บทที่ 19 ยัยลูกหมา…เธอนั่นเอง
แล้วกวินตราก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดเป็นครั้งที่สอง เมื่อฝูงชน จํานวนมากเดินขึ้นมา เบียดคนทั้งสองให้เดินไปข้างหน้า และ การจราจรที่แออัด ก็ทำให้ร่างเล็กๆ ของปรารถนา ถูกป้องกัน โดยร่างสูงของกรภัทรอยู่ที่มุมประตู
เธอผวาลุกขึ้น เมื่อมองยังไง คุณชายของหล่อนก็เหมือนโอบก อดยัยเด็กนั่น แถมใบหน้าที่เธอเห็น ก็ยังเจือด้วยรอยยิ้มบางๆ ราวกับตกอยู่ในห้วงรัก
แต่คนที่ถูกต้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อหาได้รู้ตัวไม่…
ปรารถนาตัวแข็งทื่อ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคุณชาย เปาโดศีรษะและหน้าผาก เธอยืนชิดผนัง ไม่กล้าเงยหน้ามองอีก คนซึ่งยื่นมือไปเท้าผนังคร่อมตัวเธอไว้ ในขณะที่ถูกเบียดมาจน ใบหน้าของเธอแทบจะชนกับหน้าอกของเขา
ใจของเธอเต้นตึกตัก เมื่อได้กลิ่นหอมจางๆ จากคนใกล้ตัว โล่งใจที่เมื่อเช้าเธอเองก็สระผมมาและหน้าร้อนก็ไม่มีรังแค
กรภัทรลอบยิ้ม เมื่อรู้สึกได้ว่าเธอจะกลั้นหายใจทุกครั้งที่รถ ส่ายไปส่ายมา คงกลัวว่าจะมาถูกตัวเขานั่นเอง
“ขอโทษนะ…ผมน่าจะเอารถมาทำงาน อีกตั้งหลายสถานีกว่า จะถึง ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ เขาก้มหน้าพูดกับเธอ
“ปลั๊กชินแล้วล่ะค่ะ ผู้จัดการไม่น่าลำบากเลย” เธอไม่กล้าเงยหน้า เพราะรู้สึกว่าใบหน้าของเขาอยู่ห่างแค่คืบ หรืออาจจะมอง เห็นแค่คอเพราะเขาสูงกว่าเธอกว่าหนึ่งไม้บรรทัด
“ผมชอบนะ” เขายิ้มกริ่ม ไม่บอกว่าชอบอะไร
รถไฟฟ้าจอดอีกสถานี ผู้คนเบียดเสียดกันลงและขึ้นหนาแน่น กว่าเดิม ปรารถนาต้องทำตัวให้เล็กลงอีก นี่ถ้าไม่มีคุณชายกั้น ไว้ เธออาจจะถูกเบียดจนแบนแต๊ดแต่ติดผนังไปแล้วก็ได้
สถานีต่อไป….Next Station.….……..
สิ้นเสียงโอเปอเรเตอร์อัตโนมัติ รถก็เคลื่อนออกจากสถานี จังหวะนั้นเอง ที่รถถอยหลังก่อนออกตัว คนที่ไม่มีที่จับก็เสียหลัก ชนกันมาเป็นทอดๆ รวมถึงคุณชายที่ถูกเบียดจากด้านหลัง
เขายันมือกับผนังกั้นไว้ เกรงว่าคนที่อยู่ใต้วงแขนจะเจ็บตัว ไม่ คิดว่าจู่ๆ เธอจะเงยหน้าขึ้นมา ในขณะที่เขาก้มลงไปพอดี
ริมฝีปากของเขา จึงแตะลงไปบนริมฝีปากของเธอโดยไม่ได้ ตั้งใจ!!
ขณะที่เกิดเหตุชวนฝันอยู่บนรถไฟฟ้า อีกมุมหนึ่งของเมือง หลวง บุรุษหนุ่มซึ่งเป็นทายาทเอ็มไพร์กรุ๊ปกับน้องสาวหัวขี้เลื่อย ของเขา ก็กำลังเซ็นชื่อรับสูทที่จะต้องใส่ในวันงานของบิดา
ยลนาได้ชุดรัดรูปเรียบหรูสีเลือดหมู ซึ่งหล่อนมาตัดไว้ตั้งแต่รู้ ว่าจะได้ออกงาน เพราะรู้มาว่าแม้บิดาจะเชิญเฉพาะญาติสนิท แต่ คนที่หายใจเข้าออกเป็นเงินอย่างนั้น จะต้องไม่พลาดที่จะเชิญหุ้น ส่วนคู่ค้าคนสำคัญมาร่วมงานด้วยแน่
อย่างเช่นเจ้าสัวทรงชัย ที่เป็นยักษ์ใหญ่เหมือนกัน แถมยังมี ลูกชายหน้าตาดีตั้งหลายคน ซึ่งดูแล้วทัดเทียมกับฐานะและชาติ ตระกูลของเธอไม่น้อย
เธอยังไม่คิดเรื่องแต่งงานตอนนี้ แต่อย่างน้อยการเป็นสะใภ้ เจ้าสัว ก็ไม่อายเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ที่ต่างก็ได้หนุ่มไฮโซเป็น แฟน
แต่ติณณ์ไม่ได้คิดเหมือนน้องสาว เมื่อได้เห็นลิสต์รายชื่อแขก และกำหนดการที่บิดายื่นให้ดูเมื่อเช้า เขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายและ ไม่อยากจะไปร่วมงานวันนั้นเลยสักนิด
ลำพังญาติสนิท นอกจากครอบครัวของหม่อมวิลาวัณแล้ว ก็ เหลือไม่ถึงยี่สิบคนด้วยซ้ำ ทว่าพ่อกลับเชิญทั้งผู้ถือหุ้นรายสำคัญ มาด้วย ทั้งครอบครัวกวินตรา และบุคคลชั้นนำด้านธุรกิจอย่าง เจ้าสัวทรงชัย
“แกควรจะได้ทำความรู้จักกับลูกๆ ของเจ้าสัว ลูกชายทั้งสี่ คน…กำลังจะกลายเป็นเสือในแวดวงธุรกิจ แต่ฉันจะทำให้แก เป็นสิงโต ไม่ใช่แค่เสือ”
เขารู้…ว่าพ่อหวังกับเขาแค่ไหน และเขาก็ไม่เคยเอาความ สําเร็จของใครมากดดันตัวเอง แต่…อย่ามาบังคับเรื่องของหัวใจ
“ลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัว ชื่ออนิษการ์ ก็จะมาด้วย แกก็ดูๆ ไปว่าระหว่างอนินการกับกวินตรา ชอบคนไหน…ก็เป็นผลดีต่อ เอ็มไพร์กรุ๊ปทั้งนั้น”
เขาไม่รู้จักอนิษการ์ และไม่เคยคิดอยากจะรู้จักผู้หญิงคนไหนในเวลานี้ ส่วนกวินตราเป็นผู้หญิงที่เขาจะต้องหลีกหนีให้ไกล ที่สุด ที่สำคัญ…เขาไม่คิดจะเป็นตัวสำรองของกรภัทรแน่
“ชุดสีขาวนั่นของใครคะ น่ารักจัง สนาเห็นแขวนไว้ตั้งแต่มา วัดตัวครั้งที่แล้ว เจ้าของเขาไม่มาเอาเหรอคะ?”
เสียงของยลนาปลุกเขาให้หลุดจากภวังค์ความคิด แล้วมอง ตามสายตาของน้องสาวไปด้วย
ชุดกระโปรงสีขาวสไตล์วินเทจ มีลูกไม้เป็นแถบบริเวณคอเสื้อ ดูจากขนาดแล้วน่าจะเป็นของเด็ก เพราะขนาดของมันเล็กมาก ถึงขั้นที่ว่าหากน้องสาวของเขาสวมเข้าไปแล้วล่ะก็ ความยาว ของกระโปรงคงเลยแก้มก้นมานิดเดียวเท่านั้น
“อ๋อ…ของคุณปรารถนาค่ะ คุณสุภาวดีมาสั่งตัดตั้งแต่คราว นั้น แต่ไม่เห็นว่าเธอจะมาลองเลยค่ะ นี่ก็ใกล้วันแล้วด้วย ถ้าใส่ ไม่พอดีก็ไม่รู้จะแก้ทันหรือเปล่า?”
“เดี่ยว!” ติณณ์สะดุดกับชื่อเจ้าของเสื้อ คลับคล้ายคลับคลาว่า เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน “เดี๋ยวนะ…เมื่อกี้คุณว่า…ชื่ออะไรนะ ครับ?”
“ปรารถนาค่ะ…ดิฉันก็ไม่เคยเห็นตัวจริงเธอหรอกค่ะ เห็นแต่
รูปที่คุณสุภาวดีถือมาและตัดตามขนาดที่บอกเท่านั้นเองค่ะ” เจ้าของห้องเสื้ออธิบาย “ปรารถนา เป็นผู้ช่วยผมที่ร้าน จะให้มาคุยเรื่องสต็อกสินค้า
กับกวินด้วย”
ภาพที่กรภัทรแนะนำยัยลูกหมาที่คอฟฟี่ช็อปผุดขึ้นมาในห้วง ความคิด และนั่นทำให้เขาเกิดอาการขนลุกซู่อย่างประหลาด
คงไม่…คงไม่ใช่! ไม่มีทางแน่ๆ ที่จะเป็นคนๆ เดียวกัน ชื่อแบบ
นั้นมีดาษดื่นทั่วไป “ตาย…เหรอคะ…งั้นให้ลนาดูรูปของเธอหน่อยได้ไหมคะว่า หน้าตาเหมาะกับชุดน่ารักๆ นั่นหรือเปล่า?” ยลนารีบถามหารูป
ถ่ายของคนที่จะมาเป็นญาติ เพราะคราวที่แล้วก็ไม่ได้เห็น
คุณสุภาวดีไม่ใช่คนสวยจัด แต่ก็ผุดผาดสมวัย คงเพราะ ทำงานด้านสุขภาพก็เลยดูแลสุขภาพของตัวเองได้เป็นอย่างดี ลูกสาวก็คงจะเหมือนๆ กัน
“ได้ค่ะ” เจ้าของห้องเสื้อเปิดลิ้นชัก พลิกสมุดนัมเบอร์หา ภาพถ่ายเต็มตัวของเจ้าของชุด ซึ่งเธอต้องใช้เวลาในการ ออกแบบชุดให้เหมาะกับบุคลิกของคนในภาพด้วย
เมื่อหาได้แล้ว เธอก็วางภาพนั้นไว้บนเคาท์เตอร์ ยลนายื่นมือ หมายจะหยิบ แต่ติณณ์มือไวกว่าคว้ามันไปก่อน
เขาผงะ!! เมื่อเห็นคนในภาพถ่าย ซึ่งสวมชุดนักศึกษาถ่าย ภาพเต็มตัว กำลังส่งยิ้มมา ราวกับกำลังยิ้มเยาะ
“ยัยลูกหมา!” เขาเน้นเสียงรอดไรฟัน น้ำเสียงระคนไปด้วย ความประหลาดใจ คับแค้นใจปะปนกัน
“อะ…อะไรนะพี่ติณณ์ เคยเห็นเหรอ…ลูกสาวคุณอานะ” ยลนา แย่งภาพถ่ายจากมือพี่ชายมาดูบ้าง ก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ตาย! นี่น่ะเหรอลูกคุณอา…ไม่เห็นเหมือนเลย ใส่แว่น เฮ้ย…เชยนะ ยังมีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วยหรือนี่
“เธอกลับไปก่อน” ติณณ์แย่งภาพถ่ายมาคืนพร้อมออกปากไล่ น้องสาว
“หา! ก็ไหนว่าจะไปส่งที่ห้างไง ใครจะกล้านั่งแท็กซี่” ยลนา โวย เมื่อรู้ว่าจะถูกทิ้ง เธอไม่ให้คนขับรถพามา เพราะตั้งใจว่าจะ ให้ติณณ์ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้า เดินเล่นชิลๆ แล้วนัดเพื่อนมารับ ไปสังสรรค์ต่อ
“มอเตอร์ไซต์รับจ้างก็มี” เขาพูดส่งๆ ยัดภาพถ่ายของ ปรารถนาลงในกระเป๋าแล้วเดินออกจากร้าน โดยไม่สนใจเสียง งอแงของน้องสาว
“พี่ติณณ์! ทำอย่างนี้กับน้องไม่ได้นะ พี่ติณณ์! โอ๊ยไอ้บ้า!
ติณณ์ได้ยินเสียงน้องสาวด่าตามหลัง ปรกติแล้วเขาจะต้องสั่ง สอนยลนาโดยการฟาดก้นให้เจ็บจนไม่กล้าหือ แต่ ณ เวลานี้ เขาจะทำเป็นไม่ได้ยินมันเสีย
ชายหนุ่มหยิบมือถือขึ้นมา กดนิ้วลงบนตัวเลขที่ปรากฏบน หน้าจอทัชสกรีนโดยไม่ต้องค้นหาจากเมมเบอร์ ชื่อ “ลูกหมา” ก็ ปรากฏขึ้นมา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ