วิวาห์ลับ รักรุนแรง

บทที่ 15 โชคดี



บทที่ 15 โชคดี

โคมไฟสีเหลืองอบอุ่นห้อยลงมาจากด้านบนแล้วยังซ่อนตัวอยู่ใน พวงเถาวัลย์ที่สานคลุมไว้ มองดูแล้วให้บรรยากาศที่เป็นพิเศษ

มาก

เชี่ยเสวรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมที่นี่ดีมาก

หลังจากอาหารทำเสร็จแล้ว เซี่ยเสวก็เลือกมุมที่ดีในการวาง จานอาหารและดอกไม้และถ่ายรูปจากนั้นจึงวางมือถือลงและ เตรียมพร้อมที่จะกิน

บางทีเธออาจจะเดินนานเกินไปและหิวอีกด้วย หลังจากกิน เสร็จและดื่มน้ำส้มแล้ว ก็นั่งพักอยู่บนเก้าอี้โยกอย่างพึงพอใจ

สบายจริงๆเลย ชีวิตแบบนี้

หลังจากผ่อนคลายอย่างช้าๆอยู่สักพัก เซียเสวก็หยิบเป้ขึ้น สะพายหลังแล้วไปเช็กบิล

แต่ในตอนที่เช็กบิลกลับมีเรื่องน่าประหลาดใจเกิดขึ้น นั่นก็คือ เถ้าแก่เนี้ยพูดอย่างอ่อนโยนว่า “วันนี้เป็นวันครบรอบปีที่ยี่สิบ ของร้าน ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะคุณโชคดีเป็นลูกค้าคนที่53 ของร้าน ดังนั้นจึงได้รับคูปองทานฟรี”

เซี่ยเสน่ไม่อยากจะเชื่อ เธอโชคดีขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่อย่างไรก็ตามเธอก็มีความสุขมาก เธอซาบซึ้งใจและกล่าวขอบคุณกับเถ้าแก่เนีย เซียเสาออกจากร้านด้วยรอยยิ้ม ดู เหมือนว่าการออกมาของเธอในครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว จริงๆ

แล้วยังได้พบเรื่องที่ดีขนาดนี้ เช่นนั้นแล้วจะรู้สึกไม่ดีได้ อย่างไร

และหลังจากที่เธอออกจากร้านไปแล้ว เถ้าแก่เนี้ยยังคงมอง ตามหลังของเธอที่ไกลออกไปพร้อมด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก จน กระทั่งไม่สามารถมองเห็นได้แล้วถึงได้ละสายตากลับมา จาก นั้นก็ยิ้มและเต็มไปด้วยความคิดลึกซึ้งว่า คนหนุ่มสาวทุกวันนี้ เต็มไปด้วยพลังงานที่มีชีวิตชีวา เทียบกับพวกเขาก่อนหน้านี้ สามารถท่องเที่ยวเล่นได้มากกว่าอีกด้วย

เซี่ยเสวถือกระเป๋าเป้สะพายหลัง เดินไปตามถนนสายเล็กๆ มี ร้านค้าอยู่ตลอดสองข้างทางของถนน ล้วนแต่เป็นสินค้าเครื่อง ประดับชิ้นเล็กๆ หรือสินค้าพิเศษแบบต่างๆ

บางครั้งก็มีแผงลอยเล็กๆ ตั้งอยู่ริมถนน ทั้งขายดอกไม้และ ของกิน ของสวยงามละลานตาวางอยู่เต็มไปหมด เธอมองดูจน ตาลาย

อีกทั้งมีผู้คนจำนวนมาก ต่างจากถนนเส้นที่เธอเพิ่งเดินเข้าไป ที่นี่อีกทีกครึกโครมอย่างยิ่ง

เธอเหมือนกับผีเสื้อที่บินได้ บินหยุดอยู่ที่นี่ที ที่นั่นที

ทันใดนั้นเซี่ยเสวก็หยุดเดินอยู่ที่ด้านหน้าของแผงลอย เพราะ จู่ๆเธอก็เห็นสร้อยคอเส้นหนึ่งและยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเอื้อมมือไปหยิบ โดยไม่ได้ตั้งใจ

บนสร้อยคอ ดึงดูดสายตาของเธอ ตัวจี้เป็นรูปดอกไม้ คือ ดอกกุหลาบ เป็นดอกกุหลาบที่มีสีเหลืองอำพัน เห็นแล้วรู้สึก สวยงามมีเสน่ห์

เธอมองดูอีกสองครั้ง กลับคิดถึงเรื่องทั้งหมดนั่น ดอกกุหลาบ เหล่านั้น จากนั้นก็เป็นเซียงชิงฉือ… เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถ ควบคุมตนเองได้เลย ความคิดนั้นก้าวไปเร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว เสมอ ทันใดนั้นความเศร้าโศกที่ได้รับการปลดปล่อยไปแล้วก่อน หน้านี้ก็หวนกลับมา เธอมองดูอย่างไร้วิญญาณ

คนขายพูดพร้อมกับยิ้มว่า “คุณผู้หญิง สร้อยคอนี้เหมาะ กับคุณมากนะครับ อยากจะลองสวมดูมั้ย?”

ในช่วงเวลานั้น เธอก็รู้สึกสับสน แต่สุดท้ายแล้วเธอก็วาง

สร้อยคอลงจากนั้นกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินจากไป

เพราะครั้งนี้เธอเองไม่ได้อยากจะออกมา แต่ว่าทั้งหมดที่คิด อยู่ในใจกลับกลายเป็นว่าเธอต้องการที่จะหนี เธอสูดหายใจลึก แล้วหายใจออก เธอยิ้มออกมาอีกครั้งแล้วเดินไปข้างหน้า

และสร้อยที่เธอไว้ตรงมุมนั้น แล้วก็มีคนหยิบมันออกมาอีก ภายใต้แสงอาทิตย์ดอกกุหลาบที่อยู่ท่ามกลางอำพันสีขาวดู เหมือนจะเบ่งบานสวยงามเป็นพิเศษ สีแดงก็งดงามมากเช่นกัน

เซี่ยเสน่หยิบเอาแผนที่กระดาษที่เธอใส่ไว้ในเป้ออกมา จาก นั้นเดินช้าๆไปตามแผนที่ แล้วก็มาถึงพื้นที่สำหรับชมการรำมวย ไทเก๊กของเมือง
ในพื้นที่อันแสนสวยงามนี้ สามารถมองเห็นผู้คนสวมชุดไท เก๊กสีขาวอยู่ทั่ว ไม่ว่าจะเป็นคนแก่อายุเจ็ดสิบแปดสิบปีหรือจะ เป็นเด็กที่อายุราวๆสิบกว่าปี

กำแพงสีงาช้าง แล้วยังมีกระเบื้องสีดำ พุ่มไม้เขียวชอุ่ม ดอกไม้สีสันสดใสสวยงาม แล้วก็ยังมีนกที่บินต่างระดับสูงๆ ต่ำ และบางทีก็หยุดอยู่ระหว่างยอดไม้…

ทั้งหมดดูแล้วช่างเงียบสงบ และสวยงามมาก ที่นี่ไม่มีความทันสมัยเข้ามารบกวน ราวกับเป็นดินแดนใน อุดมคติ ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ทำงานและพักผ่อนได้ทุกวัน

เซี่ยเสบู่ทำได้เพียงใช้มือถือบันทึกความสวยงามเหล่านี้เอาไว้ แต่ว่าความสวยงามเหล่านั้น มือถือจะเทียบกับความรู้สึกที่ได้ สัมผัสเองได้อย่างไร

เซี่ยเสน่เดินเลียบไปตามแม่น้ำ เธอคิดว่าถ้ามาตอนกลางคืน คงจะดูสวยกว่านี้ เนื่องจากในตอนกลางคืนจะมีไฟกระพริบ จํานวนมากมายนับไม่ถ้วน เธอคงเหมือนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า ที่เต็มไปด้วยดวงดาว

น้ำของแม่น้ำไหลไปช้าๆ และยังมีต้นไม้นานาชนิดอยู่ทั้งสอง ฟากฝั่ง ภาพสะท้อนในแม่น้ำนั้นสวยงามมาก ผิวน้ำเป็นระลอก คลื่น ดวงอาทิตย์สีทองจะตกลงไปในนั้นอีกครั้ง…

เดินจนรู้สึกเหนื่อยแล้ว ตอนนี้แสงแดดก็ร้อนเกินไป เซี่ยเสวีจึง หาศาลาเพื่อนั่งพัก
เธอควรจะซื้อร่มสักคันหรือหมวกสักใบ เพราะพระอาทิตย์ที่ อยู่เหนือศีรษะร้อนมากจริงๆ

เซี่ยเสน่หยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากเบาๆ และเมื่อมองไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า สายลมของแม่น้ำไหลมา มัน ช่างเย็นสบาย คลายความร้อนให้เธอได้ไม่น้อย

ทันใดนั้นด้านหลังของเธอก็รู้สึกเจ็บเหมือนถูกทิ่มแทง เซี่ยเสว่ หันกลับไปมองก็เห็นเด็กวัยรุ่นสองคนสวมชุดไทเก๊กสีขาว กระจ่างกำลังเหลือบมองเธออยู่ในศาลา

เซียเสวมีรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าทันทีแล้วรีบลุกขึ้น ก่อนจะยิ้ม ให้กับเด็กๆที่น่ารักทั้งสอง : “เป็นอะไรไปเหรอจ๊ะสหายน้อย?”

หนึ่งในนั้นยื่นมือออกมาส่งน้ำให้หนึ่งขวดแล้วพูดว่า “พี่สาว นี่คือน้ำสําหรับพี่ครับ”

ในตอนที่เซี่ยเสวรู้สึกประหลาด ในนั่นเอง อีกคนก็ยื่นมือออก มาแล้วส่งหมวกปีกกว้างที่มีดอกไม้ประดับอยู่ด้านข้างให้ “พี่ สาวนี่คือหมวกสําหรับพี่ครับ”

“นี่…นี่สำหรับฉันเหรอ?” เซี่ยเสาไม่อยากจะเชื่อ แต่เสียงของ เด็กชายทั้งสองคนนั้นช่างอ่อนหวานเหลือเกิน ด้วยวัยที่ยังไม่ ประสา จะไปตั้งข้อสงสัยได้อย่างไร

เด็กชายตัวน้อยทั้งสองคนพยักหน้า หลังจากนำสิ่งของยัดใส่ มือเซี่ยเสว่แล้ว ไม่รอให้เซียเสาได้เอ่ยถามอะไร ทั้งคู่ก็กระโดด เด้งดึงจากไป
แล้วเซี่ยเสวก็มอง “ฝนทันใจ” (ของที่มาได้ทันเวลา) ในอ้อม กอดของเธอ โดยที่ยังเป็นกังวลอย่างหาที่เปรียบมิได้

เธอยังต้องการถามกับเด็กน้อยทั้งสองคนว่าเกิดอะไรขึ้นกัน แน่ แต่ในตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าร่างของเด็กชายทั้ง สองไปไหนแล้ว

เซี่ยเสวีถือน้ำมือหนึ่ง และอีกมือหนึ่งก็ถือหมวกด้วยความ

ประหลาดใจอย่างมาก

มองซ้ายมองขวาแล้ว ในที่สุดก็มองไปยังสภาพแวดล้อม โดย รอบ แต่ว่าก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย ยิ่งไปกว่านั้น การจากมาของ เธอในครั้งนี้ ยังเป็นการ “หลบซ่อน” ขนาดนั้น จึงไม่น่าจะมีใครรู้ หรอกน่า

ไม่สนแล้วล่ะ บางทีอาจจะมีคนใจดีมอบให้เธอด้วยเจตนาที่ดี ก็ได้ อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันที่เธอโชคดีมากไม่ใช่หรือไง

เมื่อคิดเช่นนี้ เชี่ยเสวก็สวมหมวกลงบนหัวของเธอ จากนั้นก็ คลายเกลียวฝาขวด ดื่มน้ำแล้วพูดพึมพำ เพราะน้ำเย็นทำให้เธอ รู้สึกดีขึ้นทันที

ในขณะที่กำลังอารมณ์ดีหาใดเปรียบ มือถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าเป็นเช่น

เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดเล็กน้อย อารมณ์ที่ดีเมื่อสักครู่นี้เหมือนถูก ตัดฉับ

ถ้าหากเป็นลู่เย่น ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับเขาแต่เมื่อลังเลอยู่สักครู่ เธอก็ยังกดรับสาย ถ้าเกิดว่ามีเรื่องด่วน อะไรขึ้นมาล่ะ

เธดกดรับโดยไม่พูดอะไร เสียงของเล่นก็ดังขึ้นมาอย่างรีบ ร้อนว่า : “คุณนายครับ คุณทราบมั้ยว่าตอนนี้ประธานเชียงอยู่ ที่ไหน? ผมไม่พบเขาที่บริษัท แล้วมือถือก็ไม่มีคนรับสายด้วย!”

เมื่อได้ยินว่ามันเกี่ยวข้องกับเซียงซิงฉือ เซี่ยเสวก็ไม่มีน้ำเสียง

ที่ดีทันที : “ฉันไม่รู้ค่ะ

พูดจบก็วางหูเลย ถ้าลู่เย็นไม่รู้ว่าเชียงซิงฉืออยู่ที่ไหน แล้วเธอ จะรู้ได้อย่างไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ