โซ่เสน่หา

บทที่ 7 จีบ?



บทที่ 7 จีบ?

“ปรารถนา เป็นผู้ช่วยผมที่ร้าน จะให้มาคุยเรื่องสต๊อกสินค้า กับกวนด้วย” กรภัทรเริ่มต้นคุยธุรกิจแบบไม่ให้เสียเวลา

“แหม…กวินนึกว่าเราจะดินเนอร์ไปด้วยคุยกันไปด้วยอีกค่ะ พอดีเจอติณณ์ด้วย ไม่ได้ทานอาหารด้วยกันสามคนมานานแล้ว กวินตราหยิบเอกสารเล่มเล็กๆ ออกจากกระเป๋า พลางยื่นไปทาง ผู้ช่วยที่กรภัทรแนะนำ

“เป็นเมนูภาษาอังกฤษ…คุณปรารถนาอ่านออกไหมคะ?” ประโยคคำถามของกวินตรา ทำให้กรภัทรปรายตาขึ้นมอง แวบหนึ่ง

“เอ๊ะ! เธอมีชื่อเล่นด้วย ฉันเคยได้ยินเขาเรียกเธอที่ร้าน อาหาร ตอนที่ฉันพาลูกค้าไปเลี้ยงที่นั่น…ชื่ออะไรนะคุณชาย?” ติณณ์พูดแทรกขึ้นมา

ปรารถนาที่กำลังจะขยับปากตอบ สบตากับชายหนุ่มหน้าคุ้น โดยบังเอิญ ก่อนดวงตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็น ประกายดูหมิ่นและใบหน้ากวนอารมณ์นั้นชัดเจนขึ้น

จำได้แล้ว! เขานั่นเอง เพื่อนและญาติของผู้จัดการ ที่เอาชื่อ เล่นของเธอไปเปรียบเทียบกับสุนัข

เธอจําเขาไม่ได้จริงๆ แม้จะคลับคล้ายคลับคลา ทว่าวันนี้กับ วันนั้น เขาไม่เหมือนกันเลยสักนิด วันนี้เขาหวีผมเรียบแปล้ แต่งตัวใส่สูทราวกับเป็นผู้บริหารระดับสูง ต่างจากวันที่เหมือนยาก ชาลิบลับ

กระนั้น…ปากคอและจิตใจของเขา ก็ยังร้ายกาจเหมือนเดิม

“เรื่องภาษาไม่ต้องห่วง ปลั๊กสื่อสารได้ห้าภาษา” กรภัทร ออกรับแทน เมื่อกวินตรากีดกันหญิงสาวออกจากวงสนทนา กรายๆ ส่วนอีกคนก็จงใจซักใบให้เรือเสีย “ปลั๊กดูรายการนะ อะไรที่เข้ากับวัตถุดิบร้านเราให้ตึกไว้เลย

“ค่ะ” ปรารถนาหันมาให้ความสนใจกับเอกสาร

เธอตั้งสมาธิกับงานตรงหน้า เพราะถือว่าผู้จัดการให้เกียรติ เธอมาติดต่องานสำคัญ แม้จะได้ยินเสียงคุยของคนทั้งสามดัง แทรกเข้ามาอยู่เป็นระยะๆ

ไม่ถึงสามสิบนาที เธอก็วางปากกา แล้วยื่นเอกสารให้กับเจ้า นายหนุ่ม

“ฮึ!” ติณณ์แสยะยิ้มที่มุมปาก แล้วพูดแบบไม่มองหน้าใคร “เก่งแบบนี้ มิน่าคุณชายถึงคิดจะจีบ”

“จีบ?” กวินตราทําหน้าเหวอ มองกรภัทรสลับกับปรารถนา อย่างไม่เชื่อสายตา

“ตกลงตามนี้ล่ะ กวินเริ่มเข้าไปดูที่ร้านได้เลยอาทิตย์หน้า ผม กั้นบาร์ไว้ให้แล้ว ขาดเหลืออะไรเดี๋ยวเราคุยกันทางไลน์ก็แล้วกัน ถ้าพวกนายจะดินเนอร์กันก็ตามสบายนะ ฉันต้องไปส่งปลั๊กกลับ บ้าน”
กรภัทรเพียงแต่เปิดดูแล้วพยักหน้า ยื่นเอกสารคืนให้เพื่อน สาว ก่อนจะผุดลุกยืนขึ้นทันที เพราะขึ้นอยู่นานกว่านี้ ปรารถนา จะต้องถูกค่อนขอดโจมตีแน่

ไม่น่าเจอทั้งสองคนตอนนี้เลย ลำพังกวินตราเขาพอรับมือได้ แต่มีติณณ์เพิ่มมาอีกคน โลกก็ดูเหมือนจะวุ่นวายขึ้นเป็นสองเท่า

“คือ…ปลั๊กกลับเองก็ได้ค่ะ นั่งรถไฟฟ้าแค่สองสถานีเอง ผู้ จัดการจะได้ไม่เสียเวลา” ปรารถนาหน้าร้อนวูบเมื่อเจอสายตา พิฆาตของกวินตรา ซึ่งมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

คุณกวินตราต้องชอบผู้จัดการแน่ๆ ถึงได้มองเธอด้วยสายตา แบบนั้น โธ่! น้ำหน้าอย่างเธอจะเป็นคู่แข่งได้อย่างไรกัน

“ไม่เป็นไร ผมไม่ได้มีธุระที่ไหนสักหน่อย” เขาใช้มือแตะ ข้อศอกเธอเบาๆ ไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ “ไปก่อนนะติณณ์ ฝาก กราบสวัสดีคุณพ่อนายด้วย

“เชิญ”

“สวัสดีค่ะ” ปรารถนาพนมมือไหว้ โดยที่ไม่รอดูว่าคนทั้งสอง จะรับไหว้เธอหรือเปล่า ถึงจะไม่ ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธอก็ยัง เป็นคนมีมารยาทไปลามาไหว้ก็แล้วกัน

“นี่มันอะไรกันคะ? ทำไมเล็กต้องดูแลเด็กคนนั้นขนาดนี้ด้วย แล้วที่ว่าจีบจริงหรือเปล่า ทำไมเล็กไม่ปฏิเสธล่ะคะ!” ลับหลังกร ภัทรและปรารถนา กวินตราก็หันไปไล่เบี้ยเอากับเพื่อนหนุ่มที่เริ่ม จะขยับตัวแล้วเหมือนกัน
“อยากรู้ก็ไปดูที่ร้านสิกวิน…ไปล่ะ ผมเองก็ต้องรีบกลับบ้าน เหมือนกัน”

“อ้าว! นึกว่าจะได้ทานมื้อค่ำด้วยกันซะอีก ว่าจะเลี้ยงอยู่พอดี เชียว” “ไม่ล่ะ…ขี้เกียจทะเลาะกับพ่อ ผมไม่จ่ายนะ ก็กวินบอกว่าจะ

เลี้ยง” เขายักไหล่ ก่อนจะหนีบแฟ้มเอกสารที่รักแร้ แล้วเดินออก

จากร้านโดยไม่จ่ายเงิน และไม่หันไปมองเพื่อนสาวอีกเลย

“โอ๊ย! นี่มันอะไรกัน นี่ฉันถูกผู้ชายสองคนปฏิเสธในคืนเดียว เลยรึไงเนี่ย?” สาวสวยกระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์

“เป็นอะไร เหนื่อยหรือลูก หรือว่าไม่สบาย?”

สุภาวดีขยับเข้ามาหาบุตรสาวที่แม้จะถือปากกาอยู่ในมือและ มีสมุดหนังสือวางอยู่ตรงหน้า ทว่าดวงตากลับเหม่อลอย มองไป อย่างไร้จุดหมาย

ตั้งแต่คืนที่กุลธรขออนุญาตแต่งงานกับเธอ บุตรสาวก็เงียบ ขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด แม้จะได้รับอนุญาตแล้ว แต่หากสิ่งนั้น สร้างความไม่สบายใจให้กับปรารถนา เธอเองก็จะกลับมาทบท วน ใหม่

“เปล่าจ้ะ…ปลกกำลังคิดอะไรเพลินๆ จ้ะแม่” ปรารถนาปฏิเสธ เสียงนุ่ม ทั้งรีบก้มหน้าอ่านหนังสือรับสมัครงานที่กว้านซื้อมาจาก แผงนิตยสาร และเขียนรายชื่อบริษัทที่เข้าตาลงในสมุด

“ปลกซื้อแว่นใหม่หรือ? ดูเหมาะกับลูกดีนะ”
“จ๊ะ! แว่นเก่ามันแตก สายตาสั้นขึ้นอีกนิดหนึ่งด้วยล่ะจ้ะ” เธอ ไม่ได้บอกด้วยว่า ทั้งกรอบและแว่น คุณชายกรภัทรซึ่งเป็นเจ้า นาย เป็นคนเลือกแถมจ่ายเงินให้อีกต่างหาก เพราะกลัวมารดา จะตกใจ

สุภาวดีไม่เคยเจอคุณชาย หากรู้เข้าอาจจะคิดเป็นตุเป็นตะว่า คุณชายอาจจะมาชอบพอเธอ ทั้งที่จริงแล้ว เขาก็แค่เป็นคน “ใจดี” อยู่เป็นทุนเดิม และ “ใจดี” กับทุกๆ คนด้วย

ตั้งแต่เกิดมายี่สิบสองปี ไม่เคยมีหมู่ภมรมาแผ้วพาน เพื่อน ผู้ชายไม่ต้องพูดถึงสำหรับชีวิตวัยรุ่นของเด็กเรียนอย่างเธอ และ เด็กอ้วนอย่างยศสินี

“ปลั๊ก… สุภาวดีหยุดไปนิด ก่อนตัดสินใจพูด “อยากไปเรียน ต่อไหมล่ะ แม่ส่งปลั๊กเรียนได้นะ”

“ไม่เอาล่ะจ๊ะ….เรียนเมืองนอกทำไมให้เปลืองตังค์ ที่เมืองไทย มีที่เรียนเยอะแยะ ถึงจะอยากทำงานอินเตอร์ แต่ปลั๊กคงทน คิดถึงเมืองไทย ทนคิดถึงแม่ไม่ได้แน่ อีกอย่างปลั๊กอยากทำงาน ราชการ มันจะได้มั่นคงนะแม่ ถึงเงินเดือนจะน้อยแต่สวัสดิการ เยอะ”

“ก็ดีเหมือนกัน…แม่ก็เหงา ถ้าปลั๊กไม่อยู่ด้วย” ผู้เป็นแม่คลี่ยิ้ม ก่อนจะขยับเข้ามานั่งใกล้บุตรสาว แล้วลูบศีรษะด้วยความรัก

“ถ้ามีอะไรที่แม่ทำให้ปลั๊กไม่สบายใจ บอกได้เลย สำหรับ แม่…ปลั๊กสำคัญที่สุด”

“โห…ปลั๊กรู้อยู่แล้วล่ะจ้ะ แม่ขัดใจปลั๊กไม่ได้หรอก” ปรารถนาแสร้งทำเสียงรื่นเริง เมื่อมารดาพูดประโยคที่ทำให้น้ำตารื้น

เธอรู้ว่าสุภาวดีกังวลเรื่องการแต่งงาน และนั่นก็เพราะท่าที ของเธอเป็นเหตุ เธอมิได้รังเกียจคุณกุลธร ที่ทำให้มารดาของ เธอมีชีวิตดั่งซินเดอเรลล่า แต่สิ่งที่เธอกลัว คือการเข้าไปอยู่ใน หมู่คนรวยต่างหาก

ทั้งแม่และเธอเคยใช้ชีวิตที่เรียบง่าย กินง่าย อยู่ง่าย เช่นเดียว กับมนุษย์สามัญชนทั่วไป ที่ไม่ได้แร้นแค้น แต่ก็ไม่ได้เลิศหรู อลังการ พวกเธอสวมเสื้อยืดกางเกงยีน กางเกงขาก๊วย รองเท้า แตะ ไม่แต่งหน้า ไม่ทำผม ไม่ต้องเข้าสังคมอะไรนอกจากจะได้ รับเชิญไปงานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ ของคนที่อยู่ในระดับ เดียวกัน

เธอไม่รู้ว่าคุณกุลธรรวยแค่ไหน และไม่สนใจจะสืบประวัติ เพราะคิดว่าแม่เลือกแล้ว หากการเข้าไปอยู่บ้านนั้น ไม่มีอะไร มากกว่าการดูแลคุณกุลธร เธอก็ไม่หนักใจ แต่หากว่าต้องต่อสู้ ฟาดฟันกับลูกๆ ของเขาเหมือนแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงบ้านอื่น หรือการ ถูกครหาว่าแต่งงานเพราะเงิน เธอก็ไม่อยากจะให้แม่ต้องเจอ ปัญหานั้น

เธอมีความฝันที่ต้องทำให้บรรลุ นับถอยหลังหากได้ทราน สคริปต์มาแล้ว การเดินสายสมัครงานและเริ่มต้นชีวิตใหม่ของ เธอจะเริ่มขึ้น เธอจะไม่มีเวลาดูแลแม่เท่าที่ควร

ถึงมี…ก็ไม่แน่ใจว่า เธอจะช่วยแม่ได้ ลำพังตัวเองก็ไม่เคยต้อง สู้รบปรบมือกับใครอยู่แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ