก ฝืนใจ เพราะว่าพวกเขานั้นฉลาดกว่า!

หลังจากที่เซ่เหวินตงฟังคำพูดของจางเหยียนเจียงแล้ว รู้สึกว่ามันก็มีเหตุผลของมันอยู่ แต่ว่า……เซเวินตงพูด ช้าๆ ขึ้นมาว่า: “ถ้าแผนนี้สำเร็จ ทำให้หลิวจิ่งหลงกับลูกพี่ เกาพ่ายแพ้เสียหายทั้งสองฝ่ายได้ แต่ว่าถ้าเป็นแบบนั้น จะทำให้แก๊งเขียวเข้าร่วมเข้ามา…….ความจริงแล้วอำนาจ ของหลิวจิ่งหลงกับลูกพี่เกาไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลย ด้วยซ้ำ แก๊งที่ฉันสนใจจริงๆ คือแก๊งเขียว แผนนี้ไม่ได้ สร้างความเสียหายให้แก่แก๊งเขียวเลยสักนิด แต่มันจะ ทำให้พวกเขามาจัดการกับพวกเราได้อย่างเต็มที่….” เซ่เหวินตงไม่อยากทำร้ายจางเหยียนเจียง ตบ ไปที่ไหล่เขาแล้วพูดขึ้นว่า: “ความจริงแล้วแผนนายก็ไม่ เลว แต่เราต้องมองการณ์ไกล อย่าหลงใหลผลประโยชน์ เฉพาะหน้า! ต้องมองให้ชัดเจนใครถึงจะเป็นศัตรูคน สำคัญขอเรา! นายเป็นคนฉลาด อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”

หลังจากที่ฟังเซ่เหวินตงพูดจบ ทำให้แผ่นหลังของจางเห ยียนเจียงท่วมไปด้วยเหงื่อ เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็น คนฉลาด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้แล้ว ตัวเองเหมือน เด็กน้อยเลย จางเหยียนเจียงก้มคำนับเซ่เหวินตงแล้วพูด ขึ้นว่า: “ขอบคุณคำพูดนี้ของพี่ตงมาก ทำให้ผมรู้ว่าตัวเอง ยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ หลังจากนี้ผมจะตั้งใจฝึกฝนเป็น เท่าตัว จะไม่ทําให้พี่ผิดหวังแน่นอน!”

เซ่เหวินตงพยักหน้า พูดขึ้นว่า: “ความจริงแล้วนายเป็น คนฉลาด ฉันต้องการคนเก่งแบบนายมาก หวังว่าหลังจาก นี้ต่อไปนายจะซื่อสัตย์ต่อฉัน…….

จางเหยียนเจียงพูดเสียงดังออกมาว่า: “พี่ตง พี่เป็นคน เดียวที่สามารถทำให้ผมนับถือได้ ชีวิตนี้ขอติดตามพี่คน เดียว!”

เซเหวินตงจับมือของจางเหยียนเจียงอย่างสนิทสนม แล้วพูดขึ้นว่า: “เพื่อนรัก หลังจากนี้เราจะสร้างอนาคตไป ด้วยกัน ฮ่าๆ ~~”
“สม!” จางเหยียนเฉียงพยักหน้าแรงๆ น้ำตาคลอเล็ก น้อย รู้สึกว่าสวรรค์ดีต่อเขามาก ทำให้เขาได้เจอผู้ชายที่ ยอดเยี่ยมแบบนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย

เซ่เหวินตงคลายมือลง แล้วเดินออกไปที่สวนป่าเล็กด้าน นอก เงยหน้ามองบนฟ้าแล้วพูดขึ้นว่า “พวกนายรู้ไหม? ฉันไม่ได้หลงใหลในอำนาจ ไม่ได้ชอบความร่ำรวยใช้เงิน ยังไงก็ใช้ไม่หมด และไม่สนใจว่าในอนาคตข้างหน้าจะมี ธุรกิจยิ่งใหญ่อะไร ฉันต้องการแค่ประสบการณ์ สัมผัส ประสบการณ์ในระหว่างการต่อสู้แย่งชิงที่ทำให้รู้สึกตื่น เต้น นี่คือสิ่งที่ฉันอยากได้ที่สุด ความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือน นกที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ไม่มีอะไรมาผูกมัด ปีกของพวกมัน ก้มหน้าลงก็สามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง!

เสียงของเซ่เหวินตงไม่ได้ดังมาก แต่ก็สามารถทำให้คน ทั้งหมดในนั้นได้ยินกันอย่างชัดเจน ตอนนี้พระอาทิตย์ ขึ้นอยู่ข้างหลังของเขา และแสงอาทิตย์สาดสองไปที่ตัว เขา ทำให้คนไม่กล้าจ้องมองหน้าเขาโดยตรง ทุกคนไม่รู้ ว่าตอนนี้ความรู้สึกกันยังไง รู้แค่เพียงว่าหุ่นของเซนเหน ตงนั้นสูงใหญ่ และใกล้ชิดกับพระอาทิตย์มาก ซึ่งมันคือ ความสูงที่ไม่ว่าจะปีนป่ายยังไงก็ไม่ถึง

“พี่ตง คำพูดของพี่แปลกมาเลย! ทำไมผมฟังไม่เข้าใจ เลย? ” หลี่ล่วงลูบหัวตัวเอง พูดแทรกขึ้นมาทำลายความ เงียบ เซ่เหวินตงหัวเราะออกมา เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมถึงพูดความคิดตัวเองออกมา ดูเหมือนตัวเองจะ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่ออยู่กับวัยรุ่นร้อนแรงกลุ่มนี้ นิสัยตัวเองกับเมื่อก่อนต่างกันราวฟ้ากับดิน แต่ในใจเขา ไม่ได้ต่อต้านความรู้สึกแบบนี้ เพราะว่าชีวิตของเขาตอน นี้มีความสุขมาก และทะนุถนอมความสัมพันธ์ของวัยรุ่น กลุ่มนี้ที่มีให้กับเขา

เซ่เหวินตงพูดขึ้นว่า: “เสี่ยวส่วง นายรู้ไหม ? มีคำพูดคำ หนึ่งของนายที่พูดได้ถูกต้องมาก!”

หลี่ล่วงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย: “พี่ตง ผมพูดอะไรเห รอ? คำพูดไหนที่มันถูกต้องมาก?”

เซ่เหวินตงหัวเราะเสียงดังออกมาแล้วพูดขึ้นว่า: “ไม่ว่า เวลาไหน ทหารมามีนายพลช่วยบัง น้ำมาฉันช่วยบัง!” พูด จบแล้วเดินออกไปนอกโรงเรียน มีเสียงหัวเราะ ฮ่าๆ ดัง มาจากระยะไกล ทุกคนมองไปที่ด้านหลังของเซ่เหวินตง ในระยะไกล แล้วหันมามองหน้ากัน หัวเราะ ‘ห่าๆ ออก มาพร้อมกัน เก็บความรู้สึกซาบซึ้งไว้ในใจ แล้ววิ่งตามฮีโร่ ในดวงใจออกไป เหลือไว้แต่หลี่ส่วงที่ยังมึนงงอยู่ “วันนี้ เป็นอะไร สมองของทุกคนมีปัญหาหรือไงกัน… เอ๊ย พวก นายรอฉันหน่อย! ฉันอ้วน วิ่งช้า พวกนายหน่อย….. “ไอ้พวกนี้ไม่มีความเห็นใจกันเลย!… ตอนที่เซ่เหวินตง เดินออกไปนอกโรงเรียนนั้น ได้ยินเสียงของผู้ชายดังมา จากด้านหลัง

ตอนเย็น เซ่เหวินตงกับหลี่ล่วงไปโรงพยาบาลเยี่ยมเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ สามตากับเกาเฉียงอยู่ด้วย เพื่อ ทําความเข้าใจสถานการณ์ คนที่ต้องนอนโรงพยาบาล มีทั้งหมดห้าคนด้วยกัน ล้วนอาการไม่หนักมาก จึงทำให้ เซ่เหวินตงคลายกังวลลง สามตาเสนอในเมื่อไม่มีอะไร ทําจึงชวนทุกคนไปตีสนุก เซ่เหวินตงถึงแม้จะไม่ชอบเล่น สนุก แต่ก็ไม่อย่าทำให้ทุกคนผิดหวัง จึงพยักหน้าตอบรับ สามตารีบพูดขึ้นว่า: “ฉันไม่อยู่ทีมเดียวกับพี่ตงนะ ต้อง พูดไว้ล่วงหน้าก่อน” “…………. .” เซ่เหวินตงทั้งสามคนพูด อะไรไม่ออก

ตอนที่สามตาเจอพี่ตงครั้งแรกนั้น จำได้ว่าพี่ตงแทงไม่ เข้าสักลูก เหตุการณ์ในอดีตยังจำติดตา…….

เสียงไม่พอใจของหลี่ส่วงดังมาจากทางเดินของโรง พยาบาล: “เว๊ย! ทำไมฉันต้องอยู่ทีมเดียวกับพี่ตงด้วย?

เสียงของสามตากับเกาเฉียงดังขึ้นมาพร้อมกัน: “เพราะ นายเล่นสนุกเกอร์เก่งที่สุดในแก๊งพวกเราไง!”

“อืม! ข้อนี้มันก็ใช่!…เยๆๆ ! ดูเหมือนฉันจะไม่เคยชนะ นายสองคนมาก่อนเลยนะ!” “ สงัดลง …….….” ทางเดินเงียบ

วันที่สอง เซ่เหวินตงไม่ขี่จักรยาน ใช้วิ่งไปโรงเรียน ฉัน รู้สึกว่าคนที่ฉันต้องรับมือนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่มี ร่างกายที่แข็งแรงคงจะไม่ได้ จากบ้านเขาถึงโรงเรียนมัธยมที่หนึ่งระยะทางประมาณสองกิโล เซ่เหวินตงจึงวิ่ง ไปด้วยชกมือขึ้นอากาศไปด้วย ถ้าเหนื่อยก็เปลี่ยนเป็น เดินสักพัก เมื่อมาถึงโรงเรียนนั้นก็เหงื่อไหลท่วมตัวแล้ว วันนี้อารมณ์ของเขาดีมาก เมื่อถึงหน้าโรงเรียนยังทักทาย กับยามชราเป็นพิเศษด้วย

ยามชราโบกมือกับเขา “พ่อหนุ่ม ทำไมเหงื่อท่วมตัวแบบ นี้ รีบเข้าไปข้างในเดี่ยวจะเป็นหวัด!”

เซ่เหวินตงพยักหน้าแล้วยิ้มให้ จากนั้นวิ่งเขาไปในตึก ห้องเรียน วิ่งไปไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ดังมา จากด้านหลัง ‘คงไม่ใช่มั้ง!’ เซ่เหวินตงกระโดดไปอีกข้าง โดยอัตโนมัติ มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดลงข้างเขา “เวีย ทําไมเป็นนายอีกละ?! นายมีนิสัยชอบเดินอยู่กลางถนน หรือไง?”

เซ่เหวินตงหันกลับไปดู อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา คน ขี่ก็คือคนเดียวกันที่เกือบขับรถชนตัวเองเมื่อวัน เป็น ‘รุ่น พี่’ ที่สวยมากและมีชื่อเสียงมาก เซ่เหวินตงพยักหน้า แล้ว ยิ้มให้: “สวัสดีรุ่นพี่!”

หญิงสาวที่ขี่มอเตอร์ไซค์แก้มแดงเล็กน้อย หัวเราะ ‘เคอๆ ‘ความจําของนายดีมากเลยนี่!

เซ่เหวินตงสำรวจหญิงสาวอย่างละเอียด เมื่อถูกเขาจ้อง ด้วยสายตาที่ร้อนแรงขนาดนั้น ทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย พูดเย่อหยิ่งออกมาว่า: “เอ๊ย มองอะไร? ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง?”

เซ่เหวินตงพูดขึ้นอย่าง ‘เสียใจ’ ว่า: “เป็นเพราะรุ่นพี่สวย มากไง ใครจะไปลืมได้! ไม่ใช่เพราะผมความจําดีหรอก” ความจริงแล้วเขาก็พูดออกมาจากใจจริง ผู้หญิงสวยแบบ นี้ลืมยากจริงๆ

หญิงสาวหน้าแดง เหมือนมีกระต่ายวิ่งเข้ามาในใจ คำ พูดนี้ถ้าเป็นคนอื่นพูดเธอไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ เพราะอะไรเมื่อออกมาจากปากผู้ชายที่แม้แต่ชื่อก็ไม่รู้คน นี้พูดออกมานั้น มีความรู้สึกแบบหนึ่งขึ้นมา รู้สึกดีใจ แต่ ทุกครั้งที่เจอผู้ชายคนนี้ใจเธอเต้นตุบตับรุนแรง เธอไม่รู้ ว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร เธอจึงตัดสินใจวิ่งหนีมัน

หญิงสาวขึ้นนั่งมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง แล้วพูด บ๊ายๆ ไม่ รอให้เซ่เหวินตงพูดจบ รีบขี่รถออกไป หลังจากขับออก ไปได้สิบกว่าเมตร หญิงสาวหันมาตะโกนเสียงดังว่า: “ฉัน ชื่อเกาฮุยยู่!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ