โซ่เสน่หา

บทที่ 5 แว่นฉัน ตัดมาตั้งสามพันเชียวนะ



บทที่ 5 แว่นฉัน ตัดมาตั้งสามพันเชียวนะ

เรื่องการแต่งงานใหม่ของกุลธร ไม่เป็นปัญหาเท่ากับเรื่องที่ ท่านจะยกตำแหน่งสำคัญให้กับกรภัทร และการไม่ได้ไปเรียนต่อ ต่างประเทศของยลนา ก็ทำให้เธอเสียหน้าในหมู่เพื่อนไฮโซที่ ต่างก็อวดร่ำอวดรวยข่มกัน

“แกน่ะหรือจะไปเรียนต่อเมืองนอก…ภาษาอังกฤษไม่กระดิก สักตัว”

ชายหนุ่มเริ่มต้นระบายความขุ่นเคืองกับน้องสาวที่แม้จะเกิด จากพ่อและแม่คนเดียวกัน แต่เธอก็ไม่ได้มีความฉลาดถึงแม้ เพียงครึ่งของเขาเลย

เขาเรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารจากเมืองนอก ตั้งใจ กลับมาช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัว แต่พ่อก็กดเขาไว้ใน ตำแหน่งที่เหลือเกิน ทั้งๆ ที่เขาถือหุ้นอยู่ถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์

นี่ยังคิดจะให้กรภัทรมาฮุบกิจการอีก ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาทุ่มเทกับ มันขนาดไหน!

“เพราะพี่ติณณ์แท้ๆ พอถึงได้สวดเรายับขนาดนี้” ยลนาโบ้ย ความผิดไปให้พี่ชาย ทั้งกลบเกลื่อนเรื่องหัวขี้เลื่อยของตนเอง

“ก็จริงไหมล่ะ? ขนาดเด็กเสิร์ฟในร้านไอ้เล็กยังเก่งกว่าแก เลย” เขาพาลไปนึกถึงยัยหน้าจืดสวมแว่นที่ชื่อเหมือนสุนัขอย่าง เสียไม่ได้
ไม่ได้การละ! นี่ถ้ากรภัทรจีบยัยนั่นเป็นผู้ช่วยจริงๆ วันใดวัน หนึ่งต้องติดต่อธุรกิจกัน มีหวังหล่อนต้องหัวเราะเยาะเขาแน่ ที่ เป็นแค่พนักงานระดับล่างของบริษัทพ่อตัวเอง

นี่ยังจะต้องรับมือกับเมียใหม่ของพ่ออีก ไม่รู้จะเข้ามาเพื่อหวัง สมบัติหรือเปล่า

มาเจอกันตอนพ่อเจ็บออดๆ แอดๆ เสียด้วย!

ร้านอาหารอิตาเลียน

กรภัทรยืนพิงประตูห้องกอดอกรอดูท่าทีของปรารถนาเพื่อ ความแน่ใจ เขาเกรงว่าหากพูดคุยเรื่องนั้นกับเธอตอนนี้ อาจ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเท่าไหร่ ดูเหมือนเธอจะมีปัญหาส่วนตัว บางอย่างที่แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างยศสินีก็ไม่รู้ เธอยังคงตั้งใจ ทำงานตามปกติ ทว่าก็เผลอเหม่อลอยถอนหายใจให้เห็นอยู่ บ่อยๆ

ขณะที่คนถูกแอบมองกำลังตั้งสมาธิกับการทำงาน เรื่องการ แต่งงานใหม่ของแม่ รบกวนจิตใจเธออย่างมากจนถึงขั้นนอนไม่ หลับ เพราะเมื่อมาพิจารณาทีหลังแล้ว เธอก็อยากจะย้อนเวลา กลับไปวันนั้นเหลือเกิน

ที่เข้าใจผิดคิดว่าแม่จะขายเธอให้เศรษฐีนั้นก็ขายหน้าอยู่ หลัง จากตกใจกับการขออนุญาตแต่งงานของคุณกุลธรแล้ว เธอก็ทำ อะไรไม่ถูกไปพักหนึ่ง ทั้งประหลาดใจและคาดไม่ถึงว่าจะมีคน รวยๆ มาขอแต่งงานกับแม่ พร้อมให้เกียรติจัดพิธีแต่งงานเฉก เช่นที่คู่แต่งงานทั่วไปกระทำกัน
แม่ของเธออายุสี่สิบห้า น้อยกว่าคุณกุลธรสิบปี ดูแล้วไม่มาก นักแต่เพราะสุขภาพทำให้ฝ่ายชายดูมีอายุมากกว่าอายุจริง เขา ไม่ได้รังเกียจแม่ม่ายลูกติดฐานะปานกลาง แต่ก็มีลูกติดของตัว เองอยู่ด้วยสองคน

“เจ้าเด็กสองคนนั่น อาจจะเกเรอยู่สักหน่อย แต่ก็ไม่มีพิษมีภัย อะไร”

คำบอกเล่าของกุลธรทำให้เธอคิดหนัก เจ้าเด็กสองคนนั่นก็คง ไม่ชอบใจที่อยู่ๆ จะมีครอบครัวใหม่เท่าใดนัก ยิ่งถ้าเป็นช่วงวัย รุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อด้วยแล้วล่ะก็ การไปของแม่และเธอ อาจจะไม่ เป็นผลดีกับสุขภาพของเขาก็ได้

เขาจะต้องเลี้ยงดูแม่เพิ่มอีกคนหนึ่ง ส่วนเธอก็ไม่อยากจะเป็น ภาระ ในใจอยากขอให้แม่คิดใคร่ครวญดูให้ดีเสียก่อน ทว่าเมื่อ เห็นสายตาอบอุ่นของกุลธร และใบหน้าเปี่ยมสุขของแม่ ใจของ เธอก็อ่อนยวบ

แม่เหนื่อยมามากแล้ว งานผู้ช่วยพยาบาลก็ได้เงินเดือนไม่ มากนัก การที่มีคนรวยมารักจริงหวังแต่งในอายุขนาดนี้มิใช่ เรื่องง่าย

ก็เลยตอบตกลงไป…แล้วมานั่งกลุ่มทีหลัง

“คุณครู!”

เสียงแหลมๆ ทำให้เธอเงยหน้าจากเมนูที่ลูกค้าสั่ง แล้วก็เบิก ตากว้างเมื่อเห็นลูกศิษย์ตัวแสบ โบกมือเรียกหยอยๆ อยู่ที่โต๊ะริม หน้าต่างพร้อมกับเพื่อนชายอีกคน
ตายละ อนินการมาเห็นเธอทำงานพิเศษอยู่ที่นี่ แถมยังมา กับผู้ชายสองต่อสอง ทั้งๆ ที่เจ้าสัวทรงชัยกำชับนักหนาเรื่องคน ผู้ชาย ประเดี๋ยวเธอต้องถูกนำเอาชื่อไปบังหน้าอีกแน่

“คุณออน…มากันสองคนหรือคะ?”

“ก็ใช่น่ะสิ…เห็นคนอื่นด้วยหรือไง…ว่าแต่ทำงานร้านนี้ได้เงิน เยอะกว่าสอนพิเศษให้ออนหรือเปล่า?”

“จะสั่งอะไรคะ ยังไม่ค่ รีบกินแล้วรีบกลับบ้าน คุณทรงชัย โทร มาถามเมื่อตอนกลางวันนี่เอง ว่าสนใจจะสอนพิเศษเพิ่มอีกหรือ เปล่า ถ้าคุณออนมีเวลาเหลือเฟืออย่างนี้ จะได้ตอบตกลงไป เรา จะได้ติวกันทุกวันเลยดีไหมคะ?”

“โอ๊ย! ไม่เอาล่ะ! ใครจะอยากทองตำราทุกวัน อย่าบอกพ่อนะ ว่าวันนี้เห็นออน จะรีบกินรีบกลับ

อนินการยอมแพ้ ทว่าคนที่มาด้วยกลับมองด้วยความฉุนเฉียว “ทําไมต้องกลัวยัยนี่ด้วย เป็นแค่ครูสอนพิเศษไม่ใช่รึ?”

“จะรับอะไรดีคะ?” ปรารถนาถึงอุปกรณ์ขึ้นมาเตรียมจด รายการ ไม่สนใจเพื่อนชายของอนินการที่ทำท่าเหมือนจะหา เรื่องตามประสาวัยรุ่นใจร้อน

“ไม่กินแล้ว…ออน! ไปกินร้านอื่น” เด็กหนุ่มหันไปทำเสียงแข็ง ใส่เพื่อนสาว

“ทำไม…แต่เรานั่งแล้วนะ”
“นั่งได้ก็ลุกได้ ปะ! เธอสัญญาแล้วว่าจะไปต่อที่ผับกับพวก เรา” เขาดึงมือหญิงสาวให้ลุกขึ้น

“ไม่ไปแล้ว!”

อนิกา ปัดมือเขาทิ้ง ทว่าด้วยจังหวะและเพราะความตกใจ ของเธอ ทำให้มือของเพื่อนชายสะบัดไปถูกใบหน้าของ ปรารถนาเข้าเต็มๆ

ปรารถนาที่ไม่ทันตั้งตัว โดนหลังมือของเด็กหนุ่มถึงกับหน้า หัน ขาแว่นหลุดจากใบหู ร่วงลงพื้น

“อ๊ะ!”

ทั้งสามคนร้องขึ้นพร้อมกัน พยายามจะคว้ามันไว้แต่ไม่เป็นผล แว่นตาของสาวเสิร์ฟตกลงสู่พื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงาน เสิร์ฟอีกคนเดินผ่านมาพอดี

แกร๊บ!

ปรารถนาแทบจะหมดแรงเมื่อแว่นตาของเธอโดนเหยียบจน แตกละเอียด ขณะที่คนเหยียบรีบหันมาขอโทษขอโพย

แว่นของเธอ…แตกแล้ว! ตัดมาราคาตั้งสามพัน

“ปลั๊กเป็นอะไรหรือเปล่า?” กรภัทรที่ยืนมองอยู่ตั้งแต่ต้น เข้ามาทันที พร้อมกับทำสัญญาณมือให้พนักงานที่ร้านมาจัดการ เก็บกวาดให้เรียบร้อย

“คะ?”
“ผมอยู่ทางนี้” เขาบอก เมื่อปรารถนาหันไปอีกทาง แล้วก็อึ้ง ไปชั่วขณะเมื่อเธอหันหน้ามามองเขาด้วยใบหน้าที่ปราศจากแว่น

เขาสะดุดกับดวงตากลมโตสุกใส ภายใต้คิ้วดำเข้มที่ไม่ต้อง อาศัยปากกาเขียนคิ้ว ขนตางอนยาวเป็นแพ ใบหน้าใสไร้เครื่อง สำอางแต่งแต้ม และริมฝีปากออกสีชมพูจางๆ จากลิปกลอส ภายใต้กรอบหน้าเล็กๆ เช่นเดียวกับรูปร่างของเธอนั่นแล

“ขอโทษค่ะ…ปลกจะรีบเก็บกวาดนะคะ” หญิงสาวรีบขอโทษ ขอโพยเมื่อผู้จัดการเดินมาดูด้วยตัวเอง

“ผมให้คนมาทำแล้ว” กรภัทรบอก แล้วหันไปหาพนักงานอีก คน “รับออเดอร์โต๊ะนี้ด้วย บอกสินีให้อยู่เคาท์เตอร์รับออเดอร์ แทนก็แล้วกัน”

เขามองไปยังเด็กหนุ่มเด็กสาวตัวต้นเหตุที่ได้แต่ยืนอึ้งเพียง แวบเดียว ก่อนจะทำสิ่งที่ทำให้พนักงานในร้านคนอื่นๆ ต้องตา ค้าง ด้วยการฉวยข้อมือของปรารถนาขึ้นมาจับไว้แน่น แล้วพา เดินไปหลังร้าน

คนที่ถูกจูงมืออ้าปากเหวอ แข้งขาแทบจะพันกัน เพราะมองไม่ เห็นและความอบอุ่นประหลาดที่แผ่ซ่านขึ้นมาจากฝ่ามือแล่น ปราดไปทั่วร่าง จากการที่ผู้จัดการกุมมือเธอไม่ยอมปล่อยตั้งแต่ เมื่อครู่

สติของเธอไม่อยู่กับตัว เพิ่งจะเสียใจและเสียดายแว่นตาราคา แพง กลับต้องมาใจเต้นตึกๆ ตักๆ กับความใจดีของเจ้านาย ซึ่ง สัปดาห์ที่แล้วก็อาสาขับรถหรูไปส่งเธอที่ห้างสรรพสินค้า
“นั่งพักก่อน” กรภัทรกดไหล่หญิงสาวให้นั่งลงบนโซฟา ก่อน ตัวเองจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง

“มองเห็นผมหรือเปล่า?”

“คะ?…เอ่อ…เห็นค่ะแต่ไม่ชัดเท่าไหร่ค่ะ

“นั่นสิ…วันนี้ก็ทำงานไม่ได้แล้วล่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ