วิวาห์ลับ รักรุนแรง

บทที่ 14 บอกว่าจะไปเที่ยวแล้วไปเลย



บทที่ 14 บอกว่าจะไปเที่ยวแล้วไปเลย

ความรู้สึกไม่ไว้วางใจได้เกิดขึ้นแล้ว เขาอยากที่จะอธิบายให้เธอ ฟัง แต่ทุกคำพูดของเซี่ยเสร่ แสดงความเคลือบแคลงใจในตัว เขาอย่าง

ดังนั้น ในครั้งนี้ เขาจึงไม่อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป แต่หันหลังกลับ อย่างเย็นชาแล้วไปที่รถ จากนั้นก็ไปที่บริษัท ในตอนกลางคืน

และเซี่ยเสว่ที่คลุมตัวด้วยผ้าอย่างแน่นหนาบนเตียงก็รู้สึก

โกรธอย่างยิ่ง

ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจ ว่าทำไมตอนนั้นเธอไม่พุ่งตัวออกไป แล้วตบเซียงซิงฉือ ชายหนุ่มที่มาหลอกเธอเล่นสักฉาดแรงๆ

ทั้งความคิดและคำพูดของคนทั้งสองคนดูเหมือนจะยุ่งเหยิงไป

หมด เธอเองก็ยังคิดได้ไม่แจ่มชัดแล้วก็ยังตัดไม่ขาด

และไม่รู้ว่าทำไม พอคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยเสวก็รู้สึกแสบจมูก น้ำตาก็เหมือนจะคลออยู่ในดวงตา

เธอรู้สึกเศร้า โศกเศร้าอย่างไม่มีสิ้นสุด เห็นได้ชัดว่าเชียงชิง คือไม่ได้รักเธอ แต่กลับแกล้งหลอกเธอว่าประสบอุบัติเหตุทาง รถยนต์เพื่ออะไร

เป็นไปได้ไหมว่าที่เขาพูดแบบนั้นก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าเธอเป็น ของเล่นจริงๆงั้นเหรอ? เขาล้อเล่นกับเธอยังไม่พอ ยังจะล้อเล่น กับอารมณ์และความรู้สึกของเธอไปจนถึงขีดสุดเลยงั้นเหรอ?
มือของเซี่ยเลว เป็นกาน จากนั้นก็ทุบลงบนเตียงที่อ่อน นุ่ม : “เชียงชิงฉือ ไอ้คนสารเลว!”

เพราะความคิดที่สับสนวุ่นวายเหล่านี้ เซียเสวก็เหนื่อยล้าจน ทนไม่ไหว สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปเมื่อไหร่ ในวันต่อมา เมื่อเธอตื่นมาแล้วเห็นตัวเองตอนที่ไปเข้าห้องน้ำ

นั้น ก็ประหลาดใจอย่างมากที่ดวงตาของเธอพองเหมือนกับลูก

วอลนัท มันบวมและแดง เมื่อวานนี้เธอร้องไห้อย่างนั้นเหรอ?

สุดท้ายแล้วถึงแม้จะแต่งหน้า ก็ยังปกปิดได้ไม่มิด

แต่หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว ยังไงก็ตามเห็นได้ชัดว่าเธอควร ที่จะเตรียมตัวไปทํางาน แต่เธอกลับวกกลับไปที่เตียงและ เอนหลังลงอีกครั้ง จากนั้นก็จ้องมองไปที่เพดาน ในใจยังคง คิดถึงการพูดคุยที่รุนแรงข้ามประตูกับเซียงชิงฉือเมื่อคืนนี้

ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกเหนื่อยอย่างยิ่ง ร่างกายและจิตใจอ่อนล้า

ดังนั้น ในท้ายที่สุด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปบริษัทแล้ว เธอ ต้องการอยู่เงียบๆสักระยะเพื่อคิดเกี่ยวกับเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น และยังต้องการใช้เวลาสักเล็กน้อย ให้ตัวเองได้เข้าใจถึงเรื่อง ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากไปที่บริษัท ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงในการ พบกับเซียงชิงฉือ และดังนั้นก็เป็นไปได้ที่จะต้องเจอมซึ่งเหยวด้ วย เห็นดังนี้แล้วเธอกันตัวเองไว้ดีกว่า

หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้วโทรลางานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์กับหัวหน้าของเธอทันที จากนั้น จึงเริ่มวางแผนว่าจะไปที่ไหน

เธอหยิบมือถือออกมา แล้วก็ค้นหาว่ามีสถานที่ดีๆที่ควรไป ที่ไหนบ้าง หลังจากใช้เวลานานกว่าสิบนาที เธอก็ตัดสินใจเลือก มาที่หนึ่ง จากนั้นก็เก็บข้าวของใส่ไปในเป้สะพายหลัง แล้วเธอก็ เปลี่ยนไปใส่ยีนส์สีขาวที่เหมาะสมกับการเดินทางมากที่สุด

ในตอนที่กระเป๋าอยู่บนหลังพร้อมจะเดินทางแล้วนั่นเองประตู ก็ถูกเคาะ “คุณนายคะ คุณตื่นหรือยัง จะลงมาทานอาหารเช้า หรือยังคะ?”

เซียเสวกดเสียงของตัวเองลงให้เหมือนกับเพิ่งตื่น : “จะรีบลง ไปนะคะ” โชคดีที่ไม่ถูกป้าจางจับได้

เมื่อได้ยินว่าด้านนอกไม่มีเสียงอะไรแล้ว เซี่ยเสจึงค่อยๆ สวม

เป้สะพายหลังแล้วเดินผ่านด้านในตัวบ้านไปอย่างระมัดระวัง จน

ออกมาทางประตูหลัง เธอก็เรียกรถแท็กซี่แล้วตรงไปสถานีขนส่ง

ซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถบัส

ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะจากไปของเซี่ยเส ทำให้เธอมองข้ามบางอย่างไป หรือไม่เธอก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลย

เธอนั่งอยู่ตำแหน่งริมหน้าต่างที่นั่งแถวสุดท้ายของรถบัส กอด เป้สะพายหลังที่วางอยู่บนเข่า จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่วิว ทิวทัศน์ที่ค่อยเลื่อนไปที่หน้าต่างด้านหลังอย่างช้าๆ

แต่ครั้งนี้ต้องขอบคุณเชียงชิงฉือจริงๆ ที่ทำให้เธอได้ตัดสินใจ ทําให้มีโอกาส “หายาก” ในการพักผ่อนนี้
ทันทีที่คิดถึงเซียงซิงฉือ เซียเสก็ตบหัวของตัวเองอย่างแรง มันเป็นภาพที่ไม่ดีนัก เธอทําร้ายตัวเองเงียบๆ ทำให้คนที่นั่งอยู่ ข้างๆ ใช้สายตามองเธอเหมือนกับกำลังมองดูคนโง่

เธอยิ้มอย่างกระดากอาย แล้วเบือนหน้าไปด้านข้าง

เธอเตือนตัวเองอย่างจริงจังว่า ห้ามคิดถึงเชียงชิงฉืออีก ถ้า หากยังคิดถึงอีกแล้วการที่เธอออกมาอย่างนี้มันจะมีความหมาย อะไรล่ะ?

หลังจากที่คิดเช่นนี้แล้ว เธอก็พยายามทำตัวเองให้อยู่อย่าง สงบ มองไปยังนอกหน้าต่างที่ทิวทัศน์เคลื่อนผ่านไปเร็วยิ่งขึ้น

มองๆไป ก็รู้สึกว่าเปลือกตาเริ่มหนัก…

เซี่ยเสว่ไม่มีทางรู้เลยว่า ด้านหลังรถบัสคันนี้ มีรถยนต์ที่เธอ คุ้นเคยมากที่สุดขับตามหลังอยู่

สุดท้ายแล้ว ก็ถูกคนขับรถปลุกให้ตื่น : “สาวน้อย ถึงสถานี

แล้วรีบลงไปได้แล้ว”

เธอขยี้ตาแล้วก็หยิบเป้ของตัวเองขึ้นมาแล้วกล่าวขอบคุณ จากนั้นก็ลงจากรถอย่างรวดเร็ว ปกติแล้วระยะการเดินทางสามสี่ ชั่วโมงควรจะต้องรู้สึกเหนื่อย แต่เนื่องจากเธอหลับมาตลอดทาง ตอนนี้ถือได้ว่าเธอเต็มไปด้วยพลังงาน

เธอพูดว่าจะออกเดินทางแล้วก็มาเลยอย่างฉับพลันทันใด ดัง นั้นเธอจึงหาที่พักให้กับตัวเองก่อน หลังจากเอาของใช้ประจำวัน ใส่ลงในเป้แล้ว เธอก็หยิบมือถือแล้วออกมาจากที่พักเล็กๆที่เธออยู่

ที่ๆเธอมาคือเมืองเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆเมืองหลินโจว

ในขณะที่เธอค้นหา เพราะเห็นว่าเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของ มวยไทเก๊กและเห็นรูปภาพที่อยู่บนเว็บไปก็รู้สึกดี ดังนั้นเธอจึง มาที่นี่

เพื่อมาสัมผัสกับขนบธรรมเนียมท้องถิ่นของที่แห่งนี้

เธอสะพายเป้และสวมเสื้อผ้าที่สะดวกสบายและยังผูกหางม้า อย่างเรียบง่าย

เธออยู่ภายใต้แสงแดดนั้นดูสดใสและสวยงามราวกับดวง อาทิตย์ กระฉับกระเฉงและชีวิตชีวาราวกับเด็กน้อย

บางเวลาเมื่อเธออยู่คนเดียว เธอก็จะแสดงด้านนี้ออกมา

เซียเสวีเดินบนแผ่นหินในเมืองเล็กๆ อาบด้วยแสงแดดอัน อบอุ่น แล้วยังมีอากาศที่แสนบริสุทธิ์หาใดเปรียบ แม้แต่ใน อากาศยังมีกลิ่นหญ้า

เธออารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง มันง่ายดายมากที่จะโยนความ กังวลใจและความคิดเหล่านั้นออกไปให้เบาบาง เหมือนนกที่หนี ออกมาจากกรง เธอกางปีกเพื่อค้นหาท้องฟ้าของเธอ

ขณะที่เดินไปตามถนนแผ่นหิน ทั้งสองด้านของเธอเป็นบ้าน หินหลังใหญ่ มันคลาสสิคและเป็นแบบดั้งเดิมอย่างมาก

แม้กระทั่งบนกำแพงที่มีตะไคร่น้ำสีเขียวอ่อนเติบโตขึ้น ก็ยังดูเป็นพิเศษ

เซี่ยเสน่หยิบมือถือออกมา จากนั้นก็หามุมแล้วถ่ายภาพตะไคร่ น้ำข้างหน้าเธอ ในตอนที่ลดมือถือลง จมูกก็ได้กลิ่นที่ไม่รู้ลมจาก ทางไหนพัดมา กลิ่นที่ทำให้เธอรู้สึกน้ำลายสอ

ในเวลานี้ ก็เป็นเวลาอาหารเช้าแล้ว ตลอดทางที่มาเธอดื่มน้ำ ไปเพียงเล็กน้อย

บางทีอาจจะเป็นของดีที่ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนคนก็ตามไปหาจน เจอก็เป็นได้ เธอตามกลิ่นนั้นไป จากนั้นก็เห็นร้านอาหารเล็กๆที่ อยู่ไม่ไกลจากหัวมุม

เซียเสาเดินยิ้มเข้าไปอย่างรวดเร็ว ภายในร้านเถ้าแก่เนี้ยที่อยู่ เคาน์เตอร์ด้านหน้าก็มีอัธยาศัยดีมาก : “สาวน้อยมาคนเดียวเห รอจ๊ะ?”

“เอ้อ คุณพอจะช่วยแนะนำให้หน่อยได้มั้ยคะ?” เธอถามอย่าง

สุภาพ

เถ้าแก่เนี้ยหยิบเมนูออกมาแล้วชี้ให้ดู : “ทั้งหมดนี้เป็นอาหาร จานเด็ดของที่ร้านฉันค่ะ คุณดูแล้วชอบอันไหนเหรอคะ?”

เซียเสวยิ้มตอบ หลังจากสั่งอาหารแล้วก็มองหามุมในห้อง ส่วนตัวเล็กๆ

ถึงแม้ว่าร้านอาหารนี้จะเล็กมาก แต่เฟอร์นิเจอร์ในร้านนั้น โดดเด่นมาก ภายในร้านอาหารเป็นของตกแต่งแบบดั้งเดิม และเป็นการตกแต่งตามธรรมชาติ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นเขียวของต้นไม้…

ในห้องส่วนตัวที่เธออยู่ก็เป็นเก้าอี้หวายแบบแขวน นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะหวาย บนโต๊ะยังมีช่อดอกไม้ที่เธอไม่รู้จักอยู่ด้วย ดอกไม้ นั้นกำลังเบ่งบานสดใส เมื่อเห็นแล้วเธอรู้สึกสุขใจอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ