วิวาห์ลับ รักรุนแรง

บทที่ 20 พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง



บทที่ 20 พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเอง

มองดูด้านหลังของเซี่ยเสวีที่เดินจากไป เชียงชิงฉือก็คิ้วของ ตนอย่างเหนื่อยล้า

ทำไมเซี่ยเสวถึงโกรธเขาได้ง่ายๆอยู่เสมอเลย

และที่เซี่ยเสว่คิดไม่ถึงก็คือ เรื่องเลวร้ายที่เธอพูดเอาไว้ได้ กลายเป็นจริง เธอคิดว่าทุกคนไปกินข้าวกันหมดแล้ว แต่เธอไม่ คาดคิดเลยว่าบทสนทนาของเธอกับเซียงชิงฉือจะมีคนมาได้ยิน เข้าจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อแพร่กระจายจากหนึ่งไปสิบ จากสิบ ไปร้อย ท้ายที่สุดก็ถูกแต่งนั้นเติมนี่จนเกินความจริง จนแทบจะ ฟังไม่ได้

หลังจากที่เซี่ยเสวกลับมาจากกินข้าว จากเดิมที่ภายในห้อง มีความคึกคักแต่พอเธอปรากฏตัวขึ้นก็เกิดความเงียบสงบตาม มา สายตาที่มองไปทางเธอนั้นเต็มไปด้วยความดูถูกและเย้ย หยัน และมีกระทั่งความเห็นอกเห็นใจ

เมื่อนั่งลงในตำแหน่งของตัวเองแล้วก็พยายามเพิกเฉยต่อ ภาพที่พวกเขาจ้องมองเธอไม่หยุดแล้วพากันพึมพำ : ทำไมถึงได้ มองเธอแบบนี้? หรือว่าพวกเขาค้นพบความสัมพันธ์ของเธอกับ เซียงชิงฉือแล้ว?

ทันใดนั้นหยางหลิ่วก็ตบเอกสารกองโคลงบนโต๊ะ จนทำให้ เกิดเสียงดังจากนั้นก็เอ่ยอย่างอุ่นเคืองว่า “พวกเธอมองอะไร กันน่ะ ไม่ทํางานเหรอ!”
เธอโกรธมาก ไม่รู้ว่าข่าวลือนั้นมาจากไหน มีคนพูดว่าเซียเส ล่อลวงประธานเชียง พูดอย่างไม่น่าฟังว่าใช้ร่างกายเข้าแลก แต่เธอให้ตาย เธอก็ไม่เชื่อหรอก เธอเข้าใจเซียเสว หล่อน ไม่ใช่คนแบบนั้น และเธอก็รู้ถึงความสามารถในการทำงานของ เซี่ยเสว่ด้วย

หนึ่งในหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ชอบเสี่ยเสวก็พูดเสียงดัง อย่างดูถูกว่า : “มีคนที่ไม่มีค่าคู่ควรมีความสัมพันธ์กับประธาน เชียงของพวกเราด้วยแหละ พวกเราก็เห็นว่ามันไม่ควรใช่ไหม?

ผู้หญิงอีกคนก็ตามติดมา : “ใช่แล้ว ถึงขนาดกล้าเอาร่างกาย เข้าแลก พวกเรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น บริษัทของเราไม่ได้ สรรหาคนที่มีประสิทธิภาพในการทำงานหรอกเหรอ เมื่อไหร่กัน ที่แม้แต่ผู้หญิงประเภทนี้ก็ยังเข้ามาทำงานได้?

เมื่อหยางหลิ่วได้ยินคำพูดที่เลวร้ายเหล่านี้แล้วก็ทนไม่ไหว กระโดดออกมาโต้ตอบพวกหล่อน : “พวกเธอรู้อะไรมั้ย การ พูดจาไร้สาระมั่วซั่วแบบนี้ รู้ไหมว่านี่คือการที่พวกเธอใช้คำพูด ให้ร้าย มันผิดกฎหมายนะ!”

“พูดจาให้ร้าย? ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องถามเซียเสให้ดีด้วย หล่อนฉวยโอกาสตอนที่พวกเราไม่อยู่ ทำอะไรพูดอะไรเป็นการ ส่วนตัวกับประธานเซียงล่ะ?”

หยางหลิวยังคงต้องการแสดงความเห็นกับพวกหล่อน ทันใด นั้นเซี่ยเสวก็ลุกขึ้นและดึงหยางหลิ่วเอาไว้ทันที และส่งสัญญาณ ว่าไม่อยากจะพูดอะไรอีกแล้ว ในขณะที่เธอตกอยู่ท่ามกลางข่าวลือ และทุกคนต่างมองเธอด้วยสายตาใส่ร้ายป้ายสี แล้วยังคงมี หยางหลิ่วที่ยังเชื่อในตัวเธอ เธอก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว

หลังจากฟังเรื่องนี้อยู่นาน เธอก็เข้าใจแล้วว่า เรื่องที่เธอกับเซ

ยงชิงฉือพบกันในวันนี้มีคนเห็นเข้าให้แล้ว

หยางหลิ่วโมโห : “เซียเสว พวกเราจะให้พวกหล่อนรังแก ฟรีๆ โดยไม่ทำอะไรไม่ได้นะ!!

หญิงสาวที่ไม่ได้สนิทคุ้นเคยกับเซียเสยกหัวข้อนี้ขึ้นมาพูดอีก ครั้ง : “เป็นพวกเราที่รังแกหล่อนเหรอ แล้วมันเพราะทักษะ อะไรที่จะทำให้เซี่ยเสวได้ไปพบและพูดคุยกับประธานเซียงล่ะ พวกเราไม่เชื่อว่าเป็นเพราะเรื่องงานหรอกนะ”

เซี่ยเสว่จ้องมองไปที่กลุ่มคน และไม่มีความคิดที่จะอธิบาย

เมื่อหญิงสาวคนนั้นเห็นเซี่ยเสบู่เหมือน “ไม่มีอะไรจะพูด” ใน ขณะกำลังจะพูดต่ออยู่พอดี ผู้จัดการหวางก็ปรากฏตัวขึ้น และ ตะโกนว่า : “เสียงดังอะไรกัน! นี่มันตลาดสดหรือไง! ถ้าไม่อยาก ทํางานก็ออกไปเลยนะ!”

เขียวเสวดึงหยางหลิ่วที่กำลังจะโต้เถียง ให้นั่งลง เธอไม่ ต้องการที่จะสร้างเรื่องใหม่อีก แค่อยากอยู่อย่างสงบ และเพราะ การปรากฏตัวของผู้จัดการหว่างทำให้ทุกคนต่างแสร้งทำเป็นรีบ ทํางาน จึงเงียบสงบลงในพริบตา

หลังจากผู้จัดการหวางออกไป ทุกคนต่างก็กระซิบกระซาบกัน ขึ้นมาอีก แต่ว่าไม่ได้มีการทำตามอำเภอใจขนาดนั้นอีกแล้ว
เซี่ยเสบู่ถูกหยางหลิ่วจ้องมองด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจตัวเธอ และโกรธเคืองอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเธอก็วางปากกาลงแล้ว พูดอย่างจริงจังว่า : ” หยางหลิ่ว ขอบคุณเธอมากนะที่เชื่อในตัว ฉัน แต่ฉันไม่ต้องที่จะอธิบายเรื่องนี้จริงๆ เพราะสำหรับพวกเขา นั้นเชื่อมั่นมานานแล้วว่าฉันต้องเป็นพวกเอาตัวเข้าแลก ดังนั้น อธิบายไปก็ไร้ประโยชน์

หยางหลิ่วคิดถึงเรื่องนี้ด้วยเหตุผลเดียวกัน ดังนั้นเธอจริงไม่ สักใช้อีกต่อไป เพียงแต่เอ่ยปลอบใจว่า “มันไม่ยุติธรรมกับเธอ เลย”

เซี่ยเสว่ส่ายหัว แล้วไม่พูดอะไรอีก

ถ้าเธอเป็นคุณนายเซียงที่งามสง่า พอเดินออกประตูนี้ไป ก็ คงจะเป็นผู้จัดการตั้งนานแล้ว จะยังคงเป็นพนักงานตัวเล็กๆ จนถึงตอนนี้ได้ยังไง

ริมฝีปากนั้นเย็นชืด เซี่ยเสวีเปิดหน้าเว็บเบราเซอร์ของ คอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นแสงสว่างได้รวมตัวกันที่ดวงตาของเธอ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นการแนะนำการแข่งขันออกแบบ เสื้อผ้าครั้งใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการเปิดให้บริษัทภายนอก เข้าร่วมด้วย

เซี่ยเสว่อ่านดูอย่างละเอียด

การแข่งขันนี้มาได้ทันเวลาพอดี

ถ้าหากเธอได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองล่ะก็ ข่าวลือ เหล่านั้นก็แพ้ภัยตัวเองไปเอง
จริงๆแล้วเธอสามารถเลือกที่จะเพิกเฉยต่อสายตาของพวกเขา แล้วก็ยังสามารถปล่อยให้เสียงซุบซิบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปก็ได้ แล้วจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็จะเหนื่อยและไม่พูดถึงอีก แต่ไม่รู้ ว่าทําไมครั้งนี้ เซี่ยเสวต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะมาดูถูกตนได้

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว เซี่ยเสวก็ลงทะเบียนสมัคร ทันที หลังจากที่สมัครแล้ว เธอก็วางแผนเท่าที่ทำได้อีกสักเล็ก น้อย แล้วก็กลับมาทำงานต่อไป

เมื่อยุ่งตลอดเวลาขนาดนี้ เซียเสาเองก็ค่อนข้างมีความสบาย ใจพราะอย่างน้อยตอนที่เธอยัง เธอก็ไม่ต้องคิดถึงสิ่งที่รบกวน เธออีกต่อไป

เมื่อเซี่ยเสวทํางานของเธอเสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มเตรียม ตัวสำหรับการแข่งขัน ท้ายที่สุดแล้วสนามแข่งขันนี้ก็มีความ สำคัญหลายอย่าง มันเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งของเธอ ความ บริสุทธิ์ของเธอ เธอจะต้องแสดงออกมาอย่างดีที่สุด

เมื่อเข้าใจว่าข้อกำหนดของการแข่งขันคืออะไรแล้ว เธอจึงเริ่ม วางแผนอย่างเป็นทางการ และโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากการจดจ่อ มากเกินไป จึงลืมแม้กระทั่งเวลาเลิกงาน จนเมื่อเธอได้สติกลับ มา นอกจากตัวเธอก็ไม่มีใครอยู่แล้ว

ในห้องทํางานขนาดใหญ่ มีเพียงโคมไฟตั้งโต๊ะของเธอ เท่านั้นที่ยังสว่างอยู่

เซี่ยเสบู่สูดลมหายใจแล้วยิ้ม และให้กำลังใจตัวเอง เลิกงานก็เลิกงาน เพราะอย่างไรก็ตามตอนนี้ตัวเธอ “เป็นอิสระ” จะ กลับไปตอนไหนก็ได้ และยังมีเวลาเตรียมตัวค่อนข้างมาก สําหรับการแข่งขันด้วย

ด้านนอกของโรงแรมที่เซี่ยเสาพักอยู่นั้น มีรถอยู่หนึ่งคันที่จอด มาเป็นเวลานาน และคนในรถก็คือเชียงชิงฉือ

ในตอนเที่ยงที่เขากับเซียเสา “เลิกกันเพราะความบาดหมาง ให้เขาอารมณ์เสียตลอดบ่าย ถึงแม้ว่าเซี่ยเสาจะไม่ต้องการฟัง เขาอธิบาย แต่ยังไงเซี่ยเสวก็เข้าใจผิดอยู่ เขาจึงรู้สึกไม่สบายใจ เอาเสียเลย ในใจรู้สึกราวกับว่าถูกทุบด้วยค้อนหนักๆจนเจ็บ ปวดอย่างมาก มันเหมือนกับว่าลมหายใจที่คอของเขาไม่ สามารถเข้าไม่สามารถออกมาได้

เซียงชิงฉือรู้สึกว่าถ้าเขาไม่ได้แก้ไขปัญหาความเข้าใจผิด เหล่านี้กับเซียเสวล่ะก็ตัวของเขาจะต้องทำให้ตัวเองเป็นบ้าอย่าง แน่นอน

ดังนั้นหลังจากเลิกงาน เขาขับรถตรงมาที่นี่ด้วยความเร็วของ รถเขา เขาสามารถรออยู่ที่นี่เพื่อจะหยุดเธอหลังจากที่กลับมา จากทํางาน และขอให้เธอพูดคุยกันดีๆ

ครั้งนี้ เขาเตือนตัวเองอย่างรุนแรงว่าห้ามโมโหไปกับคำพูด และทัศนคติของเซี่ยเสวอีก

เพียงแต่ว่าเชียงชิงฉือไม่ได้คาดคิดเลยว่า เขารอมานานขนาด นี้แล้วก็ยังไม่เห็นว่าเจ้าตัวจะมา และก็ไม่รู้ว่ายกมือขึ้นดูเวลา กี่ครั้งแล้ว และตอนนี้มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว!
และนี่เป็นครั้งแรกที่เขารอใครสักด้วยความอดทนขนาดนี้ มั่นใจได้ว่าเซี่ยเสวไม่ได้กลับมาที่โรงแรมเลย เขา

ให้ตายสิ

ไปที่ไหนแล้วนะ!

เชียงชิงซ๊อตบลงไปที่พวงมาลัยรถอย่างเดือดดาล เสียงแตร รถที่ดังในคืนที่เงียบสงบเช่นนี้ ดูเหมือนจะเป็นการแผดเสียงดัง มากเกินไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ