ก้าวย่างสู่มาเฟียไลฟ์

บทที่10



บทที่10

เห็นดวงตาสว่างไสวเจื่อรอยยิ้มกำลังมองตนอยู่ หัวใจ เต้นชักกระตุก แล้วส่ายหัวเดินจากไป บอกตัวเองในใจ ว่าเธอแค่เดินออกไป ไม่ได้หนี เซ่เหวินตงตะโกนอยู่ด้าน หลัง “รุ่นพี่บ๊ายบาย!”อันที่จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคน นี้เรียนชั้นไหน เขาเองก็ไม่อยากรู้ด้วย

เมื่อกี้ถูกผู้หญิงคนนี้ดึงดูดก็เพราะชื่นชมในความสวย ด้วยสัญชาตญาณของผู้ชายเท่านั้น เห็นหญิงสาวเดิน ห่างออกไปแล้ว เซ่เหวินตงจึงเก็บสายตา ก้มตัวไปยกรถ ของตัวเองขึ้นมา เวลานี้ด้านหลังมีเสียงผู้ชายส่งมา “พี่ ตง!รอผมก่อน!”ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร เซ่เหวินตง หันไปมองหลี่ส่วงที่เหงื่อซุ่มตัว ด้านหลังยังมีเกาเฉียงกับ ใบหน้าไม่รู้จักอีกหกคน

เดินไปด้านหน้า หลี่ส่วงพูดกับทุกคนว่า“คนนี้ก็คือพี่ตง ลูกพี่ของพวกนาย!”หกคนนั้นมองเซ่เหวินตงแวบหนึ่ง โค้ง ตัวพูดพร้อมกันว่า“สวัสดีพี่ตง!”

เห็นเซ่เหวินตงทำหน้าสงสัย เกาเฉียงอธิบายว่า“ลูกน้อง หกคนนี้ก็เป็นนักเรียนใหม่ พี่สามตากับพวกเราหามา เวลาตีกันเหมือนเสือน้อยเลย!”

เซ่เหวินตงพยักหน้าให้ทั้งหกคน พูดกับหลี่ส่วงและเกา เฉียง“ถ้าเดี๋ยวพี่น้องมากันครบแล้ว พวกนายคอยดูด้วย อย่าเพิ่งให้ก่อเรื่องรู้ไหม?” ทั้งสองคนพยักหน้า หลี่ล่วงย้มเกๆ พี่ตง ผมตามพี่มานานแล้ว เรียนรู้ได้ไม่มากก็ น้อย วางใจเถอะ!”

เซ่เหวินตงหันหน้า พลางส่ายหัวพูดว่า“คนที่ข้าไม่ วางใจสุดก็เอ็งนี่แหละ”เข็นรถไปยังลานจอดรถ เกาเฉียง หัวเราะอย่างชอบใจ แล้วเข็นรถตามเซ่เหวินตงอยู่ด้าน หลัง”มึงอ่ะ นอกจากมีความสุขบนความทุกข์คนอื่นแล้ว ยังทำอะไรเป็นบ้าง?”ไอ้อ้วนหลี่ล่วงขึ้นไปนั่งรถอีกครั้ง จากนั้นก็ตามเซ่เหวินตงไป ลูกน้องใหม่ทั้งหกคนตามไป ติดๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

พวกเซ่เหวินตงถึงลานจอดรถแล้ว กำลังคิดจะเข้าไป ด้านในก็ถูกนักเรียนที่อยู่ในประตูทางเข้าขวางไว้ “เฮ้อ~~เฮ้อ~เฮ้อ!หยุดให้หมด ทำไมต้องจอดข้างใน ไม่รู้ เหรอว่าที่นี่คือตำแหน่งจอดรถของครู?”

หลี่ล่วงไม่พอใจ”เมื่อกี้ผมยังเห็นคนใส่เครื่องแบบ นักเรียนจอดรถด้านในเลย ทำไมพวกเราไม่ได้ล่ะ?”

เด็กนักเรียนตาเล็กคนหนึ่งกวาดสายตามองหลี่ส่วง”คน อื่นคือคนอื่น นายคือนาย กูว่าไม่ได้ก็ไม่ได้!”คนตัวผอมที่ อยู่ข้างเขาไม่พูดอะไร แต่เงยหน้าสูงจนทำให้คนเห็นขน ในรูจมูกของเขา

หลี่ส่วงจอดรถเสร็จก็เดินเข้าไปต่อกร อะไรฟะ~เพราะ กูเป็นนักเรียนใหม่ป่ะว่ะ?กูขอบอกมึงเลยหลีกทางเดี๋ยวนี้ วันนี้กูต้องจอดรถที่นี่ให้ได้”เซ่เหวินตงก็ รู้สึกว่าสองคนนี้เกินไป เลยไม่ได้ห้ามหลี่ล่วง

เมื่อ ‘ไอ้ตาเล็ก’ ได้ยิน ดวงตากลมนั้นเบิกกว้าง พูดเสียง ดังออกมาว่า: “ไอ้หมอนี่ นายหาเรื่องโดนต่อยเหรอ รีบ ไสหัวไปต่อหน้าฉัน ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนาย”

“นายจ้องเหี้ยอะไรของแก จ้องยังไงตานายก็ไม่มีทางโต เท่าถั่วเหลืองหรอก!”

‘ไอ้ตาเล็ก’ ได้ยินแล้วรับไม่ได้ ปรกติเขาเกลียดมากคน ที่เรียกเขาว่าไอ้ตาเล็ก วันนี้เด็กใหม่กล้าพูดแบบนี้ต่อ หน้าเขา โกรธจนควันออกหูเลย ดึงแขนเสื้อขึ้นเตรียม ตัวลงมือ เซ่เหวินตงยื่นมือมาตรงหน้าเขาแล้วพูดขึ้นว่า: “เพื่อนเรื่องนี้ถือว่าให้แล้วต่อกันนะ เพื่อนฉันเพิ่งมาใหม่ ไม่รู้เรื่องอะไร เดี๋ยวพวกเราย้ายรถไปจอดที่อื่นกัน”

‘ไอ้ตาเล็ก’ ไม่ได้เห็นเซ่เหวินตงอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ผลักมือเขาออก “ทำไม? จะให้เรื่องจบง่ายๆ แบบนี้เหรอ? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแกถอยออกไปห่างๆ เลย แม่งไอ้อ้วน เอ๊ย วันนั้นฉันต้องต่อยแกให้ได้!”

หลังจากที่หลี่ส่วงฟังจบก็โกรธมาก เขาเกลียดมากเวลา ที่มีคนด่าเซ่เหวินตง และยิ่งเกลียดเวลามีคนว่าเขาอ้วน โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่เพื่อน และ ‘ไอ้ตาเล็ก’ เข้าขายทั้งสองข้อ หลีสวงไม่พูดอะไรอีก เดินมาหยุดอยู่ตรง หน้าเขา ยกมือขึ้นแล้วตบลงไปบนใบหน้าของ ‘ไอ้ตาเล็ก’ ‘ไอ้ตาเล็ก’ ถูกตบจนทำต้องถอยหลังไปสองเก้า หน้ามืด เหมือนมีดาวโผล่ออกมาอยู่ตรงหน้า

“แม่งเหี้ยเอ๊ยแกกล้าตบฉันเหรอ?!”

“ตบแก? ฉันยังต้องการให้แกรับรู้ด้วยว่าทำไมดอกไม้ ถึงเป็นสีแดง!” พูดจบก็ถีบไปที่หน้าท้องของ ‘ไอ้ตาเล็ก’ ทำให้ ‘ไอ้ตาเล็ก’ ล้มไถลไป นั่งกองอยู่บนพื้น หลี่ล่วงเดิน ไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ไม่สนว่าเป็นหัวหรือร่างกาย กระหน่ำ ถีบลงไปไม่ยั้ง

ไอ้ผอมที่อยู่ด้วยกันกับ ‘ไอ้ตาเล็ก’ เมื่อเห็นเพื่อนถูกตี กำลังจะเข้าไปช่วย แต่ถูกเกาเฉียงสกัดไว้ก่อน เกาเฉียง หันกลับไปมองเซ่เหวินตง เห็นพี่ตงยิ้มอยู่ จึงไม่กังวล อะไรอีก แล้วพูดกับเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาว่า: “พี่น้องทั้ง หลายมาออกกําลังกายกันหน่อยดีกว่า”

คนแก๊งนี้ไม่มีใครรังแกได้ง่ายๆ เมื่อกี้ลูกพี่ใหญ่ไม่สั่งจึง ไม่มีใครกล้าลงมือ ตอนนี้เมื่อเกาเฉียงร้อง คนทั้งหกยิ้ม เจ้าเล่ห์และล้อมรอ ‘ไอ้ผอม’ ไว้ หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาว่า: “ให้ฉัน ‘ทดลงก่อน’ !” ยกขาขึ้นมาถีบลงไปที่ขา ‘ไอ้ผอม’ ทำให้ ‘ไอ้ผอม’ ร่างกายไถลไปเล็กน้อย

“แกรอฉันอยู่ตรงนั้นแล่ะ! ” ”

มีคนวิ่งเข้ามากระหน่ำซ้ำอีกคน จากนั้นดึงผมของ ‘ไอ้ผอม’ ไว้ แล้วใช้แรงดึงลง ข้างล่าง ทำให้ ‘ไอ้ผอม’ ปวดหนังศีรษะมาก จนต้องก้ม เอวลงต่ำลงมา และคนอื่นก็วิ่งเข้ากระหน่ำพร้อมกัน ทําให้ ‘ไอ้ผอม’ โดนทั้งหมดทั้งรองเท้าหนังกระทืบใส่

ในตอนนี้มีผู้ชายที่เหมือนครูเดินเข้ามาในที่จอดรถพอดี ทุกคนเพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมต้น พวกเขายัง คงกลัวครูอยู่เล็กน้อย จึงหยุดลงมือทันที คนที่เข้ามานั้น ทําเหมือนไม่เห็นพวกเขา เข้ามาถึงลานจอดรถล็อครถให้ เรียบร้อย หันกลับแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

หลี่ล่วงถามเกาเฉียงด้วยความสงสัยว่า: “คนคนนี้เป็น คุณครูหรือเปล่า? ทำไมไม่พูดอะไรสักคำ!” เกาเฉียงก็ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า: “ผีเท่านั้นที่รู้ โรงเรียนเหี้ยอะไรแม่งเรื่องแปลงเยอะเหลือเกิน !” ทุกคน ต่างพยักหน้าเห็นพ้องต้องกัน

เซ่เหวินตงมองไปที่คนทั้งสองที่นอนดิ้นอยู่บนพื้น แล้ว พูดกับทุกคนว่า: “พอได้ละ พวกเราไปกันเถอะ!” ทุกคน เดินตามเซ่เหวินตงไป และเดินไปไกลมากกว่าจะเห็นโรง จอดรถแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าโรงจอดรถเมื่อกี้เป็นสิบเท่า หลังจากที่ทุกคนล็อครถเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปที่ สนาม ซึ่งสนามตอนนี้มีคนยืนอยู่อยู่แล้วไม่น้อย หลี่ล่วง พูดเสียงเบาขึ้นมาว่า: “ดูแล้วที่นี่มีเด็กใหม่ไม่น้อยเลย!”
คนในสนามจับเป็นกลุ่มก้อนกลุ่มละสามถึงห้าคน หรือ กลุ่มล่ะเจ็ดถึงแปดคน ต่างแต่งตัวหลากหลายแตกต่าง กันไป ในมือล้วนแต่ถือบุหรี่ (ยกเว้นผู้หญิง) เซ่เหวินตง คิดในใจ เด็กเลวทั้งหมดในเมืองคงมารวมตัวกันที่นี่หมด แล้ว เมื่อเห็นที่นี่แล้ว ทำให้เข้ารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขาชอบ ความท้าทายที่ทําให้คนรู้สึกคึกคักตื่นตัว มันทําให้ใจเขา อยากจะ~พิชิตมัน

เซ่เหวินตงยืนอยู่คนแรก ส่วนพี่น้องในแก๊งเดียวกันต่าง ทยอยมาถึง ไม่นานนัก ก็รวมตัวกันได้สี่สิบกว่าคน เซ่เห วินตงพูดกับหลี่ส่วงว่า: “เสี่ยวส่วง นายไปดูสิว่ายังมีพี่ น้องอีกกี่คนที่ยังมาไม่ถึง?” หลี่ล่วงพยักหน้า ยืนอยู่ที่เดิม แล้วตะโกนเสียงดังขึ้นมาว่า: “คนที่ตามหาพี่ตงให้มาที่ นี่~~” เนื่องจากเสียงตะโกนดังมาก ทุนคนในสนามได้ยิน กันหมด เกาเฉียงที่ยืนอยู่ข้างหลี่ส่วง รู้สึกเหมือนหูตัว เอง ‘โว้ง’ ดังขึ้นมา จึงยกขาขึ้นมาถีบลงไปที่ก้นของหลี่ส่ วง “เหี้ย พี่ตงให้นายไปหา ไม่ใช่ให้นายมาตะโกน? หูโดน เสียงนายสะเทือนจนจะหนวกละ!”

หลี่ส่วงหัวเราะแหะๆ ออกมา แล้วพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ ว่า: “เสียงฉันเป็นไงบ้าง? ได้ผลเกิดคาดเลยไหม! ความ จริงแล้วฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมาะสมร้องเพลงเสียงเปล่า กว่าหลี่น่าอีก”

‘พุดทง’ ข้างหลังล้มกันเป็นแถว น้ำเสียงที่สูงของหลี่ล่วง นั้นเห็นผลเหมือนกัน บางคนที่ตามหาเซ่เหวินตงไม่เจอ ต่างวิ่งเข้ามาหา
แต่รอบๆ ด้านนั้นได้มีเสียงตะโกนด่าขึ้นมา “ใครวะ? ตะโกนหาแม่มึงเหรอ!” “เมื่อกี้แม่งเหี้ยตัวไหนร้องโหยหวน วะ? อย่างกะผีแหกปาก!” หลี่ล่วงหน้าแดงก่ำขึ้นมา โมโหโ กรธมากจึงตะโกนขึ้นว่า: “พวกลูกชายเอ๊ย พ่อพวกมึงฉัน เป็นคนตะโกนเอง มีใครไม่พอใจก็เข้ามาหาฉันได้เลย!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ